คู่ชะตาบันดาลรัก - บทที่ 546 สาวงาม
จี้เสียวอู่มีรูปร่างหน้าตางดงาม เครื่องหน้าลงตัว ตอนนี้พอมาทาแป้ง เขียนคิ้วเขียนตาเล็กน้อย เติมปากให้แดงอิ่มดูเป็นสาวงามที่องอาจอย่างชัดเจน
พอดีกับนักเต้นระบำชาวหูมีรูปร่างค่อนข้างสูง รูปร่างผอมบางของเขาจึงดูไม่ขัดตาเลยแม้แต่น้อย!
หมิงเวยกลั้นยิ้ม และกล่าวว่า “หน้าอกแบนไปหน่อยเจ้าค่ะ”
ตัวฝูเหลือบมองแล้วหยิบเกาปิ่งสองชิ้น “ใส่นี่เข้าไปน่าจะได้นะเจ้าคะ!”
“เดี๋ยว!” จี้เสียวอู่พูดไม่ออก
หมิงเวยพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ไปเลยเจ้าค่ะพี่ห้า!”
จี้เสียวอู่ร้องอ้อแล้วเลิกม่านขึ้นเพื่อเดินออกไปเขามักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ก็ไม่สามารถเข้าใจได้
ช่างเถอะ ไว้ค่อยว่ากันทีหลัง จี้เสียวอู่ก้มศีรษะ และเดินออกไป
องครักษ์ของอันอ๋องหยุดเขา จี้เสียวอู่ยิ้มให้พวกเขา และพูดด้วยน้ำเสียงของบ่าวรับใช้ชาวหูตามที่ฝึกมา “เมื่อครู่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าจึงมาช้าเจ้าค่ะ”
เสียงของเขายังดูใสแบบเด็กอยู่พอบีบเสียงพูดเล็กน้อยจึงฟังดูเข้าท่า
องครักษ์ทั้งสองลังเลอยู่สักพักก็ถอยออกไป
จี้เสียวอู่เปิดม่านแล้วเดินเข้ามา อันอ๋องที่กำลังพูดจาเจื้อยแจ้วเหลือบมองมาทางนี้ ดวงตาของเขาเป็นประกาย “โอ้ นักเต้นระบำผู้นี้เด็ดมาก! มาหาข้านี่!”
หยางชูที่กำลังจิบสุราผลไม้เงยหน้าขึ้นมอง แล้วจู่ๆ เขาก็เกิดอาการสำลักจนไอไม่หยุด
อันอ๋องไม่พอใจ “เจ้าเป็นอะไร กว่าจะพาเจ้าออกมายากมากนะทำตัวแปลกอยู่ตลอด”
“ไม่ แค่รีบดื่มไปหน่อย” หยางชูโบกมือ
จี้เสียวอู่เหลือบมองแล้วฉวยโอกาสเบียดเข้าไปหา “คุณชาย ให้ข้าน้อยบริการท่านนะเจ้าคะ” หยางชูได้ยินน้ำเสียงของเขาก็ไอหนักขึ้นกว่าเดิม
อันอ๋องไม่พอใจ “ทำไมหรือ ข้าไม่รูปงามเท่าเขาหรือ ถึงได้ไปห้อมล้อมเขากันหมด”
หยางชูผลักจี้เสียวอู่ “ไม่ได้ยินหรือ ไปบริการคุณชายอันซะ”
จี้เสียวอู่ไม่ยอมไปเขาคว้ามืออีกฝ่ายมาจับหน้าอกแล้วตะโกนว่า “เหตุใดคุณชายถึงไม่รับผิดชอบ พอสัมผัสข้าน้อยแล้วก็ผลักข้าน้อยให้ผู้อื่น”
หยางชูสัมผัสได้ถึงเกาปิ่งสองชิ้นสีหน้าของเขามืดครึ้มจนอยากจะกำจัดจี้เสียวอู่ทิ้งไป แต่กลับถูกติดหนึบไปกับเขาด้วย
ทั้งสองผลักกันไปกอดกันไป ผู้อื่นมองเห็นไม่ชัดเจน และคิดว่าพวกเขากำลังเล่นอยู่
อันอ๋องดูมีความสุขอย่างยิ่งเขาหัวเราะเสียงดัง “ช่างเถอะๆ ในเมื่อเจ้าชอบคนนี้ ในฐานะอาข้าจะไม่แย่งกับเจ้า ดูเจ้าสิ กำลังข่มกลั้นอยู่หรือ จวนข้ามีสตรีดุแล้วก็ช่างไป เจ้ ายังไม่ได้แต่งงานเลย วันนี้ก็ทำตัวตามสบายเถอะจะเรียกสาวงามเท่าไรก็ได้ อาสามจะเลี้ยงเจ้าเอง!”
