คู่ชะตาบันดาลรัก - บทที่ 549 ของขวัญ
ผ่านพ้นต้นฤดูหนาว อากาศเริ่มเย็นลง ในวันงานเลี้ยงวันเกิดของเผยกุ้ยเฟย หิมะแรกตกลงมา หิมะตกไม่หนักนักตกเล็กๆ น้อยๆ กลายเป็นหยดน้ำเมื่อ อตกลงสู่พื้น
หมิงเวยเข้าวัง และพบว่าคนไม่เยอะอย่างที่คิด
อันอ๋องเฟยกระซิบบอกนางว่า “ปีนี้แม้แต่งานฉลองวันประสูติยังจัดแบบเรียบง่าย เผยกุ้ยเฟยไม่อยากให้จัดงานใหญ่โต ฝ่าบาทเลยจำต้องยินยอม”
หมิงเวยเข้าใจดีเผยกุ้ยเฟยมักไม่ชอบตกเป็นที่สนใจถ้าไม่จำเป็น เป็นเวลานานแล้วที่ไท่จื่อ และซิ่นอ๋องถูกปลด หากนางทำตัวกำเริบเสิบสาน แม้จ จะเป็นพระราชโองการของฮ่องเต้ แต่ท้ายที่สุดชื่อเสียงก็ยังตกอยู่บนหัวของนางเอง
เมื่อก่อนเผยกุ้ยเฟยไม่สนใจชื่อเสียง แต่ตอนนี้นางมีความคาดหวังในใจ ความคิดจึงต่างออกไป อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้เป็นเรื่องใหญ่ก็คือไม่จัดอย่า างใหญ่โตเพียงนั้น ทุกคนต่างทราบกันดีว่ากุ้ยเฟยเป็นที่โปรดปรานมากภายนอกอาจดูไม่ชัดเจน แต่พวกเขาทราบดีอยู่แก่ใจ องค์ชายทั้งสองถูกปลดเพ พราะล่วงเกินกุ้ยเฟย ผู้ใดจะกล้าทำให้นางไม่พอใจกันล่ะ
หน้าตาของกุ้ยเฟยก็คือหน้าตาของฮ่องเต้มีผู้ใดกล้าไม่มาบ้าง ของขวัญวันเกิดเองก็ล้ำค่า และแปลกใหม่เช่นกัน
ในหมู่พวกเขาของขวัญวันเกิดจากเยวี่ยอ๋องนั้นน่าทึ่งที่สุด ปะการังซึ่งมีความสูงพอๆ กันกับคนมีสีสันงดงามถูกยกเข้าไปในท้องพระโรงซึ่งเป็นที่ สะดุดตา
หยางชูภูมิใจมาก “สิ่งนี้ได้มาจากพ่อค้าทางใต้ ปะการังหลากสีพบได้ในชายหาดทะเลใต้เท่านั้น ด้วยขนาดที่ใหญ่ลักษณะสมบูรณ์เช่นนี้ถึงอยู่ทางใต้ ก็ไม่สามารถหาได้ง่ายๆ”
ฮ่องเต้ชี้มาที่เขา และกล่าวว่า “เจ้าดูค่อนข้างภูมิใจนะ ข่าวลือถูกปล่อยออกมาไม่กี่วันก่อน พ่อค้าในเมืองหลวงทั้งหมดก็พอได้ยินก็รีบเคลื่อนไ ไหวทันทีได้ยินมาว่าเจ้าทำให้ราคาในตลาดสูงขึ้นสามเท่า” ฟังดูเหมือนเป็นข้อกล่าวหา แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของฮ่องเต้เห็นได้ชัดว่าเขาอารมณ์ดีทุกคน นจึงหัวเราะออกมาพร้อมกัน
ฮุ่ยเฟยที่นั่งอยู่กับเผยกุ้ยเฟยพูดด้วยรอยยิ้ม “เยวี่ยอ๋องมีใจกตัญญูจริงๆ”
วันนี้ฮุ่ยเฟยแต่งกายหรูหรา แต่นางดูซีดเซียวไปไม่น้อยทีเดียว นับตั้งแต่ซิ่นอ๋องถูกปลดนางก็ล้มป่วย นางเป็นคนเก่าที่อยู่เคียงข้างเขาก่อ อนที่ฮ่องเต้จะขึ้นครองบัลลังก์ อยู่ในวัยห้าสิบซึ่งมีอายุใกล้เคียงกับฮ่องเต้ อาการป่วยนี้ทำให้นางดูแก่ชราไปไม่น้อยเหมือนอายุห่างจากเผยก กุ้ยเฟยสองรอบได้
