คู่ชะตาบันดาลรัก - บทที่ 560 ทางลัด
ตัวฝูฟังแล้วไม่เข้าใจ “คุณหนู หมายความว่าอย่างไรหรือเจ้าคะ”
หมิงเวยถอนหายใจแล้วตอบว่า “มันอาจจะเป็นการกบฏก็ได้”
ตัวฝูตกใจ “อะไรนะเจ้าคะ”
ตอนนี้นางไม่ใช่สาวใช้ธรรมดาแล้วหมิงเวยทำเรื่องเหล่านี้ก็ไม่เคยหลีกเลี่ยงตัวฝูเลย ในแง่ของความเข้าใจในสถานการณ์ทางการเมืองตัวฝูลึกซึ้งยิ่งกว่าเจ้าหน้าที่ทั่วไป
กบฏ ช่างกล้าเกินกว่าจะคิดเรื่องนี้ไปหรือไม่
ขณะที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้หมิงเวยก็พูดว่า “สุขภาพของฮ่องเต้ไม่ค่อยดีนักในช่วงสองปีที่ผ่านมา แม้จะยังไม่ถึงจุดที่ใกล้สวรรคต แต่ผู้ใดจะพูดได้อย่างแน่นอนกัน ไม่แน่ใจว่าเมื อไรพระองค์จะจากไป…องค์ชายรองก่อความผิดเช่นนั้นขึ้นจนถูกริบยศ วิธีการปกติอาจใช้เวลานานไปกว่าจะล้างภาพลักษณ์นั้นในพระทัยของฮ่องเต้ออกไป และหลังจากที่เขาออกมายิ่งคิดถึงอัน อ๋องยิ่งรู้สึกว่าทุกอย่างยากขึ้นกว่าการแข่งขันครั้งก่อนกับไท่จื่อ”
หยางชูพยักหน้า “สิ่งที่เขาก่อนั้นไม่ธรรมดา วางแผนใส่ร้ายรัชทายาท และพี่น้อง เหล่าผู้อาวุโสในราชสำนักไม่มีทางเห็นด้วยที่จะให้เขากลับมามีอำนาจอีกครั้ง แม้วันหนึ่งจะไม่มีองค์ชายค คนอื่นให้เลือกแล้วพวกเขาก็ยินดีที่จะหาผู้สืบทอดจากสายรองมากกว่าสนับสนุนองค์ชายรอง”
ความผิดนี้ร้ายแรงเกินไปหากแผนร้ายของเขาไม่ได้ถูกเปิดเผยจะกลายเป็นชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร แต่เขาถูกเปิดเผยความผิด และถูกตัดสินโทษต่อหน้าสาธารณะชนซึ่งเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงไ ได้
“ดังนั้นองค์ชายรองต้องการเติมเต็มความปรารถนาของเขา ในที่นี้มีจุดที่ยากอยู่สองจุด หนึ่งคือเวลา สองคือจิตใจของประชาชน สองจุดนี้โดยพื้นฐานแล้วปิดกั้นความเป็นไปได้ของการขึ้ นครองบัลลังก์แทนที่จะใช้เวลา แทนที่จะค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เป็นการดีกว่าที่จะแย่งชิงแผ่นดินมาในคราวเดียว”
ฟู่จินยิ้ม “หากเปลี่ยนเป็นข้าก็จะทำเช่นนั้นดูเหมือนว่ามีผู้เชี่ยวชาญอยู่รอบๆ องค์ชายรอง นี่เป็นการทุบหม้อข้าวจมเรือ[1] แต่ก็สามารถพูดได้ว่าเป็นโอกาสเดียวสำหรับองค์ชายรอง”
หมิงเวยถามว่า “ด้วยกำลังขององค์ชายรองจะทำสิ่งนั้นได้หรือเจ้าคะ แม้ว่ากำลังหลักของกองทหารรักษาพระองค์จะเดินทางไปกับฮ่องเต้ แต่ความแข็งแกร่งของทหารรักษาการณ์ในเมืองหลวงก็ไ ไม่ควรมองข้ามเลย”
ฟู่จินพูดว่า “ก่อนหน้านี้องค์ชายรองโน้มน้าวคนอื่นให้สนับสนุนตนมาไม่น้อย ในนั้นอาจมีคนที่ใช้ได้อยู่บ้าง” เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บางทีสามัญชนอาจสร้างผลกระทบอย่างมาก ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้มันอย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นข้าจำได้ว่าในบรรดาผู้ที่สนับสนุนองค์ชายรองมีนายทหารรุ่นเยาว์อยู่จำนวนหนึ่งไม่แน่ใจว่าอาจมีใครสักคนที่เป็นประโยชน์ได้”
หยางชูพูดเสียงต่ำ “พายุกำลังจะมาแล้ว!”
