คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 974 โหงวเฮ้ง สร้างความสนุกเก่งจริงๆ
ตอนที่ 974 โหงวเฮ้ง สร้างความสนุกเก่งจริงๆ
………………..
หลังออกจากตระกูลอวี้ ฉินหลิวซีก็วิ่งไปทั่วอำเภอหนาน ก่อนอื่นไปที่ที่ว่าการอำเภอ แจ้งเหนียนโหย่วเหวยว่าไม่กี่วันข้างหน้ากงปั๋วเฉิงจะพาคนมาดูว่าในอำเภอหนานมีการค้าอะไรทำได้บ้าง หากสามารถให้ความสะดวกได้ก็ช่วยสักหน่อย
เหนียนโหย่วเหวยเกือบคิดว่าได้ยินผิด ถามซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง “ท่านบอกว่าใครจะมานะ”
“กงปั๋วเฉิง หมาเศรษฐี[1]ผู้นั้น ไม่ใช่สิ เศรษฐีอันดับหนึ่งผู้นั้น”
หมาเศรษฐีจามหนึ่งที เงยหน้ามองฟ้า อากาศเปลี่ยนแปลงแล้ว
เหนียนโหย่วเหวยได้ฟังชัดแล้ว คางแทบหลุดไปที่พื้น สิ่งที่กล่าวถึงนั้นเป็นใครไปไม่ได้จริงๆ ผู้คนขนานนามว่าเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งมือทอง กงปั๋วเฉิง
“ท่านบอกว่าจะให้เขามาทำการค้าที่อำเภอหนานของเราหรือ”
ตายแล้วแม่เจ้า ความมั่งคั่งอันล้นพ้นนี้ ในที่สุดก็มาถึงอำเภอหนานของข้าแล้วหรือ
ฉินหลิวซีพยักหน้า “อำเภอหนานยากจนมาก หากที่นี่มั่งคั่งขึ้น การจัดงานวัดหลายๆ งาน ศาลเทพเจ้าประจำเมืองถึงจะเจริญรุ่งเรืองกลิ่นธูปเทียนโชติช่วง”
เหนียนโหย่วเหวยตกตะลึง เอ่ยถาม “ท่านดึงเทพเจ้าแห่งโชคลาภนั้นมาเช่นนี้ก็เพื่อกลิ่นธูปในศาลเทพเจ้าประจำเมืองเท่านั้นหรือ”
ฉินหลิวซีเผยดวงตา ไม่เช่นนั้นเล่า ออกมา
เหนียนโหย่วเหวยเอ่ยไม่ทันยั้งคิด “เทพเจ้าประจำเมืองเป็นบิดาแท้ๆ ของท่านหรือ ท่านถึงได้กตัญญูเพียงนี้”
ฉินหลิวซีส่งเสียง หึ “ใช่แล้ว เป็นดั่งบิดาแท้ๆ ของข้า ดังนั้นคนของเจ้าต้องคอยตรวจตราบริเวณนั้นบ่อยๆ อย่าให้ใครมาทำลายศาลเทพเจ้าประจำเมือง หากศาลเทพเจ้านี้หายไป อำเภอหนานยากจนจนต้องกินรากหญ้าข้าก็ไม่สนใจ”
“เรื่องนี้ท่านวางใจได้ บิดาแท้ๆ ของท่านก็คือบิดาของข้า ข้าจะไปจุดธูปไหว้ทุกสามวัน” เหนียนโหย่วเหวยยกมือแสดงความตั้งใจทันที
ฉินหลิวซีเหลือบมองเหนียนโหย่วเหวย “เจ้ากำลังเอาเปรียบข้าอยู่”
เหนียนโหย่วเหวยหัวเราะแห้งๆ “เทพเจ้าประจำเมืองนั้นคือเทพเจ้า เทพเจ้าช่วยสรรพชีวิต พวกเราก็เป็นดั่งพี่น้อง เหมือนกันๆ ฮ่าๆ”
