คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน - ตอนที่ 115 การเดินทางทางอากาศที่โลลิและหมีปุกปุย
115 การเดินทางทางอากาศที่สั้นและสะดวกสบาย
” ――ลิลลี่ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับเขาสินะ คนนี้คือทอร์ค・เซโดนี เป็นลูกชายแท้ ๆ ของตัวแทนบริษัทเซโดนี”
ตัวแทน……อ้า ประธานสินะ
หรือก็คือ เป็นลูกชายของคนที่ฉันได้เจอตอนที่ไปติดต่อบริษัทเซโดนีในฐานะเนีย・ลิสตัน คนนั้นหรือเปล่านะ
ถ้าฉันจำไม่ผิด รู้สึกเขาจะชื่อว่า มาร์จู・เซโดนี
เขาเป็นคนใจกว้างที่ไม่ถามอะไรมากนักและรับฟังคำขอทั้งหมดของฉันซึ่งฟังดูเหมือนเรื่องไร้สาระแบบเด็ก ๆ เกี่ยวกับการหาเงินหนึ่งพันล้านครัม
หลังจากนั้นฉันก็ปล่อยเรื่องการหาเงินให้เป็นหน้าที่ของริโนกิสกับคนอื่น ๆ ดังนั้นจึงไม่ค่อยได้ติดต่อกับเขามากนัก แต่ตราบใดที่ยังทำธุรกิจร่วมกันอยู่ ฉันน่าจะไปทักทายเขาอีกสักครั้งในสักวันหนึ่ง
และผู้ชายคนนี้
ฉันคิดว่าเขาดูเหมือนพ่อค้า แต่ที่จริงเขาเป็นพ่อค้าตัวจริง ในทางตรงกันข้าม เขาเป็นลูกชายของมาร์จู・เซโดนี ในกรณีนั้น แปลว่าเขาอาจจะเป็นทายาทรับช่วงต่อของบริษัทใหญ่
……หรือบางที เขาอาจจะเป็นปลาตัวใหญ่ของวงการมากกว่าที่คิดไว้
การที่คนๆ นี้เฉพาะเจาะจงมาเพื่อติดตามริโนะซึ่งเป็นแค่นักผจญภัย เป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือมีความคาดหวังเช่นนั้นหรือ
“ทอร์คซัง เด็กผู้หญิงน่ารักคนนี้คือ ลิลลี่ เป็นลูกศิษย์ของฉันเอง เธอน่ารักใช่ไหมล่ะ?”
อย่าพูดว่าน่ารักตั้งสองครั้งสิ
“ลูกศิษย์เหรอครับ ดูยังเด็กอยู่เลย หรือว่า……”
“ใช่ ลูกศิษย์และน้องสาวที่รัก ไม่สิ ลูกสาวสุดที่รัก……ไม่สิ……ม๊า เป็นคนที่สนิทสนมและรักใคร่ดี ทำนองนั้น น่ารักใช่ไหมล่ะ?”
ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าพวกเรามีความสัมพันธ์คลุมเครือที่ดูเหมือนมากกว่าเพื่อนแต่น้อยกว่าคนรักอะไรแบบนั้น และอย่าพูดว่าน่ารักอีกสิ
“เข้าใจแล้วครับ มีสถานการณ์ที่ซับซ้อนหลายอย่างสินะ”
อย่างที่คาดไว้สมกับเป็นพ่อค้า ดูเหมือนว่าเขาจะสนใจ แต่ไม่ต้องการฟังอย่างลึกซึ้ง
“――โอ๊ตโตะ จะยืนคุยกันต่อก็กระไรอยู่ ผมจะเตรียมอาหารเช้าให้ แล้วไว้คุยกันต่อตอนทานอาหารดีกว่าครับ”
อย่างที่ฉันได้ยินมาก่อนหน้านี้ เพราะเป็นเรือเหาะที่สร้างมาเพื่อความเร็วเท่านั้น ห้องอาหารจึงมีขนาดเล็ก และมีห้องพักไม่กี่ห้อง
ทั้งหมดเพื่อการเคลื่อนที่
“หากสามารถขนสัมภาระและอื่น ๆ ได้จำนวนมาก น่าจะเปลี่ยนแปลงระบบโลจิสติกส์ไปอย่างมาก แต่ว่าก็มีปัญหาต่าง ๆ มากมาย”
เราสามคนนั่งลงที่โต๊ะที่แคบนิดหน่อยและทานอาหารเช้าเบา ๆ
“ต่อไปก็คงเป็นเช่นนั้นครับ สำหรับตอนนี้ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อการขนส่งคน ม๊า สิ่งนี้จะมีประโยชน์มากมายสำหรับพ่อค้าแน่นอน”
ก็ควรเป็นแบบนั้น หากคุณสามารถไปถึงประเทศเพื่อนบ้านได้ในครึ่งวัน ก็น่าจะมีผู้ใช้งานมากมาย
“――ริโนะซัง ครั้งนี้ผมได้ยินมาว่าคุณกำลังจะไปออกล่าสัตว์อสูรที่แว็ง เดอ ครุชสินะครับ?”
