คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน - ตอนที่ 266 ไซด์เควสโลลิกะทันหัน
266 ข่าวร้ายกะทันหัน
“เธอสนใจอู่ไห่ตงโคกุไหม?”
อู่ไห่……อ้า ประเทศนั้นสินะ
“อู่ไห่ตง ดินแดนแห่งความกล้าหาญ บ้านเกิดของสำนักทลายสวรรค์”
ฉันเรียนเรื่องนี้มาจากที่โรงเรียนอาร์ตัวร์ก่อนหน้านี้
ในตัวหนังสือก็ฟังดูยอดเยี่ยมมาก แต่ในตอนนั้น ฉันไม่แยแสกับสำนักทลายสวรรค์อีกแล้วน๊า
ตอนนี้ฉันรู้ถึงความแข็งแกร่งของนักสู้จากทั่วทุกมุมโลกแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงทลายสวรรค์เลย ฉันไม่สนใจอีกต่อไป
“ใช่ อู่ไห่ตงนั่นล่ะนะ ผู้ส่งสารจากอู่ไห่ตง ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่มาเวเลียมีความต้องการที่จะเชิญเนียให้ไปยังประเทศของเธออย่างจริงจัง”
ฮ้า สู่อีกประเทศ
“โดยส่วนตัวแล้ว ตอนนี้ฉันไม่สนใจเลยค่ะ แต่ว่านี่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมส่งเสริมการขายของเมจิกวิชั่นรึเปล่าคะ?”
“ก็ในอนาคตล่ะมั้ง หากไม่ใช่เรื่องทางนั้น เราไม่เอาเรื่องแบบนี้มารบกวนใจเธอหรอกเน๊ะ”
ม๊า ก็จริงล่ะน๊า
หากเป็นคำพูดจากเจ้าชายองค์ลำดับที่สอง ฮิเอโร่ ผู้สนใจเรื่องงานก่อนชีวิตก็เป็นสิ่งที่ค่อนข้างชัดเจนจริงไหม
วันหยุดฤดูหนาวสิ้นสุดลงแล้ว และโรงเรียนทหารจักรก็กลับมาเริ่มเรียนขึ้นอีกครั้ง
ม๊า ยังไงดีล่ะ
อย่างที่ฉันคาดไว้ หรือต้องบอกว่าเตรียมตัวไว้แล้ว ดูเหมือนว่ายังมีความร้อนแรงหลงเหลืออยู่บ้างจากเทศกาลฤดูหนาวครั้งก่อน และท้ายที่สุดฉันก็ได้รับความสนใจอย่างมากทั้งระหว่างเดินทางไปและกลับจากโรงเรียน
แน่นอนว่ามีบางคนเข้ามาคุยกับฉัน แต่ ม๊า ฉันก็ปฏิบัติต่อพวกเขาตามที่เห็นสมควร
ปัจจุบัน ระหว่างที่ฉันใช้เวลาคิดว่าสิ่งต่าง ๆ เริ่มจะสงบลงหลังจากผ่านไประยะหนึ่ง ฮิเอโร่ที่กำลังจะออกจากมาเวเลียก็เข้ามากล่าวคำอำลา
บทสนทนาที่ได้ยินเกิดขึ้นในห้องรับแขกห้องเดิม
ยังไงก็ตามเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ยาวเช่นกัน ดังนั้นฉันจะไม่ถามเกี่ยวกับเรื่องการเจรจาต่อรองและการทำธุรกิจกับมาเวลีย หรืออะไรทำนองนั้น
เนื่องจากเป็นเรื่องที่ฉันไม่เข้าใจสักนิด และไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ วิธีที่ดีที่สุดคือ การฝากเรื่องทางการทูตที่ซับซ้อนไว้กับผู้เชี่ยวชาญ ฉันไม่ต้องการใช้สมองเพื่อสิ่งอื่นใดนอกจากทำการบ้านอีกต่อไป
“อู่ไห่ตงเน๊”
และที่นี่ฉันก็ได้ยินเกี่ยวกับอู่ไห่ตงโคกุ
ยังไงก็ตาม ดูเหมือนว่าผู้ส่งสารจากประเทศแห่งนี้ที่ได้รับเชิญมาที่มาเวเลียเช่นเดียวกับ ฮิเอโร่และคนอื่น ๆ จะเอาแต่ดูภาพสะท้อนการประลองที่ถูกล็อคผลของเทศกาลฤดูหนาวซ้ำแล้วซ้ำอีก
ฉันเองที่เข้าไปร่วมประลองด้วยก็คงถูกสนใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เหมือนกัน
――ตามความรู้สึกที่แท้จริงของฉัน ก็คงเป็นเรื่องนั้นแหละ
ตามที่กล่าวกันว่าเป็นประเทศแห่งความกล้าหาญ ว่ากันว่าศิลปะการต่อสู้และวิถีแห่งนักรบเป็นที่นิยมในอู่ไห่ตงโคกุ
