คู่ชะตาบันดาลรัก - บทที่ 593 หญิงสารเลว
ตอนนี้ฮุ่ยเฟยหมดอำนาจแล้ว กุ้ยเฟยกลับเป็นสนมที่มีอำนาจเหนือกว่าในวังหลังอีกครั้ง นางในจะกล้าละเลยนางได้อย่างไร
ทั้งเตาถ่าน ทั้งน้ำร้อน หลังจากนั้นไม่นาน ห้องนอนของฮุ่ยเฟยก็ดูใหม่ และกลับมาอบอุ่นอีกครั้ง
“ฮุ่ยเฟยเจี่ยเจีย ดื่มน้ำสักหน่อยเถิด” เผยกุ้ยเฟยเดินเข้าไปหา “ดูท่านสิ ปากแห้งหมดแล้ว”
ผ่านไปครู่หนึ่งฮุ่ยเฟยก็ลืมตาขึ้นนางมองดูน้ำชาที่ทางวังส่งมาให้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “จนถึงตอนนี้ยังมีเจ้าที่มาดูข้า เป็นข้าที่ตาบอดส่วนเจ้ากลายเป็นคนที่ดีที่สุดใน วัง”
เผยกุ้ยเฟยพูดเสียงเรียบเฉย “ข้าจะดีหรือไม่ไม่สำคัญท่านไม่ควรต้องทรมานตัวเองเช่นนี้จริงๆ”
ฮุ่ยเฟยดูเหมือนจะเคยได้ยินประโยคเหล่านี้ หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งนางก็รับน้ำร้อนมจากนางในแล้วดื่มช้าๆ
เผยกุ้ยเฟยรับสั่งต่อ “ไปบอกห้องเครื่องให้นำข้าวต้มมา ฝ่าบาทยังไม่ได้ตัดสินความผิด บอกพวกเขาอย่าสะเพร่า”
“เพคะ”
คำพูดของเผยกุ้ยเฟยห้องเครื่องมีหรือจะกล้าสะเพร่า หลังจากนั้นไม่นานก็มีอาหารวางบนโต๊ะ ฮุ่ยเฟยทานข้าวต้มเงียบๆ พลางมองนางในทำความสะอาดแล้วพูดว่า “ในเมื่อน้องสาวมาแล้วช่วยฟัง งข้าพูดอะไรสักหน่อยได้หรือไม่” เผยกุ้ยเฟยพยักหน้า
ขันทีข้างกายนางเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา เผยกุ้ยเฟยพูดว่า “พวกเจ้าไปเฝ้าประตูข้างนอก”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อทุกคนจากไปฮุ่ยเฟยที่ห่มตัวเองด้วยขนสัตว์ก็เดินไปนั่งบนเก้าอี้ จากนั้นถามนางว่า “ฝ่าบาทคิดจะทำอย่างไรกับข้าหรือ ประทานสุราพิษ หรือแขวนคอฆ่าตัวตาย”
เผยกุ้ยเฟยตอบกลับว่า “ไม่มี ฝ่าบาทไม่ได้คิดจะจัดการพี่สาวเลย”
ฮุ่ยเฟยยกมุมปากเยาะเย้ย “นี่เป็นความเมตตาครั้งสุดท้ายของเขาใช่หรือไม่”
เผยกุ้ยเฟยพูด “ฝ่าบาทเป็นฮ่องเต้ผู้ทรงเมตตา”
“ฮ่องเต้ผู้ทรงเมตตางั้นหรือ” จู่ๆ น้ำเสียงของฮุ่ยเฟยก็แหลมขึ้น สายตาจ้องมองนางแล้วถามว่า “นั่นเป็นคำพูดที่มาจากใจเจ้าจริงๆ หรือ” เผยกุ้ยเฟยเงียบ
ฮุ่ยเฟยถอนหายใจด้วยความสงสาร “เผยหรงอาเผยหรง ถึงแม้ตอนนี้ข้าจะเสียบุตรชายไปแล้ว ตนเองก็ไม่ต่างอะไรกับการอยู่ตำหนักเย็น แต่พอคิดดูอีกที เจ้าต่างหากคือผู้ที่น่าสงสารที่สุด ด! รสชาติของการมีบุตรชาย แต่ไม่สามารถยอมรับได้เป็นอย่างไร การอยู่กับศัตรูทั้งวันทั้งคืนคงเจ็บปวดมากใช่หรือไม่”
เผยกุ้ยเฟยพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “พี่สาวพูดอะไร ข้าไม่เข้าใจ”
สีหน้ายิ้มเยาะของฮุ่ยเฟยดูแรงขึ้น “ต่อหน้าข้าเจ้าจะเสแสร้งไปทำไมกัน บุตรชายก็ตายไปแล้ว ข้าเองก็แก่ลงสูญสิ้นซึ่งความงามไม่มีโอกาสฟื้นตัวใหม่ได้ เช่นนี้แล้วเจ้ายังไม่พูดอะไ ไรเลยหรือ ช่างน่าทึ่งจริงๆ!” เผยกุ้ยเฟยไม่ตอบโต้อะไรแม้แต่น้อย
