คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง - ตอนที่ 267 ขอพระราชโองการ
ตอนที่ 267 ขอพระราชโองการ
เยียนอวิ๋นเกอกระโดดลงมาจากหลังคา
นางส่งคันธนูให้องครักษ์ จากนั้นเดินทางมายังห้องโถง
“ท่านแม่ ต่อไปควรทำอย่างไร หากเจิ้งกังขอพระราชโองการมาได้จริง…”
“เขาต้องขอพระราชโองการมาได้อย่างแน่นอน!”
เซียวฮูหยินมั่นใจอย่างมาก
“ทางตะวันตกเฉียงเหนือเกิดเรื่องแล้ว ถึงแม้ข้าจะยังไม่ได้รับข่าว แต่สามารถมั่นใจได้ว่าทางตะวันตกเฉียงเหนือเกิดเรื่องแล้ว มิฉะนั้น พวกเขาไม่จำเป็นต้องจับเยียนอวิ๋นฉวน จับเยียนอวิ๋นฉวนมีประโยชน์ใด ประโยนช์สูงสุดก็คือใช้เขาบังคับท่านพ่อของเจ้า พวกเขารู้ว่าพวกเราแม่ลูกไร้มูลค่าในสายตาท่านพ่อของเจ้า มีเพียงเยียนอวิ๋นฉวน บุตรชายคนโตของจวนท่านโหวกว่างหนิงที่พอจะมีมูลค่าบ้าง”
เยียนอวิ๋นเกอขมวดคิ้ว “จะให้องครักษ์จินอู่รื้อค้นจวนท่านหญิงจริงหรือ เยียนอวิ๋นฉวน หากข้าพบเขา ข้าจะตีขาของเขาให้หักเสีย”
เซียวฮูหยินพูด “รอหัวหน้าองครักษ์จินอู่เจิ้งกังนำพระราชโองการมา ข้าก็มีแต่ต้องเปิดประตูให้พวกเขาค้นจวนท่านหญิง นอกจากฆ่าขุนนางก่อกบฏจึงจะสามารถเพิกเฉยต่อพระราชโองการได้”
เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะสังหารขุนนางก่อกบฏ
ที่นี่เป็นเมืองหลวง มีกองทัพเหนือที่มีชื่อเสียงโด่งดังเฝ้าระวังอยู่ ผู้ใดกล้าสังหารขุนนางก่อกบฏในเมืองหลวงย่อมเป็นการหาที่ตาย
ปัง!
เยียนอวิ๋นเกอทุบกำปั้นลงบนโต๊ะ
บนโต๊ะมีรอยกำปั้นเพิ่มขึ้นทันที เห็นได้ชัดว่านางใช้กำลังอย่างมาก
เซียวฮูหยินกวาดตามอง “เจ้าทุบโต๊ะเช่นนี้ มือไม่เจ็บหรือ”
เยียนอวิ๋นเกอกัดฟัน รู้สึกเจ็บเล็กน้อย
เซียวฮูหยินเม้มปากยิ้ม “อย่ากลุ้ม! ปล่อยให้องครักษ์จินอู่ค้นไป เยียนอวิ๋นฉวนไม่อยู่ในจวนท่านหญิง พวกเขาค้นไม่เจอแม้แต่เงา เจ้าไปเตรียมองครักษ์เอาไว้ เมื่อองครักษ์เข้ามาค้นหาคนในจวน ให้พวกเขาตามติดหนึ่งต่อหนึ่ง จะปล่อยให้องครักษ์จินอู่มีโอกาสใส่ร้ายไม่ได้”
“ข้าเข้าใจ! ข้าสงสัยอย่างมาก เหตุใดเยียนอวิ๋นฉวนจึงวิ่งเร็วเพียงนั้น องครักษ์จินอู่ยังไม่ทันเคลื่อนไหว เขาก็หลบซ่อนตัวแล้ว เขาได้รับข่าวจากที่ใดกัน”
เซียวฮูหยินหัวเราะ “เขาจะได้ข่าวจากที่ใดได้ ย่อมได้มาจากท่านพ่อของเจ้า ทางตะวันตกเฉียงเหนือเกิดเรื่อง ท่านพ่อของเจ้าย่อมต้องให้คนมาส่งข่าวให้เขาเป็นอันดับแรก”
แต่ไม่คิดว่าแม่ลูกทั้งสองต่างเข้าใจเยียนอวิ๋นฉวนผิด
เยียนอวิ๋นฉวนอาศัยสัญชาตญาณเพียงอย่างเดียว สัญชาตญาณต่อความอันตรายช่วยเขาเอาไว้
