คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 519 ขั้นแรกของแผนการ / ตอนที่ 520 จะไปจริงๆ
ตอนที่ 519 ขั้นแรกของแผนการ
นี่เกรงว่าจะไม่ใช่ความคิดของเขาเพียงคนเดียว แต่เป็นความคิดของคนส่วนใหญ่
ไม่แปลกเลยบนโลกใบนี้!
“ท่านจอมพล ท่านเคยได้ยินคำพูดนี้หรือไม่ เบื้องหลังความสำเร็จของบุรุษทุกคน ล้วนมีสตรีคอยคิดคำนวณให้”
จอมพลหวังชะงักงัน ไม่รู้ว่านางกำลังพูดอะไร เพียงส่ายหน้าอย่างงุนงง บ่งบอกว่าไม่เคยได้ยินมาก่อน
เดิมทีไป๋จื่ออยากอธิบายให้เขาฟังอย่างชัดเจน แต่เมื่อคิดดูอีกครั้ง ยิ่งพูดเรื่องนี้ไปก็ยิ่งไม่มีวันจบสิ้น ไว้ว่ากันวันหลัง ตอนนี้พูดเรื่องสำคัญก่อนดีกว่า
นางโบกมือบ้าง “ช่างเถอะเจ้าค่ะ อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้เลย เมื่อวานท่านพบจิ้นอ๋องแล้วหรือ”
จอมพลหวังพยักหน้า ฉีกยิ้มยินดีจนแทบจะถึงรูหู “พบแล้ว ได้พบฟู่เจิงและโจวกังด้วย ข้าได้ฟังเรื่องทุกอย่างจากจิ้นอ๋องแล้ว ที่โจวกับและฟู่เจิงปลอดภัยออกมาได้ ล้วนเป็นผลงานของเจ้า”
ไป๋จื่อหัวเราะเบาๆ “ข้าไม่ได้ทำอะไรเลยเจ้าค่ะ ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ” นางวางกรงงูในมือลง แล้วหันไปมองจอมพลหวัง เอ่ยถามว่า “ต่อไปพวกท่านตั้งใจจะทำอย่างไร”
“ข้ามีแผนการหนึ่ง ไม่ใช่สิ ควรจะเป็นว่าจิ้นอ๋องมีแผนการหนึ่ง ข้าคิดว่ายอดเยี่ยมทีเดียว” จอมพลหวังกล่าว
เด็กสาวรีบถามทันที “แผนการอะไรหรือเจ้าคะ”
“ขั้นแรกของแผนการนี้ ก็คือส่งเจ้าไปจากที่นี่ก่อน” เขาเอ่ย
ไป๋จื่อชะงัก “ส่งข้าไป? เพราะเหตุใด ข้าเป็นอุปสรรคของใครหรือไรกัน”
จอมพลหวังกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “เจ้าไม่ได้เป็นอุปสรรคของใครหรอก ทั้งยังช่วยพวกข้าได้มากทีเดียว แต่เจ้ารู้หรือไม่ เหตุผลที่ก่อนหน้านี้เขากลายเป็นเทพสงครามพิชิตสมรภูมิได้ นั่นเป็นเพราะเขามีจิตใจแน่วแน่ ไม่มีสิ่งใดต้องเป็นห่วง ไม่ต้องสนใจความเป็นความตาย ดังนั้นเมื่อเขาทำสิ่งใดจึงเด็ดขาดรวดเร็ว เข่นฆ่าโดยไร้ความลังเล”
“แต่วันนี้เขามีเจ้าอยู่ข้างกาย เขาเป็นคนให้เป็นห่วง มีจุดอ่อน เมื่อทำสิ่งใดย่อมมีความกังวล เช่นนี้แล้วไม่มีทางทำเรื่องใหญ่ให้สำเร็จได้”
ไป๋จื่อมุ่นคิ้ว “เขาพูดเช่นนี้หรือเจ้าคะ”