นอกจากนี้ยังเป็นบ้านเกิดของสำนักทลายสวรรค์ซึ่งว่ากันว่ามีสาขาอยู่ทั่วโลก และเป็นประเทศที่ทำให้ฉันกังวลเล็กน้อย เพราะประชาชนทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องในกิจกรรมศิลปะการต่อสู้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ดังนั้นแล้วบุคคลจากประเทศดังกล่าว บางทีเขาก็อาจอยู่ในระดับสูงของวงการศิลปะการต่อสู้จนสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของฉันในการล็อคผลก็ได้ การที่ไม่สนใจอาจจะแปลกไปด้วยซ้ำ ในความเป็นจริงผู้ที่คุ้นเคยกับศิลปะการต่อสู้ควรสนใจมันมากกว่านี้ด้วยซ้ำ
แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาคาดเดาเอาเอง
อีกอย่างแทนที่จะมองหาคนที่แข็งแกร่งที่ไม่รู้ว่าจะได้เห็นไหม สู้ไปเล่นกับลิงนักรบและหมีนักรบทางตะวันออกไกลยังจะสนุกกว่า
แม้แต่ในดินแดนที่กล่าวขานว่าเป็นประเทศแห่งความกล้าหาญก็คงไม่มีใครที่แข็งแกร่งขนาดนั้น
“ม๊า ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนที่ต้องตอบก็ได้ ลองคิดดูไปก่อน”
“จะไม่เป็นไรเหรอคะ? จะบังคับก็ได้นะคะ?”
“ถ้าพูดว่าไม่อยากขนาดนั้นแล้ว เราก็ไม่คิดที่จะทำอะไรอย่างการใช้กำลังบังคับหรอกนะ อู่ไห่ตงเองก็ต่างจากมาเวเลีย เรายังสามารถทำการเจรจาอย่างรอบคอบและขายได้อยู่”
อะ งั้นเหรอ
เมื่อพูดถึงเฉพาะประเทศรอบข้างเท่านั้น มาเวเลียอยู่ในสถานะโดดเดี่ยวเป็นพิเศษ
นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันถูกส่งมา
แต่ ประเทศอื่นไม่ได้มีท่าทีปิดกั้นเท่ามาเวเลีย ดังนั้นจึงมีโอกาสมากมายสำหรับการเจรจาตั้งแต่ต้น
นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาถึงภาพลักษณ์ของเมจิกวิชั่นแล้ว ยิ่งประเทศต่าง ๆ เลือกตัดสินใจรับนำเข้าสิ่งนี้มากเท่าไร ก็จะยิ่งได้รับการพิสูจน์ว่ามีประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น
――ดูเหมือนว่ามีความเป็นไปได้ที่ซ่อนอยู่ว่าอาจจะสามารถรับชมการออกอากาศจากประเทศอื่นได้ในอนาคตน๊า
เราสามารถรับชมรายการจากแว็ง เดอ ครุชได้ในขณะที่อยู่ในอาร์ตัวร์ และในทางกลับกันด้วยเช่นกัน
เป็นไปได้ว่ายุคสมัยอันน่าทึ่งเช่นนี้จะมาถึงในสักวันหนึ่ง
ม๊า ก่อนอื่น ยิ่งอุตสาหกรรมเมจิกวิชั่นน่าตื่นเต้นเพิ่มขึ้นมากเท่าไร ก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายไปทั่วโลกมากขึ้นเท่านั้น
“แถมอู่ไห่ตง ก็กระโดดเข้าร่วมวงแต่แรกอยู่แล้ว”
“ทะเยอทะยาน? ว่าไปแล้ว ได้นำเข้าเมจิกวิชั่นแล้วหรือคะ?”
“อ้า ――นอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาด้วย ผู้ส่งสารของอู่ไห่ตงที่มาครั้งนี้ มักจะสนุกและเพลิดเพลินกับการรับชมภาพสะท้อนการแข่งขันครั้งนั้นอยู่เสมอ เพราะอย่างงั้นแล้วจึงสร้างความรู้สึกดีกับเรา”
งานแข่งขันศิลปะการต่อสู้เมื่อไม่กี่ปีก่อน การแข่งขันที่เกิดจากเงินพันล้านของฉันนั่นสินะ
เข้าใจล่ะ ความสัมพันธ์กับอู่ไห่ตงเกิดขึ้นจากตรงนั้นสินะ
“ทว่า ระหว่างอู่ไห่ตงกับอาร์ตัวร์――”
“เรื่องนั้น!”
