คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน - ตอนที่ 215 ความยันเดเระของซิลเลน
215 ความมุ่งมั่นของซิลเลน
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซิลเลนจะมาอยู่ที่คฤหาสน์ของฉัน
ม๊า แต่ก็ตามที่คาดไว้ สมาชิกของราชวงศ์จะไม่สามารถออกมาค้างคืนข้างนอกได้ตลอดเวลาก่อนที่จะแต่งงาน ดังนั้นดูเหมือนว่าเธอจะต้องเดินทางไปมาระหว่างปราสาทกับคฤหาสน์ของฉันประมาณครึ่งสัปดาห์ต่อครั้ง
เธอบอกว่าจะกลับไปที่ปราสาทก่อน เพื่อนำกระเป๋าเดินทางของเธอมาด้วย
ฉันกับพวกเด็ก ๆ จึงเตรียมการต้อนรับเธอ และเมื่อฉันคิดว่าเธอใกล้จะมาถึงแล้ว พวกเราก็ออกไปที่หน้าคฤหาสน์เพื่อรอต้อนรับ
พวกเขามาก่อนหน้านั้นแล้ว
อาคาชิกับชายที่ฉันไม่รู้จัก
“เนียจัง ฉ๊านขอแนะนำให้รู้จัก นี่คือพี่ชายของฉ๊านเอง”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับท่าน เนีย・ลิสตันซามะ กระผมชื่อว่าซาคุมะ・ชิโนบาซขอรับ”
โห๊ว
ชายที่ไร้สีหน้ายืนอยู่ตรงนั้น ข้างอาคาชิที่กำลังหัวเราะอยู่ แม้ว่าพวกเขาจะมีผมสีดำและดวงตาสีเข้มที่เข้ากัน แต่พวกเขาก็ให้ความรู้สึกที่ตรงกันข้ามกันโดยสิ้นเชิง
ซาคุมะ・ชิโนบาซ
เขาไม่สูงมาก และมีรูปร่างเพรียว แต่สามารถบอกได้ทันทีว่าเขามีเนื้อหนังที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี ในแง่ของพลังการต่อสู้ทั่วไป ดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งกว่าอาคาชิ
ม๊า เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันอยู่ดี
ฉันเดาว่า เขาอายุประมาณยี่สิบปี
เขาสวมเครื่องแบบพ่อบ้านไร้รอยเปื้อนหรือริ้วรอย ม๊า ดังนั้นฉันเดาว่าเขาเป็นทั้งสายลับและพ่อบ้านตัวจริงด้วย
“กระผมมาเพื่อช่วยในการขนย้ายของซิลเลนซามะขอรับ และจะทำหน้าเป็นผู้คุ้มกันต่อจากนี้ไปด้วยเช่นกันขอรับ”
คุ้มกัน?
เมื่อมองไปที่อาคาชิ เธอพูดในขณะหัวเราะขี้เล่น
“ที่นี่ มีผู้ชายไม่เพียงพอจริง ๆ แหละค๊า คิดคงจะดีถ้ามีผู้ชายอย่างน้อยสักโค๊น แล้วก็นี่เป็นคำสั่งจากราชาด้วยค๊า ดังนั้นจะดีใจม๊ากถ้าคุณยอมรับเขาไว้”
ถ้าฉันไม่ยอมรับ เขาก็จะตั้งแคมป์ที่นี่ ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าพวกเขาล้อเล่น หรือเอาจริง ……บางทีอาจจะเป็นจริงจังที่ล้อเล่นก็ได้
…………
ม๊า ก็แน่นอนน๊า
ตอนที่ฉันกับริโนกิสอยู่ด้วยก็ดีไป แต่หากมีช่องว่างที่พวกเราสองคนไม่อยู่ด้วย พวกเด็ก ๆ จะต้องมีความกังวลแน่นอน
ทั้งยังอาจมีสถานการณ์อื่น ๆ ที่ผู้ชายจะเจรจาได้ง่ายกว่า และหากเขาเป็นสายลับ เขาคงจะคุ้นเคยกับมาเวเลียเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ จากนี้ไปจะมีเจ้าหญิงของแท้ที่ชื่อว่าซิลเลนมาอาศัยอยู่ที่นี่ด้วย จึงไม่มีทางที่เธอจะไปไหนมาไหนได้โดยไม่มีคนคุ้มกัน และการเผชิญหน้ากับทางฝั่งมาเวเลียอีกด้วย ฉันรู้สึกว่านั่นคือเหตุผลที่พระราชาสั่งโดยตรง
――แน่นอนว่า เขาคงจะคอยจับตาดูฉันด้วย
แต่ว่า ฉันไม่ได้ใช้ชีวิตแบบที่ต้องกังวลกับการถูกจับตามอง ดังนั้นฉันเดาว่านั่นไม่ใช่ปัญหา
“ฉันต้องจ้างคุณเป็นพ่อบ้านไหม?”
