คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง - ตอนที่ 18 เลือกชายา
ตอนที่ 18 เลือกชายา
คำตักเตือนของเซียวฮูหยินเสียเปล่า
เยียนอวิ๋นเกอฟังหูซ้าย ทะลุออกหูขวา
เซียวฮูหยินคลึงขมับ นางรู้สึกปวดหัว
บุตรสาวมีความคิดของตัวเองเป็นสิ่งที่ดี
แต่การมีความคิดของตัวเองมากเกินไปอาจทำให้คนอื่นลำบากมากขึ้น
เยียนอวิ๋นเกอแสร้งทำเป็นเชื่อฟังเพื่อให้นางสบายใจ
เซียวฮูหยินจิ้มหน้าผากของนาง “ไม่ต้องเลย! แสร้งทำท่าทีจอมปลอม หลอกคนนอกยังพอได้ ข้าคลอดเจ้าออกมา แค่เจ้าขยับตา ข้าก็รู้ว่าเจ้ามีแผนการใดอยู่ในใจ อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเมืองหลวงเจ้าควบคุมอารมณ์ตัวเองเอาไว้บ้าง อย่าได้หุนหันพลันแล่น เจ้ากล้าก่อเรื่อง เจ้าย่อมต้องมีความสามารถในการจัดการ อย่ารอเกิดเรื่องแล้วมาร้องไห้ขอให้ข้าช่วย”
เยียนอวิ๋นเกอหัวเราะขึ้นมา
เธอจะร้องไห้ขอความช่วยเหลือได้อย่างไร
นางมักจะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นอย่างเปิดเผย
การร้องไห้ไม่ใช่วิถีทางของนาง
เซียวฮูหยินขบขัน
“เจ้าเด็กคนนี้ มีแผนการเต็มหัว ข้าไม่กลัวเจ้าเสียเปรียบ แต่ข้ากลัวเจ้าจะโดดเด่นเกินไปจนดึงดูดความสนใจจากทุกทิศทั่วทาง การโดดเด่นเกินไปไม่ใช่เรื่องดี”
เยียนอวิ๋นเกอเห็นด้วยกับคำพูดนี้
การเป็นคนต้องไม่เป็นจุดสนใจ แต่การกระทำสามารถโดดเด่นได้
นางพูดไม่ได้จึงต้องลงมือทำ
ดังนั้นจึงดูเหมือนว่านางทำตัวโดดเด่น
ทุกคนมักเข้าใจนางผิด
เซียวฮูหยินเม้มปากยิ้ม “ภายในใจกำลังคิดเรื่องใดอยู่อีก เจ้าน่ะมีความคิดมากมาย อวิ๋นฉี เมื่อถึงเมืองหลวง เจ้าต้องจับตาดูอวิ๋นเกอเอาไว้ให้ดี”
เยียนอวิ๋นฉีพยักหน้าตอบรับ “ท่านแม่วางใจ ข้าจะจับตาดูน้องสี่ให้ดี ไม่ว่านางไปที่ใดย่อมต้องพาข้าไปด้วย มิฉะนั้นนางจะไม่ได้อนุญาตให้ออกจากจวน”
เยียนอวิ๋นเกอทำหน้าเศร้า เพียงแค่ช่วงเวลาในการรับประทารอาหารมื้อเดียว นางก็มีหนอนตามก้นเพิ่มอีกคน
เยียนอวิ๋นฉีหยิกแก้มของนาง “ผู้ใดเป็นหนอนตามก้น น้องสี่ เจ้าพูด ผู้ใดเป็นหนอนตามก้น”
เยียนอวิ๋นเกอกลัว รีบชี้ไปที่ตัวเอง