หืม?
ริโนกิสที่กำลังยืนรออยู่ที่ข้างกำแพง พูดแทรกขึ้นมาทันที
“ขะ ขอประทานอภัยด้วยค่ะ! แต่、นั่น、ฮิเอโร่ซามะ、เกี่ยวกับเรื่องนั้น……!”
……หืม? อะไร?
ริโนกิสดูลำบากใจมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา และพยายามปิดปากของฮิเอโร่อย่างสับสน
“――เธอเป็นผู้คุ้มกันของเด็กคนนี้ใช่ไหม? ยังไงก็ตาม นี่เป็นปัญหาที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ตลอดไปหรอกนะ
อย่างแรกเลย ไม่น่ากลัวกว่าเหรอ หากเนียรู้ขึ้นมาโดยที่เธอไม่รู้ตัวนะ?”
“ระ เรื่องนั้น……แต่……”
…………
“ฉันไม่รู้ว่ากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน”
ตอนที่พวกเรากำลังพูดคุยกันถึงอู่ไห่ตง ริโนกิสก็พยายามห้ามไม่ให้พูด
และฮิเอโร่ก็เดาความตั้งใจของเธอได้ทันที
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ดูเหมือนว่าฉันเป็นคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“เรื่องที่ริโนกิสต้องการจะหยุดไว้ หรือว่าบางทีจะเป็นเรื่องอันตรายงั้นเหรอคะ?”
“อันตรายมากล่ะ แต่ด้วยทักษะของเนียที่เราเห็นในการประลองครั้งนี้แล้ว เราไม่คิดว่าจะมีปัญหาใด ๆ”
งั้นเหรอ
……เข้าใจแล้ว ริโนกิสกังวลว่าฉันอาจตกอยู่ในอันตรายนั้น จึงเป็นเหตุให้เธอไม่อยากให้ฉันรู้สินะ
“ริโนกิส ฉันอายุสิบเอ็ดปีแล้วนะ ไม่ได้อายุแค่เลขหลักเดียวที่ชอบกระโดดเข้าสู่อันตราบเพื่อความสนุกสนานเหมือนเด็กที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้สักหน่อย ตอนที่อายุสอง สามขวบก็แตกต่างจากตอนที่อายุแปด เก้าขวบจริงไหม?”
“ดิฉันไม่อยากเชื่อคนที่พูดว่า『ไม่เป็นไรหรอกแค่ตอบมาก็พอ』ด้วยน้ำเสียงแบบนั้นหรอกนะคะ! ไม่ใช่นั่นเป็นของคนประเภทที่มีความคิดตรงกันข้ามหรอกเหรอคะ!”
หืม? ……ม๊า พูดไปแล้วในบางแง่ มันอาจจะเป็นการโหมโรงไปสู่จุดจบนั้นจริงก็ได้
“……พูดไปแล้ว ปัญหานั้นแตกต่างออกไปเล็กน้อยล่ะนะ……เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นอันตรายเท่านั้น……”
…………
“แน่นอนค่ะ คุณจะไม่รู้ถ้าคุณไม่ถาม แถมเรื่องนั้นน่าจะสำคัญเกินกว่าที่ฉันจะเพิกเฉยได้จริงไหมคะ?”
นี่คือสถานการณ์
ถึงแม้จะไม่ใช่ริโนคิส การแทรกแซงการสนทนาของราชวงศ์นั้น นี่ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าการกระทำที่สร้างความขุ่นเคืองโดยคนรับใช้ นี่เธอต้องการซ่อนอะไรไว้กันแน่
เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้ฉันฟังมากขนาดนั้นเลยเหรอ มีอะไรกันแน่
“――ขอโทษด้วย”
หลังจากเงียบกันไปครู่หนึ่ง ก็เป็นฮิเอโร่ที่พูดขอโทษริโนกิสก่อน
“เราจะไม่พูดเรื่องนี้โดยไม่รับผิดชอบหรอกน่ะ แต่เรามีความปรารถนาที่อยากจะเคลียร์เรื่องที่ยุ่งยากเหล่านี้ ทว่าเราอยากให้แน่ใจว่านี่จะเป็นไปตามความปรารถนาของเนีย
เพราะเช่นนั้นแล้ว เนีย อยากให้คุณสัญญากับเราและเธอคนนี้――”
ดวงตาสีเขียวจริงจังที่มีจุดสีแดงของฮิเอโร่มองตรงมาที่ฉัน
“จงอย่าวันเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง จงอย่าทำอะไรด้วยตัวเอง”
…………
หรือก็คืออย่าทำอะไรคนเดียว กำลังพูดแบบนั้นสินะ
“ฉันให้สัญญาก็ได้ค่ะ แต่ฉันไม่เห็นเข้าใจจริง ๆ ว่ากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน”
เอาตรง ๆ ฉันเริ่มโกรธแล้ว
หากใครได้ยินมาไกลขนาดนี้แล้ว มันก็ต้องมีแต่ความสงสัยและตั้งคำถามเท่านั้น และแม้ว่าฮิเอโร่ และ ริโนกิสจะไม่บอกในตอนนี้ ฉันก็แค่ต้องไปถามคนอื่นในภายหลัง
ถ้าพูดมาให้จบ ๆ ฉันก็จะได้ยินจนจบไปแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำคือพูดอย่างรวดเร็วและไม่เสียเวลา
อย่างแรกเลย ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมต้องเคลื่อนไหว หรือว่าต้องสนใจ ทั้งสองคนไม่ได้พูดมากเกินจริงมากเกินไปใช่ไหม?