ฮุ่ยเฟยพูดต่อว่า “เจ้าไม่ต้องแสร้งทำต่อหน้าข้าหรอก เรื่องที่ข้ารู้เกรงว่าจะรู้มากกว่าเจ้าเสียอีก อย่าคิดว่าเจ้าจะหัวเราะเป็นคนสุดท้าย คนผู้นั้นเป็นคนเช่นไรข้ารู้จักเขา มากกว่าเจ้า เจ้าทำเช่นนี้แม้เขาจะประทับใจ แต่ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น เขาเป็นคนเลือดเย็น สิ่งที่เรียกว่าความรู้สึกก็เป็นเพียงหน้ากากที่เขาสวมใส่ก็เท่านั้น ผู้ใดบอกว่าเขาไร้คว วามสามารถกัน ในแง่ของความสามารถเขาไม่เก่งเท่าพี่ชายทั้งสามคน ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงใช้ความเมตตาห่อหุ้ม และปลอบโยนตัวเอง”
“ที่เขาไม่จัดการกับข้าก็เพราะรู้ว่าข้าไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้ เฉิงเอ๋อร์ไม่อยู่แล้วข้าจะคาดหวังอะไรได้อีก แต่เจ้าคงได้รับความสำคัญได้อีกไม่นานหรอก” นางโน้มตัวเข้าไปพูด ดข้างหูเผยกุ้ยเฟย “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าวันนั้นที่เขาตายเขาจะพาเจ้าไปด้วย”
คำพูดนี้ช่างเยือกเย็นไปจนถึงกระดูกฮุ่ยเฟยถอยกลับมาแล้วมองเผยกุ้ยเฟยด้วยรอยยิ้ม แต่น่าเสียดายที่เผยกุ้ยเฟยยังคงนิ่งเฉย
“พี่สาวอย่าคิดเช่นนั้น” นางพูด “ถึงแม้โลกใบนี้จะอยู่ยาก แต่ผู้ใดจะไม่อยากอยู่ล่ะ”
ฮุ่ยเฟยมองนาง “แล้วเจ้าล่ะอยากมีชีวิตอยู่หรือไม่ เจ้าคงคิดว่าบุตรชายเติบใหญ่แล้วก็อยากกลับไปอยู่พร้อมหน้ากันใช่หรือไม่” แน่นอนว่าเผยกุ้ยเฟยไม่ตอบนาง
ดูเหมือนฮุ่ยเฟยคุยกับนาง แต่ก็เหมือนคุยกับตัวเอง “ข้าอิจฉาเจ้ามาก! แม้จะเป็นเวลายี่สิบปี…แต่เจ้าก็อดทนจนพ้นผ่านมาได้ เด็กนอกคอกคนนั้นโตมาได้ดีเลยทีเดียว! หากไม่ใช่เพรา าะเขาคอยกดอยู่คงจะมีความหวังมากอย่างแน่นอน น่าเสียดายที่ตัวตนของเขาถูกกดไว้จนไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้เว้นเสียแต่ว่า…”
เผยกุ้ยเฟยยังคงไม่พูดอะไร
ฮุ่ยเฟยรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยคำพูดของนางยิ่งกำเริบเสิบสานมากขึ้นราวกับว่าจงใจแทงใจของเผยกุ้ยเฟย “เจ้าเสียใจมากใช่หรือไม่ หากเรื่องนั้นไม่ได้เกิดขึ้นตั้งแต่แรก เจ้าในตอนนี้คงได ด้เป็นเจ้าของวังหลังอย่างแท้จริง เป็นมารดาของใต้หล้า และบุตรชายของเจ้าจะสืบทอดตำแหน่งนั้นในอนาคตกลายเป็นฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ไม่เหมือนตอนนี้เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปจึงต้องยอมให้ เขากดขี่”
เผยกุ้ยเฟยพูดเสียงเรียบเฉย “อดีตไม่สามารถย้อนกลับคืนมาได้ พี่สาวโปรดอย่าหลงระเริงกับอดีตตลอดเวลามันไม่ดีสำหรับผู้ใด”
“เจ้าระวังตัวจริงๆ” ฮุ่ยเฟยยิ้มเยาะ “กลัวว่าเขาจะได้ยินหรือ ไม่กล้าเปิดเผยความในใจหรืออย่างไร”
เผยกุ้ยเฟยมองนางแล้วถอนหายใจ “พี่สาว ข้ามาเยี่ยมท่านเพราะความผูกพันยี่สิบปีของพวกเรา ท่านทำเช่นนี้จะได้ประโยชน์อะไร”
“แต่ถ้าข้าไม่ทำเช่นนี้จะมีประโยชน์อะไร” ฮุ่ยเฟยละทิ้งเปลือกนอกของตนเองราวกับว่านางต้องการระบายความคับข้องใจที่มีมานานกว่ายี่สิบปี
“เจ้าดูข้าสิ ตั้งแต่เข้ามาในจวนจ้าวอ๋อง ข้าเคยทำผิดที่ไหน แต่เกิดอะไรขึ้นในท้ายที่สุด ข้าไม่มีอะไรจะขอ คนที่ไม่มีความหวังจะมาสนใจอะไรกับคำว่าดีหรือไม่ดี แม้แต่การมีชีวิ ตอยู่ก็ไม่จำเป็นสำหรับข้า”
เผยกุ้ยเฟยถอนหายใจ และยืนขึ้น ไม่อยากคุยกับนางไปมากกว่านี้ “พี่สาวพักผ่อนเถอะ!”