เมื่อพูดถึงฮุ่ยเฟยเมื่อก่อนที่นางยังเป็นที่โปรดปราน ในตอนที่ฮ่องเต้ยังเป็นจ้าวอ๋อง เพราะเข้ากับจ้าวอ๋องเฟยไม่ได้จึงโปรดปรานชายารองมาก กกว่า
ฮุ่ยเฟยมีนิสัยอ่อนโยน และอยู่เคียงข้างเขาเสมอ ดังนั้นทันทีที่โอรสองค์แรกของจ้าวอ๋องถือกำเนิดนางเองก็ให้กำเนิดโอรสองค์รอง
อย่างไรก็ตามข้างกายฮ่องเต้ความรักมักอยู่ไม่นานเมื่อจ้าวอ๋องขึ้นครองราชย์ เผยกุ้ยเฟยเข้าวัง ฮุ่ยเฟยก็ถูกลดความสำคัญลงมา เมื่อมีอายุมากข ขึ้นความงามจางหายไปความโปรดปรานก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ แต่ฮ่องเต้ก็ยังมีความผูกพันกับนางอยู่ไม่ว่าอะไรก็ขาดนางไม่ได้ แม้องค์ชายรองจะทำผิดเช่ นนั้น แต่เขาก็แค่ตำหนินางเล็กน้อย
หัวเราะเสร็จนางก็บอกว่า “ฝ่าบาท หม่อมฉันเองก็มีของขวัญเช่นกัน อาจไม่มีมูลค่ามากนัก แต่ความคิดนั้นเป็นเลิศไม่รู้ว่าจะทำให้กุ้ยเฟยยิ้มได ด้หรือไม่”
เผยกุ้ยเฟยพูดอย่างอบอุ่น “พี่สาวใจดีนัก ตอนนี้สุขภาพของท่านไม่อำนวย จะลงแรงหนักได้อย่างไรกัน”
ฮุ่ยเฟยพูดด้วยรอยยิ้ม “ผู้ที่ลำบากไม่ใช่ข้า แต่เป็นหลานสาวของข้าต่างหาก” นางยิ้ม และตบบ่าของสตรีที่นั่งข้างกายเบาๆ “หลายวันมานี้รบ บกวนซิ่วอี๋แล้ว ได้ยินมาว่านางต้องการเตรียมของขวัญวันเกิดให้กุ้ยเฟย นางใช้ความคิดทั้งคืนทีเดียวกว่าจะนึกออก”
ทุกคนมองตามและเห็นเด็กสาวบอบบาง ผิวขาว หน้าตางดงาม อายุประมาณสิบหกสิบเจ็ดปี นางเงียบมาตลอดทุกคนเลยคิดว่านางเป็นสาวใช้ที่รับใช้ฮุ่ยเฟ ฟยไม่คิดว่าจะเป็นหลานสาว
เด็กสาวที่ถูกทุกคนจ้องมองยิ้มอย่างเขินอายแล้วพูดว่า “ในช่วงที่ท่านอาไม่สบาย กุ้ยเฟยได้ส่งคนไปเยี่ยมเป็นครั้งคราวเพคะ หม่อมฉันเลยอดซาบซ ซึ้งในน้ำพระทัยของเหนียงเหนียงไม่ได้ กลัวว่าความสามารถอ่อนด้อยจนไม่สามารถตอบแทนเหนียงเหนียงได้เพคะ”
แววตาของเผยกุ้ยเฟยอ่อนโยน “คุณหนูเวินสุภาพเกินไปแล้วเปิ่นกงแค่ทำหน้าที่ของตนเองเท่านั้น”
ฮุ่ยเฟยแซ่เวิน แน่นอนว่าหลานสาวของนางต้องมาจากตระกูลเวิน
เวินซิ่วอี๋ลุกขึ้น “ฝ่าบาทโปรดรอสักครู่หม่อมฉันจะทำการแสดงให้รับชมเพคะ”
นางในที่อยู่ด้านหลังฮุ่ยเฟยถือม้วนกระดาษอยู่ในมือ พวกนางคลี่ม้วนภาพออก ทันใดนั้นภาพหมู่มวลดอกไม้ก็ปรากฏขึ้น
ดอกไม้งามสะพรั่ง มีสีสันสวยสดงดงามไปหมด ทั้งสีแดง น้ำเงิน เหลือง และเขียววางซ้อนกันเป็นชั้นๆ ซึ่งมีความหนาบางไม่เท่ากันเป็นภาพที่สวยเกิน กว่าจะบรรยาย ราวกับว่าดอกไม้ข้างในจะกลายเป็นของจริงในพริบตา
เมื่อทุกคนเพ่งมองดีๆ พบว่านี่ไม่ใช่ภาพวาด แต่เป็นงานปัก
