คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน - ตอนที่ 19 วันนี้โลลิอยากจะพาทุกท่านมา
19 วันนี้ฉันอยากจะพาทุกท่านมาเยี่ยมชมที่ทำงานของเหล่านักฟื้นฟูดาบกันค่ะ ส่วนหลัง
หลังจากพักช่วงสั้น ๆ ครึ่งหลังของการถ่ายทำก็เริ่มต้นขึ้น
“――ขั้นตอนเพื่อการฟื้นฟูมีตามนี้”
ช่างฝีมือที่อายุน้อยที่สุดกลับไปทำงาน น้องคนที่สอง…….หมายถึง ในเมื่อมีแค่สามคน ขอเรียกเขาว่าช่างฝีมือคนกลางแล้วกัน――เขารับหน้าที่นำทางและอธิบาย
แม้จะเป็นครั้งแรกที่เขาถูกถ่ายทำเมจิกวิชั่น แต่วิธีการพูดและท่าทางของเขาดูสงบนิ่ง
พวกเราย้ายจากหน้าร้านที่วางของต่าง ๆ ไปยังส่วนโรงงาน
มีโต๊ะแยกต่างหากสำหรับสามคนพร้อมเครื่องมือซ่อมแซมและสิ่งที่ดูเหมือนอยู่ในระหว่างการฟื้นฟู
ช่างฝีมือที่อายุน้อยที่สุดกลับมาทำงานอีกครั้ง หมกมุ่นอยู่กับงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ราวกับลืมเรื่องกล้องไปแล้ว
นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าจะมีเตาหลอมสำหรับละลายโลหะอยู่ด้านหลัง เพียงแค่มองจากระยะไกล ฉันก็สัมผัสได้ถึงความร้อน
“ที่เห็นทางนั้นคือ กำลังซ่อมแซมรอยขีดข่วนบนพื้นผิวครับ”
และชี้ไปที่ช่างฝีมืออายุน้อยที่สุดที่กำลังทำงานบนโต๊ะ
“ส่วนที่หัวหน้ากำลังทำอยู่ที่ด้านหลังคือขั้นตอนการฟื้นฟูส่วนที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการขัดหรือการเคลือบครับ”
แล้วชี้ไปทางด้านหลัง หากมองให้ดี ๆ จะเห็นว่าเป็นแผ่นหลังของชายวัยกลางคน
“นอกจากดาบและชุดเกราะแล้ว เรายังซ่อมแซมและฟื้นฟูเครื่องประดับและงานศิลปะด้วย และในขณะนี้ยังรับซ่อมแซมผลิตภัณฑ์เครื่องหนังด้วยเช่นกัน แต่เราไม่ได้รับคำขอนั้นมากนัก”
เห๊ เครื่องหนังด้วยเหรอ
“บางทีอาจเป็นเพราะไม่ทราบกันว่าที่นี่เองก็รับดำเนินการฟื้นฟูสิ่งอื่นด้วยเช่นกัน”
“อ้า นั่นสินะคะ ต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอนเลยค่ะ”
เป็นเรื่องจริงที่ภาพลักษณ์ของการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโลหะนั้นดูแข็งแกร่ง
เพราะถึงยังไงก็เป็นโรงงานของผู้เชี่ยวชาญการฟื้นฟูดาบ
“ทุกสิ่งที่เนียซังร้องขออยู่ที่นี่ครับ”
――เนื่องจากเป็นรายการที่ฉันจะได้รับประสบการณ์ในอาชีพ ฉันจึงต้องลงมือทำงานฟื้นฟูและซ่อมแซมด้วยตัวเอง
“อาร๊า ดาบสั้นสินะคะ”
ช่างฝีมือส่งดาบสั้นที่อยู่ในฝักมาให้ พอรับมาแล้วก็รับรู้ถึงน้ำหนักที่หนักมาก ――และฉันก็เปล่งเสียงที่แหลมกว่าปกติ
ยังไงก็ตามตอนแรกฉันคิดว่าเขาจะให้ทดลองซ่อมของบางอย่างที่สามารถให้เด็กสัมผัสได้ ของในระดับที่ไม่สลักสำคัญจนสามารถโยนทิ้งไปได้โดยไม่ต้องเสียดายเรื่องเงิน
หรือตั้งใจจะให้ฉันทำงานไร้ประโยชน์และไร้ความหมาย เพียงเพราะประเมินไว้ต่ำและดูแคลนว่าฉันเป็นแค่เด็ก
ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้อาวุธของจริงมา
ไม่คาดฝันเลยจริง ๆ
แม้จะเป็นดาบสั้นที่ทื่อและเป็นผลิตภัณฑ์ชั้นสามที่ไม่น่าสนใจ แต่ก็ก็เป็นเวลานานแล้วที่ฉันไม่ได้สัมผัสอาวุธจริง ๆ หัวใจของฉันมีความสุขแล้ว!