“เงินเดือนของกระผมมาจากรัฐบาลขอรับ ดังนั้นกระผมจึงแค่อยากให้คุณอนุญาตให้ผมสามารถพักอาศัยอยู่ที่นี่ได้ก็เพียงพอ”
ฟุอืม
“สาวใช้ของฉัน ค่อนข้างขี้สงสัยนิดหน่อย………ไม่สิ จู้จี้จุกจิกเน๊ะ แต่หากทุกอย่างไม่เป็นไปด้วยดี คุณจะถูกไล่ออก เรื่องนั้นตกลงไหม?”
“แน่นอนขอรับ”
ด้วยเหตุนี้ ซิลเลน และซาคุบะ จำนวนผู้อยู่อาศัยร่วมกันจึงเพิ่มขึ้น
สำหรับอาคาชิ…….ม๊า เธอก็เริ่มมาป้วนเปี้ยนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้แค่ยังไม่ได้อยู่ด้วยกันเท่านั้น
ในวันถัดมาหลังจากที่ซิลเลนย้ายของเสร็จ พวกเราก็จัดงานเลี้ยงต้อนรับกัน และก็สนุกกันมาก
“――โห๊?”
ช่วงเช้าตรู่ที่ท้องฟ้ายังมืดอยู่ พอฉันออกไปที่สวนเพื่อฝึกซ้อมตอนเช้า ก็มีคนอยู่ที่ข้างหน้าฉันแล้ว
ซิลเลนนั่นเอง
เธอกำลังเหวี่ยงหอกยาวที่ไม่สมส่วนกับร่างเล็ก ๆ ของเธอเลยได้อย่างง่ายดาย ทั้งการฟาด ทั้งการดึง ทั้งการก้าวเท้าก็ค่อนข้างเฉียบคม
ค่อนข้างแข็งแกร่ง รู้สึกถึงความแข็งแกร่งของการเป็นอัศวิน
ทักษะที่สามารถใช้งานได้จริงแบบนี้อาจจะมีประโยชน์เมื่อขับทหารจักรกล แต่ฉันก็ไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์ยังไง
“เนียก็มาฝึกซ้อมเหมือนกันเหรอ?”
เธอถามโดยไม่หันกลับมามอง
“ใช่”
ฉันทำซ้ำรูปแบบของตัวเอง อยู่ห่างออกมาไกลเล็กน้อย
หลังจากทำเช่นนี้ได้สักพัก ริโนกิสก็ปรากฎตัว และเริ่มการฝึกของเธอ
“――อะ อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
และจากนั้น มิโตะก็ตื่นตามมา
เธอไม่ไดมาที่นี่เพื่อฝึกซ้อม แต่เพื่อเตรียมน้ำสำหรับอาบน้ำตอนเช้าของฉัน หลังจากทักทายเสร็จ เธอก็ตักน้ำจากบ่อแล้วขนออกไป
…………
อาเร๊ะ?
“…………มีอะไรเหรอคะ? คุณหนู”
ริโนกิสที่กำลังฝึกท่าเตรียมพร้อมต่อสู้ตามแบบอยู่ สังเกตเห็นว่าฉันกำลังฟุ้งซ่าน ทำได้แล้วน๊า ที่จริงตอนนี้ฉันไม่ควรแม้แต่จะมองไปทางนั้น
“มิโตะกลายเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ฉันแก้ไขท่ายืน ขณะมองไปที่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่กำลังมุ่งหน้าเข้าไปในคฤหาสน์
“อ้า? ……..อาเร๊ะ!? ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!?”
โอ้ ริโนกิสก็ไม่สังเกตเห็นเหมือนกันอย่างงั้นเหรอ
“………น๊า เนีย เด็คนนั้น……เอ่อ……..จะว่ายังไงดี……….ดูเหมือนกับเธอจังนะ?”