จอมพลหวังส่ายหน้า “จิ้นอ๋องไม่ได้พูด เขาเพียงพูดว่าจะส่งเจ้าจากไป และไม่ได้พูดอะไรอย่างอื่นอีก คำพูดเมื่อครู่นี้เป็นเพียงคำแนะนำอันตื้นเขินของข้าก็เท่านั้น”
นางเงียบไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็พยักหน้า “ดีเหมือนกันเจ้าค่ะ ข้าก็ควรจะกลับไปเช่นกัน ท่านแม่ของข้าต้องเป็นห่วงมากแน่นอน” จากไปก็ดีเช่นกัน เขาจะได้วางใจไปทำสิ่งที่เขาต้องการทำ
บัดนี้เขามีฟู่เจิงและโจวกังแล้ว ทั้งยังมีจอมพลหวัง นางเชื่อว่าไม่นานเขาจะต้องช่วงชิงอำนาจทหารกลับมาได้ หวนคืนสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง
ทว่าเมื่อถึงเวลานั้นแล้ว เขาจะยังเป็นหูเฟิงอยู่หรือไม่
ฉู่เยี่ยน ชื่อนี้ช่างไม่คุ้นหูเอาเสียเลย
นางรู้สึกห่อเหี่ยวอยู่บ้าง ความรู้สึกนี้ฉายชัดอยู่ในแววตาของนาง
“ท่านจอมพล ข้าจะมอบสูตรยาให้หมอเฉินที่นี่ เพราะพิษในร่างกายของท่านสะสมมานานเกินไป ไม่อาจกำจัดให้หมดสิ้นภายในคราวเดียวได้ ต้องค่อยๆ บำรุงร่างกายเจ้าค่ะ” นางหยิบยาปี้ซินออกมาจากในอกเสื้อ คืนนั้นนางลืมมอบมันให้หูเฟิง โชคดีที่วันนี้นางนำติดตัวมาด้วย
“นี่คือยาปี้ซินเจ้าค่ะ ท่านกินทุกสามวัน วันละหนึ่งเม็ด แล้วก็ระวังอย่าให้ร่างกายป่วยไข้นะเจ้าคะ”
จอมพลหวังรับยาปี้ซินไว้ กล่าวว่า “ไป๋จื่อ เจ้าอย่าได้หัวเสียไปเลยนะ จิ้นอ๋องส่งเจ้าไปเพราะเขาเป็นห่วงเจ้า เขากลัวว่าหากในค่ายทหารวุ่นวายขึ้นมา เขาจะปกป้องเจ้าไม่ได้”
นางพยักหน้า “ข้ารู้เจ้าค่ะ เอาละ ข้าต้องไปแล้ว ท่านบอกเขาแทนข้าที ว่าข้าจะรอเขาอยู่ที่บ้าน”
อีกฝ่ายชะงัก “เจ้าจะไม่บอกเขาเองหรือ ถึงบอกว่าจะส่งเจ้าไป แต่ก็ไม่ได้บอกว่าต้องรีบร้อนถึงเพียงนี้”
เด็กสาวยิ้มเจื่อน “ไปเร็วก็คือการจากไป ไปช้าก็คือการจากไปอยู่ดี ไม่สู้จากไปเร็วหน่อย ท่านแม่ของข้าจะได้เป็นห่วงข้าน้อยลงสักวัน”
จอมพลหวังโน้มน้าวนางไม่ได้ จึงทำได้เพียงพยักหน้า “ข้าจะสั่งคนพาเจ้ากลับไป”
นางโบกมือ “อย่าดีกว่าเจ้าค่ะ ตอนนี้ไม่มีใครสงสัยฐานะของข้า ข้านึกเหตุผลที่จะจากไปได้มากมาย แต่หากท่านสั่งคนพาข้าไป นั่นยิ่งทำให้มีคนรู้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเราไม่ธรรมดา พวกหูจื้อจะต้องทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เช่นนั้นก็ไม่เข้าท่าแล้วเจ้าค่ะ”
……….