ฉินหลิวซีลุกขึ้นยืน เอ่ย “เช่นนั้นก็เอาตามนี้ เมื่อคนของกงปั๋วเฉิงมาถึง เจ้าต้องใส่ใจสักหน่อย อย่าลืม อย่าให้กลิ่นธูปที่ศาลเทพเจ้าประจำเมืองขาดหาย”
ฉินหลิวซีออกจากที่ว่าการอำเภอไปอย่างรวดเร็ว มุ่งไปยังศาลเทพเจ้าประจำเมือง
เหนียนโหย่วเหวยนั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือหัวเราะอย่างโง่งม จนกระทั่งที่ปรึกษาจงเข้ามาถามเขาว่ามีเรื่องดีอะไรหรือไม่
“เรื่องดี เรื่องดีระดับฟ้าดินเลยล่ะ เหล่าจง อำเภอหนานของเรากำลังจะบินสูงแล้ว” เหนียนโหย่วเหวยหัวเราะดังลั่น
ที่ปรึกษาจงทำสีหน้าแปลกประหลาด ท่านเจ้าเมืองคงจะคร่ำครวญกับพวกคหบดีจนเพี้ยนไปแล้วกระมัง
เมื่อฉินหลิวซีกลับมาถึงศาลเทพเจ้าประจำเมือง กลิ่นธูปมีเพียงน้อยนิด มีคนกำลังเสี่ยงเซียมซี ที่ข้างโต๊ะเล็กซาหยวนจื่อกำลังนั่งขัดสมาธิบนเสื่อผ้าอย่างสงบ เมื่อสัมผัสถึงกลิ่นอายคุ้นเคยจึงลืมตาขึ้น เห็นนางแล้วริมฝีปากพลันยกขึ้นเล็กน้อย
ผู้เสี่ยงเซียมซีมาหาเพื่อขอให้ทำนาย ฉินหลิวซีเดินเข้าไป หยิบธูปหนึ่งดอก ถวายธูปแด่เทพเจ้าประจำเมือง โค้งคำนับอย่างนอบน้อม
“ข้าจะต้องเข้าเมืองหลวงสักรอบ คงจะไม่ได้มาอีกพักใหญ่” ฉินหลิวซีเอ่ยกับเทพเจ้าประจำเมือง
เทพเจ้าประจำเมืองยิ้มตาหยี “เจ้าจะให้ข้าประทานแสงเทพสักหน่อยหรือไม่”
ฉินหลิวซีแค่นเสียงเย็น “เก็บไว้ใช้ตอนขึ้นเป็นเทพประจำตนเถิด”
“ไม่รู้คุณค่า”
“อย่าใช้พลังเทพอย่างสุรุ่ยสุร่าย ถึงคราวนั่งตำแหน่งไม่มั่นคงก็จะสูญสิ้นพลังเทพไปหมด ควรเสริมสร้างตัวเองให้แข็งแกร่งก่อน ศาลเทพเจ้าในอำเภอเล็กๆ แบบนี้จะมีอำนาจหรือกลิ่นธูปเทียนได้มากเพียงใด แน่นอนว่าต้องเพิ่มการทำบุญและศรัทธาให้มากจึงจะยิ่งใหญ่แข็งแกร่งได้” ฉินหลิวซีเอ่ย “ตราเทพประจำเมืองของท่าน อย่าว่าข้ารังเกียจ ก้อนทองยังใหญ่กว่ามันเสียอีก”
เทพเจ้าประจำเมืองโกรธ “เจ้าอย่ามายอกย้อนข้า เมื่อข้าแข็งแกร่งขึ้น ข้าจะเอาตรานั่นฟาดหัวเจ้า แล้วก็ เล็กก็เล็ก แต่อิทธิฤทธิ์ที่พึงมีก็มีอยู่ เล็กกระชับแต่มีประสิทธิภาพ เจ้าไม่รู้จักหรือ”
“หึๆ”
“เฮ้ เจ้าผู้ดูแลศาลเทพเจ้าผู้นี้เอ่ยเหลวไหลอะไรกัน ทำนายเซียมซีเป็นหรือไม่” เสียงแหลมของหญิงคนหนึ่งขัดการสนทนาของทั้งสอง