“จ๊า เราจะพูดแล้ว ระหว่างอาร์ตัวร์กับอู่ไห่ตง มีกลุ่มเกาะลอยน้ำที่ถูกเรียกว่า หมู่เกาะโจรสลัดอากาศ ซึ่งเป็นที่ที่โจรสลัดอากาศจากทั่วทุกมุมโลกมารวมตัวกัน
ดูเหมือนว่าจะมีเรือโจรสลัดอากาศนับพันลำประจำการอยู่ที่นั่นอย่างถาวร และมีโจรสลัดอากาศหลายหมื่นคนอาศัยอยู่ที่นั่น
กล่าวกันว่าขนาดของกำลังนั้นมีขนาดใหญ่กว่ากำลังทางทหารของหนึ่งประเทศซะอีก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเข้าแทรกแซงได้ยาก 。โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่มันตั้งอยู่ระหว่างอาร์ตัวร์ อู่ไห่ตง แว็ง เดอ ครุช และอัสตาเนีย จึงยากที่จะบอกได้ว่าประเทศใดมีอำนาจเหนือพื้นที่นี้ จึงได้กลายเป็นปัญหาใหญ่เน๊ะ”
หมู่เกาะโจรสลัดอากาศ
อย่างน้อยฉันรู้จักชื่อนั้น หรือให้พูดตรง ๆ เลยคือ ฉันคิดว่าแม้แต่พวกเด็ก ๆ ที่อยู่แถวนี้ก็ต้องรู้เรื่องนั้นจริงไหม ไม่ใช่ว่าที่นี่เป็นบ้านของโจรสลัดอากาศที่มีชื่อเสียงโด่งดังหรอกเหรอ
“ถึงจะพูดแบบนั้นตอนนี้ก็ตามเถอะคะ”
แม้ว่าฉันจะได้ยินข้อมูลที่ชัดเจนสำหรับเรื่องที่อยากรู้แล้วก็ตาม
แต่นี้คือ ข้อมูลที่ไม่อยากให้ฉันได้ยินจริง ๆ เหรอ?
ฉันรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว――
“――ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นผู้จัดการซื้อขายทาสที่กระจายไปยังประเทศต่าง ๆ”
……ทาส?
“แน่นอนว่า มีเด็กเป็นสินค้าเช่นกัน “
…………
ว่ายังไงน่ะ
“คะ คุณหนูค่ะ! จิตสังหาร!”
ฟุอืม งั้นเหรองั้นเหรอ
มันเป็นความลับที่น่าสนุกจริง ๆ เมื่อถือว่ามีความสำคัญ
“――เข้าใจแล้วค่ะ ฉันควรจะลบหมู่เกาะโจรสลัดอากาศทั้งหมดทิ้งเลยดีไหมคะ?”
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบคุณ คุณพันธวงษ์ กสิกรไทย X-2186 มาก ๆ ครับ
ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
ไร้สาระ
วันนี้ตอนกลับบ้าน ฝนตกถล่มหนักสุดๆ ด้วยอารามขี้เกียจมุดข้ามไปเอาร่มหลังรถ เลยเดินตากฝนไปเปิดประตูมันทั้งๆอย่างงั้นเลย
แล้วยังไงก็เปียก เลยแทนที่จะรีบวิ่ง ดันเดินช้าๆ ตากฝนให้ชุ่ม ผลคือ ดึกมาปวดหัวจิ๊ดเลย ฮา
แต่กินยานอนเร็วก็กลายเป็นนอนก่อนเวลาจนตื่นเป็นช่วงๆอีก แล้วตื่นไม่พอหิวด้วย กลิ่นมาม่าเลยหึ่งท่วมบ้าน ฮา