คู่ชะตาบันดาลรัก - บทที่ 521 รัชทายาทที่ถูกปลด
เจี่ยงเหวินเฟิงรายงานว่า “ในตอนที่กระหม่อมกำลังสืบสวนสาเหตุการเสียชีวิตของนางในพบว่ามีคนในตำหนักหายไปหลายคน กระหม่อมจึงติดตามเบาะแสและพบหญิงชราผู้นี้”
ทันทีที่ไท่จื่อเห็นท่านยายหร่วนก็เหมือนเห็นความหวังสุดท้าย เขาเงยหน้าขึ้น และตะโกนว่า “เสด็จพ่อ! เรื่องนี้โทษว่าเป็นความผิดของลูกไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ เป็นนางที่ค้นพบว่าลูกรู้ตัวตนที่แท้จริงของนาง และต้องการใส่ร้ายลูก ลูก…ลูกเพียงแค่เริ่มก่อนเพื่อปกป้องตนเอง!” ผู้อาวุโสทั้งหลายต่างถอนหายใจ และหันศีรษะไปทางอื่น
กัวสวี่ยกมุมปากอดไม่ได้ที่จะมองเขาช่างโง่อะไรอย่างนี้! จนถึงตอนนี้ก็ยังดูไม่ออกเลยว่าผู้ใดกันที่ใส่ร้ายเขา
ฮ่องเต้มองเขาอย่างเฉยเมย “อ้อ แล้วผู้ใดใส่ร้ายเจ้า”
สายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธของไท่จื่อหันไปทางฉากกั้นซึ่งเผยกุ้ยเฟยเคยอยู่ที่นั่นมาก่อน
ฮ่องเต้หลับตาลงด้วยความรู้สึกผิดหวังอย่างมากกับบุตรชายคนนี้ “เจี่ยงชิง ดำเนินการต่อได้!”
“พ่ะย่ะค่ะ” เจี่ยงเหวินเฟิงหันกลับมา “ท่านยายหร่วน ตกลงผู้ใดเป็นคนสั่งการเจ้า ยังไม่พูดความจริงออกมาอีก”
ท่านยายหร่วนคุกเข่าเสียงดัง ‘ตุบ’ และคุกเข่าคำนับอย่างสุดชีวิต “ฝ่าบาทโปรดเมตตาด้วยเถอะเพคะ! บ่าวถูกบังคับ! บ่าวเป็นคนปัดกวาดหลุมศพไม่เคยรับใช้กุ้ยเฟยมาก่อน...” นางบอกคำพูดในวันนั้นออกมาจนหมดไม่ตกหล่นแม้แต่คำเดียว
เรื่องนี้เองก็ไม่ได้ซับซ้อน แต่มีความลับใหญ่ซ่อนอยู่ในนั้นความลับใหญ่ที่เรียกว่ารอยด่างพร้อยของฮ่องเต้ กัวสวี่ฟังแล้วแทบจะลุกขึ้น แต่เมื่อหันไปมองผู้อาวุโสหลายคนดูสงบมาก หรือว่าพวกเขารู้อยู่แล้วมีเพียงเขาที่ไม่รู้
กัวสวี่ที่พอใจกับการได้ตำแหน่งสูงตอนอายุน้อยอยู่ตลอดเวลาจนถึงตอนนี้เขาเพิ่งรู้ว่าตนยังล้าหลังอยู่ไกล ผู้อาวุโสเหล่านี้เก็บซ่อนความจริงไว้เป็นอย่างดี
เจี่ยงเหวินเฟิงเองก็สงบนิ่งเช่นกัน และเมื่อคำสารภาพของท่านยายหร่วนจบ เขาก็กล่าวว่า “สรุปแล้วผู้ที่บังคับเจ้าคือแม่นางหลานจือหรือ”
“เจ้าค่ะ”
เจี่ยงเหวินเฟิงพูดต่อว่า “นำตัวพยานหมายเลขห้ามา”
ผู้ที่ถูกพาตัวเข้ามาเป็นแม่นางหลานจือที่อยู่ฝั่งไท่จื่อ! ซิ่นอ๋องอ้าปากอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป เขาไม่ได้คาดหวังถึงเรื่องนี้เลยจิตใจของเขาสับสนอยู่ครู่หนึ่ง
แต่เขาฉลาดกว่าไท่จื่อเมื่อเขาไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ทางที่ดีที่สุดคือไม่ต้องทำเพื่อหลีกเลื่ยงที่จะยิ่งทำยิ่งพลาดเสียจะดีกว่า ตอนนี้เพียงแค่รู้สึกเสียใจในภายหลังก็เท่านั้น เหตุใดตนถึงไม่ฆ่าปิดปากนางไปก่อนนะ
