คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน - ตอนที่ 235 โลลิถามคำถามกับหมีมากมาย
235 ฉันถามคำถามกับลิวิเซลมากมาย
“เราจะขอพูดอีกครั้ง เราขอโทษเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดด้วย และขอขอบคุณที่ช่วยทุกคนที่ป้อม”
ใบหน้าครึ่งซ้ายของลิวิเซลแดงสดและบวมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูด――แต่ยังไงก็ตาม ก็เป็นการแสดงออกที่ดีและตรงไปตรงมา
หลังจากรอลิวิเซลที่รู้สึกเจ็บปวดจนไม่สามารถขยับตัวได้อยู่พักหนึ่ง พวกเราก็ไปที่ห้องรับแขก
ฉันกับลิวิเซลนั่งเผชิญหน้ากัน แคลนอลล์นั่งข้างลิวิเซล อิลก์กับอาคาชิยืนอยู่ข้างหลังพวกเขา
ก่อนอื่นเลย ตอนนี้ซิลเลนเองก็อยู่ที่คฤหาสน์เช่นกัน แต่เธอกำลังฝึกอยู่ ดังนั้นจึงไม่ได้มาอยู่ที่นี่ด้วย
“ฉันไม่อยากจะแตะต้องมากเกินไปเพราะอุตส่าห์ชำระล้างไปแล้ว แต่เกิดอะไรขึ้นกับทหารจักรกลในคืนนั้น? อาเร๊ะ คงไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิดอีกใช่ไหม? หรือจะซ่อนอยู่ในความมืดไว้อีก?”
ถึงบนกระดานจะระบุไว้ว่า「ไม่มีอยู่」แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรจะซ่อนอีกต่อไปแล้ว และคงจะคุยใช่ไหม
ถ้าบอกว่ามันจบไปแล้ว ฉันจะเล็งท้อง
ลิวิเซลหมดคำพูดไปชั่วขณะหนึ่ง เนื่องจากจากนี้เป็นเรื่องราวที่เป็นจุดเริ่มต้นให้เขาโดนดี แต่
“……”ไม่หรอก พวกเราค้นเจอแล้ว และมีการจัดการแบบทบต้นทบดอก”
เขาตอบโดยไม่ปิดบังอะไรอย่างน่าประหลาดใจ
“ปกติการจัดการทหารจักรกลค่อนข้างเข้มงวด แต่ดูเหมือนว่าชิ้นส่วนต่าง ๆ จะถูกขนถ่ายเอาออกไปทีละน้อย”
อ้า เข้าใจล่ะ
“การนำทหารจักรกลทั้งตัวออกไปเป็นเรื่องยากมาก แม้จะเพียงเครื่องเดียวก็ตาม แต่หากเป็นการขนชิ้นส่วนออกไปทีล่ะน้อยก็สามารถปิดบังไว้ได้”
พวกเขารวบรวมมันทีละชิ้นและสร้างมันขึ้นมาทีละตัว
ม๊า หากมีเวลาเหลือก็ถือเป็นความคิดที่ดี
“ไม่มีใครสังเกตเห็น เพราะว่าชิ้นส่วนเหล่านั้นเป็นของที่ใกล้จะปลดประจำการที่ต้องกำจัดทิ้งอยู่แล้ว นอกทหารจักรกลสี่เครื่องที่เกี่ยวข้องกับการเข้าโจมตีคฤหาสน์หลังนี้แล้ว พวกเรายังพบทหารจักรกลอีกสองเครื่อง รวมแล้วนั่นคือหกเครื่อง”
เห้
ฉันคิดว่ามีแค่สามเครื่องเท่านั้นที่เข้ามาโจมตีใรคืนนั้น แต่ยังมีอีกเครื่องสินั ยังไงก็ตาม ยังมีอีกสองเครื่องที่ไม่ได้เอามาใช้งาน
“ฉันขอถามสักหน่อย นั่นเป็นของส่วนตัวของดาร์จอลงั้นเหรอ?”
“ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น เหมือนว่าเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน”
อ้า สำหรับตอนที่อาจจะถูกนักบินและสารวัตรทหารไล่ล่าสินะ เพื่อต่อสู้กับทหารจักรกล คุณต้องใช้ทหารจักรกล
“นอกจากนี้ ดาร์จอลที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในตอนนี้ก็อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีโดยคูรกรรมการสอบสวน เขามีคดีอาญาอยู่มากมาย แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือการเปิดปากสารภาพรายชื่อของขุนนาง และสารวัตรทหารที่ให้ความร่วมมือในการลักลอบขนส่ง และพื้นที่เก็บซ่อนทหารจักรกล จุดจบคงอยู่ไม่ไกลแล้วล่ะ”
…………
ดูเหมือนว่ามาเวเลียจะยังไม่เน่าเสียไปทั้งประเทศล่ะน๊า ฉันเดาว่าปัญหาเดียวคือพวกเขาเข้มงวดกับชาวต่างชาติมากเกินไป
“เราขอถามบ้างได้ไหม?”
