คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 358 ร้านเฟยฉางเต๋าทำกิจการนักต้มตุ๋น
ตอนที่ 358 ร้านเฟยฉางเต๋าทำกิจการนักต้มตุ๋น
เงินยี่สิบตำลึงจึงจะทำลายมนต์ได้
เซี่ยชงนิ่งอึ้งไปแล้ว มองไปยังฉินหลิวซี สายตาราวกับว่าไยท่านจึงไม่ไปปล้นเงินเลยเล่า
ฉินหลิวซีหรี่ตาลง “ยี่สิบตำลึงซื้อชีวิตเจ้าไม่ได้หรือ เขาจ่ายตั้งหนึ่งร้อยตำลึงแล้ว”
เซี่ยชง “…”
เอ่อ นี่เหมือนกันหรือไม่
เขาแทบอยากร้องตะโกน ในตัวเขาอย่าว่าแต่ยี่สิบตำลึง สองอีแปะยังไม่มีด้วยซ้ำ
และในตอนนี้เอง มีคนมาสอดส่องอยู่หน้าประตู เดินเข้ามาด้วยความสงสัย เฉินผีจึงก้าวเข้าไปต้อนรับ
ฉินหลิวซีเองก็กวาดตามองคนผู้นั้นเล็กน้อย ดึงสายตากลับมา มองเซี่ยชงอีกครั้ง เอ่ย “ว่าอย่างไร ข้ามีธุระแล้ว รีบตัดสินใจ”
เซี่ยชงใกล้ร้องไห้แล้ว เอ่ย “ท่านอาจารย์ ท่านดูว่าตัวข้าไม่มีสิ่งของใดแล้ว ไหนเลยจะมียี่สิบตำลึง ท่านเห็นแก่ข้าที่มีคนแก่ต้องดูแล ช่วยชีวิตข้าได้หรือไม่ ช่วยชีวิตคนหนึ่งคนได้บุญกว่าการสร้างเจดีย์เจ็ดชั้นเลยนะขอรับท่านอาจารย์”
“คำนี้ไยเจ้าจึงไม่ไปบอกกับเจ้าอาวาสวัดอู๋เซียงเล่า ข้าเป็นนักพรตเต๋า เจดงเจดีย์อะไรกัน” ฉินหลิวซีกลอกตา
เซี่ยชง “นี่ไม่เหมือนกันหรือขอรับ”
“ไม่เหมือนกัน ข้าไม่ได้มีความเมตตาอย่างพระ หากข้าเป็นเจ้า ข้าจะรีบไปหาเงิน มิฉะนั้นชีวิตนี้ของเจ้า รักษาเอาไว้ได้เพียงครั้งสองครั้ง เกรงว่าคงไม่อาจรักษาได้ในครั้งที่สาม” ฉินหลิวซีเอ่ยตอบ
เซี่ยชงนึ่งงัน “ยี่สิบตำลึงนะขอรับไม่ใช่สองตำลึง ข้าหาจริงๆ ก็ไม่รู้เดือนใดปีใดจะได้ เกิดข้าไม่มีชีวิตอยู่ถึงตอนนั้นเล่า”
“เช่นนั้นก็เป็นเรื่องของเจ้าแล้ว” ฉินหลิวซีมองท่าทางน่าสงสารของเขา เอ่ย “เอาเช่นนี้เถิด ช้าช่วยครึ่งชีวิตของเจ้าเอาไว้ อย่างน้อยไม่ให้เจ้าตาย เมื่อใดที่ได้เงินมาครบแล้ว ก็จะช่วยเจ้าทำลายมนต์นั้นให้หมด”
เซี่ยชงดีใจ “เช่นนั้นก็ได้ขอรับ”
“เจ้าไปเถิด” ฉินหลิวซีโบกปัดมือ เอ่ย “จำเอาไว้ จะช่วยเหลือชีวิตของเจ้าเอง คือเงินที่หามาอย่างบริสุทธ์จึงจะได้ ไม่สามารถหลอกลวงหรือยืมผู้ใดได้ ต้องอาศัยมือเท้าของตัวเจ้าเอง”
เซี่ยชงชี้ไปยังผ้าไว้ทุกข์นั้น “ท่านไม่ร่ายมนต์สักนิดหรือขอรับ”
“เจ้ายังกลัวว่าข้าจะหลอกเจ้าอยู่หรือ ในเมื่อข้าสามารถเปิดร้านทำกิจการได้ แน่นอนว่าไม่โยนการค้าออกนอกประตู ข้ายังไม่ได้เงินจากเจ้าแม้เพียงตำลึงเดียว เจ้ากลัวสิ่งใดเล่า” ฉินหลิวซีเตะผ้าไว้ทุกข์เบาๆ เอ่ย “มีข้าอยู่ แน่นอนว่าจะไม่ยอมให้เจ้าตาย แต่เจ้าต้องขยันสักหน่อย ชีวิตไม่หายไป แต่ความโชคร้ายก็ยังเข้ามาไม่หยุดหรอกนะ”