“หลานจือ” เจี่ยงเหวินเฟิงสอบสวนคดีต่อ “เจ้าเลือกได้ว่าจะพูดหรือไม่พูด หากพูดอาจมีโทษสถานเบา แต่ถ้าไม่พูดก็คงช่วยไม่ได้ข้ามีวิธีที่จะตรวจสอบที่มาของเจ้า”
หลานจือตัวสั่น ก่อนหน้านี้มีตัวอย่างให้นางเห็นไปแล้ว ขันทีที่ผลักสาวใช้ตกน้ำไม่พูดอะไรจึงถูกลงโทษอย่างหนัก
นางตัดสินใจหลับตาแล้วชี้ “เป็นเขาเจ้าค่ะ! ผู้ที่สั่งบ่าวคือเขา!” ทุกคนมองตามทิศทางที่นางชี้กลับกลายเป็นซิ่นอ๋อง หัวสมองของซิ่นอ๋องว่างเปล่าเขาอ้าปากอยากจะอธิบาย “เสด็จพ่อ…”
ไท่จื่อที่ตอนแรกอยู่ในอาการสับสนตอนนี้เขามองซิ่นอ๋องด้วยความตกใจ
“เป็นฝีมือเจ้าหรือ เป็นเจ้าที่ทำร้ายข้า” เขาถามเสียงสูง ซิ่นอ๋องไม่อยากสนใจเขาแค่อยากจะอธิบายให้ฮ่องเต้ฟังเท่านั้น
ในขณะที่เขาเปิดปากไท่จื่อก็พุ่งเข้ามาชกหน้าเขาทุบตีไปก่นด่าไปว่า “เจียงเฉิง! เจ้าแกล้งทำเป็นคนดีต่อหน้าเสด็จพ่อ แต่ลับหลังกลับโหดเหี้ยม! เจ้าอยากได้ตำแหน่งไท่จื่อใช่หรือไม่เลยทำร้ายข้าเพื่อตำแหน่งนั้น!”
ด่าซิ่นอ๋องจบเขาก็ร้องขอความเป็นธรรมจากฮ่องเต้ “เสด็จพ่อ! ท่านเห็นหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ ทุกอย่างเป็นกลอุบายของเขา! เป็นเขาที่จงใจยั่วยุ ลูกถึง…เสด็จพ่อ ท่านต้องมองเห็นเจตนาชั่วร้ายของเขานะพ่ะย่ะค่ะ!”
ซิ่นอ๋องพยายามสลัดให้หลุดเขาตะโกนร้องทุกข์ด้วยใบหน้าเขียวคล้ำ “เสด็จพ่อ! ลูกไม่ได้ยั่วยุให้เขาทำเรื่องเช่นนี้นะพ่ะย่ะค่ะลูกไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ!”
ฮ่องเต้ไม่ต้องการฟังอีกต่อไปเขาโบกมือสั่งให้ทหารพาองค์ชายทั้งสองออกไป เสียงตะโกนของไท่จื่อ และซิ่นอ๋องค่อยๆ หายไป เหล่าพยานเองก็ถูกพาตัวไปด้วย แต่เมื่อทราบเรื่องอื้อฉาวนี้แล้วคิดว่าคนพวกนั้นคงไม่รอดในคืนนี้
ในท้องพระโรงเหลือเพียงฮ่องเต้ ผู้อาวุโสทั้งเจ็ด ฝูอ๋อง และเจี่ยงเหวินเฟิง
หลังจากเงียบอยู่นานฮ่องเต้ก็ถอนหายใจ “พวกท่านทั้งหลายคิดว่าเรื่องนี้ควรทำอย่างไร”
สายตาของผู้อาวุโสทั้งหลายหันไปทางหลู่เซียง หลู่เซียงเงียบไปครู่หนึ่งจากนั้นก็ลุกขึ้นกล่าวว่า “ทูลฝ่าบาท หลักฐานความผิดนี้เป็นอันสิ้นสุด เชิญฝ่าบาทรับสั่งมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”
บรรดาผู้อาวุโสที่เหลือพูดตามทันทีว่า “เชิญฝ่าบาทรับสั่งมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”
คนหนึ่งเป็นไท่จื่อ อีกคนเป็นชินอ๋อง พวกเขาที่เป็นขุนนางจะพูดอะไรได้ ทำได้เพียงให้ฮ่องเต้รับสั่งเท่านั้น
ฮ่องเต้แสดงท่าทีอ่อนล้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ที่วันนี้เรียกเสนาบดีทุกท่านและฝูอ๋องมา เป็นเรื่องที่เจิ้นตัดสินใจไม่ได้ เจิ้นมีบุตรชายห้าคน องค์ชายสี่กับองค์ชายห้าเพิ่งเข้าศึกษา ยังไม่รู้ลักษณะนิสัย หากปลดไท่จื่อและซิ่นอ๋องควรให้ลูกคนไหนดำรงตำแหน่งดี”