สถานการณ์ทั่วไป เวลานี้เขาคงยังทำงานอยู่ที่สำนักหยาเหมิน
หากเขาไม่ได้เชื่อสัญชาตญาณของตนเอง รีบออกจากสำนักหยาเหมิน คราวนี้เขาคงกลายเป็นตัวประกันขององครักษ์จินอู่ไปแล้ว
เยียนอวิ๋นเกอยกถ้วยชาขึ้นดื่มไปครึ่งหนึ่ง “ทางเรือนพักนั้นไม่มีแม้แต่เงาแล้วจริงๆ สัมภาระก็ไม่มีคนแตะต้อง เห็นได้ชัดว่าเยียนอวิ๋นฉวนจากไปอย่างเร่งรีบ ไม่ทันแม้แต่จะเก็บสัมภาระ องครักษ์จินอู่มั่นใจอย่างมากว่าเขาไม่ได้ออกจากเมืองหลวงไป แล้วเขาจะหลบไปอยู่ที่ใดได้ หรือว่าเขาแอบมีกิจการอื่นลับหลังทุกคน”
“เขาอาจจะมีกิจการอื่น หรืออาจหลบอยู่ในสถานที่ที่พวกเราคิดไม่ถึงในเมืองหลวง อย่างไรเขาก็ไม่ได้โง่เขลา สามารถหลบหนีไปได้ในระยะเวลาอันสั้นเพียงนี้ได้สำเร็จ เห็นได้ชัดว่าเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว”
…
เหมือนที่เซียวฮูหยินคาดการณ์เอาไว้ หัวหน้าองครักษ์จินอู่เจิ้งกังเดินทางไปขอพระราชโองการรื้อค้นจวนท่านหญิงจากวังหลวงมาอย่างรวดเร็ว
เขามอบพระราชโองการให้เซียวฮูหยิน “ท่านหญิง ท่านดูให้ดี ฝ่าบาททรงรับสั่งให้องครักษ์จินอู่รื้อค้นจวนท่านหญิง เวลานี้ท่านยังกล้าขัดขวางหรือไม่”
เซียวฮูหยินมองเนื้อหาบนพระราชโองการ ช่างเหลวไหลเสียจริง
นางยิ้มเย็น “ในเมื่อใต้เท้าเจิ้งนำพระราชโองการมาแล้ว ข้าย่อมไม่มีเหตุผลขัดขวางองครักษ์จินอู่อีก ใต้เท้าเจิ้งรออยู่ในห้องโถงสักครู่ ดื่มชากับข้าก่อน เรื่องการรื้อค้นย่อมมีคนเบื้องล่างจัดการ”
“สิ่งที่ท่านหญิงแนะนำสอดคล้องกับเจตนาของข้าพอดี ข้าคงต้องขอรบกวนแล้ว”
“ใต้เท้าเจิ้งไม่ต้องเกรงใจ”
เจิ้งกังหัวเราะพลันโบกมือ “ค้น! ทุกซอกทุกมุม แม้จะเป็นห้องส้วมก็อย่าปล่อยผ่าน”
“อย่างน้อยก็เบามือหน่อย หากทำสิ่งของภายในจวนตกแตกขึ้นมา ข้าจะขอชดใช้จากใต้เท้าเจิ้ง” เซียวฮูหยินยิ้มอย่างมีนัย
เจิ้งกังหัวเราะร่า พลันหันไปกำชับผู้ใต้บังคับบัญชา “ค้นได้อย่างวางใจ องครักษ์จินอู่ปฏิบัติตามพระราชโองการ”
ความหมายก็คือหากพวกเขาทำสิ่งของตกแตกก็ไม่เป็นอันใด
องครักษ์จินอู่ปฏิบัติตามพระราชโองการ หากต้องการให้ชดใช้ก็ไปหาฮ่องเต้
เขาอยากจะดูว่าท่านหญิงจู้หยางมีความกล้านี้หรือไม่
องครักษ์จินอู่ได้รับคำสั่ง พวกเขาต่างกระจายตัวไปทั่วทุกทิศทางของจวนท่านหญิงราวกับเสือร้าย
องครักษ์ของจวนท่านหญิงจับตาดูอย่างใกล้ชิดแบบหนึ่งต่อหนึ่ง
เล่นแบบนี้ก็ได้หรือ
องครักษ์จินอู่ไม่พอใจอย่างมาก
ที่ผ่านมาพวกเขาทำคดี ไม่เคยพบเจอพฤติกรรมอันธพาลและกล้าหาญเช่นนี้มาก่อน
กล้าจับตาเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดแบบหนึ่งต่อหนึ่ง
บังอาจ!