อะ ใช่เลยล่ะ
“มีแวบหนึ่ง ที่ฉันคิดว่าเด็กของมาเวเลียทุกคนสามารถทำอะไรแบบนั้นได้ แตไม่ใช่ใช่ไหม?”
แม้แต่จากมุมมองของซิลเลน พฤติกรรมของมิโตะก็ดูผิดปกติ
“จากมุมมองของเรา คุณเองก็เป็นเช่นนั้น”
“อาร๊า ทั้งที่ซิลที่ตัวเล็กน่ารัก แต่ก็สามารถแกว่งหอกขนาดใหญ่แบบนั้นได้เหมือนกันนะเหรอ”
“เห็นอย่างงี้ เราก็อายุสิบหกปีแล้วน๊า”
ถึงฉันจะแน่ใจว่าอายุจิตของตัวเองน่าจะมีอายุมากกว่าร้อยปีแล้วเหมือนกันน๊า ……….ดังนั้น ไม่ว่าจะเพราะอะไร ฉันก็ไม่ได้พูดไป เพราะคิดไปเอง
แต่ทว่า นั่นสินะ
เมื่อพิจารณาจากปฏิกิริยาของซิลเลน แปลว่าแม้แต่เด็กมาเวเลียเองก็ยังไม่สามารถทำอะไรแบบนั้นได้ ถูกต้อง ไม่มีทางเป็นแบบนั่น นั่นมันผิดปกติ
ภาพของมิโตะที่ฉันจำได้คือ ภาพของเธอที่แบกถังน้ำเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยน้ำไปมาอย่างไม่มั่นคงในระหว่างหยุดพัก
แต่ตอนนี้――เธอถืออ่างที่ใหญ่กว่าตัว และก้าวเดินอย่างมั่นคง และเบา
แน่นอนว่ามันเต็มไปด้วยน้ำจำนวนมาก เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะถืออ่างเปล่า หากเธอสามารถเดินด้วยความเร็วขนาดนั้น แต่ไม่ทำน้ำหกได้ ก็ต้องบอกว่าเธอมีแกนกลางลำตัวที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน
มิโตะหายเข้าไปในคฤหาสน์ และหายไปจากสายตาโดยไม่รู้ว่าเรากำลังดูอยู่
“――คุณหนู นั่น『คิ』เหรอคะ……..?”
ริโนกิสเข้ามากระซิบที่ข้างหูของฉัน และฉันก็อยากที่จะปฏิเสธ……..แต่ก็ทำไม่ได้
ไม่สิ ไม่ต้องสงสัยเลย
ด้วยขนาดร่างกายและมวลกล้ามเนื้อของมิโตะทำให้ไม่มีทางเลยที่จะสามารถรับน้ำหนักมากขนาดนั้นได้ หากมีขนาดใหญ่แบบนั้น แค่อ่างอย่างเดียวก็หนักเกินพอแล้ว
ในกรณีนี้มีคำตอบเดียวเท่านั้น
…..หนึ่งเดียว แต่ว่า…………
แปลก
ยังไงก็ตาม「คิ」ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เด็กจะเรียนรู้ได้เอง ตั้งแต่แรกแล้วฉันก็ไม่เคยบอกพวกเธอถึงเรื่องนี้……….
…………
ม๊า ช่างมันเถอะ
ถ้ามิโตะที่บอกว่าร่างกายอ่อนแอสามารถกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างกระฉับกระเฉงได้ ก็ไม่เป็นไรหรอกมั้ง
“ฉันมีงานใหม่สำหรับเด็กคนนั้นแล้ว”
แรกเริ่ม ดูเหมือนวันนี้จะจบลงเพียงแค่ตักน้ำเท่านั้น
ถ้ายังเป็นเช่นเดิม ที่เหลือก็จะไม่มีอะไรมากไปกว่าทานอาหารเช้า
“ฉันไม่คิดว่านั่นคือสิ่งที่ควรกังวล………”
ไม่สิ ไหน ๆ แล้ว
“ซิล นี่ดูจะเป็นโอกาสที่ดี ฉันจะบอกเธอตอนนี้เลย”
“หืม?”
ฉันคิดไว้อยู่แล้วว่าสักวันจะต้องพูด
หลังจากดูการฝึกซ้อมตอนเช้าของเธอ ฉันก็สามารถตัดสินใจได้ว่าเธอจะไม่มีปัญหา
“ฉันจะบอกถึงเหตุผลที่ว่าทำไม ฉันขโมยทหารจักรกลไปจากเธอ”
“……….มีเหตุผลสินะ?”