เมื่อเรื่องของทางนี้จบลง คราวนี้ก็เป็นลิวิเซลที่ถามคำถาม
“เราได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของเด็กกำพร้าแล้ว และได้ยินว่าเธอลงทุนด้วยเงินของตัวเอง”
“ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นหรอก แต่ถ้าติดใจจริง ๆ ก็สามารถชดเชยให้ฉันทีหลังก็ได้”
“งั้นเหรอ ช่วยได้มาก”
――ยังมีเรื่องของหน้าประเทศอีกด้วย การที่มีชาวต่างชาตืเข้ามาทำความสะอาดเรื่องวุ่นวายที่เกิดจากการเมืองนั้น มันดูไม่ดีอย่างมาก
คงเป็นเรื่องที่น่ากังวลเพราะเป็นส่วนที่ยังไม่เน่าเสีย
“มันเป็นเรื่องใหญ่เน๊ะ มันเป็นสถานการณ์ที่ร้ายแรงมากแม้จะมีเงินอุดหนุน แต่ก็มีเด็กกำพร้าล้นออกมาเสมอ”
“นั่นสินะ……เราไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำ นอกจากนี้ปัญหานี้ ยังไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการจ่ายเงินเพียงอย่างเดียวด้วย”
ใช่ หากสิ่งต่าง ๆ ยังคงดำเนินไปแบบนี้ จำเด็กกำพร้าจักรกลก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นทุกปี
เว้นเสียแต่ว่าเราจะทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับรากฐานจองปัญหาโดยตรง สิ่งเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก หรือก็คือ――จำนวนเด็กกำพร้ามีแต่จะเพิ่มขึ้นสินะ
จริง ๆ แล้ว ถ้าแค่เพิ่มเงินอุดหนุน ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่เกิดปัญหาขึ้นใช่ไหม
ฉันเกลียดที่จะต้องพูดแบบนี้ แต่ความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นนักบินทหารจักรกลขึ้นอยู่กับจำนวนลูก
ฉันคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่วงจรอันเลวร้ายของการมีลูกจำนวนมาก ……แล้วเลือกดูแลเฉพาะคนที่ขับได้เท่านั้น และทิ้งคนที่เหลือไปจะยังคงขยายตัวต่อไป
การเพิ่มขึ้นของเงินอุดหนุนอาจถูกตีความอย่างผิด ๆ เป็น「รัฐบาลแนะนำให้ทำวิธีนี้」
“ถ้ามีอะไรที่ฉันสามารถทำได้ ฉันยินดีที่จะช่วย”
――ทว่า หากลิวิเซลเป็นคนเคลื่อนไหวเอง ก็ไม่มีเหตุผลสำหรับชาวต่างชาติอย่างฉันที่ต้องเคลื่อนไหว ปัญหานี้ปล่อยให้ประเทศเข้าจัดการต่อจากเขาก็พอ
การแทรกแซงใด ๆ เพิ่มอีกจากนี้ มีแต่จะทำลายชื่อเสียงของประเทศ
แน่นอนว่าหากมีอะไรที่ฉันทำได้ฉันก็จะร่วมมืออย่างเต็มที่
“ขอบคุณมาก นั่นคือสิ่งเดียวที่เราสามารถพูดได้ในตอนนี้ ขอบคุณ”
อืม ฉันหวังว่าคุณจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจัดการกับมัน
แล้ว ต่อไป
“แล้วผลการสำรวจเป็นยังบ้างล่ะ?”