“ดาบสินะคะ ฉันสงสัยจังว่าจะทำได้ไหม”
“อะ ไม่ครับ ส่วนของเนียซังเป็นฝักดาบครับ ส่วนใบดาบจะเป็นหน้าที่ของผม……”
……อะไรกัน ไม่ใช่หรอกเหรอ
ชั่วขณะหนึ่งที่ฉันมีความสุขที่จะได้สัมผัสอาวุธจริง ความตื่นเต้นเหี่ยวแห้งลงทันใด
ม๊า ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ
ฉันเข้าใจดี
อย่างที่คาดไว้ เด็กอายุห้าขวบที่ไม่มีทางได้รับอนุญาตให้จับแม้แต่มีด ไม่ต้องพูดอาวุธเลย
แม้แต่ตอนที่ฉันกำลังถ่ายทำการทำอาหาร ฉันก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ถือมีดทำครัวด้วยซ้ำ ชัดเจนตั้งแต่แรก
“จ๊า ฉันขอฝากดาบแสนสนุกไว้กับคุณนะคะ ส่วนฉันจะทำการฟื้นฟูฝักดาบที่ไม่น……แสนสำคัญเองค่ะ”
อย่างที่คิด ฉันไม่ควรพูดว่า “ไม่น่าสนใจ” แม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม
ยังไงก็ตาม แม้ว่าฉันคิดว่าสามารถตบตาได้ดีแล้ว แต่หัวหน้าผู้กำกับหนุ่มที่อยู่อีกด้านของกล้องยกมือขึ้นทำเครื่องหมาย「×」ดูเหมือนจะไม่ได้สินะ ค๊า ค๊า ฉันจึงต้องพูดใหม่อีกครั้ง
งานฟื้นฟูง่ายกว่าที่คิดไว้
ฝักดาบโลหะซึ่งเต็มไปด้วยรอยขีดข่วน จะถูกขัดเงาและอุดร่องด้วยดินเหนียว ค่อย ๆ กลับสู่สภาพเหมือนใหม่มากขึ้นเรื่อย ๆ
เป็นเรื่องน่าขันที่ครั้งหนึ่งฉันซึ่งเคยแต่ทำลาย ตอนนี้กลับต้องมาซ่อม……ไม่ ไม่ งานอดิเรกอย่างการทำลายอุปกรณ์ไม่มีอยู่ในความทรงจำของฉันสักนิด อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในฐานะของเนีย・ลิสตัน เพราะชีวิตนี้ยังทำไม่สำเร็จ อะ อย่าพูดมากไปกว่านี้เลย หยุดเถอะ
ใจฉันเริ่มส่งเสียงโวยวาย ดังนั้นฉันคิดว่าพอได้แล้ว
“เกือบจะเสร็จแล้วค่ะ คิดว่าเป็นยังไงคะ?”
ฉันนั่งทำงานอยู่เคียงข้างช่างฝีมือคนกลางหน้าโต๊ะใหญ่ พร้อมถ่ายทำไปด้วย การทำงานดำเนินไปได้ค่อนข้างดี ในขณะที่พูดคุยกันเป็นครั้งคราว
ม๊า มีการสั่งคัทหลายครั้งมาก ดังนั้นฉันสงสัยจริงว่าจะมีส่วนที่สามารถนำไปใช้เป็นภาพสะท้อนได้สักเท่าไหร่
ฉันบอกให้ช่างฝีมือคนกลางที่อยู่ข้างฉันรู้ว่างานฟื้นฟูส่วนใหญ่เสร็จแล้ว ฉันไม่ได้รับการสอนวิธีแก้ไขที่มากกว่ารอยขีดข่วนเล็ก ๆ ดังนั้นนี่คือทั้งหมดที่ฉันสามารถทำได้
“……อะ ดีมากเลย……”
เขามองฝักดาบอย่างใกล้ชิดด้วยสายตาของช่างฝีมือ และพึมพำโดยไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่รู้ว่าตัวเองทำออกมาได้ดีหรือไม่ดี ม๊า ดังนนั้นฉันถือว่าเป็นคำชมแล้วกัน
“นิ้วคล่องแคล้วมากเลยค่ะ การฟื้นฟูดาบแสนสนุกคืบหน้าไปยังไงบ้างคะ?”
