คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 969 นางไม่ชอบ ข้าก็ไม่มีค่าอะไร
ตอนที่ 969 นางไม่ชอบ ข้าก็ไม่มีค่าอะไร
ผู้ดูแลจ้าวส่งฉินหลิวซีออกไปแล้ว กลับมาเห็นกงปั๋วเฉิงมีสีหน้าไม่พอใจ ในใจรู้สึกตกใจไม่น้อย ฉินหลิวซีที่หายไปหลายปีกลับมาหาด้วยตนเอง เจ้านายไม่รู้ดีใจมากเพียงใด แต่พอส่งนางกลับไป ก็มีสีหน้ามืดครึ้ม อารมณ์เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนั้นเป็นเพราะการปรากฏตัวโดยพลการของหลิ่วซื่อหรือไม่
เขานำชามาให้นายท่านถึงมือ กงปั๋วเฉิงรับไว้แต่ยังไม่ทันได้ดื่มก็ขว้างถ้วยชาทิ้งทันที
ผู้ดูแลจ้าวยิ่งรู้สึกกังวล
“หลิ่วซื่อนั่น เปลี่ยนคนรับใช้ทั้งหมด ให้ใช้บ่าวรับใช้มีอายุเถิด จับตาดูให้ดีก็พอ” กงปั๋วเฉิงออกคำสั่งด้วยสีหน้าทะมึน
ผู้ดูแลจ้าวตอบรับโดยไม่เอ่ยถามสิ่งใด
เขาติดตามกงปั๋วเฉิงมานาน เป็นคนสนิทที่สุด คำสั่งของนายท่านเขาถือเป็นคำสั่งศักดิ์สิทธิ์ ขณะนี้หลิ่วซื่อยังไม่มีสถานะใดๆ ต่อให้นางกลายเป็นฮูหยินของนายท่านโดยถูกต้องตามกฎหมาย นายท่านก็ยังจะกดนางเอาไว้ เช่นนั้นนางย่อมไม่อาจสร้างความวุ่นวายอะไรได้
“เรื่องแต่งงานงั้นหรือ”
นายท่านคิดว่าเพราะเห็นแก่เด็กในท้องของนาง เห็นว่านางว่าง่าย จึงเตรียมจะให้สถานะแก่นางแต่ท่าทีตอนนี้ คงยากแล้ว
กงปั๋วเฉิงเหลือบมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เอ่ย “ไม่ต้องเอ่ยถึงอีกแล้ว รอให้เด็กเกิดมาก่อน หากนางต้องการจะไปก็ให้สินสมรสแก่นางอย่างงาม หากนางไม่ไปก็หาที่พักในเจียงหนานให้นางอยู่จนสิ้นอายุขัย”
เดิมเมื่อเด็กเกิดจากครรภ์ของมารดาโดยชอบด้วยกฎหมาย ชื่อเสียงจะดูดีขึ้น แต่ยังไม่ทันได้เป็นภรรยา กลับรีบมาประกาศศักดาเพราะได้ยินว่ากงปั๋วเฉิงมีนัดกับหญิงสาวผู้หนึ่ง การกระทำที่เห็นแก่ตัวของนาง ทำให้คนไม่ชอบแล้ว
กงปั๋วเฉิงถึงวัยนี้เพิ่งมีลูก นั่นแสดงว่าเขาไม่ใส่ใจเรื่องลูกหลาน ไม่เช่นนั้นคงแต่งงานมีลูกไปนานแล้ว ไหนเลยจะมาถึงหลิ่วซื่อได้
หลังจากเด็กเกิดแล้ว สถานะจะถูกต้องหรือไม่ ไหนเลยจะเป็นอะไรได้ บุตรที่เกิดจากภรรยาหลวงเปรียบดั่งการปักลวดลายบนผ้าแพร แต่หากไม่ใช่ เพียงบุตรชายคนเดียวของกงปั๋วเฉิง เช่นนั้นสถานะนี้ก็เพียงพอแล้ว
ผู้ดูแลจ้าวคิดว่าหากจำเป็นควรเตือนหลิ่วซื่อสักหน่อยว่าอย่ารนหาที่ตาย จึงเอ่ยถาม “เป็นเพราะท่านเจ้าอาวาสน้อยเอ่ยสิ่งใดหรือไม่ขอรับ”
“อาจารย์ของนางได้ละสังขารไปแล้ว ตอนนี้นางเป็นเจ้าอาวาสแล้ว” เมื่อเอ่ยถึงฉินหลิวซี สีหน้าของกงปั๋วเฉิงก็ดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย
ผู้ดูแลจ้าวเห็นดังนั้น คิดในใจว่าหากจะทำให้นายท่านอารมณ์ดีขึ้นก็ต้องเอ่ยถึงคุณหนูใหญ่ผู้นี้ แต่ตอนนี้นางได้รับการเลื่อนตำแหน่งแล้ว ควรเรียกนางว่าเจ้าอาวาส