ยังไงดี เธอมีสีหน้าประหลาดใจ
“ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะบังคับให้เธอย้ายจากหลักสูตรทหารจักรกลไปยังหลักสูตรทั่วไปอย่างโหดร้ายหรอกน่ะ?”
“งะ งั้นเหรอ…….เราแค่คิดว่ามันชัดเจน……….”
ยังไงกัน เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดจริง ๆ
“อย่าพูดอะไรโง่ ๆ สิ ฉันจะไม่ทำอะไรโง่ ๆ อย่างการจงใจกีดกันคนหนุ่มสาวจากสิ่งที่พวกเขาอยากทำหรอกนะ
เมื่อฉันออกจากมาเวเลีย ฉันจะพาเธอกลับไปหาราชา ดังนั้นถ้าในตอนนั้นเธอต้องการที่จะกลับไปขับอีกครั้งก็สามารถขับได้ จนกว่าจะถึงเวลานั้น ฉันก็แค่อยากให้เธออดทนกับฉันหน่อย”
“……………….”
ซิลเลนไม่พูดอะไรเลยสักคำ ดูเหมือนว่าจะประหลาดใจจริง ๆ ไม่แม้แต่จะพยายามซ่อนการแสดงออกที่ประหลาดใจของตัวเอง
ฉันเกือบจะถามออกไปแล้วว่าเธอคิดยังไงกับฉันกัน แต่――ม๊า อย่าถามถึงเรื่องที่ไม่เข้าท่าแบบนั้นดีกว่า ฉันไม่อยากเจ็บปวด
“แล้ว เช่นนั้นแล้ว ทำไมถึงย้ายเรามากันล่ะ!? มีแผนที่จะให้เราทำอะไรกันแน่!?”
อืม
“ฉันแค่อยากให้เธอแข็งแกร่งกว่าทหารจักรกล”
――เพื่อยุติการบูชาทหารจักรกลของประเทศนี้
ถ้าต้องการที่จะมห้เปิดประเทศ ฉันคิดว่าเราควรเริ่มต้นด้วยการปลดปล่อยพวกเขาจากทหารจักรกลก่อน
มาเวเลียยึดติดกับทหารจักรกลมากเกินไป
โลกใบนี้กว้างใหญ่ เพื่อเตือนประเทศนี้ว่ายังมีบางสิ่งที่แข็งแกร่งกว่าทหารจักรกลอยู่ในโลก
และผู้ที่จะพิสูจน์เรื่องนั้นได้ก็คือเจ้าหญิงแห่งมาเวเลีย
เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการปฏิรูป ฉันต้องการให้ซิลเลนเป็นผู้นำ
ฉันจะเปิดประเทศนี้ แนะนำเผยแพร่เมจิกวิชั่น และจะออกจากประเทศนี้ไป
จากนั้น ซิลเลนก็จะทำทุกอย่างที่เธอต้องการได้
“มะ ไม่มีทาง………เราคนนี้จะสามารถเอาชนะทหารจักรกลด้วยนิ้วเดียวเหมือนคุณได้อย่างงั้นใช่ไหม!?”
“นั่นขึ้นอยู่กับความพยายามของเธอเอง”
“――เราจะทำ! เราต้องการที่จะแข็งแกร่ง! เราจะแข็งแกร่งขึ้นและกลายเป็นนักบินเพื่อปกป้องประเทศนี้!”
อืม
ไม่ว่าจุดประสงค์คืออะไรก็ตาม ถือเป็นการดีที่จะมีแรงจูงใจ
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
บ่นๆไร้สาระ
ใกล้โรงเรียนปิดเทอม งานช่วยขายของน่าจะเบาลงหน่อย แต่ก็เห็นแววปวดหัวเช่นกัน เพราะพูดเปรยๆว่าจะเปิดไลน์ขายของใหม่ อีกแล้ว
แต่ก็น่าจะมีเวลาแปลนิยายมากขึ้นหน่อยหนึ่ง เพราะน่าจะไม่ต้องเตรียมของดึกๆเพื่อไปขายตอนเช้าสักพักแล
ไร้สาระ
ทำไมวันที่ไม่ว่างไปออกกำลังกาย ถึงได้มีโลลิหัวทองออกมาเล่นกันเต็มเลยยยยยยย ในหมู่บ้านต่างชาติลูกครึ่งเพิ่มเอาๆๆ คนไทยหายเอาๆๆ ฮา