เซี่ยชงตกใจ เอ่ย “ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ ท่านอาจารย์ ท่านจะต้องช่วยชีวิตข้านะขอรับ”
ฉินหลิวซีโบกมือ
เซี่ยชงพุ่งออกไป คนที่เข้ามาผู้นั้นได้ยินไปครึ่งหนึ่ง จากนั้นมองไปรอบๆ ร้านเก่าแก่แปลกประหลาดแห่งนี้ กล่าวอยู่ภายในใจ โลกยามนี้อยู่ง่ายเพียงนี้เลยหรือ นักต้มตุ๋นไม่ต้องไปตั้งแผงแล้ว เปิดเป็นร้านได้เลย
มองผู้ติดตามที่เดินเข้ามาพร้อมกัน แสดงสีหน้าต่ออีกฝ่าย อีกฝ่ายเข้าใจทันใด วิ่งตามเซี่ยชงออกไป
ฉินหลิวซีมองเห็นอยู่ในสายตาตลอด มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย
เฉินผีตอบคนผู้นั้น “…ร้านของเรานี้ ทำเกี่ยวข้องกับเบญจศาสตร์ของเต๋า อีกทั้งขอยันต์คุ้มภัยต่างๆ ลูกค้าต้องการรักษาก็ได้ ว่าแต่ท่านต้องการสิ่งใด”
ชายวัยกลางคนในชุดพ่อบ้านผู้นั้น แค่ยิ้มก่อนจะเอ่ยว่า “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ข้าเพียงประหลาดใจ เฟยฉางเต๋าชื่อนี้ตั้งได้ดีเป็นเอกลักษณ์ อยากมาดูว่าขายอะไร ที่แท้ก็เป็นทางนี้หรือ”
“ถูกแล้ว กิจการที่ทำแล้วดูเหมือนการต้มตุ๋น” ฉินหลิวซียิ้มจนตาหยี เอ่ย “ท่านพ่อบ้านผู้นี้ เมื่อตรวจสอบละเอียดแล้วก็กลับไปรายงานเจ้านายของท่านได้แล้ว ต้องการรักษาก็มาได้ทุกเมื่อ เพียงแต่ต้องเร็วสักหน่อย สองวันนี้ข้าไม่อยู่”
พ่อบ้านผู้นั้นตกใจอยู่ในใจ กำลังอยากถามอะไร พลันได้ยินเสียงร้องไห้ร้อนรนเสียงดังมาจากหน้าประตู
ทุกคนหันมองไปยังประตู มีคนพุ่งตัวเข้ามา ร้องเสียงดัง “ท่านอาจารย์ ท่านอยู่ก็ดีแล้ว ช่วยดูต้านต้านของพวกเราที เล่นอยู่ดีๆ ก็เป็นเช่นนี้แล้ว”
ผู้มาใหม่คือเถ้าแก่จี้ ร้านธูปเทียนหอมหยวนเป่า ในอ้อมแขนคือหลานชายตัวน้อยของเขา เด็กน้อยกำลังกระตุก ตาเหลือก มือเท้าเหยียดตรง หายใจหอบถี่ ปากไม่รู้ส่งเสียงอะไร
ด้านหลังเถ้าแก่จี้ยังมีบุตรชายและลูกสะใภ้ของเขาตามมาด้วย ทั้งสองใบหน้าร้อนรน และผู้เป็นภรรยานั้นร้องไห้จนจะเป็นลมอยู่รอมร่อ
ฉินหลิวซีจับชีพจรของต้านต้านแล้วจึงเอ่ย “อาการชักเฉียบพลัน เฉินผี”
เฉินผีรีบหยิบกล่องยาออกมาจากตู้ยา หยิบกระเป๋าเข็มออกมาเปิดออก ยื่นเข็มเงินเล่มหนึ่งไปให้
ฉินหลิวซีรับมา ออกคำสั่งให้ถอดรองเท้าถุงเท้า พร้อมทั้งแทงเข็มลงที่ปลายนิ้วทั้งสิบของต้านต้าน บีบเลือดออกมา จากนั้นทำที่ปลายนิ้วเท้าทั้งสิบเช่นกัน
เลือดไหลออกมาแล้ว ต้านต้านไม่กระตุกและไม่มีเสียงครางอื้ออึงแล้ว ใบหน้าเล็กนิ่งสงบลง มีเพียงหัวคิ้วที่ยังขมวดมุ่น
ฉินหลิวซีจับชีพจรอีกครั้ง เอ่ยถาม “เป็นเมื่อครู่ก่อนหรือ”
เถ้าแก่จี้มองหลานชายที่รักไม่กระตุกแล้ว รีบเอ่ยตอบว่า “ขอรับ เด็กคนนี้เล่นอยู่เรือนหลังคนเดียว อยู่ๆ ก็ร้องไห้เสียงดัง จากนั้นก็ตื่นตกใจจนจะเป็นลมขอรับ”