ฉินหลิวซีหันไปมอง เห็นว่าเป็นคนที่เพิ่งเสี่ยงเซียมซีเมื่อครู่ กำลังโกรธขึงขังจ้องซาหยวนจื่ออยู่ อีกฝ่ายคิ้วขมวด สีหน้าเย็นชา ไม่พอใจที่หญิงอ้วนคนนั้นมาสงสัยเขา
“เกิดอะไรขึ้น” ฉินหลิวซีเดินเข้าไปถาม
หญิงอ้วนมองนางแวบหนึ่งแล้วชี้ไปที่ซาหยวนจื่อ “ผู้ดูแลศาลเทพเจ้าผู้นี้บอกว่าเซียมซีของข้าคือเซียมซีร้ายที่สุด บอกว่าในบั้นปลายข้าจะทุกข์ทนไม่มีลูกดูแล นี่ไม่ใช่การแช่งข้าหรือ ลูกข้าดีกับข้ามาก”
ฉินหลิวซีหยิบเซียมซีขึ้นมาดู พบว่าไม่ได้ทำนายผิดแต่อย่างใด จากนั้นก็พิจารณาลักษณะใบหน้าของหญิงอ้วน คิ้วหนาและสั้น ปลายคิ้วแตกกระจาย ขนคิ้วบางชี้ขึ้น ซึ่งเป็นคิ้วไม้กวาด บ่งบอกถึงบาดแผลในครอบครัว ความขัดแย้งกับพี่น้อง อีกทั้งยังเป็นคนอารมณ์ร้อน โมโหง่าย ขาดความอดทน
“เขาไม่ได้ทำนายผิดหรอก” ฉินหลิวซีถือเซียมซีเอาไว้ เอ่ย “เมื่อมองใบหน้าของท่าน คิ้วของท่านเป็นคิ้วไม้กวาด ดวงตาเป็นภูเขา ในศาสตร์การทำนายบอกไว้ว่า ปลายคิ้วเบาบางแตกกระจาย พี่น้องไร้ความรักเคารพ ท่านกับพี่น้องก็ย่อมมีความขัดแย้งมากมาย ไม่มีความผูกพัน ท่านยังไม่กตัญญูกับผู้อาวุโส ในอนาคตลูกของท่านย่อมปฏิบัติต่อท่านเช่นนั้น ก็ไม่ใช่ไม่มีลูกหลานให้อาศัยหรือ”
นางไม่ได้แสดงความกตัญญูกับผู้อาวุโสในครอบครัวของนาง ในเมื่อบิดามารดาเป็นครูของลูกๆ บิดามารดาทำอย่างไร ลูกก็ทำอย่างนั้น หากเจ้าไม่กตัญญู ลูกๆ ก็ย่อมเอาเป็นเยี่ยงอย่าง แล้วจะหวังให้พวกเขากตัญญูต่อเจ้าได้อย่างไร
หญิงอ้วนสีหน้าเปลี่ยนสีทันที “เจ้าเป็นใครกัน มาเอ่ยเหลวไหลเช่นนี้ได้หรือ”
“แน่นอนว่าข้าเหมือนผู้ดูแลศาลเจ้าผู้นี้ เป็นนักพรต สิ่งที่พวกข้าเอ่ย เป็นคำชี้แนะจากท่านเทพเจ้า” ฉินหลิวซียิ้มพร้อมเอ่ย “ท่านทำร้ายบิดามารดาสามีของท่านอย่างไร ก็เท่ากับทำลายโชคลาภของท่านเอง ถ้าโชคลาภหมดไปแล้ว ท้ายที่สุดท่านจะต้องเผชิญกับบั้นปลายที่ขมขื่นไม่มีลูกหลานดูแล ลองคิดดูสิว่าบุตรชายของท่านไม่ได้ตะคอกใส่ท่านอยู่เสมอหรือ ไม่ได้แอบด่าท่านว่าคนแก่ไม่รู้จักตาย อีกทั้งยังโทษท่านว่าไม่มีเงินให้มิใช่หรือ”
ใบหน้าของหญิงอ้วนซีดเผือด