สิ่งที่ฉันกังวลมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ เรื่องนี้แหละ
นั่นคือข้อมูลเกี่ยวกับดินแดนที่ยังไม่ได้สำรวจซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของแมลงมาเป็นเวลาหลายร้อยปีที่เลยป้อมด้านตะวันออกไป
“อ้ส……ขอโทษด้วย แต่มีคำสั่งให้ปิดปาก……”
อะ ก็กะแล้วล่ะน๊า
“แล้ว? สักนิดก็ยังดี? ฉันจะไม่ขอให้บอกรายละเอียดหรอกนะ เอาแค่ความรู้สึกทั่ว ๆ ไป ง่าย ๆ พอประมาณที่คลุมเครือโดยไม่มีองค์ประกอบที่ชัดเจนก็ได้”
“อะ อื~ม…………”
ลิวิเซลกอดอกด้วยสีหน้าลำบากใจ ตอบสนองต่อคำขอที่นุ่มนวลแต่แนบแน่นของฉัน
“……มีแมลงที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นอกจากนี้ จะว่ายังไงดี……เดาว่าธรรมชาตินั้นช่างยิ่งใหญ่……――หืม? มีอะไรงั้นเหรอ?”
โอ๊ะโตะ
เห็นได้ชัดว่าฉันกำลังยิ้มโดยไม่รู้ตัว
……งั้นเหรองั้นเหรอ มีแลงที่ไม่เคยเห็น และธรรมชาติก็ยิ่งใหญ่สินะ
“ฉันกำลังคิดอยู่”
ฉันหยิบคุกกี้เนื้อนุ่มหนาที่พบได้ทั่วไปในอาร์ตัวร์เป็นปกติ
ธัญพืช พืชผล และผลไม้ของมาเวเลียว่ากันว่ามีคุณภาพดีมาก และเจริยเติบโตอย่างรวดเร็ว ฉันได้ยินมาว่าเพาะปลูกบนเกาะลอยฟ้าที่อยู่โดยรอบ แต่แน่นอนว่าต้องมีปลูกอยู่บนทวีปด้วยจริงไหม?
นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันคิดว่าดินแถวนี้ต้องดีเป็นพิเศษตั้งแต่แรกเน๊ะ คิดว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้อาหารและขนมหวานค่อนข้างอร่อยนะ”
เรียกว่าดินแดนอุดมสมบูรณ์ได้ไหม
ฉันคิดว่าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดินดีมากสำหรับพืช
“ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ มีดินที่ทำให้พืชเติบใหญ่ แมลงที่กินพืชที่โตขึ้นมาก็ตัวใหญ่ขึ้นตามเช่นกัน
วัฏจักรของการกินนั้นได้ก่อให้เกิดแมลงที่มีขนาดใหญ่เท่ากับมนุษย์
หากเป็นเช่นนั้นจริง――ดินแดนที่ยังไม่ได้สำรวจคือดินแดนที่สมบัติเติบโตเน๊ะ”
มันทำให้ฉันอยากเปิดประเทศนี้มากยิ่งขึ้น
ผัก ผลไม้ ธัญพืช และปศุสัตว์ที่กินพวกมันเป็นอาหาร
ดินของมาเวเลียอาจเปลี่ยนแปลงอาหารของโลกไปอย่างมาก
การเปลี่ยนแปลงอาหารต้องมีผลกระทบอย่างมากต่อร่างกายมนุษย์
มนุษย์ถูกสร้างขึ้นจากสิ่งที่พวกเขากิน
หากมีอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและวัฒนธรรมอาหารที่ดีขึ้น มนุษย์จะสามารถมีอายุยืนยาวกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้อย่างแน่นอน หากความต้านทานเพิ่มขึ้น ผู้คนจะเสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บหรือภาวะทุพโภชนาการน้อยลงเช่นกัน
“สุดยอดเลยน๊า……สิ่งที่เธอพี่งพูดไป นั้นเป็นทฤษฏีเดียวกันกับที่เหล่านักวิชาการของมาเวเลียกำลังคิดกันอยู่ แมลงยักษ์มาจากไหน มาจากดินงั้นรึ
จากข้อมูลที่เรานำกลับมา มีแนวโน้มว่าทฤษฎีนี้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น”
งั้นเหรอ
ถ้านักวิชาการเป็นคนพูดก็ต้องจริงแน่นอนล่ะน๊า
ฉันอาจจะรู้เรื่องพวกนี้ น่าจะเพราะฉันเคยมีประสบการณ์คล้าย ๆ กันมาก่อน
ไม่มีทางที่ฉันจะคิดอะไรยากขนาดนั้นได้เอง
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบคุณ คุณนิรนาม กสิกรไทย X-2186 มาก ๆ ครับ
ขอบคุณ คุณนิรนาม กสิกรไทย X-9699 มาก ๆ ครับ
ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
ไร้สาระ
แค่ใส่แมสหน้ากาก เสื้อวอร์มแขนยาว กางเกงขายาวแบบหนา เดินออกกำลังลังกายตอนเย็นป้องกันจากกลางฝุ่นหนา ดูยังไงก็ไม่แปลจริงไหมน้อ