คู่ชะตาบันดาลรัก - บทที่ 602 ผิดแล้ว
หลุมมีขนาดไม่ใหญ่มากซึ่งซ่อนได้สองคนพอดี หมิงเวยดึงกิ่งไม้ที่แห้งตายแล้วยกขึ้นบัง ตนทำได้แค่อาศัยก้อนหินซ่อนตัว และสังเกตสถานการณ์
“คนล่ะ อยู่ที่ใด” หมิงเวย และอาหว่านตกตะลึงเมื่อได้ยินบทสนทนาภาษาหู
หูเหรินงั้นหรือในเมืองหลวงจะมีหูเหรินได้อย่างไร
“รีบหาเร็วเข้า! น่าจะอยู่แถวนี้ ท่านข่านมีคำสั่งจับเป็นได้ให้จับเป็นจับไม่ได้ให้ฆ่าซะ!”
“ขอรับ”
หมิงเวยเข้าใจทันที ท่านข่านที่พวกเขาพูดถึงต้องเป็นซูถูแน่ มีเพียงซูถูเท่านั้นที่เกลียดชังนาง และต้องการชีวิตนางอย่างสุดใจ เด็กคนนั้นส่งคนเดินทางไกลหลายพันลี้มายังหยุนจิ งเพื่อลอบสังหารนาง เขาเกลียดนางเข้ากระดูกดำจริงๆ !
อาหว่านเงยศีรษะขึ้นในหลุม และมองนางอย่างสงสัย
หมิงเวยทำปากเป็นคำว่าหัวหน้าเผ่าหู อาหว่านเข้าใจ ถึงแม้นางไม่ได้ตามไปหูตี้ด้วย แต่เรื่องที่พวกเขาทำมีหรือที่นางจะไม่รู้ ชาวหูเหล่านั้นค้นหาเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ พวกเข ขาแต่ละคนได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้หลบหนีไปไหนไม่ได้
หากเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ดีแน่ หมิงเวยถอนหายใจแล้วตัดสินใจที่จะออกไป
เป้าหมายของพวกเขาคือนาง ขอเพียงจับนางได้ อาหว่าน และจี้เสียวอู่ก็จะไม่ติดร่างแหไปด้วย
เมื่อฟังในสิ่งที่พวกเขาพูด ซูถูยังต้องการจับเป็นหากนางไม่ขัดขืนก็จะสามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้ชั่วขณะหนึ่ง หากเป็นเช่นนี้อย่างน้อยก็สามารถรอให้หยางชูมาช่วยได้
เมื่อตัดสินใจได้แล้วนางก็จะลุกขึ้นผู้ใดจะรู้ว่าอาหว่านจะรั้งนางเอาไว้
หมิงเวยเห็นนางกวักมือเรียกจึงเอนตัวเข้าไปหาด้วยความสงสัย แต่แล้วก็รู้สึกเจ็บที่หลังคอ ร่างกายที่เดิมทีได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้วอ่อนแรง และตกลงไปในหลุม
อาหว่านประคองนางแล้วถามเสียงเบาที่ข้างหู “ท่านคิดจะออกไปล่อพวกเขาใช่หรือไม่” หมิงเวยกะพริบตา
“ข้าไปเองเจ้าค่ะ” อาหว่านพูด
หมิงเวยกังวลเล็กน้อย แต่ร่างกายของนางไร้เรี่ยวแรงมาก
อาหว่านที่ได้รับบาดเจ็บน้อยกว่านางกดนางลงแล้วพูดเสียงเบา “หากท่านหายตัวไปท่านอ๋องจะเสียใจมาก”
หากเจ้าหายไปเขาเองก็เสียใจเช่นกัน!
หมิงเวยพูดไม่ออกตามองดูนางถอดเสื้อคลุมของตนออกแล้วทำการแลกเปลี่ยนเสื้อผ้า
อาหว่านมัดสายรัดเอวใช้มือแตะฝุ่นบนพื้นมาถูหน้าจากนั้นก็เอนตัวไปกระซิบข้างหูนาง “มาช่วยข้าด้วยนะเจ้าคะ” จากนั้นนางก็ปีนขึ้นจากหลุมโดยไม่ลังเล
หมิงเวยฟังเสียงจากด้านนอก
“เจอแล้ว ทางนี้!”
“ปีนขึ้นไป!”
“รีบไปเร็ว!”