เหล่าผู้อาวุโสมองหน้ากันเอง แต่ไม่พูดอะไร หมายความว่าฮ่องเต้คิดจะปลดไท่จื่องั้นหรือ แต่เรื่องนี้ไท่จื่อทำได้ไม่ดีจริงๆ ยื่นมือเข้าไปในวังหลัง ใส่ร้ายพระสนมวางแผนใส่ร้ายพี่น้อง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัญหาของการอบรมทางด้านศีลธรรม
ผู้ที่จะนั่งในตำแหน่งฮ่องเต้ไม่มีความสามารถได้ แต่ไม่มีคุณธรรมไม่ได้
แม้แต่ผู้ที่สนับสนุนไท่จื่อมาก่อนจนตอนนี้ก็ยังไม่คิดจะพูดอะไรแก้ต่างให้ไท่จื่อ
หากปลดไท่จื่อก็ต้องแต่งตั้งใหม่ เดิมทีซิ่นอ๋องสามารถเป็นได้เขามีความสามารถมากกว่าไท่จื่อ แต่เขาเองก็ทำความผิดเช่นกัน ผู้ที่ได้เป็นถึงผู้อาวุโสไม่ได้โง่ กลอุบายของซิ่นอ๋องเป็นการล่อลวงให้ไท่จื่อจัดการเผยกุ้ยเฟยอย่างชัดเจน
ดังนั้นความผิดของเขาก็เหมือนกับความผิดของไท่จื่อ ในเมื่อไท่จื่อไร้คุณธรรม เขาเองก็ไม่มีคุณสมบัติดำรงตำแหน่งรัชทายาทเช่นกันหากตัดทั้งสองออกไปก็จะเหลือเพียงองค์ชายสามคนเดียว
องค์ชายสี่กับองค์ชายห้ายังเด็กนักจึงมองไม่ออกอันอ๋องที่เป็นผู้ใหญ่แล้วแต่ก็เสเพล…
ไม่มีผู้ใดเหมาะสมเลย!
ในตอนนั้นเองฝูอ๋องพูดออกมาในฐานะที่เป็นพยาน “ฝ่าบาท ท่านไม่ต้องกังวลไป”
ฮ่องเต้มองเขาด้วยความตกใจ “ฝูอ๋องมีความคิดเห็นอย่างไรหรือ”
ใบหน้าเหี่ยวแห้งของฝูอ๋องเผยให้เห็นรอยยิ้มเมตตาเขาลูบเคราพลางพูดออกไปว่า “ฝ่าบาทยังมีบุตรชายตั้งสามคน! อีกหน่อยองค์ชายสี่กับองค์ชายห้าก็เติบโตขึ้น อีกสักห้าหกปีพวกเขาก็มีอายุสิบสามสิบสี่ปีจะดีหรือไม่ดีถึงเวลานั้นคงมองออก ส่วนอันอ๋องเด็กคนนั้นอาจใช้ไม่ได้ไปสักหน่อย แต่เพราะก่อนหน้านี้ท่านไม่เคยสนใจเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาทำได้ไม่ดี เรื่องนี้เป็นไปตามธรรมชาติ ควรปลดก็โดนปลด ควรสอนก็สั่งสอน ปัญหาทุกอย่างมีทางออก”
ฮ่องเต้คิดตามก็เห็นว่ามีเหตุผล เขาสุขภาพไม่แข็งแรง แต่ไม่ถึงขนาดทนไม่ได้ตราบใดที่ยังมีเวลาอีกสองสามปี บุตรชายของเขาต้องสั่งสอนจนได้เรื่องได้ราวสักคน อย่างไรเสียสองคนนั้นก็ไม่มีทางได้เด็ดขาด
เขาพยักหน้าแล้วเรียก “กัวชิง”
กัวสวี่ก้าวออกมา “พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”
“ร่างพระราชโองการ ไท่จื่อเจียงเชิ่งไร้คุณธรรม ปลดออกจากตำแหน่งไท่จื่อ ส่วนซิ่นอ๋องให้ถอดตำแหน่งอ๋อง”
“พ่ะย่ะค่ะ” สีหน้าของกัวสวี่ดูเคร่งขรึม แต่จิตใจของเขาล่องลอยไปแล้ว
ก่อนหน้านี้เขายังคงคิดว่าจะเป็นเรื่องยากมากที่บุคคลนั้นจะขึ้นครองบัลลังก์ ไม่คิดว่าไท่จื่อ และซิ่นอ๋องจะรนหาที่ตาย
นี่คือผู้ที่สวรรค์เลือกงั้นหรือ
……………