ฟู่จินยิ้ม “ท่านอ๋องอย่าได้กังวลเรื่องนี้สำหรับพวกเราแล้วก็เป็นโอกาสที่ดี”
หยางชูมองเขา
ฟู่จินค่อยๆ สะกิดให้เขาครุ่นคิด “นอกจากจะยึดเมืองหลวงแล้ว องค์ชายรองยังอยากขึ้นครองบัลลังก์ ในขณะเดียวกันก็คิดจะโค่นล้มฮ่องเต้ลง ดังนั้นที่พระราชวังอี๋ชุนคงมีการจัดเตรียมพ พร้อมด้วย หากพวกเราผลักดันไปข้างหน้า ปล่อยให้พวกเขาทำสำเร็จอย่างราบรื่น และสังหารไท่จื่อรวมถึงอันอ๋อง เมื่อถึงเวลานั้นท่านอ๋องออกหน้า และได้เป็นที่รักของประชาชน”
เขายิ้ม “องค์ชายรองถูกประหาร นอกจากท่านแล้วผู้ใดจะมีคุณสมบัตินั่งในตำแหน่งนั้นอีก”
หมิงเวยฟังก็เลิกคิ้ว มันก็เป็นความคิดที่ดีอยู่หรอก ชื่อเสียงในด้านเลวร้ายทั้งหมดองค์ชายรองเป็นคนแบกรับไว้ หยางชูผู้ซึ่งเป็นฝ่ายออกโรงเก็บกวาดทำให้ทั้งโลกหล้ามาสยบแต่…
หยางชูส่ายหน้า
ฟู่จินถาม “ท่านอ๋องคิดว่านี่เป็นความคิดที่ไม่ดีหรือ”
หยางชูพูด “อาจารย์ ความคิดนี้ดีมาก ตั๊กแตนไล่จับจักจั่น นกขมิ้นอยู่ข้างหลัง[2] พวกเราจะได้รับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดโดยใช้ต้นทุนน้อยที่สุด”
“แล้วเหตุใดท่านอ๋องถึงส่ายหน้าเล่า”
“แต่ข้าไม่คิดทำเช่นนั้น” หยางชูพูด
ฟู่จินพูด “เส้นทางของฮ่องเต้ถูกกำหนดให้เป็นเส้นทางนองเลือด ย่อมเลี่ยงที่จะคิดแผนร้ายไม่ได้”
หยางชูยังคงส่ายหน้า “ข้าปฏิเสธมีเหตุผลสองข้อ”
เขามองฟู่จินแล้วพูดว่า “หนึ่ง ความยากสูงเกินไป ท่านคิดว่าเหล่าผู้อาวุโสจะไม่สังเกตเห็นเลย และปล่อยให้พวกเราทำเรื่องเช่นนั้นหรือ”
ฟู่จินคิดตาม “ถึงเป็นเช่นนั้น แต่ไม่ใช่ว่าร่วมมือกันไม่ได้”
อันที่จริงเขากระตือรือร้นที่จะลองหากสามารถหลอกเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายได้สำเร็จ และตอบโต้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันช่างน่าสนุกเสียนี่กระไร!
หยางชูพูด “สิ่งที่ข้าต้องการคือการไร้ข้อผิดพลาด แต่แผนนี้ความเสี่ยงสูงมาก”
ฟู่จินเม้มปาก และไม่ปฏิเสธ
“ท่านไปขอร้องที่หน้าประตูหลู่เซียงอยู่หลายรอบ ด้วยสติปัญญาของเขาจะมองแผนการของท่านไม่ออกเลยหรือ มันเป็นเพียงความบังเอิญของหลู่เซียง หลู่เซียงช่วยพวกเราหลายครั้ง หากไม่ม มีเขาพวกเราก็คงไม่ผ่านได้ง่ายๆ หากเราดำเนินการตามแผนนี้จริงๆ หลู่เซียงต้องไม่พอใจอย่างแน่นอน หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดีก็ดีไป แต่หากไม่สำเร็จหลังจากนี้พวกเราจะสูญเสียการสนับสน นุนที่แข็งแกร่งอย่างหลู่เซียง และปล่อยให้เขายืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพวกเรา” ฟู่จินยอมรับว่าเขาพูดถูก
ผู้อาวุโสหลู่เซียงเป็นคนดื้อรั้นมาก การที่เขายอมพวกเราไม่มีอะไรไปมากกว่าเหตุผลที่เหล่าองค์ชายในตอนนี้ล้วนใช้ไม่ได้ ในใจของเขาหากหยางชูทำเช่นนั้นขึ้นมาคงถูกจัดอยู่ในกล ลุ่มพวกที่ทำอะไรไม่เข้าท่า
