คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน - ตอนที่ 11 เดบิวต์ไอดอลโลลิ ส่วนแรก
11 เดบิวต์ภาพสะท้อนเวทมนตร์ ส่วนแรก
จุดเริ่มต้นคือเมื่อประมาณหนึ่งปีก่อนนับจากตอนนี้
เนียซึ่งเดิมอ่อนแอป่วยหนัก และแม้หลังจากพบแพทย์หลายคนแล้วก็ยังไร้ซึ่งความหวังในการรักษา และหลังจากได้รับการวินิจฉัยว่าเธอทำได้แค่รอความตายเพียงเท่านั้น
――พ่อแม่ได้ประกาศว่า「พวกเรากำลังมองหาหนทางรักษาเนีย」ผ่านภาพสะท้อนเวทมนตร์อย่างกว้างขวาง
ภาพสะท้อนของภาพสะท้อนเวทมนตร์นี้ อันที่จริง ถ่ายทำโดยช่องที่เป็นหนึ่งในเครือบริษัทภายในดินแดน*นิสตัน*
ไม่สิ พูดตรง ๆ งานของพ่อแม่คือ การสร้างภาพสะท้อนเวทมนตร์ที่สามารถดูได้ด้วยแผ่นคริสตัลเวทมนตร์และจัดฉายบนช่องดินแดน*นิสตัน*ภาพสะท้อนเวทมนตร์
หรือก็คือ พ่อแม่ของฉันเป็นเจ้าของบริษัทกระจายเสียง
นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจึงดูยุ่งทุกวัน เพราะพวกเขาทำงานเกี่ยวกับภาพเวทมนตร์
จำนวนของช่องคือ จำนวนของอาณาเขตที่เริ่มต้นทำธุรกิจภาพสะท้อนเวทมนตร์นี้
จนถึงตอนนี้มีเพียงสองแห่งคือ เมืองหลวงอาร์ตัวร์ และอาณาเขตริสตันขุนนางระดับขั้นที่สี่เท่านั้น ―― แต่พ่อแม่ของฉันซึ่งรู้สึกถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ในธุรกิจนี้อย่างรวดเร็ว จึงนำเข้ามาเผยแพร่ในดินแทนทันที
เป็นการยากที่จะพูดว่าสามารถทำให้แพร่หลายได้โดยทั่วไป เนื่องจากปัญหาค่าใช้จ่ายในการถ่ายและทำภาพสะท้อน ทั้งการสร้างแผ่นคริสตัลเวทมนตร์ และยังการออกอากาศ
หากพูดตรงไปตรงมา ในตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ให้ผู้อยู่อาศัยและองค์กรที่มีเงินได้ทดลองซื้อแผ่นคริสตัลเวทมนตร์และเฝ้าดูสถานการณ์เพื่อตัดสินใจว่าควรมีส่วนร่วมกับพวกเราด้วยหรือไม่
พ่อแม่ได้ใช้ความสัมพันธ์ อำนาจ และทรัพยากรทางการเงินอย่างเต็มที่ และเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับสิทธิ์จากการผลักดัน แม้ว่าจะยังเป็นเพียงขั้นตอนทดสอบก็ตาม
ฉันไม่รู้จักพ่อแม่ที่เยือกเย็นแบบนั้น แต่ท้ายที่สุด พ่อแม่ที่บ้านก็แตกต่างจากพ่อแม่ที่ทำงาน
เขามองการณ์ไกล หรือบางทีพวกเขาจะมีพรสวรรค์พิเศษเกี่ยวกับงานของพวกเขา อาจมีทั้งด้านที่เอาแต่ใจและด้านที่เข้มงวด
ยังไงก็ตาม ทั้งภาพสะท้อนเวทมนตร์และแผ่นคริสตัลเวทมนตร์
เป็นความคิดที่น่าทึ่งมาก
แม้ในฐานะมือสมัครเล่นอย่างฉัน เมื่อพูดถึงเครื่องมือเวทมนตร์ที่มีความเป็นไปได้มากมาย ―― พูดตรง ๆ เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีกลิ่นเหมือนเงินจำนวนมหาศาล
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันดูเหมือนว่าจะแพร่กระจายช้ามาก เพราะเป็นแนวคิดที่ทั้งใหม่เกินไป และต้นทุนยังสูงเกินไป
ม๊า ฉันยังมีเรื่องที่ไม่เข้าใจอีกมากมาย เพราะไม่มีใครที่จะคุยเรื่องแบบนี้กับเด็กที่ไม่สามารถเข้าใจเรื่องยาก ๆ ได้