หยางชูแสร้งหัวเราะแล้วถามเสียงเบาว่า “ท่านแต่งตัวเช่นนี้ทำไมกัน”
จี้เสียวอู่ที่พิงหน้าอกของเขาตอบว่า “อ้อ ท่านดูออกด้วยหรือ”
หยางชูยิ้มเยาะ หึๆ คิดว่าเขาแยกหน้าคนไม่ออกเหมือนหมิงเวยหรืออย่างไร คิดว่าวิธีนี้ใช้ได้ผลหรือ
เขาคิดจะถามให้แน่ใจจี้เสียวอู่ก็ร้องขึ้นมาเสียงดังว่า “ไอหยา คุณชายอย่าใจร้อนสิเจ้าคะ พวกเราเข้าไปในห้องแล้วค่อย…”
จากนั้นก็เบนสายตาไปทางด้านนอก หยางชูสั่นสะท้านหวั่นไหว เด็กนี่ทำตัวแปลกๆ เขาไม่รอช้าใช้มือขวากอดแล้วใช้นิ้วกดรอบเอวของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
เสียงของจี้เสียวอู่อ่อนลงทันที “ท่าน...”
หยางชูใช้โอกาสนี้ผลักเขาไปหาอันอ๋อง “ท่านอาสาม สาวงามผู้นี้ช่างใจร้อนเหลือเกินข้าไม่ชอบเลยยกให้ท่าน”
อันอ๋องเห็นสาวงามมามากมาย แต่ไม่เคยเห็นสตรีเช่นจี้เสียวอู่จึงรู้สึกสนใจ เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้นจึงแสร้งพูดว่า “แย่งสตรีจากเจ้าข้ารู้สึกไม่ดี!”
“วันนี้ข้าไม่สนใจจริงๆ ท่านอาสามไม่ต้องเกรงใจ มา ข้ายกให้ท่าน!” เขาผลักจนจี้เสียวอู่เซไปอยู่ข้างกายอันอ๋อง
จี้เสียวอู่ถูกเขาสกัดจุดตอนนี้จึงตัวอ่อนแรง พอถูกผลักก็ล้มตัวไปหาอันอ๋อง อีกฝ่ายก็กอดเขาไว้ในอ้อมแขนด้วยความตื่นเต้นแล้วโน้มตัวไปหาสูดหายใจเข้าลึกๆ “ตัวสาวงามผู้ นี้หอมจริงๆ!”
จี้เสียวอู่แทบอาเจียน ดวงตาของเขาเหลือบมองหยางชูอย่างสู้สุดชีวิต
ผู้ใดจะรู้ว่านอกจากหยางชูจะไม่คิดช่วยเหลือแล้วยังยืนขึ้นพูดว่า “ท่านอาสาม ข้าไม่รบกวนท่านแล้วขอออกไปดูการแสดงก่อน เชิญท่านตามสบาย”
“ฮ่าๆ ได้ๆ!” อันอ๋องใจร้อนเขากอดจี้เสียวอู่แล้วพาไปที่ห้องพัก สาวงามที่รุกเช่นนี้เขายังไม่เคยลองเลย!
จี้เสียวอู่ต้องการเรียก แต่ลิ้นของเขาไม่สามารถตะโกนได้จึงทำได้เพียงพูดเสียงอู้อี้เท่านั้น เมื่อเห็นว่าหยางชูไม่สนใจเขาจึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะละสายตาไปอีกฝั่งหนึ่งของ งม่านลูกปัด
หมิงเวย และตัวฝูอยู่ด้านในแน่นอน แต่ไม่ได้ออกมา จี้เสียวอู่จึงได้แต่ถูกอันอ๋องลากเข้าห้องพักด้วยอาการตะลึงงัน
บ้าเถอะ! ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว
หมิงเวยจงใจแกล้งเขาตั้งแต่ต้น และหยางชูผลักเขาไปหาอันอ๋องโดยไม่พูดอะไรอีกทั้งยังถูกเขาสกัดจุดอีก
สารเลวทั้งคู่!