กงปั๋วเฉิงเอ่ย “เจ้าก็เห็นแล้วว่าตอนนี้นางเป็นเช่นไร แม้จะยังคงแต่งกายเช่นเดิม แต่ผู้ใดมองก็เห็นว่านางเป็นหญิงสาว ข้ากำลังพูดคุยกับนาง หลิ่วซื่อก็มาประกาศศักดา ผู้ใดไม่รู้ใจจริงของนางเล่า และเด็กคนนั้นเป็นผู้ใด เจ้าติดตามข้ามาหลายปี ย่อมรู้ดีที่สุด”
“บ่าวรู้ดีอยู่แล้ว หากนางเป็นหญิงสาวธรรมดา นายท่านคงสบายใจมากขึ้น” แค่เงินน่ะหรือ ให้นางไปก็จบเรื่อง
แต่สิ่งเหล่านี้ ฉินหลิวซีไม่ได้ต้องการ นางชอบสะสมทองคำหล่อรูปปั้นทองคำให้กับสำนักของนาง แต่แลกมาด้วยความสามารถของตัวนางเอง ซึ่งไม่ได้รับมาเปล่าๆ นางให้ความสำคัญกับเรื่องบุญและกรรมมาก
“เช่นนั้นเจ้าก็รู้ถึงความสามารถของนาง” กงปั๋วเฉิงหัวเราะเยาะ “ด้วยนิสัยของนาง เมื่อรู้ดีว่าข้ากำลังจะเป็นพ่อคน หากเจอหน้าแม่ของเด็ก ไม่มีทางที่จะไม่เอ่ยอะไรแม้เพียงคำหนึ่ง แต่นางเอ่ยแล้วหรือ หลิ่วซื่อเป็นคนอย่างไร นางมองปราดเดียวก็ดูออก และนางแสดงออกอย่างเย็นชา แสดงให้เห็นว่าหลิ่วซื่อผู้นี้ไม่เข้าตานาง”
ฉินหลิวซีไม่เคยต่อต้านผู้ใดโดยไม่มีเหตุผล แม้แต่คนของเขาเอง นางก็ไม่เคยดูถูก แต่สำหรับหลิ่วซื่อที่ตั้งครรภ์ลูกของเขากลับได้รับการปฏิบัติอย่างเย็นชา นั่นหมายความว่านางคงเห็นอะไรไม่ดีในตัวหลิ่วซื่อใช่หรือไม่
ผู้ดูแลจ้าวเห็นด้วย เอ่ย “เป็นเช่นนั้นจริงขอรับ เมื่อครู่ข้าไปส่งนาง นางยังจับชีพจรให้ข้า ปรับใบสั่งยา ยังให้ยันต์สองแผ่นกับข้าด้วย”
กงปั๋ว “…”
ตัวเขายังไม่ได้สิ่งเหล่านี้เลย
ผู้ดูแลจ้าวเห็นสีหน้าของนายท่านมืดครึ้มมากขึ้น รู้ว่าตนเองคงสร้างความไม่พอใจแล้ว จึงทนเจ็บใจหยิบยันต์ออกมาหนึ่งแผ่น ส่งให้เขาด้วยสองมือ พร้อมกับยิ้มแย้ม เอ่ย “คาดว่าลืมให้ท่าน นี่ไม่ได้ให้เพียงหนึ่ง แต่ได้สองแผ่นขอรับ”
กงปั๋วเฉิงส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอ รับมา เอ่ย “เตรียมตัว ให้คนออกเดินทางล่วงหน้าไปยังอำเภอหนาน เมืองหนิงโจว ตรวจสอบกิจการที่นั่น นอกจากนี้…”
เขาออกคำสั่งมาเรื่อยๆ ผู้ดูแลจ้าวฟังแล้วรู้สึกตกใจอย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าท่านเจ้าอาวาสและนายท่านพูดคุยกันอย่างไร ดูท่าทีเหมือนกำลังเดินหมากกระดานใหญ่เลย
เมื่อผู้ดูแลจ้าวรับคำสั่งแล้วออกไป กงปั๋วเฉิงหยิบยันต์ในมือขึ้นมาเล่นด้วยความรู้สึกไม่พอใจ บ่นหมุบหมิบ “เจ้าคนไร้ความรู้สึก เพียงแค่ข้าพลั้งตามองคนผิด จำเป็นต้องเย้ยหยันกันด้วยความเงียบเช่นนี้ด้วยหรือ”
เขาถอนหายใจ วางยันต์ลงในกระเป๋าข้างกาย แล้วลูบสัมผัสเครื่องรางหยกที่ห้อยคอ นั่นถึงจะเป็นของปกป้องคุ้มครองชีวิตอย่างแท้จริง
และฝั่งหลิ่วซื่อ กลับรู้สึกตกใจอย่างมาก
