คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 297 เหม็นขี้หน้า / ตอนที่ 298 หลี่ซานทง
ตอนที่ 297 เหม็นขี้หน้า
หลี่ซานทงเร่งกล่าว “หรือว่าเจ้าจะไปหาลิ่นอีก นั่นคงจะไม่ได้ ในภูเขาลั่วอิงมีสัตว์ร้ายมากมาย ครั้งก่อนเจ้าไปก็พบเสือตาลอยไม่ใช่หรือ เจ้าไปไม่ได้เด็ดขาด!”
ไป๋จื่อรู้ว่าเขาหวังดี ในใจรู้สึกซาบซึ้งมาก “ขอบคุณท่านลุงหลี่ ข้ารู้ดีเจ้าค่ะ ข้าไม่มีทางไปแน่นอน ท่านวางใจเถอะ!”
นางยิ้มกว้างราวกับดอกไม้บาน ครั้นกล่าวขอบคุณพวกเขาแล้วก็รีบร้อนจากไป
เมื่อกลับถึงบ้าน จ้าวหลานกับลุงหูกำลังสนทนากันอยู่ในบ้าน สีหน้าเป็นกังวลอย่างถึงที่สุด แต่ทันทีที่เห็นเด็กสาวกลับมา ทั้งสองคนถึงจะถอนใจด้วยความโล่งอก
จ้าวหลานก้าวเข้ามาอย่างเร่งร้อน “จื่อเอ๋อร์ เจ้ากลับมาได้เสียที เจ้าไปที่ใดมากันแน่ แล้วเป็นอะไรหรือไม่”
“ท่านแม่ ข้าจะเป็นอะไรได้เล่าเจ้าคะ ข้าแค่ไปจับปลิงเท่านั้น มันจำเป็นนักในการปรุงยาให้กับหูเฟิง ข้าจับมาแล้วจำนวนหนึ่ง อีกเดี๋ยวค่อยไปจับอีกเล็กน้อยก็ใช้ได้แล้วเจ้าค่ะ ท่านดูสิ” นางกางผ้าเช็ดหน้าในมือออก ข้างในนั้นมีปลิงตัวอ้วนกำลังขยับขยุกขยิกอยู่
“ปลิงจริงๆ ด้วย มันนำไปปรุงยาได้ด้วยหรือ ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย” จ้าวหลานกล่าวด้วยความประหลาดใจ
หูจ่างหลินก็พูดเช่นกัน “มันรักษาอาการของหูเฟิงได้รึ”
ไป๋จื่อพยักหน้า “ได้เจ้าค่ะ หากไม่ได้ เหตุใดข้าต้องไปจับมันด้วยล่ะเจ้าคะ”
นางไม่อยากเสียเวลาอธิบายอะไรอีก จึงพูดกับทั้งสองคนว่า “ข้ายังต้องไปจับอีกเล็กน้อย พวกท่านช่วยจัดการพวกมันหน่อย อีกเดี๋ยวใช้น้ำร้อนลวกพวกมันให้ตาย หลังจากหั่นพวกมันแล้วก็นำไปตากแดด พวกท่านไม่ต้องรอข้ากลับมากินข้าวนะเจ้าคะ ข้าจับได้มากพอแล้วจะกลับมา”
ครั้นกล่าวจบ นางก็ยัดปลิงในมือตนเองใส่มือของจ้าวหลาน ก่อนจะหมุนกายเดินไปอย่างรวดเร็ว
จ้าวหลานส่ายหน้าอย่างจนใจ “เด็กคนนี้นี่ ทำอะไรรีบร้อนนัก”
“ที่แท้ก็แค่ไปจับปลิงเท่านั้น ทำเอาพวกเราเป็นห่วงแทบแย่ ตอนนี้นับว่าวางใจได้แล้ว” หูจ่างหลินพูดพร้อมรอยยิ้ม
“นั่นน่ะสิเจ้าคะ ข้ายังคิดว่านางไปยังสถานที่อันตรายอะไรอีก ทำเอาข้าร้อนใจแทบตายแน่ะ” จ้าวหลานพยักหน้าเช่นกัน
ทั้งสองคนพูดพลางเข้าไปในห้องครัวด้านหลัง คนหนึ่งก่อไฟ คนหนึ่งตักน้ำ เตรียมจัดการปลิงตามวิธีการที่ไป๋จื่อบอก
อาอู่นำศพหมาป่ากลับมาแล้ว ระหว่างทางดึงดูดสายตาชาวบ้านได้ไม่น้อยเลย
“อาอู่ ใครเป็นฆ่าหมาป่านั่นกัน พวกหมาป่าดุร้ายนัก นี่มีตั้งสามตัวแน่!”