ฉินหลิวซีเอ่ย “เป็นไข้ตัวร้อนเล็กน้อย เสมหะขุ่นชื้น ทำให้เกิดไฟในตับ อีกทั้งยังเกิดความตกใจ จึงมีอาการชักเฉียบพลันเกิดขึ้น อากาศเปลี่ยนแล้ว เด็กๆ ต้องสวมเสื้อผ้าหนาๆ อย่าได้เย็นเกินไป อีกทั้ง เขาเสมหะร้อนอาหารไม่ย่อย ส่งผลเสียต่อกระเพาะได้ง่าย อย่าให้เขากินเนื้อและของไม่มีประโยชน์มากเกินไป”
“ท่านอาจารย์ เกิดเรื่องใดขึ้นหรือ ตื่นตกใจได้อย่างไร เด็กคนนี้อย่างไรก็เป็นท่านที่มอบยันต์คุ้มภัยติดตัวให้” เถ้าแก่จี้เอ่ย
เขาจับคอของหลาน แต่พบว่าไม่เห็นเชือกแดงแล้ว ตกใจขึ้นมาทันใด มองไปยังบุตรชายและลูกสะใภ้ “ยันต์คุ้มภัยของต้านต้านเล่า”
จี้หมิงมองไปยังภรรยา ไม่กล้าเอ่ยปาก ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
จี้หลี่ซื่อเอ่ยอึกอัก เอ่ย “น้องชายที่บ้านข้าเพิ่งมีลูกชาย ร้องไห้ทั้งวันทั้งคืน ข้าจึงเอายันต์คุ้มภัยของต้านต้านให้เขาสวมก่อนเจ้าค่ะ”
เถ้าแก่จี้ใบหน้าทะมึนทันใด เอ่ยเสียงดัง “นั่นคือยันต์คุ้มภัยของต้านต้าน เจ้าเอาไปให้หลานที่บ้านมารดาทำไม หลานของเจ้าสำคัญกว่าบุตรชายแท้ๆ ของเจ้าหรือ”
จี้หลี่ซื่อหดคอลง ร้องไห้พลางเอ่ย “ท่านพ่อ ข้าเพียงอยากทดสอบเล็กๆ น้อยๆ”
“เจ้า” เถ้าแก่จี้จ้องนางเขม็ง จากนั้นจ้องเขม็งไปยังบุตรชาย ไอ้คนไม่ได้เรื่อง กลับไปค่อยจัดการกับพวกเขา
เขาสูดหายใจเข้าลึก จากนั้นจึงหันกลับมาหาฉินหลิวซีอย่างละอายใจ “ท่านอาจารย์ ท่านว่าอย่างไรขอรับ”
“ไม่เป็นไร” ฉินหลิวซีหยิบเข็มออกมา ฝังเข็มลงที่จุดกุ่ยซิ่น กุ่ยซินของต้านต้าน ปากร่ายคาถาระงับความตกใจ มืออีกข้าง นิ้วมือจรดเข้าหากัน กดลงที่ศีรษะของเขา
เมื่อได้รับการฝังเข็ม ต้านต้านก็ยิ่งสงบลง ลืมตาขึ้นมาก็จำปู่จำพ่อแม่ได้แล้ว
เถ้าแก่จี้พ่นลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
ฉินหลิวซีเอ่ย “อาการตกใจหายแล้ว แต่ยังต้องกินยาสองชุด อย่างไรตอนนี้เขายังมีความชั่วร้ายเข้าร่าง มีเสมหะร้อนอุดตัน พลังงานไม่ดี หากไม่รักษา กระเพาะลำไส้จะอ่อนแอ เวลานานไป ส่งผลให้ข้อต่อไม่แข็งแรง”
เถ้าแก่จี้รีบเอ่ย “เช่นนั้นต้องรบกวนท่านช่วยเขียนใบสั่งยาด้วยเถิด”
ฉินหลิวซีพยักหน้า หยิบพู่กันกระดาษออกมา เขียนใบสั่งยาหนึ่งใบ ยื่นไปให้ “กินไปสองขนานก็พอ ทำยาเม็ดช่วยย่อยเอาไว้ด้วยก็ได้ กินผักผลไม้เยอะๆ”
“ขอบคุณขอรับ” เถ้าแก่จี้รับไป รีบเอ่ยขอบคุณ
ฉินหลิวซีหยิบเครื่องรางคุ้มภัยทว่าถูกแกะสลักเป็นรูปหัวสุนัขน่ารักขนาดเท่าหัวแม่มือออกมา หยิบเชือกแดงมาห้อย จากนั้นแขนไว้ที่คอของต้านต้าน ยิ้มพลางเอ่ย “นี่ถือว่าเป็นของขวัญพบหน้าที่ข้ามอบให้ต้านต้าน อวยพรให้เขาสงบสุขสุขภาพร่างกายแข็งแรง”