“ครับ ตามที่รู้สึกคือ――”
โฮ……
จากสัญญาณของคนที่ฝึกงานมานาน ถึงจะเห็นสภาพทื่อแบบนั้น แต่เห็นได้ว่าคนที่ใช้ต้องดูแลอย่างดีมาหลายปี ม๊า พูดตรง ๆ ก็คือเก่าแล้ว
ฉันไม่ได้ดูตอนทำ เพราะกำลังจดจ่ออยู่กับงานในมือของตัวเอง แต่ดาบสั้นที่ดูทื่อเก่าในมือเขาก็กลายเป็นดาบที่ดูดีขึ้นมาทีเดียว
การถ่ายทำในครึ่งหลังเป็นไปอย่างราบรื่น――
“อ้า เข้าใจแล้ว”
ในที่สุด ก็มีการตัดสินใจที่จะถ่ายทำการทดสอบดาบที่ได้รับการฟื้นฟูโดยชายวัยกลางคน
เมื่อพวกเราเดินไปที่ด้านข้างของโรงงาน ก็มีสถานที่ซึ่งมีเสาถูกตอกลงดินเรียงรายอยู่ น่าจะเป็นสำหรับการทดสอบดาบ
โล่ไม้ขาดรุ่งริ่งที่ดูเหมือนของถูกทิ้งถูกยกขึ้นติดกับเสาต้นหนึ่ง
เขาเหวี่ยงดาบยาวที่เพิ่งฟื้นฟูไปทางนั้น
――แกร๊ง เสียงดังกึกก้อง และใบดาบก็กรีดเข้าไปกลางโล่
……หืม
” ――คัท! ขอบพระคุณมากครับ!”
เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการถ่ายทำที่โรงงาน
ต่อไปที่เหลือคือให้ฉันกล่าวคำปิดท้ายรายการใช่ไหมนะ? ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ก็เป็นอันจบการถ่ายทำ
ในระหว่างการเตรียมตัวเก็บข้าวของ ――ฉันก็เรียกชายวัยกลางคน
“ดาบเล่มนั้นใช้ต่อสู้จริงไม่ได้สินะคะ?”
“อะ?”
ในสถานที่นี้ซึ่งมีความตึงเครียดที่ไม่เหมือนใครจากการกวัดแกว่งอาวุธอย่างจริงจัง คำพูดของฉันมีความตึงเครียดที่แตกต่างไป
ระหว่างฉัน และชายวัยกลางคน มีเพียงช่างฝีมือสองคน และริโนกิสที่เฝ้าดูอยู่ ทีมถ่ายทำไม่ได้เห็นหรือได้ยิน เพราะพวกเขาดูเหมือนจะยุ่งอยู่กับการเตรียมถอนตัว
“เพราะด้วยแขนของคุณ ต่อให้ดาบทื่อยังไงคุณก็สามารถตัดโล่ให้ขาดได้ใช่ไหมคะ?”
――ยังไงก็ตาม ถึงฉันจะไม่ถนัดเรื่องการใช้อาวุธ แต่ถ้าแค่นั้นฉันก็ทำได้ ไม่มีทางที่ผู้ชายคนนี้ที่เก่งกว่าฉันจะทำไม่ได้
“ฮึ่ม เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเจ้าจะไปรู้อะไรกัน”
“ก็เพราะไม่รู้ จึงถามยังไงล่ะคะ”
และ ฉันนั่งลงบนรถเข็นที่ริโนกิสเข็นให้
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ จากนี้อาจจะไม่สุภาพเอาสักหน่อย”
ไม่อยากตัด กับ ตัดไม่ได้ มีความหมายที่แตกต่างกัน ฉันไม่แน่ใจว่าทางไหน จึงจะไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้
“……แต่ว่า ถ้าแม้แต่ฉันยังทำได้ แต่คุณกลับทำไม่ได้ล่ะ”
“ว่าไงนะ”
อะ โกรธแล้ว โกรธออกมาแล้ว ――ตรงตามแผนที่วางไว้!