“หูเฟิงเป็นคนฆ่า ฝีมือของเขายอดเยี่ยมนัก หากไม่ใช่เพราะตกเนินเขาแล้วบาดเจ็บ หมาป่าสามตัวนี้คงจะไม่ใช่ข้าที่แบกมา” อาอู่ยิ้มพลางกล่าว
หลิวซื่อและหญิงชราสกุลไป๋เห็นคนมากมายล้อมอาอู่และรถเทียมวัวไว้ จึงเบียดเข้ามาชมความคึกคักด้วย เมื่อได้ยินคำพูดของอาอู่แล้ว ในใจของพวกนางรู้สึกเกลียดแค้นนัก หลิวซือแค่นหัวเราะว่า “เด็กน่าตายผู้นี้โชคดีจริงๆ เจอหมาป่าดุร้ายก็ยังรอดมาได้”
หญิงชรามองหมาป่าสามตัวนั้น มันทั้งอ้วน ทั้งแข็งแรง หนังของหมาป่าถือเป็นของดี นางยังไม่เคยได้ลิ้มลองรสชาติของเนื้อหมาป่าเลย คาดว่ารสชาติของมันคงไม่เลว อย่างน้อยก็น่าจะดีกว่าโจ๊กใสๆ และผักป่ามากนัก
หากเด็กน่าตายผู้นี้ไม่ได้แยกบ้านกับพวกนางสกุลไป๋ อย่างน้อยหมาป่าก็ต้องมีส่วนของนางสักสองตัวกระมัง และหากนพหนังหมาป่าพวกนี้ไปขาย ก็น่าจะขายได้สองสามตำลึงเป็นอย่างน้อย
นางยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เมื่อเห็นรถเทียมม้ากำลังจะเข้าไปในลานบ้านของหูเฟิง นางพลันโก่งคอตะโกนว่า “จื่อยาโถวรอดจากหมาป่ามาได้ นับว่านางโชคดียิ่ง เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากนางเข้าไปในภูเขาลั่วอิงอีก แล้วจะยังกลับมาพร้อมกับลมหายใจหรือไม่”
อาอู่ได้ยินดังนั้นก็หยุดฝีเท้า หันกลับไปมองหญิงชราสกุลไป๋ที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน เขาถามเสียงเข้ม “เจ้าว่าอะไรนะ”
ยายเฒ่าแค่นหัวเราะ “ข้าพูดอะไรแล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้ามิทราบ? นางเด็กน่าตายไม่กลับมาย่อมดีที่สุด ข้าเหม็นขี้หน้านางจะตายชัก”
……….
ตอนที่ 298 หลี่ซานทง
บัดนี้มีคนใครบางคนพูดขึ้น “อาอู่ เมื่อครู่ข้าเห็นจื่อยาโถวถือมีดดาบออกไปแล้ว เหมือนจะไปทางภูเขาลั่วอิงนะ”
หญิงชราพลันชะงักงัน เมื่อครู่นางเห็นไป๋จื่อออกไปจากหมู่บ้านจริง แต่ไม่รู้ว่าไปที่ใด หากจะบอกว่าเด็กสาวส่งตัวเองไปตายที่ภูเขาลั่วอิง นั่นก็เป็นเรื่องไร้สาระนัก
อาอู่รีบขนศพหมาป่าบนรถเทียมม้าลงมา ก่อนจะนำพวกมันเข้าไปในเรือนของสกุลหูทีละตัว เพื่อให้ลุงหูและจ้าวหลานจัดการกับพวกมันสักหน่อย
ลุงหูเห็นเขามีท่าทีรีบร้อน จึงรีบถาม “เจ้าเป็นอะไรไป เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ”
“แม่นางไป๋ไปไหนหรือขอรับ” อาอู่ถาม
“นางบอกว่าจะไปจับปลิง เจ้ามีธุระกับนางรึ” ท่านลุงหูตอบ
ดูท่าทางพวกเขาก็ไม่รู้เช่นกัน แต่ก็ถูกต้องแล้ว ด้วยนิสัยของแม่นางไป๋ นางไม่มีทางบอกพวกเขาแน่
อาอู่ยิ้ม “ข้ามีเรื่องจะถามนางขอรับ พวกท่านจัดการพวกมันก่อนเถอะ ข้าจะไปตามหานางเอง”
ลุงหูและจ้าวหลานไม่ได้ถือสาอะไรนัก เพราะความสนใจของพวกเขาถูกศพหมาป่าดึงดูดเอาไว้ เพราะทั้งสองคนเคยได้ยินเสียงร้องของหมาป่า เคยเห็นหมาป่าตัวเป็นๆ อยู่แค่ตัวเดียวเท่านั้น