หูเหรินผู้เป็นหัวหน้าดึงเสื้อคลุมห่อตัวอาหว่านที่เคลื่อนไหวไม่ได้จากนั้นก็แบกขึ้นไหล่แล้วเดินจากไป พวกเขารีบวิ่งไปถึงที่นัดหมาย
ซูถูที่ถอนตัวออกมาแล้วเหลือบมองคนที่อยู่บนไหล่ของอีกฝ่าย “จับได้แล้วหรือ”
“ขอรับ ท่านข่าน”
“ไปกันเถอะ!”
“ขอรับ”
เมื่อเขาตัดสินใจเดินทางผู้ใต้บังคับบัญชาต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็รีบนำม้าที่เตรียมไว้มาอย่างรวดเร็ว คนกลุ่มหนึ่งขี่ม้าพาอาหว่านที่ถูกห่อตัวออกจากเมืองหลวง
วันฉางเซิงเกิดความวุ่นวายเช่นนี้ทางการจะต้องมาจัดการแน่นอน พวกเขาที่เป็นชาวหูซึ่งไม่สามารถตรวจสอบตัวตนได้จะกล้าอยู่ต่อได้อย่างไร จึงต้องอาศัยโอกาสที่ทางการยังเดินทางมาไม่ถึง งรีบออกจากเมืองหลวงในชั่วข้ามคืน
พวกเขาวิ่งเกือบตลอดทั้งคืนพริบตาเดียวก็ผ่านมาสองเมืองใหญ่แล้วจนกระทั่งฟ้าสางพวกเขาถึงหยุดเดินทาง พวกเขาหาที่สำหรับพักผ่อน และหาอะไรกิน
ซูถูชะลอความเร็วลงแล้วให้คนปลดผ้าคลุมเพื่อดูว่าสตรีผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ และทันทีที่ถอดผ้าคลุมออกเขาก็ตกตะลึงเมื่อเห็นสตรีที่กลิ้งตกลงมา
แม้ว่าใบหน้าของนางจะเต็มไปด้วยฝุ่น แต่เขาก็จำได้ทันที
“นี่คือผู้ที่เจ้าจับมางั้นหรือ” เขาถามผู้ใต้บังคับบัญชา
ผู้ใต้บังคับบัญชาเข้ามามองใกล้ๆ ก็ตกใจเป็นอย่างมาก “เหตุใดถึงเป็นนาง! ข้าน้อยเห็นชัดเจนว่า…” ซูถูเลิกคิ้วแล้วมองหันกลับไป
หลังจากเดินทางมาหนึ่งคืน หยุนจิงก็อยู่ห่างจากพวกเขาไปหลายร้อยลี้แล้ว หากตอนนี้จะกลับไปจับสตรีผู้นั้นก็ไม่ทันเสียแล้ว
เขาก้มหน้าสัมผัสมือของอาหว่านแล้วถอนหายใจ “ไปเอาน้ำร้อนมา”
ในสภาพอากาศที่หนาวเหน็บเช่นนี้อีกทั้งยังอยู่บนหลังม้าทั้งคืน เมื่อมองดูสภาพร่างกายของนางก็พบว่านางได้รับบาดเจ็บหากไม่ดำเนินการใดๆ นางอาจจะไม่สามารถอยู่รอดได้
หลังจากเช็ดมือเช็ดเท้าในที่สุดอาหว่านก็ได้สติ เมื่อนางลืมตาขึ้นก็ไม่แน่ใจว่าตนเองอยู่ที่ใด นี่นางฝันอยู่หรือ เหตุใดคุณชายซู…
“ฟื้นแล้วหรือ ดื่มน้ำก่อนเถอะ” อาหว่านตกตะลึง และปล่อยให้เขาป้อนน้ำร้อน สติของนางเลยค่อยๆ ฟื้นตัว
“ที่นี่ที่ใด ข้าไม่ได้…”
ในช่วงเวลาอันสั้นนางก็เข้าใจในทันทีสายตาจ้องมองซูถูด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อแล้วถามเสียงสั่นว่า “ท่าน ท่านคือหัวหน้าเผ่าหูงั้นหรือเจ้าคะ”
สีหน้าของซูถูเงียบสงบมาถึงจุดนี้แล้วไม่มีอะไรต้องปิดบังอีกต่อไป
เมื่อได้รับการยืนยันอาหว่านก็อยากจะตบตัวเองให้ตาย นางพลาดโอกาสไปหลายครั้ง! หากนางรู้เร็วกว่านี้คง…
“ท่านคิดจะฆ่าข้าหรือ” เสียงของซูถูดังขึ้น