นางไม่คิดว่าตนเองเพียงไปส่งขนมเล็กน้อย กงปั๋วเฉิงจะโกรธนางเพียงนี้ ยังเอ่ยวาจาหนักๆ เช่นนั้น
นางหน้าซีดกุมท้องน้อย นึกถึงคำที่เขาเอ่ย ใช่ว่าจะไม่มีเด็กคนนี้ไม่ได้ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าสำหรับเขาแล้วจะมีหรือไม่มีเด็กคนนี้ก็ได้
แน่นอนว่ากงปั๋วเฉิง เป็นพ่อค้าหมายเลขหนึ่งของต้าเฟิง คนที่อยากคลอดลูกให้กับเขามีไม่น้อย แต่เขากลับไร้ลูกหลานจนอายุสี่สิบเข้าห้าสิบ ไม่ใช่เพราะมีไม่ได้ก็ไม่อยากมี แต่ตอนนี้ตนมีแล้ว นั่นแสดงว่าไม่ใช่เขามีไม่ได้ แต่ไม่ต้องการ
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาจะสนใจว่าเด็กคนนี้เป็นสายเลือดเพียงคนเดียวของเขาหรือ
หากไม่มีคนนี้ ก็ยังมีคนต่อไป
หลิ่วซื่อรู้สึกสับสน นางเพียงได้ยินจากบ่าวที่รินน้ำชาในบ้าน มีเด็กสาวคนหนึ่งมาหานายท่านที่นั่น ยังให้ความสำคัญมากจึงรู้สึกกังวลและอยากรู้ ถึงได้ถือกล่องขนมไป อย่างไรตอนนี้นางก็ตั้งท้องเลือดเนื้อของเขา ทว่ากลับยังไม่ใช่กงปั๋วฮูหยินอย่างถูกต้อง จึงกลัวถูกแย่งตำแหน่งไป
แต่ไม่คิดว่า นางจะเดินหมากพลาดไปหนึ่งก้าว
รอผู้ดูแลจ้าวเปลี่ยนคนรับใช้ในห้องของหลิ่วซื่อทั้งหมดแล้ว ท้องของหลิ่วซื่อรู้สึกเจ็บแปลบ
“ข้า… ข้าต้องการพบกับนายท่าน”
ผู้ดูแลจ้าวขวางนางเอาไว้ เอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “แม่นางอย่าเพิ่งไปวุ่นวายเลย หากทำให้ลูกในท้องไม่เหลือแล้ว เช่นนั้นท่านก็จะไม่เหลืออะไรแล้ว”
หลิ่วซื่อหน้าซีด จ้องเขาเขม็ง “เจ้า เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ”
เมื่อมีบุตรแล้ว ผู้ดูแลจ้าวเรียกนางว่าฮูหยิน ตอนนี้เปลี่ยนเป็นแม่นางแล้ว
ผู้ดูแลจ้าวเอ่ย “นายท่านบอกแล้วว่า หลังจากเด็กเกิดแล้ว ท่านจะแต่งงาน ก็ให้มอบสินสมรสมากมายแก่ท่าน หากท่านต้องการสร้างครัวโดยตั้งตนเองเป็นหัวหน้าครอบครัว ก็ให้ท่านไปใช้ชีวิตแก่เฒ่าที่เจียงหนาน ที่นั่นทิวทัศน์งดงาม เป็นเมืองแห่งน้ำ เหมาะแก่การอยู่อาศัย”
หลิ่วซื่อเซถลา มือจับโต๊ะ เอ่ยอย่างไม่อยากเชื่อ “เรื่องแต่งงาน…”
“ก่อนหน้านี้แม่นางดูอ่อนน้อมและเชื่อฟัง เห็นแก่เด็กในท้อง นายท่านจึงเต็มใจให้สถานะ แต่เมื่อแม่นางมีท่าทีโอหังและล้ำเส้น” ผู้ดูแลจ้าวมองนางด้วยความเย็นชา เอ่ยว่า “ไม่ใช่ทุกคนที่ใส่ใจสิ่งนอกกายและตำแหน่งฮูหยินกงปั๋ว แม่นางผู้นั้นที่ท่านเห็น นายท่านเห็นนางเป็นดั่งบุตรสาวแท้ๆ ของเขา ในบ้านนางมีสถานะเป็นดั่งคุณหนูใหญ่ หากนางต้องการทุกอย่างในบ้าน นายท่านจะรีบยกให้ เพราะไม่มีนาง ก็ไม่มีกงปั๋วเฉิงในทุกวันนี้ เข้าใจหรือไม่ นางไม่ชอบ ท่านก็ไม่มีค่าอันใด”
หลิ่วซื่อรู้สึกมืดมนไปหมด ท้องบีบรัดอย่างแรง ส่งเสียงครางออกมา
พลาดไปหนึ่งก้าว ก็จะพลาดทุกก้าวไป