อาอู่รีบร้อนเดินไป ครั้นออกจากหมู่บ้านแล้ว เขาก็มุ่งหน้าไปยังทิศทางของภูเขาลั่วอิง กระนั้นเขาไม่เคยไปภูเขาลั่วอิงมาก่อน ระหว่างทางพบทางแยกเข้า เขาจึงไม่รู้ว่าควรเดินไปทางไหนดี ทว่าเขาก็พบหลี่ซานทงกลับมาจากที่นาพอดี
“นี่ไม่ใช่อาอู่หรอกหรือ เจ้ารีบร้อนจะไปที่ไหนกัน”
อาอู่ไม่รู้จักหลี่ซานทง ถึงอย่างไรเขาก็เพิ่งมาที่หมู่บ้านนี้เพียงไม่กี่วัน แม้จะเคยพบหน้า แต่กลับจำไม่ได้ “ท่านลุง ท่านเห็นแม่นางไป๋บ้างหรือไม่”
หลี่ซานทงพยักหน้า “เห็นสิ ก่อนหน้านี้ข้าเห็นนางตอนจับปลิงอยู่ในคูน้ำ แต่นางกลับไปแล้วไม่ใช่หรือ”
“นางกลับไปแล้วก็ออกไปอีกขอรับ มีคนในหมู่บ้านบอกว่านางไปที่ภูเขาลั่วอิง ท่านรู้หรือไม่ว่าควรไปภูเขาลั่วอิงทางไหน” อาอู่เร่งถาม
หลี่ซานทงก็ตกใจเช่นกัน “นางไปภูเขาลั่วอิง?” ครั้นนึกถึงเรื่องที่นางถามถึงลิ่นก่อนหน้านี้ เขาก็เข้าใจในทันที “นางต้องไปตามหาลิ่นแน่ ก่อนหน้านี้นางยังถามข้าว่าจะหาลิ่นได้จากที่ใด ของพรรค์นี้หาได้แค่เพียงในภูเขาเท่านั้น พวกข้าจึงบอกนางไปตามตรง”
เขาถอนใจเสียงหนึ่ง “เด็กสาวผู้นี้ใจกล้านัก ภูเขาลั่วอิงไม่ใช่สถานที่ที่แม่นางน้อยแบบนางจะไปได้ตามใจชอบ นางรนหาที่ตายหรืออย่างไรกัน”
อาอู่กังวลใจนัก เขาถามอีกว่า “ท่านรีบบอกข้าว่าจะไปภูเขาลั่วอิงได้ทางใด ข้าต้องรีบไปตามหานาง”
หลี่ซานทงพาเขาอ้อมเส้นทางเล็กๆ สองทาง ไปยังถนนสายใหญ่อีกเส้นหนึ่ง “เจ้าเดินไปตามทางนี้ เดินตรงไปเรื่อยๆ ปลายทางก็จะเป็นภูเขาลั่วอิงแล้ว รีบไปหน่อยเถอะ เจ้าเป็นบุรุษ ฝีเท้าว่องไว้ น่าจะยังตามนางไปทัน หากตามทันแล้วต้องพานางกลับมานะ เพราะภูเขาลั่วอิงนั่นอันตรายยิ่งนัก”
หลังจากอาอู่กล่าวขอบคุณหลี่ซานทงแล้ว เขาก็เดินไปอย่างเร่งร้อน
หลี่ซานทงทำงานเสร็จแล้วพอดี จึงแบกอุปกรณ์การเกษตรกลับไปที่หมู่บ้านทันที มุ่งหน้าไปยังบ้านของหูจ่างหลิน
ฝ่ายหูจ่างหลินและจ้าวหลาน พวกเขาตากปลิงแล้วเรียบร้อย ขณะนี้กำลังปรึกษากันว่าควรจัดการหมาป่าสามตัวนี้อย่างไร ทว่าทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากในเรือน
หูจ่างหลินดีใจนัก “หูเฟิงตื่นแล้วแน่ๆ”
ทั้งสองคนรีบวางงานในมือลง แล้วถลันเข้าไปในเรือน
เป็นหูเฟิงที่ตื่นแล้วจริงๆ เขากำลังยื่นมือไปหยิบถ้วยชาที่อยู่บนโต๊ะ
หูจ่างหลินก้าวเข้ามายกถ้วยชาขึ้น แล้วเทชาร้อนให้บุตรชาย “เจ้าตื่นแล้ว เห็นสภาพเจ้าเป็นเช่นนี้ ข้าเป็นกังวลนัก”
หูเฟิงปวดศีรษะราวกับมันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ มีเสียงดังหึ่งๆ อยู่ภายในตลอดเวลา มองผู้ใดล้วนเห็นเป็นภาพซ้อน ทว่าในใจประจักษ์ชัดยิ่ง
เขารับถ้วยชาที่หูจ่างหลินส่งมาให้ ก่อนจะดื่มน้ำในถ้วยใบใหญ่นั่นรวดเดียวจนหมด