ไม่ได้ เขาต้องคลายสกัดจุดเดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้นเขาต้องถูกกระทำย่ำยีเป็นแน่
จริงสิ ท่านอาจารย์เคยสอนว่าสกัดจุดอย่างไรนะ
……………
หยางชูมองจี้เสียวอู่ที่ถูกพาตัวไป และเห็นว่าสุดท้ายเขากำลังจ้องมองไปที่ห้องส่วนตัวห้องหนึ่งจึงเดินไปยกม่านลูกปัดขึ้น
แน่นอนว่าได้เห็นคนที่เขาคาดหวังไว้จึงยิ้มออกมา “ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านต้องอยู่ที่นี่”
หมิงเวยชำเลืองมองเขาและพูดว่า “เยวี่ยอ๋องกำลังหยอกเย้านารีอยู่ไม่ใช่หรือ เสียเวลามาที่นี่ทำไมกันเจ้าคะ”
หยางชูนั่งลงข้างกายนางอย่างหน้าด้านโน้มตัวเข้ามาแล้วพูดว่า “เมื่อครู่เรียกว่าหยอกเย้านารีได้อย่างไร ต้องตอนนี้ต่างหาก”
หมิงเวยผลักเขาออกแล้วเชิดหน้าขึ้น “ให้เกียรติข้าด้วย ท่านเห็นข้าเป็นคนเช่นไรกัน”
หยางชูลูบจมูกทำได้เพียงถอยออกมาแล้วถามนางว่า “ท่านไม่กังวลว่าจี้เสียวอู่จะเสียตัวหรือ”
หมิงเวยยิ้มบางแล้วถามเขากลับ “อันอ๋องพิศวาสตัดแขนเสื้อ[1]งั้นหรือเจ้าคะ”
“เมื่อก่อนไม่ใช่ แต่ไม่แน่ว่าวันนี้เขาอาจมีความสุข”
หมิงเวยพูด “นั่นขึ้นอยู่กับโชคชะตาของพี่ห้าแล้ว เขาไม่ได้บอกว่าเขาฝึกฝนอย่างขยันขันแข็งหรอกหรือ หากหลบหนีออกมาไม่ได้ก็แอบขี้เกียจเกินไป”
หยางชูหัวเราะ “ข้าสกัดจุดเขาไม่แรง หากพยายามสักหน่อยก็แก้มันได้”
“หึๆ”
เห็นนางยิ้มจอมปลอมเช่นนี้ หยางชูรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย พยายามระดมสมองเพื่อพิสูจน์ตัวเอง
“ท่านออกมาชมการแสดงหรือ ระบำโคมแดงนี้สนุกหรือไม่ เดิมทีข้าไม่ได้อยากออกมา แต่ท่านอาสามเพิ่งหยุดเรียนมาได้สองสามวันแล้ว กว่าจะหาวันลาไม่ง่ายเลยดังนั้นเขาจึงยืนกรานที จะลากข้าออกมาด้วย…”
หมิงเวยเหล่มองเขาพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าที่ทำให้คนมองรู้สึกหนาว
หยางชูพูดเสียงอ่อนลงแล้วเอนตัวไปขอความเมตตา “มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ข้าปฏิเสธไม่ได้จึงออกมาด้วย เมื่อครู่ข้าประพฤติตัวดีมากไม่ได้ทำอะไรเลย…”
“งั้นหรือ เหมือนพี่ห้าจะพูดว่าท่านสัมผัสเขา…”
“ไม่มีอะไรเลย!” หยางชูปฏิเสธอย่างเด็ดขาด “เขาจงใจใส่ร้ายข้า เกาปิ่งสองชิ้นนั้นของเขามีอะไรน่าจับกัน!”
“อ้อ ท่านจับแล้วนี่ ไม่อย่างนั้นจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเกาปิ่งสองชิ้น”
“นั่นเพราะเขา…” หมิงเวยเรียกบ่าวรับใช้ชาวหูมาคิดเงินและออกจากเรือ
หยางชูเดินตามออกมาอย่างเชื่อฟังแล้วอธิบายกับนางเสียงเบา “จริงๆ นะ ท่านต้องเชื่อข้านะ!”
“บนร่างกายท่านมีกลิ่นน้ำหอมยังจะพูดอะไรอีก”
“เช่นนั้นข้าจะไปอาบน้ำ ล้างมันออกให้หมด!” ทั้งสองลงจากเรือแล้วเดินหายไปในฝูงชน
หลังจากนั้นไม่นานจี้เสียวอู่ในสภาพเสื้อผ้ายุ่งเหยิงออกมาจากห้องพัก เขารีบมาที่ห้องโถงใหญ่ ยกม่านลูกปัดขึ้นที่ห้องส่วนตัวเดิมกลับมีชายแปลกหน้าสองคนนั่งอยู่ซึ่งกำลังดื่ม มสุราโอบกอดนักเต้นระบำชาวหู
เขาโกรธจนหน้าเขียว
“หมิงเสี่ยวชี หากข้าเชื่อเจ้าอีกข้าเป็นหมาแล้ว!”
………………
[1] ตัดแขนเสื้อ : ชายรักชาย