ฉันคิดว่าเขาเป็นคนที่ช่างพูดมาก แต่ฉันก็ฝากการเป็นคู่มือของทอร์คไว้กับริโนกิส
ทันทีที่หัวข้อนี้ปรากฏขึ้น ฉันรู้สึกมีส่วนร่วมในทันที เพราะฉันก็กำลังคิดอยู่เหมือนกัน
จุดประสงค์ของทอร์คคือสัตว์อสูรตัวไหนก็ตามที่นักผจญภัยริโนะตั้งเป้าไว้สินะ
นักผจญภัยหน้าใหม่ฝีมือฉกาจที่สร้างชื่อให้ตัวเองอย่างรวดเร็วในอาร์ตัวร์ กำลังสะสมเงินหนึ่งพันล้านครัม
หากคุณรู้ภูมิหลังดังกล่าวคุณสามารถเดาเหตุผลที่ไปประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างไม่ยากเย็น
“ใช่ เพราะว่าการเคลื่อนไหวในอารตัวร์มีเรื่องยุ่งยากนิดหน่อย และฉันมีธุระที่ต้องไปทำพอดี ดังนั้นเลยคิดว่าจะลองล่าสัตว์อสูรระหว่างที่อยู่ที่นั้นดูสักหน่อย พูดตรง ๆ คือเป็นงานนอกประเทศระยะสั้นน่ะ”
“เคลื่อนไหวลำบาก งั้นเหรอครับ……หรือว่าคุณกำลังวางแผนที่จะย้ายฐานหรือครับ?”
“ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจจเรื่องนั้น แต่ เกี่ยวกับ เด็กคนนี้――”
หืม?
“ฉันไม่ต้องการให้คนอื่นรู้เรื่องความสัมพันธ์ของฉันกับลิลลี่แสนหวานของฉัน ไม่อย่างงั้นฉันคงไม่สามารถเดินเล่นกับสาวน้อยน่ารักคนนี้ที่อาร์ตัวร์ได้อีกต่อไป
แต่ว่า ฉันก็อยากให้สาวน้อยน่ารักคนนี้ได้มีประสบการณ์ที่หลากหลาย เพราะเป็นลูกศิษย์ที่น่ารักของฉันผู้น่ารัก”
การเจรจาทั้งหมดรอบนี้ตกเป็นหน้าที่ของริโนกิส ฉันจึงได้แค่พยักหน้า
มีเพียงริโนกิสเท่านั้นที่รู้เรื่องของฉันจนถึงส่วนลึกที่สุด ดังนั้นจึงจัดฉากบังหน้าได้ค่อนข้างดี และฉันจะห้ามพูดคำว่าน่ารักทีหลัง
“อาจจะมีการไปทำงานที่ต่างประเทศแบบนี้เพิ่มขึ้นในอนาคต ถึงตอนนั้นกรุณาให้พวกเราได้ขึ้นเรือลำนี้อีกครั้งด้วยนะคะ”
“ครับ แน่นอน ยังไงก็ตาม หากคุณตัดสินใจย้ายฐานออกจากเมืองหลวงเมื่อไหร่ ได้โปรดแจ้งให้ผมทราบล่วงหน้าด้วยนะครับ! ถือว่าเป็นคำสัญญานะครับ!”