ฉันคิดว่า เพราะว่ามีการประกาศหาทางรักษาให้ลูกสาวด้วยความปรารถนาที่เห็นแก่ตัวออกไปอย่างกว้างขวาง…….ทั่วราชอาณาจักรอาร์ตัวร์ พ่อแม่จึงคิดว่าตัวเองมีภาระผูกพันที่ต้องประกาศ「ผลลัพธ์」ออกไปด้วยเช่นกัน
ผลลัพธ์ของการเรียกหาการรักษาให้ลูกสาวในวงกว้างและไม่เลือกปฏิบัติผ่านภาพสะท้อน
แต่เนียตัวจริงที่อยู่บนปากขอบเหวความเป็นความตายได้เสียชีวิตไปในนาทีสุดท้าย
ชายสวมฮู้ดดำน่าสงสัยคงจะใช้ศาสตร์มืดต้องห้ามเพื่อยืดอายุของเธอชั่วคราว ――เพียงไม่กี่วัน ซึ่งเป็นการจัดการที่ไม่ได้แก้ไขอะไรเลย
และโดยบังเอิญ ฉันถูกเรียกตัวมาเพื่อรับหน้าที่ยืดอายุ และได้รับบทบาทให้「ต้องตายอีกครั้ง」
――มีปาฏิหาริย์
ฉันทำได้ ฉันสามารถขับไล่เงื้อมมือของยมทูตที่พยายามจะคว้าตัวฉันกลับไปได้
ถึงแม้ว่าฉันจะไร้ซึ่งความทรงจำ จำไม่ได้แม้แต่ชื่อตัวเอง แต่สามัญสำนึกของโลกนี้ก็ค่อนข้างน่าสงสัยเช่นกัน และฉันไม่สามารถแม้แต่จะมองเข้าไปในความทรงจำของร่างกายนี้ได้
เรียกอย่างสามัญได้เลยว่า ฉันเป็นคนนอกโดยสมบูรณ์
ยังไงก็ตามถึงจะถูกเรียกมาโดยบังเอิญ ฉันสามารถใช้「คิ」ได้
ฉันรู้วิธีการรักษาอาการป่วยของเนีย
ถ้าฉันไม่ได้ฝึกฝน「คิ」ฉันคงตายไปพร้อมกับร่างของเนีย「อีกครั้ง」ไปนานแล้ว
เมื่อพิจารณาความน่าจะเป็นแล้ว น่าจะเป็นปาฏิหาริย์ที่เป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ
เป็นปาฏิหาริย์ที่สามารถเรียกฉันที่มีสามารถรักษามาจากวิญญาณที่หลับใหลอยู่มากมาย
นี่เป็นการเล่นตลกของโชคชะตาเช่นนั้นหรือ
หรือเป็นความตั้งใจของใครบางคนที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น
คิดอย่างนั้นอาจจะเหมาะสมกว่า
ก็อยากจะเรียกว่าถูกเลือกตามอำเภอใจ แต่ฉันรู้สึกว่าเป็นการเหมาะสมกว่าที่จะคิดว่าฉันได้รับการนำทาง
――หรือเป็นเพราะฉันแข็งแกร่งเกินไป
เพราะแข็งแกร่งเกินไป ฉันจึงมีบาปหนาที่ทำให้ถูกมอบหมายชีวิตแสนแปลกประหลาดนี้……คงจะไม่ใช่ความคิดแบบนั้นใช่ไหม
ฟุมุ
ฉันไม่รังเกียจที่จะตัดสินใจว่าเหตุผลแบบนั้นเหมาะสมกว่าอย่างอื่น ไม่สิ อาจจะเป็นเช่นนั้นก็ได้
ม๊า ถึงจะคิดไปก็ไม่เข้าใจอยู่ดี
ยิ่งไปกว่านั้น
ผลลัพธ์ของการประกาศหาทางรักษาให้ลูกสาวอย่างกว้างขวาง
เนียที่อยู่บนปากขอบเหวความเป็นความตายได้เสียชีวิตไปในนาทีสุดท้าย
ฉันเข้ามา รักษา และเริ่มใช้ชีวิตเหมือนเป็นเนีย
――ผลลัพธ์นี้จะต้องถูกเผยแพร่สู่สาธารณะผ่านภาพสะท้อนเวทมนตร์
พ่อแม่ขอให้ฉันทำหน้าที่นี้และปรากฏตัวในภาพสะท้อนเวทมนตร์ ต้องการให้บอกจากปากของฉันเอง ว่าฉันหายจากอาการป่วยและยังมีชีวิตอยู่
บางทีถ้าฉันบอกว่าฉันทำไม่ได้ คิดว่าพวกเขาอาจจะคิดวิธีอย่างอื่นให้
แต่ฉันจะไม่พูดแบบนั้น เพราะฉันทำได้
ยิ่งถ้ามันเป็นสิ่งที่พ่อแม่ต้องการ ฉันก็ต้องทำให้สมกับเป็นเนีย
เพราะเป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องแสดงความกตัญญูต่อเธอเพื่อแลกกับที่ได้รับร่างกายของเธอมา
ดังนั้น ฉันจะไปปรากฎตัวในภาพสะท้อนเวทมนตร์ และรายงานการรอดชีวิต
เมื่อฉันออกจากคฤหาสน์เพื่อมาเดินเล่น ริโนกิสก็ยื่นดาบไม้ให้ฉัน
“จ๊า ขอความกรุณาด้วยค่ะ!”