“นอกจากนี้…จังหวะเวลาไม่ถูกต้อง กำลังลับของพวกเราไม่เล็ก แต่มีขุนนางสำคัญในราชสำนักยืนอยู่ข้างเรากี่คนกัน แม้ว่าแม่ทัพจงจะมีอำนาจทางทหาร แต่เขาอยู่ไกลถึงซีเป่ย และไม่มีอำน นาจทางทหารส่วนใดที่อยู่ใกล้เมืองหลวงที่อยู่ในมือของเรา หากพวกเราลงมือจะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากเพียงใดกัน”
ฟู่จินถอนหายใจ “แล้วเหตุผลที่สองเล่า”
“สอง…” หยางชูหลับตาลงแล้วพูดเสียงกระซิบ “ข้าไม่ต้องการให้จบลงเช่นนี้”
ฟู่จินตกใจ
ได้ยินเขาอธิบายว่า “ข้าต้องการให้แน่ใจว่าท่านปู่ท่านย่าเสียชีวิตอย่างไร เขาไม่ได้เป็นคนฆ่าใช่หรือไม่ และที่ครอบครัวของข้าจบชีวิตลง เขามีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้หรือไม่ อีกอย่าง…ท่านแม่ได้รับความทุกข์มายี่สิบปี พูดเช่นนี้อาจจะดูไร้เดียงสา แต่อาจารย์…ข้าอยากให้เขาสารภาพท่านเข้าใจหรือไม่”
ฟู่จินเงียบ ในฐานะที่ปรึกษา เขาต้องบอกว่าความคิดของหยางชูนั้นไร้เดียงสาจริงๆ ยอมรับหรือไม่ยอมรับความผิดไม่สำคัญ ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจรคือกุญแจสำคัญ ขอเพียงได้นั่งอยู่ใน ตำแหน่งนั้นได้มีอำนาจก็มีคุณสมบัติที่จะพูดอย่างอื่นได้ อย่างไรก็ตามเหตุผลที่เขาเสี่ยงเช่นนี้ และสนับสนุนเขาในเส้นทางนี้ ไม่ใช่เพราะเด็กคนนี้ยังคงมีหัวใจที่บริสุทธิ์หรอกหร รือ หากทำลายเขาด้วยน้ำมือของตนเอง…
หลังจากนั้นไม่นานฟู่จินก็ยอมรับความพ่ายแพ้ “เอาล่ะ ท่านอ๋องโน้มน้าวข้าสำเร็จ พวกเรายอมแพ้กับแผนการนี้”
หยางชูยิ้ม และกล่าวอย่างจริงใจว่า “ขอบคุณท่านมาก”
ฟู่จินส่ายหน้า “มันเป็นทางเลือกของท่านอ๋อง หากเราละทิ้งโอกาสดีๆ เช่นนี้ พวกเราก็จะมีแต่ทางที่ยากขึ้นเท่านั้น”
หมิงเวยยิ้มตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้นางประหม่าแม้ว่านางจะเชื่อในตัวเขา แต่ก็กลัวว่าเขาจะถูกหลอกโดยอำนาจ และไม่สามารถควบคุมเขาได้
“ข้าไม่คิดว่ามันยากไปกว่านี้แล้ว” หยางชูพูด “การเดินบนเส้นทางสายนี้ ไม่เพียงแต่เพื่อแก้แค้น แต่ยังเพื่อให้อนาคตที่ดีกว่าแก่ใต้หล้าด้วย หากเรื่องนี้มีจุดที่ไม่ดีก็จะทำ ำให้เกิดความปั่นป่วน และหากเป็นเช่นนั้นก็จะไม่เป็นผลดีต่อแคว้นฉี ดังนั้นจึงไม่มีทางลัด”
หมิงเวยยิ้มมากขึ้นเพียงเพราะเหตุผลนี้ สิ่งที่นางต้องการทำไม่ใช่เพื่อช่วยให้เขากลายเป็นใหญ่ในใต้หล้า แต่หลังจากที่เขาขึ้นครองบัลลังก์ใต้หล้าจะมีอนาคตที่ดีกว่า
นี่เป็นรากฐาน
“เอาล่ะๆ ข้าเถียงสู้ท่านไม่ได้เลย” อาจารย์ฟู่มีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย “ในเมื่อวิธีนี้ใช้ไม่ได้พวกเราต้องหาวิธีอื่น…”
……………
[1] ทุบหม้อข้าวจมเรือ : การตัดสินใจที่เด็ดขาดที่เมื่อคิดจะทำแล้วต้องทำต่อไปให้ถึงที่สุดนั่นเอง
[2] ตั๊กแตนไล่จับจักจั่น นกขมิ้นอยู่ข้างหลัง : เปรียบเปรยถึงผู้ที่ไร้วิสัยทัศน์ มักเล็งผลระยะสั้นโดยไม่ระวังว่าจะมีผลร้ายในระยะยาวรออยู่