นางมีบุตรสาวสามคนที่ถือว่าไร้ค่า จนสุดท้ายได้บุตรชายหนึ่งคนซึ่งถือเป็นแก้วตาดวงใจ จึงตามใจลูกจนเสียนิสัย ทำให้ลูกกลายเป็นคนเอาแต่ใจและดื้อรั้น แต่ใครเล่าที่จะไม่รักบุตรชายของตน บุตรชายของทุกบ้านล้วนเป็นแก้วตาดวงใจใช่หรือไม่
ดังนั้นถึงแม้ว่าลูกจะอารมณ์ร้อน พูดจาไม่ดี แต่ก็ยังเด็กไม่ใช่หรือ โตขึ้นก็คงดีขึ้นเอง
แต่พวกนักพรตต้มตุ๋นตรงหน้านี้กลับบอกว่าบุตรชายของนางจะไม่กตัญญู และทำให้นางต้องทุกข์ทนในบั้นปลายชีวิตอย่างนั้นหรือ
“หากท่านยังทำตัวเช่นนี้ ระวังว่าก่อนที่ท่านจะชรา บุตรชายของท่านจะเป็นคนแบกท่านขึ้นไปบนภูเขาด้วยตนเอง” ในบางหมู่บ้านลึกในอำเภอหนานที่ยากจนมากๆ หากมีคนแก่ที่ไม่ยอมเสียชีวิตสักที ลูกหลานจะพาพวกเขาไปทิ้งในถ้ำบนภูเขา ซึ่งเรียกว่าการทอดทิ้งผู้เฒ่า
หญิงอ้วนฟังแล้วรู้สึกเย็นวาบไปทั้งหลัง รีบคว้าตะกร้าใส่ของขึ้นมา “ถุย พูดจาเหลวไหล”
นางหันหลังกลับ พลันพบว่ามีคนอีกหลายคนกำลังฟังอยู่ ใบหน้าร้อนผ่าว รีบยกมือปิดหน้าแล้ววิ่งออกไปทันที “มองอะไรกัน หลีกไป”
ผู้คนพากันส่งเสียงฮือฮา
“อาจารย์ พวกท่านนี่แม่นจริงๆ ท่านป้าหนิวนั่นก็เป็นเช่นนี้แหละ เป็นคนอารมณ์ร้อน ขึ้นชื่อเรื่องทะเลาะกับพี่น้อง จนไปมาหาสู่กันไปแล้ว บิดามารดาสามีของนางเป็นคนใจดีแท้ๆ แก่แล้วทำงานไม่ไหว แต่นางกลับขับไล่พวกเขาไปอยู่ในคอกหมู ช่างโหดร้ายจริงๆ บุตรชายของนาง ข้าก็เคยได้ยินหลายครั้งแล้วที่เขาด่านางว่าคนแก่ไม่รู้จักตาย ยังขู่ว่าพอนางแก่จะเอานางไปทิ้งในหลุม”
ฉินหลิวซียิ้ม “นี่แหละที่เขาเรียกว่าคำสอนจากบิดามารดาสู่ลูก เจ้าสอนอะไร ลูกก็เรียนเช่นนั้น ไม่มีผิดแน่ ทุกท่านเข้ามากราบไหว้เทพเจ้าเถิด กราบไหว้เทพเจ้ามากย่อมได้รับการคุ้มครองมากเช่นกัน”
“ได้เลย ได้เลย ท่านอาจารย์ เดี๋ยวข้าจะขอเซียมซีด้วย ขอท่านช่วยทำนายให้ข้าด้วย”
“ข้าด้วย”
ผู้คนต่างพากันหลั่งไหลเข้ามา
เทพเจ้าประจำเมืองยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้น แสงเทพนี้ต้องแบ่งไว้ให้เด็กสาวผู้นี้บ้างแล้ว นางช่างสร้างความสนุกได้เก่งจริงๆ
[1] หมาเศรษฐี ใช้บรรยายถึงมหาเศรษฐีหรือคนที่ร่ำรวยมากมีฐานะดี เป็นคำพูดที่ไม่เป็นทางการหรือมีท่าทีล้อเลียนหรือไม่ค่อยให้เกียรติ