นางเป็นหนอนตามก้น หนอนตามก้นอันดับหนึ่งของแผ่นดิน
เยียนอวิ๋นฉีเม้มปากยิ้ม “แก้มของน้องสี่นุ่มนิ่มเสียจริง มิน่าแต่ก่อนพี่ใหญ่จึงชอบบีบแก้มของน้องสี่”
เยียนอวิ๋นเกอเศร้า ใบหน้าของนางถูกบีบจนเกือบเสียรูปแล้ว
พี่น้องทั้งสองอำลาเซียวฮูหยิน เดินกลับห้องไป
หนึ่งคนหนึ่งเตียง
เยียนอวิ๋นฉีพลิกตัวไปมานอนไม่หลับ “น้องสี่ ใกล้จะถึงเมืองหลวงแล้ว เจ้าไม่กังวลหรือ”
เยียนอวิ๋นเกอโบกมือ ไม่กังวล
เยียนอวิ๋นฉีพึมพำ “ไม่รู้ว่าเมืองหลวงเป็นอย่างไร ข้าอยากเห็นยิ่งนัก แต่ข้าก็กลัวที่จะเห็น น้องสี่ เจ้าว่าคนในพระราชวังจะรังแกพวกเราหรือไม่ ข้าได้ยินคนพูด ฮองเฮาทรงโหดเหี้ยมและริษยา อีกทั้งนางยังแทรกแซงราชการแผ่นดินอย่างเปิดเผย แม้แต่ฝ่าบาทก็ยังต้องทรงฟังนาง หากฮองเฮาไม่ชอบท่านแม่ คงจะย่ำแย่ยิ่งนัก”
“กลัวอันใด!”
เยียนอวิ๋นเกอลุกขึ้นจากเตียง จรดดินสอเขียนอย่างรวดเร็ว “ฮองเฮาทรงร้ายกาจกว่าที่ท่านจินตนาการเสียอีก ครานี้ที่ฝ่าบาทออกพระราชโองการรับสั่งให้พวกเราเดินทางมาเมืองหลวงอาจเป็นแผนการของฮองเฮา เมื่อถึงเมืองหลวง ท่านซ่อนตัวให้ดี อย่าให้ฮองเฮาพบเข้า”
เยียนอวิ๋นฉีมองเนื้อหาบนกระดาษแข็งด้วยใบหน้าที่สับสน
“น้องสี่ เหตุใดสิ่งที่เจ้าเขียนข้าจึงไม่เข้าใจ เพราะเหตุใดจึงบอกให้ข้าซ่อนตัว อย่าให้ฮองเฮาพบเข้า”
เยียนอวิ๋นเกอยกดินสอเขียนทันที “องค์ชายยังไม่สมรส! พี่สองรูปลักษณ์งดงาม อายุเหมาะสม ไม่แน่ว่าอาจ…”
“เจ้าอย่ามาพูดเหลวไหล!”
ไม่รอเยียนอวิ๋นเกอเขียนเสร็จ เยียนอวิ๋นฉีก็กระโดดขึ้นจากเตียง
“เจ้ากำลังขู่ข้าอย่างแน่นอน ในตระกูลเยียนของพวกเราไม่อยู่ในสายตาของผู้อื่นนเมืองหลวงด้วยซ้ำ อย่างไรก็มาไม่ถึงข้า อีกอย่างตระกูลของฮ่องเต้มีความแค้นกับท่านแม่อย่างมาก”
ข้าได้ยินจากแม่นม ท่านตาถูกครหาว่ากบฏ ท่านถูกบังคับให้ปลิดชีพตนเอง ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นฝีมือของฮ่องเต้องค์ก่อน ไม่รู้ว่าจงจ้งฮ่องเต้คิดได้อย่างไร เขาเพียงแค่กอบกู้ชื่อเสียงของท่านตา แต่ไม่ยอมตามหาจับตัวคนร้าย นอกจากนี้ฮ่องเต้องค์ก่อนจะขึ้นครองราชย์บัลลังก์ได้อย่างไรอีก เกรงว่าภายในใจของท่านแม่ จะเกลียดแค้นตระกูลของฮ่องเต้อย่างมาก”