ก็ช่วยไม่ได้
ในที่ที่เต็มไปด้วยอาวุธแบบนี้ ไม่มีทางที่ฉันจะทนกับคำสั่งไม่อนุญาตให้เหวี่ยงดาบแม้แต่สักครั้งเดียวได้
ม๊า ถึงฉันจะไม่ค่อยชอบอาวุธก็เถอะ
แต่มีโอกาสขนาดนี้แล้ว หากสามารถลิ้มรสความรู้สึกของการต่อสู้จริงได้แม้เพียงเล็กน้อย ฉันก็ไม่สนอะไรอีกต่อไปแล้ว อะไรก็ได้จริง ๆ
“อย่างงั้นแสดงให้ข้าเห็นซะ ถ้าเจ้าแสดงให้ข้าเห็น ข้าก็จะแสดงของข้าให้เจ้าได้เห็นเช่นกัน ――ดาบของข้าไม่ได้มีไว้เพื่อแสดง”
อ้า เข้าใจล่ะ ไม่ได้มีไว้เพื่อการแสดง
“――คุณหนู ไม่ได้นะคะ”
ฉันยืนขึ้นโดยไม่สนใจเสียงตำหนิแผ่วเบาของริโนกิส
“ข้าให้ยืม”
ชายวัยกลางคนยื่นดาบยาวที่ถืออยู่มาให้……เมื่อฉันยื่นมือออกไปรับ เขาก็ทำหน้าเหมือนถามว่า「จะทำได้จริง ๆ เรอะ?」
อืม หนักอยู่นะ
น้ำหนักกำลังดี แตกต่างจากดาบไม้อย่างสิ้นเชิง
ตอนนี้ยังหนักเกินไปสำหรับฉัน แต่……ถ้าแค่เป็นการเหวี่ยงเพียงครั้งเดียวโดยเล็งไปที่เป้าหมายที่อยู่นิ่ง ฉันก็น่าจะทำได้
ต้องรีบลงมือในทันที ในตอนที่ทีมงานถ่ายทำไม่ได้มองมา――
――เสียงหายใจออกทำให้อากาศแตกกระจาย ใบดาบหยุดลงเมื่อสัมผัสพื้น และด้านซ้ายของโล่ไม้บางส่วนถูกตัดออก
“เป็นดาบที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะคะ”
ฉันรู้สึกว่าจุดศูนย์ถ่วงอยู่ห่างไปหน่อย และมีเรื่องที่คนภายนอกอาจดูไม่ชัดเจนนัก แต่มีอาการติดขัดอยู่เล็กน้อย ใบดาบถูกลับคมไม่ถูกวิธี
และเขาก็ตอบว่าใช่ ช่างฝีมือทั้งสามคนมองมาที่ฉันด้วยใบหน้าตกตะลึง
“――เนียจัง ไปถ่ายรายการต่อไปกันเถอะ!ทุกคน ขอบคุณสำหรับความร่วมมือในการถ่ายทำวันนี้มากเลย!”
หัวหน้าผู้กำกับกำลังเรียกหา ดูเหมือนทั้งหมดจบลงเท่านี้
“ขอบคุณสำหรับวันนี้มากค่ะ”
ฉับตอบกลับไป และออกจากโรงงานด้วยรถเข็น――เท่ากับว่าการถ่ายทำรายการเยี่ยมชมธุรกิจครั้งที่ห้าก็เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์
――อ๊า สนุกมาก!
เป็นครั้งแรกจากเวลานานแสนนานที่ในช่วงเวลาสั้น ๆ ฉันก็สามารถสัมผัสความรู้สึกของการต่อสู้จริงได้! รู้สึกดีอย่างที่คิดไว้!ดูเหมือนประสาทสัมผัสที่กำลังจะถูกลืมก็ฟื้นกลับมา!
รีบมาฟิตร่างกายกันเถอะ
และ ฉันอยากเข้าร่วมการต่อสู้จริงโดยเร็วที่สุด