อาหว่านเงยหน้ามองเขา แววตาของซูถูดูสับสนมากเขารู้สึกเหลือเชื่อเล็กน้อยแล้วซ่อนความรู้สึกเสียใจ “ท่านรู้สถานะของข้าแล้วปฏิกิริยาแรกของท่านคือต้องการสังหารข้า”
จิตสังหารเมื่อครู่เขาเข้าใจไม่ผิดแน่เขาสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของนางอย่างชัดเจน
อาหว่านก้มหน้าพูดเสียงเบา “ท่านเป็นหัวหน้าเผ่าหู ก่อนหน้านี้ยังคิดจะให้ข้าร่วมเดินทางไปกับท่านอีกหรือเจ้าคะ”
“มันคนละเรื่องกัน”
อาหว่านยิ้มเยาะ “คนละเรื่องงั้นหรือเจ้าคะ มันต่างกันตรงไหนหรือ หากรู้ว่าท่านเป็นหัวหน้าเผ่าหู…”
“แล้วอย่างไร”
อาหว่านส่ายหน้าแล้วพูดพึมพำ “คุณชายซูๆ ข้าไม่คิดเลยว่าคำว่าซูนั้นมาจากหัวหน้าเผ่าหูซูถู! ช่างน่าขันจริงๆ…”
น่าขันเสียจริง! นางใจเต้นแรงกับเขา หากไม่ใช่เพราะไม่เต็มใจแยกจากพวกท่านอ๋อง บางทีนางอาจจะ…
“เรื่องนี้มีอะไรน่าขันงั้นหรือ” เมื่อซูถูรู้ว่าคนที่ถูกลักพาตัวมาเป็นนางเขาทั้งประหลาดใจ และดีใจ
เขาคิดว่าโชคชะตาเล่นตลกให้มาจับพลัดจับผลูเช่นนี้ ในเมื่อได้นางกลับมาย่อมหมายความว่าพวกเขามีชะตาต้องกัน ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยนางกลับไป เขาสามารถพานางกลับไปที่ทุ่ง งหญ้าได้ แต่เมื่อนางรู้สถานะของเขา กลับกลายเป็นเรื่องน่าขันงั้นหรือ
“ท่านคิดว่าไม่น่าขันหรือเจ้าคะ” อาหว่านเงยหน้ามองด้วยสายตาแข็งกร้าว
“ท่านพูดกับข้าเช่นนั้น แต่กลับปกปิดตัวตนของตนเอง หากข้าตามท่านมาจริงๆ สถานการณ์ในตอนนี้จะเป็นอย่างไร”
“แล้วสถานการณ์เป็นอย่างไรเล่า” ซูถูไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดนางถึงโกรธ
“พวกเราเป็นศัตรูกัน!” อาหว่านขึ้นเสียง “ข้าเป็นคนจงหยวนเป็นคนแคว้นฉี! ท่านให้ข้าไปดินแดนศัตรูให้จากบ้านเกิด หลังจากนี้ข้าก็จะเป็นศัตรูกับครอบครัวของตนเอง”
ซูถูยิ่งไม่เข้าใจ “ท่านจะอาลัยอาวรณ์กับดินแดนนี้ไปทำไมกัน ท่านเป็นนางในที่ขึ้นทะเบียนในวัง เป็นนักโทษ ซึ่งพวกเขาไม่ปฏิบัติต่อท่านในฐานะประชาชนทั่วไปหรอกหรือ เหตุใดถึงจะจากไป ปไม่ได้ข้าสามารถให้เกียรติยศ และอิสระแก่ท่านได้ เพียงแค่ท่านต้องการข้าก็มีให้ เหตุใดท่านถึงไปกับข้าไม่ได้”
อาหว่านส่ายหน้า “ท่านไม่เข้าใจ ท่านไม่เข้าใจเลย!”
“ข้าไม่เข้าใจตรงไหน ท่านพูดมาสิ!” ซูถูหัวร้อนกับทัศนคติของนาง
อาหว่านมองเขาตอนนี้พวกเขาอยู่ใกล้กันมาก แต่สายตากลับดูห่างเหินเป็นพิเศษ “ท่านคิดว่าข้าเป็นนางในที่ขึ้นทะเบียนในวังงั้นหรือ ใช่ ข้าเป็น แต่ข้ายังมีอีกสถานะหนึ่ง”
นางพูดทีละคำ “พี่ชายของข้าคือเยวี่ยอ๋อง บิดาของข้าคือหลิ่วหยางจวิ้นอ๋อง ท่านปู่ทวดของข้าคือฮ่องเต้ไท่จู่แห่งแคว้นฉี!”