สมกับเป็นพ่อค้าอย่างที่คิดไว้ รุกเข้ามาอย่างเฉียบพลัน ฉันรู้สึกถึงแรงใจที่จะไม่ปล่อยให้หนีได้
――แต่ว่า ม๊า ก็ดีเลยสิ
ถ้าคุณบอกว่าสามารถไปที่นั่นได้ภายในครึ่งวัน เราก็จะมีเวลาว่างมากกว่าที่คาดไว้ครึ่งวัน
จะขอใช้เวลาครึ่งหนึ่งของเวลานั้นสำหรับทอร์ค…..และสำหรับบริษัทเซโดนี
“เน๊ ชิโชว”
ฉันซึ่งนิ่งเงียบเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใหญ่ แต่ได้เวลาที่ฉันจะคุยบ้างแล้ว
“ทอร์คซัง หนูสงสัยว่ามีสัตว์อสูรที่คุณต้องการให้พวกเราล่าที่แว็ง เดอ ครุชไหมคะ พวกเราได้รับการดูแลเป็นอย่างดีขนาดนี้ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะฟังความคาดหวังของคุณสักหน่อยได้ไหมคะ?”
คำพูดของฉันซึ่งมีตำแหน่งกลับกันอยู่ที่เบื้องหลัง ถือว่าเป็รการตัดสินใจไปแล้ว
――ทอร์คที่ไม่รู้เรื่องนั้น มองมาที่ฉันซึ่งยื่นข้อเสนอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง สลับกับริโนกิสซึ่งอยู่ในฐานะผู้ที่จะตัดสินใจ
งั้นเหรอ ท้ายที่สุดเขาก็มาพร้อมกับแรงจูงใจแอบแฝงอย่างที่คาดไว้ ม๊า ก็เป็นพ่อค้าล่ะนะ ไม่มีทางทำการกุศลฟรี ๆ หรอก
“เสียมารยาทซะแล้ว! ริโนะซัง คุณมีแผนอยู่แล้วใช่ไหมครับ? แต่ทางเราจะให้ราคาที่สมน้ำสมเนื้อในบัญชีเป็นพิเศษเองครับ?”
อืม ถ้างั้น ก็ไม่มีอะไรเสียหาย ――ฉันแน่ใจว่าเป็นของมีความต้องการสูง ดังนั้นกำไรของบริษัทเซโดนี้จึงน่าจะมากกว่านั้นอีก
ฉันตัดสินใจฝากเรื่องการพูดคุยเรื่องเงินไว้กับผู้ใหญ่ และไปที่ห้องพักก่อน
เป็นห้องเล็ก ๆ มีแค่เตียงกับชั้นวางของ ยังไงก็ตามแม้ว่าจะมีขนาดเล็ก แต่ก็เป็นห้องส่วนตัว ฉันรู้สึกขอบคุณมากที่ช่วยแยกห้องกับริโนกิสที่มีความรู้สึกไม่น่าไว้วางใจแข็งแกร่งกว่าเดิม
“อือออ…….!”
ฉันยืดตัวและทิ้งตัวลงบนเตียง…… แข็ง… เจ็บ
ทว่า ร่างกายของฉันที่อ่อนล้าทั้งกายและใจจากตารางการถ่ายทำที่ต่อเนื่องมาจนถึงเมื่อวาน ถูกความง่วงเข้าจู่โจมทันที
บางทีน่าจะไปถึงตอนที่ฉันตื่นพอดี
เวลาที่ฉันรอคอยมานาน
นี่เป็นการล่าสัตว์อสูรครั้งแรกในชีวิตใหม่นี้
ฉันต้องการซัดกำปั้นออกไปโดยไม่ต้องกังวลให้เร็วที่สุด
ฉันหลับสนิททันที
เรายังห่างไกลจากแว็ง เดอ ครุชในตอนที่ฉันตื่นขึ้น นั้นเป็นเพราะว่าฉันตื่นขึ้นมาด้วยเสียงประกาศ「ภาวะฉุกเฉิน」ที่ได้ยินจากท่อสื่อสารที่วิ่งไปตามผนัง
วันสองวันมานี่หลอนเสียงกริ่งบ้านตัวเองจริง ๆ ดังเองเป็นระยะๆ บ่อยจนไม่สนใจไปดูแล้วรอให้ตะโกนเรียกซ้ำเอา ฮา
เหมือนสายไฟกริ่งมีปัญหาเจอชื้นฝนหลายวันเลยดังเอง เรียกช่างก็ติดฝนเลยไม่ได้แก้สักที ฮา