แต่นางก็ถูกฮุ่ยเฟยรั้งไว้ แรงของฮุ่ยเฟยนั้นมากจนน่าประหลาดใจ ใบหน้าของนางบิดเบี้ยวไร้การเติมแต่งมองเห็นจุดด่างดำได้อย่างชัดเจน ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
นางพูดเสียงกระซิบ “เผยหรง เจ้าไม่อยากรู้หรือว่าเรื่องนั้นเป็นฝีมือของเขาหรือไม่ เจ้าไม่อยากถามข้าหรือ ข้าบอกเจ้าแล้วว่าข้ารู้มากกว่าที่เจ้าคิด!”
ตั้งแต่เผยกุ้ยเฟยเข้ามานางก็เป็นบ้าเช่นนี้มาตลอดนางอยากเห็นเผยกุ้ยเฟยยั้งสติไม่อยู่ คาดหวังว่านางจะไล่ถามตน แต่นางก็ไม่ถาม
ฮุ่ยเฟยไม่เข้าใจนางทนได้ถึงเพียงนี้เลยหรือ
เมื่อเห็นว่าเผยกุ้ยเฟยไม่ขยับเขยื้อน จนกระทั่งมือที่จับนางไว้ใกล้สลัดหลุด ฮุ่ยเฟยก็โพล่งออกมาว่า “ข้าจะบอกเจ้า! เรื่องนั้นเป็นฝีมือของเขาเอง ครั้งแรกที่เขาเห็นเจ้าก็มีค ความคิดที่อยากจะแย่งชิงมา ข้าเคยเห็นรูปเหมือนที่เขาวาดในห้องหนังสือที่จวนจ้าวอ๋อง เห็นได้ชัดว่าเป็นเจ้า! ตอนนี้เจ้าเข้าใจแล้วหรือยัง เขาทำเรื่องพวกนี้ก็เพื่อแย่งชิงเจ้าม มาเป็นเจ้าที่ทำร้ายไท่จื่อ ทำร้ายสามี และทำร้ายบุตรชายของตนเอง! ฮ่าๆๆ!” เผยกุ้ยเฟยจับมือที่รั้งนางไว้ออกอย่างมั่นคง
นางมองดูฮุ่ยเฟยที่เสียสติ รอยยิ้มแปลกประหลาดปรากฏขึ้นบนใบหน้างามแล้วพูดเสียงกระซิบที่เบามากจนมีเพียงสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน “ท่านคิดว่าพูดเช่นนี้แล้วข้าจะรับไม่ได้งั้น หรือ พี่สาวเหตุใดท่านถึงไร้เดียงสาเช่นนี้ สำหรับบุรุษแล้วการแย่งชิงอำนาจเพื่อแย่งสตรีผู้หนึ่งมาเป็นข้อแก้ตัวที่ไร้สาระที่สุด! เขายึดอำนาจเพียงเพราะเขาต้องการเป็นใหญ่ ไม่ใช่เพ พื่อข้า ข้าเป็นเพียงแค่เหยื่อ”
ฮุ่ยเฟยถอยออกไปเล็กน้อยมองดูสีหน้าของนางที่แสดงความเห็นอกเห็นใจอย่างยิ่ง “ท่านมีชีวิตอยู่มาหลายปีแล้ว แต่ท่านก็ยังไม่เข้าใจ วางใจเถอะข้าจะมีชีวิตที่ดีเพื่อท่านเอง”
จากนั้นเผยกุ้ยเฟยก็เดินจากไป ผ่านไปครู่หนึ่งฮุ่ยเฟยก็กรีดร้องออกมาจากข้างใน “เผยหรง หญิงสารเลว!”
…………….