“ค๊า ค๊า”
ฉันลุกขึ้นจากรถเข็นและ ฟันแท่งไม้ที่เธอถืออยู่ด้วยการเหวี่ยงเพียงครั้งเดียวโดยไม่ส่งเสียง อ้า เหนื่อยแล้ว เหนื่อย
วันนี้ก็เช่นกัน ฉันโชว์เทคนิค「ฟันแท่งไม้ด้วยดาบไม้」ที่ริโนกิสหลงรักให้ ม๊า แต่ก็ดูเหมือนจะเหมาะกับการกายภาพบำบัดด้วยเช่นกัน
ตั้งแต่ที่ฉันแสดงให้พี่นีลที่กลับมาจากตอนวันหยุดฤดูร้อนดู ตั้งแต่นั้นมาเธอก็รบกวนฉันมากขึ้น
“คุณหนูไปเรียนเรื่องนี้มาจากไหนกันคะ?”
ริโนกิสที่กำลังสังเกตพื้นผิวที่โดนตัดอยู่ได้ถามคำถามนี้มานับครั้งไม่ถ้วน
“พอรู้สึกตัวก็รู้อยู่แล้วล่ะ คงเป็นจากหนังสือสักเล่มนั่นแหละ”
“แต่คุณหนูคะ คุณยังอ่านตัวอักษรยาก ๆ ไม่ได้เลย”
“ก็มีสมุดภาพไม่ใช่เหรอ”
“ไม่มีหนังสือภาพที่ไหนให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีตัดไม้ด้วยไม้ไว้หรอกนะคะ”
“อย่าถามมากสิ หนึ่งในความลับของหญิงสาวไง”
“ดะ เด็กห้าขวบก็รู้จักมีความลับของหญิงสาวแล้ว……”
ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย
ผู้หญิงก็คือผู้หญิง ไม่ว่าเธอจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม
แต่ปัญหาคือพลังหญิงสาวของริโนกิสนั้นต่ำอย่างน่าเหลือเชื่อ แม้จะอยู่ในวัยแรกรุ่นอันสดใส อายุสิบห้าหรือสิบหกปี
ทั้งที่ชอบเรื่องราวความรัก-ความเกลียดชังอันน่าเบื่อหน่าย แต่ทำไมถึงไม่รู้สึกถึงความเป็นหญิงมากขนาดนี้กัน
ไม่ไหวไม่ไหว ฉันกลับมานั่งรถเข็น เมื่อแหงนหน้ามองท้องฟ้า――ฉันก็เห็นเรือเหาะย้อนยุคขนาดเล็กลอยอยู่เหนือท้องฟ้าสีครามที่ลมหนาวพัดมา
ดูเหมือนว่าพี่ชายของฉันจะกลับมาแล้ว เพราะว่าสถาบันการศึกษาอาร์ตัวร์ได้เข้าสู่วันหยุดฤดูหนาวแล้ว
นั่นหมายถึงการถ่ายภาพสะท้อนเวทมนตร์จะเริ่มขึ้นในเร็ว ๆ นี้
เพราะเป็นเรื่องที่จะทำหลังจากที่ทั้งครอบครัวมารวมกันที่หน้าคฤหาสน์
แม้จะบอกว่าคิดไว้แล้ว แต่ก็อยากจะบอกว่าเร็วกว่าที่ฉันคาดไว้เหมือนกัน
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่พี่นีลกลับมา ทีมถ่ายภาพสะท้อนเวทมนตร์ที่เรียกว่าทีมช่างภาพก็มารวมกันอยู่ที่นี่แล้ว
วันนี้พ่อแม่อยู่บ้านแทนที่จะไปทำงาน และพี่นีลก็กลับมาแล้ว
และฉันผู้ได้รับตราประทับของการรักษาที่สมบูรณ์จากแพทย์ กับเหล่าข้ารับใช้ที่เริ่มจากริโนกิสสาวใช้ส่วนตัว
สมาชิกหลักของตระกูลลิสตันมารวมตัวกันที่หน้าคฤหาสน์แล้ว
ปล. ช่วงนี้หายไปนาน เพราะคนแปลต้องไปช่วยดูแลคนแก่อายุ90+ เลยทำให้ไม่ค่อยว่างแปล พอได้ไปดูแลแล้วรู้สึกชาบูๆริโนกิสเลยที่ดูแลเนียคนก่อนมาได้ 6 เดือน
คนแปลไปช่วยดูแลแค่ช่วงกลางคืนก็เกือบประสาทกินแล้ว เจอความเอาแต่ใจของคนแก่ที่ตื่นมางอแงรายชั่วโมงตั้งแต่ดึกยันเช้าจนนอนไม่พอ
แถมถามอะไรก็ไม่เคยจะตอบให้ตรงตัวว่าจะเอาอะไรให้ทำอะไร แล้วพอทำไม่ได้ดั่งใจก็งอแง ยิ่งชวนประสาทเสีย
แล้วยังต้องไปช่วยอีกพักใหญ่ๆ เพราะงั้นตอนต่อไปก็หายยาวๆ ฮา