เยียนอวิ๋นเกอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขียนว่า “หลังจากฮ่องเต้องค์ก่อนขึ้นครองบัลลังก์ เขาก็พระราชทานท่านแม่ให้แก่ท่านพ่อ ส่งนางออกจากเมืองหลวงไปไกลอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเป็นเพราะเขารู้สึกผิด นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้อย่างมากว่าที่องค์รัชทายาท ‘จางอี้’ ถูกคนครหาว่ากบฏเป็นฝีมือของฮ่องเต้องค์ก่อน”
เยียนอวิ๋นฉีแก้ไขคำเรียกของนาง “นั่นคือท่านตา เจ้าเรียกขานท่านว่า องค์รัชทายาท ‘จางอี้’ ได้อย่างไร หากท่านแม่รู้คงต้องเสียใจ”
เยียนอวิ๋นเกอไม่ได้โต้เถียง ยังคงเขียนต่อ “ตระกูลของฮ่องเต้ไม่ยุ่งเกี่ยวกับท่านแม่จนตายก็พอ แต่เขาดันออกพระราชโองการเรียกท่านแม่กลับเมืองหลวง ผิดวิสัยยิ่งนัก พี่สอง ข้าไม่ได้ขู่ท่าน ท่านต้องซ่อนตัวให้ดี ระวังถูกคนจับจ้อง”
เยียนอวิ๋นฉีขมวดคิ้วแน่น รู้สึกไม่สบายใจ
“น้องสี่ เจ้าไม่ได้ขู่ข้าจริงหรือ หรือว่าภายในพระราชวังมีแผนการคัดเลือกพระชายาให้องค์ชายจริง แต่เหตุใดจึงไม่มีข่าวแม้แต่น้อย ทางด้านติงฉางซื่อก็ไม่ยอมเปิดเผยแม้แต่น้อย”
เพื่อความสบายใจของนาง เยียนอวิ๋นเกอจึงเขียนว่า
“ล้วนเป็นการคาดเดาของข้าเอง พี่สองไม่ต้องตื่นตระหนกไป บางทีอาจวิตกไปเอง”
เยียนอวิ๋นฉีจะไม่ตื่นตระหนกได้อย่างไร
นางจับแขนของเยียนอวิ๋นเกอเอาไว้ “น้องสี่ เจ้าฉลาดที่สุดในตระกูล เจ้าบอกข้ามา เหตุใดเจ้าจึงตระหนักถึงเรื่องการคัดเลือกพระชายาขององค์ชาย เจ้าใช้สิ่งใดในการตัดสิน บอกข้าให้รู้ที”
เยียนอวิ๋นเกอไม่ปฏิเสธ
นางหยิบกระดาษเปล่าอีกแผ่นออกมา เขียนว่า “สามารถมั่นใจได้ว่าท่านแม่มีความแค้นกับตระกูลของฮ่องเต้ ท่านแม่ก็ยอมรับด้วยตนเอง นางไม่คุ้นเคยกับฮ่องเต้ เคยพบกันไม่กี่ครั้งตอนเด็ก พูดคุยยิ่งน้อยครั้ง หลังจากผ่านไปยี่สิบปี ฮ่องเต้ทรงออกพระราชโองการเรียกท่านแม่เดินทางเข้าเมืองหลวง อีกทั้งยังบอกว่าทรงระลึกถึงนางอย่างมาก ท่านไม่ประหลาดใจหรือ”
เยียนอวิ๋นฉีพยักหน้าระรัว “ประหลาดเสียจริง”