ฮ่องเต้ยิ้ม “คุณหนูเวินมีฝีมือจริงๆ มีทักษะตั้งแต่อายุยังน้อย หากไม่ได้มองอย่างละเอียดคงนึกว่ามันเป็นภาพวาด งานปักที่มีจิตวิญญาณเช่นน นี้น่าทึ่งจริงๆ”
เผยกุ้ยเฟยกล่าวชมเชย “หากไม่พูดเปิ่นกงเองก็คิดว่าเป็นงานปักโดยช่างปักผ้าที่มีประสบการณ์มาสิบกว่าปี”
หยางชูมองไปที่ภาพวาดจากนั้นก็มองฮุ่ยเฟยแล้วพูดว่า “ภาพมวลดอกไม้นี้งามจริงๆ หากพูดถึงความสร้างสรรค์จะเริ่มจากตรงไหนดี”
แววตาของเขาดูยั่วยุเหมือนอยากสื่อว่า ‘ของเช่นนี้จะมาเทียบกับของข้าได้หรือ’
เวินซิ่วอี๋ก้มหน้าตอบว่า “เยวี่ยอ๋องโปรดรอสักครู่งานปักของหม่อมฉันเสร็จเพียงครึ่งเดียวยังขาดอีกเล็กน้อยเพคะ”
“อ้อ”
เวินซิ่วอี๋พูดเสียงกระซิบ “ในเมื่อเป็นมวลดอกไม้จะไม่มีผีเสื้อได้อย่างไร”
ฮ่องเต้แปลกใจ “เจิ้นคิดว่าเจ้าละเลยในจุดนี้หรือว่ามีอย่างอื่นอีกงั้นหรือ”
เวินซิ่วอี๋ตอบเสียงนุ่ม “ฝ่าบาทโปรดอนุญาตให้ใช้เข็มกับด้ายต่อหน้าพระพักตร์ด้วยเถิดเพคะ”
ฮ่องเต้พยักหน้า “ได้”
เวินซิ่วอี๋หยิบเข็ม และด้ายที่นางในส่งมาให้จากนั้นนางก็ปักเกสรดอกไม้ต่อหน้าทุกคน แต่เมื่อเห็นการปักที่ชำนาญของนางที่ปักเพียงไม่กี เข็มก็ชี้ให้เห็นถึงความละเอียดอ่อน นางปักทีละดอกอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นานนางก็เก็บเข็มกับด้าย แล้วให้นางในนำภาพปักไปที่ทางเข้า ท้องพระโรง
“ฝ่าบาท และเหนียงเหนียงโปรดรอสักครู่เพคะ” ท่าทีมั่นใจของนางทำให้ทุกคนรู้สึกอยากรู้อยากเห็น
หลังจากรอสักครู่ก็ได้ยินเสียงหึ่งในหู ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองเห็นผีเสื้อจำนวนหนึ่งบินมาจากด้านนอก พวกมันบินวนเวียนอยู่รอบหนึ่งสุดท้ายก็ หยุดอยู่บนเกสรดอกไม้บนผ้าปัก!
“ผีเสื้อจริงๆ!” อันอ๋องร้องขึ้น “น่าทึ่งมาก พวกมันมาจากที่ใดกัน”
เหมือนจริงมาก แต่ตอนนี้มันหน้าหนาว! ข้างนอกหิมะยังตกอยู่ผีเสื้อจะมาจากไหนกัน
เวินซิ่วอี๋ถูกจับจ้องจนรู้สึกเขินอาย หน้าแดงเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าวอวยพรวันเกิดให้แก่เผยกุ้ยเฟย “วันเกิดเหนียงเหนียงในต้นฤดูหนาวแม้มีห หิมะเฉลิมฉลอง แต่ก็สูญเสียสีสันไป ซิ่วอี๋จึงใช้ภาพมวลดอกไม้ดึงดูดผีเสื้อมาเพื่อแสดงความยินดีกับเหนียงเหนียงเพคะ”
เผยกุ้ยเฟยได้สติ ฮ่องเต้ลูบฝ่ามือแล้วหัวเราะเสียงดัง “น่าสนใจ สร้างสรรค์จริงๆ! อาเหยี่ยน ของขวัญชิ้นนี้ดีกว่าของเจ้าเยอะเลยเจ้ายอมหรือไม่ ”
หยางชูมีสีหน้าไม่พอใจเขาถูกข่มจนหมดคำที่จะพูด