ดาบถูกดึงออกจากฝักราวกับพร้อมปะทะในทันที
ฉึบ…
ลูกธนูคมแทงทะลุอากาศ ทะลุแผ่นหิน ปักลงบนพื้นอย่างแม่นยำ หางของลูกธนูแกว่งไปแกว่งมา
กำลังนี้ทำให้ทุกคนตกใจ
อันใดกัน สมกับที่เกิดมาพร้อมกำลังอันมหาศาลเสียจริง
ยิ่งไปกว่านั้น เห็นได้ชัดว่าลูกธนูอันแหลมคมนี้เป็นการตักเตือน
พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ คุณหนูสี่หลบซ่อนตัวอยู่ที่ใด
ท้ายที่สุดนางสามารถอยู่ที่ใดก็ได้
อาจเป็นหลังคา หรือบนกิ่งไม้สักแห่ง
อย่างไรก็ตาม นางมีความเป็นไปได้ที่จะอยู่ทุกที่
ลูกธนูนี้ทำให้องครักษ์จินอู่เกิดความหวาดกลัวขึ้นภายในใจ พวกเขาจำเป็นต้องข่มไฟโกรธเอาไว้ ค้นหาทุกหนทุกแห่งในจวนท่านหญิงภายใต้การจับตาขององครักษ์จวนท่านหญิง
การค้นหาในครั้งนี้ย่อมไม่มีผลลัพธ์
เยียนอวิ๋นฉวนไม่อยู่ในจวนท่านหญิงจริงๆ
หัวหน้าองครักษ์จินอู่เจิ้งกังไม่ยอมถอดใจ “ค้นหาทั่วแล้วหรือไม่ หาไม่เจอแม้แต่น้อยเชียวหรือ”
“รายงานใต้เท้า พวกเราค้นทั่วทั้งจวนท่านหญิงแล้ว หาคนไม่พบจริงๆ ขอรับ”
สีหน้าของหัวหน้าองครักษ์จินอู่เจิ้งกังดำทะมึน
เซียวฮูหยินหัวเราะเย้ยหยันเสียงเบา “ใต้เท้าเจิ้ง จวนท่านหญิงถูกเจ้ารื้อค้นทุกซอกทุกมุมแล้ว เจ้าพอใจแล้วหรือไม่ ข้าเคยบอกเจ้าแล้ว เยียนอวิ๋นฉวนไม่อยู่ในจวนท่านหญิง เขาไม่ได้โง่เขลาเพียงนั้น ทั้งที่รู้ว่าจวนท่านหญิงจะถูกเพ่งเล็ง แต่ยังคงเดินทางมาหลบซ่อนตัว อีกอย่างเขาไม่ใช่บุตรชายของข้า ข้าไม่จำเป็นต้องปกป้องเขา ไม่แน่ว่าหากเขาตาย ข้าอาจจะดีใจเสียด้วยซ้ำ”
เจิ้งกังไม่เชื่อนัก
เขาคิดเสมอว่าเยียนอวิ๋นฉวนจะเลือกอยู่ในสถานที่ที่ดูเหมือนอันตราย
จวนท่านหญิงดูเหมือนอันตราย แต่ก็เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด
เขาถามผู้ใต้บังคับบัญชา “หาห้องลับหรือถ้ำลับเจอบ้างหรือไม่”
ผู้ใต้บังคับบัญชาส่ายหน้า “ไม่พบห้องลับหรือถ้ำลับขอรับ”
“ค้นต่อ! สวนดอกไม้ บ่อน้ำ…อย่างไรก็ตาม ทุกที่ที่น่าสงสัย อย่าได้ปล่อยผ่าน”
“ข้าน้อยรับคำสั่ง!”
ปัง!
เซียวฮูหยินตบมือลงบนโต๊ะ “ใต้เท้าเจิ้ง เจ้าอย่าทำเกินไป”
เจิ้งกังหัวเราะ “ท่านหญิงบอกว่าเยียนอวิ๋นฉวนไม่อยู่ในจวนท่านหญิง แล้วท่านกลัวสิ่งใด ข้าตั้งใจไปขอพระราชโองการมา ท่านก็ให้ข้าค้นให้ทั่ว เช่นนี้ก็สามารถลบล้างความสงสัยบนตัวของท่านหญิงได้อย่างสิ้นเชิง”
สายตาของเซียวฮูหยินเย็นชา “หากค้นไม่เจอสิ่งใด เจ้าจะชดใช้ข้าอย่างไร”
เจิ้งกังหัวเราะ “ข้าปฏิบัติตามพระราชโองการ เหตุใดจึงต้องชดใช้”
เซียวฮูหยินยิ้มอย่างรู้ทัน “ใต้เท้าเจิ้งสมกับเป็นหัวหน้าองครักษ์จินอู่ที่มีแต่ชื่อเสียงต่ำทรามเสียจริง ใจกล้ายิ่งนัก ดี ข้าให้เจ้าค้นหมดทุกที่ เจ้าค้นเจอย่อมดีที่สุด มิฉะนั้น ข้าไม่จบกับเจ้าอย่างแน่นอน”
สีหน้าชองเจิ้งกังดำทะมึน เขาออกคำสั่งกับผู้ใต้บังคับบัญชา “ค้น! ค้นให้ทั่ว ค้นให้เจอ มิฉะนั้นคงเสียน้ำใจของท่านหญิง!”