เยียนอวิ๋นเกอยิ้ม เขียนว่า “ในเมื่อมีความประหลาด แสดงว่ามีจุดประสงค์อื่นที่ไม่อาจเปิดเผยได้ คนทั่วแผ่นดินต่างรู้ดีว่าราชสำนักต้องการฉวยโอกาสยึดครองอำนาจทางทหารของท่านพ่อ เกรงว่าการเดินทางเข้าเมืองหลวงครานี้ไม่เพียงแต่ต้องการรังแกท่านแม่ หากยังมีมีแผนการอื่นอีก ข้าคิดไปคิดมา ความเป็นไปได้ที่ใหญ่ที่สุดคือการหมั้นหมาย”
เยียนอวิ๋นฉีฉงน “เหตุใดจึงต้องเป็นตระกูลเยียนของพวกเรา ตระกูลของฮ่องเต้มีความแค้นกับท่านแม่ เหตุใดจึงยอมแต่งงานกับบุตรสาวของศัตรู”
“เพื่อสร้างความสะอิดสะเอียน! ใช้จุดอ่อนของอีกฝ่ายให้เป็นประโยชน์…อย่างไรก็ตามแล้ว ยังมีจุดประสงค์อื่นอีกมากมาย นอกจากนี้ตำแหน่งพระชายาขององค์ชายคนเดียว เสียเปล่าก็เสียไป อย่างมากผ่านไปไม่กี่ปีค่อยฆ่าท่านทิ้งแล้วแต่งงานกับคนใหม่”
ดินสอของเยียนอวิ๋นเกอแหลมคม เมื่อนางเขียนคำว่า “ฆ่าทิ้ง” ดินสอทิ่มแทงทะลุกระดาษ เต็มไปด้วยพลังแห่งความอาฆาต
เยียนอวิ๋นฉีตัวสั่นเทา
นางพึมพำ “มิน่าเยียนอวิ๋นจือถึงกลัวเจ้าเพียงนั้น ท่าทางจริงจังของน้องสี่น่ากลัวไม่น้อยเสียทีเดียว”
เยียนอวิ๋นเกอเงยหน้าขึ้น ฉีกยิ้มสดใสเหมือนเด็กที่ไร้หัวใจให้นาง
เยียนอวิ๋นฉีโล่งใจ ยิ้มตามนาง
นางกอดเยียนอวิ๋นเกอ พูดเสียงกระซิบ “หากเรื่องที่น้องสี่คาดเดาถูกต้อง หากมีความจำเป็นต้องแต่งงาน ข้าย่อมจะแต่ง แต่อย่าว่าคิดจะ ‘ฆ่า’ ข้าได้ เรื่องนี้ไม่ง่าย ผู้ใดเป็นผู้ใดตาย ไม่ถึงวาระสุดท้ายก็ไม่อาจด่วนสรุปได้ แม้ว่าสามีของข้าจะเป็นองค์ชาย ข้าก็กล้าแทงเขาให้ตายเช่นเดียวกัน”
บุตรของตระกูลเยียน ไม่มีผู้ใดกลัวปัญหา
พวกเขาเติบโตขึ้นมาในพื้นที่แห่งการต่อสู้ เคยชินกับสงครามและความตาย สำหรับบุตรของตระกูลเยียนแล้ว การฆ่าคนเป็นเรื่องง่าย
เยียนอวิ๋นเกอปลอบนางอีกครั้ง เขียนว่า “ทั้งหมดนี้เป็นการคาดเดาของข้า อาจไม่เกิดขึ้นจริง พี่สองแค่ต้องเตรียมใจให้พร้อม อย่าทำให้ตนเองกลัว”
เยียนอวิ๋นฉีส่งเสียง ‘อืม’ พยักหน้าอย่างหนักแน่น “ข้ารู้ ข้าไม่ขู่ตัวเอง ดูท่าทาง ต้องหาวิธีสารสัมพันธ์กับติงฉางซื่อ เตรียมพร้อมไว้เสียดีกว่า”
พี่สองฉลาดนัก!
เยียนอวิ๋นเกอยกนิ้วโป้ง ประจบสอพลออย่างโจ่งแจ้ง