องครักษ์จินอู่เคลื่อนไหวครั้งใหญ่อีกครั้ง
คราวนี้ พวกเขาเพ่งเล็งเป้าหมายไว้ที่ภูเขาจำลองในสวนดอกไม้
พวกเขาแทบจะพลิกภูเขาจำลองกลับด้าน ค้นหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อค้นหาห้องลับที่ว่าให้เจอ
แต่ก็ไม่เจอแม้แต่น้อย
มีคนออกความคิดให้เจิ้งกัง “ใต้เท้า เวลานั้นจวนท่านหญิงสร้างขึ้นโดยใช้เงินของสำนักเซ่าฝู่ สำนักแรงงานควบคุมงาน บางทีทางสำนักแรงงานอาจยังมีแผนที่ของจวนท่านหญิง”
“รีบส่งคนไปเอาแผนที่ยังสำนักแรงงาน หาขุนนางที่ควบคุมงานในปีนั้นมาให้ได้ ข้าไม่เชื่อว่าจวนท่านหญิงที่กว้างใหญ่ จะรื้อค้นไม่เจอสิ่งใดแม้แต่น้อย”
เวลานี้ องครักษ์จินอู่ไม่ได้กำลังตามหาคนเพียงอย่างเดียว
แต่พวกเขากำลังค้นหาหลักฐานที่จะคาดโทษจวนท่านหญิงได้
อาทิคันธนูในมือของเยียนอวิ๋นเกอนั้นเป็นสิ่งของต้องห้าม
เพียงแต่ไม่พบการปรากฏตัวของเยียนอวิ๋นเกอแม้แต่น้อย
ค้นหากว่าครึ่งวันก็ไม่พบสิ่งของที่ไม่เหมาะสมจากจวนท่านหญิงแม้แต่น้อย
หากจะบอกว่าค้นพบสิ่งใดละก็ มีเพียงบัญชีของเรือนพักร่ำรวยหลายตะกร้า
เนื้อหาด้านบนอ่านไม่เข้าใจแม้แต่น้อย
เจิ้งกังเคยมีความคิดที่จะฉวยโอกาสแตะต้องเรือนพักร่ำรวย
แต่เขาก็ละทิ้งความคิดนี้ไปทันที
เขาไม่อยากต้องเผชิญหน้ากับศัตรูทั้งหน้าและหลัง
เยียนอวิ๋นเกอเป็นคนเสียสติ คราวนี้หากเขาฉวยโอกาสจัดการกับเรือนพักร่ำรวย เยียนอวิ๋นเกอย่อมกล้าจะยิงธนูใส่หลังของเขาอย่างแน่นอน
อีกทั้งเรื่องสำคัญในเวลานี้คือการจับเยียนอวิ๋นฉวน เขาไม่อยากก่อปัญหา ทำให้ฮ่องเต้ทรงผิดหวัง
ไม่ช้าก็เร็ว เขาย่อมมีโอกาสที่จะได้จัดการกับเยียนอวิ๋นเกอและเรือนพักร่ำรวย ไม่ต้องรีบร้อนในเวลานี้
หาแผนที่มาได้แล้ว ขุนนางที่ควบคุมการสร้างจวนท่านหญิงก็ถูกเชิญมายังจวนท่านหญิง
จวนท่านหญิงมีห้องลับหนึ่งอยู่ใต้ภูเขาจำลองจริง
เจิ้งกังได้ยินจึงหัวเราะร่า เขาทำหน้าได้ใจ
เขามองเซียวฮูหยิน “ท่านหญิง จะตามข้าลงไปดูห้องลับหน่อยหรือไม่”
เซียวฮูหยินหัวเราะเสียงเย็น “ข้าพักอยู่ในจวนท่านหญิงมาหลายปี แต่ไม่รู้เลยว่าจวนท่านหญิงมีห้องลับ ไปเถิด ข้าเดินลงไปดูกับเจ้า ดูว่าด้านในมีสิ่งใดกันแน่”
คนทั้งขบวนเดินทางไปยังห้องลับที่อยู่ด้านล่างภูเขาจำลองอย่างเอิกเกริก
ปัง…
ห้องลับถูกเปิดออก ไอเย็นแผ่กระจายออกมา
เจิ้งกังเดินเข้าห้องลับเป็นคนแรก จากนั้นก็ก้าวถอยออกมาอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าซีดเผือด
ด้านในล้วนเป็น…