ตอนที่ 520 จะไปจริงๆ
หลังจากจอมพลหวังคิดอย่างละเอียดแล้วก็รู้สึกว่ามีเหตุผล จึงกล่าวว่า “เช่นนั้นระหว่างทางเจ้าต้องระวังตัวให้มาก”
ไป๋จื่อบอกลาหมอเฉินและต้วนเฉิง หลังจากกลับไปถึงกระโจมหน่วยแพทย์แล้ว
หมอเฉินไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิด ตั้งแต่วันนั้นที่ไป๋จื่อบอกว่าต้องการส่งน้ำแกงงูข้นไปให้จอมพลหวัง เขาก็รู้แล้วว่าเด็กคนนี้เข้ามาในค่ายทหารเพราะมีเป้าหมาย นั่นก็คือการพบจอมพลหวัง วันนี้ได้พบแล้วย่อมต้องจากไป
ต้วนเฉิงกลับอาลัยอาวรณ์มาก ขอให้นางอยู่ต่อ อ้อนวอนอยู่นานนางก็ไม่เห็นพยักหน้า จึงกลับไปที่กระโจมพักผ่อนด้วยความน้อยใจ
ไป๋จื่อเขียนสูตรยาที่จอมพลหวังต้องการจะใช้เอาไว้ กำชับหมอเฉินอยู่หลายคำ ก่อนจะบอกลาเขาอย่างเด็ดขาด “อาจารย์ แม้ท่านจะเป็นอาจารย์ข้าเพียงไม่กี่วัน แต่วันนี้เป็นอาจารย์แล้ว ก็เท่ากับว่าเป็นอาจารย์ตลอดไป ต่อไปท่านอย่าได้ลืมศิษย์อย่างข้าคนนี้นะขอรับ”
หมอเฉินยินดียิ่ง “เจ้าอย่าลืมอาจารย์คนนี้ก็พอ ไปเถอะ ที่นี่มีแต่การสู้รบ รีบไปจากที่นี่ให้เร็วย่อมดีกว่า”
นางพยักหน้า โค้งให้หมอเฉินครั้งหนึ่ง แล้วหมุนกายออกจากกระโจมหน่วยแพทย์ไป กลับไปเก็บของที่กระโจมพักผ่อน
ต้วนเฉิงนั่งถลึงตามองนางอยู่บนหัวเตียง “เป็นศิษย์น้องของข้าไม่กี่วันก็จะไปแล้วหรือ เจ้าดูถูกศิษย์พี่เช่นข้าคนนี้ใช่หรือไม่”
ไป๋จื่อเก็บของใส่ห่อผ้าอย่างคล่องแคล่ว กล่าวโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามอง “ใช่เสียที่ไหน เจ้าเป็นศิษย์พี่ของข้า ข้าจะดูถูกเจ้าได้อย่างไร ที่ข้าจะไปตอนนี้เพราะมีธุระจริงๆ”
“มีธุระอะไร” เขาถาม
“ข้ามีธุระที่สำคัญมาก แต่ไม่สะดวกจะพูดในตอนนี้ ต้วนเฉิง หากมีวาสนาพวกเราต้องได้พบกันอีกแน่” นางแบกห่อผ้าขึ้นหลัง เหมือนกับวันที่มาถึงไม่มีผิด
ต้วนเฉิงมุ่นคิ้ว “หากมีวาสนา…แล้วถ้าหากไม่มีวาสนา ก็จะไม่ได้พบกันชั่วชีวิตเลยหรือ”
ไป๋จื่อยิ้มกล่าว “ผู้คนมากมายดุจน้ำทะเล พวกเราก็ยังมาพบกันที่นี่ได้ นั่นเพราะพวกเรามีวาสนาต่อกันมาก วาสนาเช่นนี้ข้าเชื่อว่าไม่มีทางขาดสะบั้นไปโดยง่าย พวกเราต้องได้พบกันอีกแน่”
“จะไปจริงๆ หรือ”
“จะไปจริงๆ”
“…”
ในที่สุดต้วนเฉิงก็ไม่รั้งนางไว้อีก มองส่งนางจนกระทั่งรถม้าของนางหายลับตาไป เขาถึงจะได้สติคืนมา และนึกขึ้นได้ว่าตนยังไม่เคยถามว่าบ้านของนางอยู่ที่ใด แม้แต่นางอยู่ที่ใดก็ยังไม่รู้ แล้วต่อไปจะสานต่อวาสนานี้ได้เช่นไร
เขาวิ่งตามไปอย่างสุดชีวิต ออกแรงเต็มกำลัง ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่ตนที ทว่าสองขานี้ของเขาก็สู้สี่ขาของม้าไม่ได้อยู่ดี…
…
ริมถนนบนเขาห่างจากค่ายทหาร นางเห็นคนสามคนอยู่แต่ไกล เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงห้อม้า สายตาของพวกเขาก็มองมายังนางอย่างพร้อมเพรียง
คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าสุดไม่ใช่หูเฟิงหรอกหรือนี่
นางรีบสั่งรถม้าให้หยุด
“ไยเจ้ามาอยู่ที่นี่”
หูเฟิงส่งห่อผ้าในมือให้นาง “นี่คือมันเทศเผา ข้าขุดได้จากในป่า พวกเจ้านำไปกินระหว่างทางนะ”
พวกเจ้า?
นางเลิกคิ้ว ไม่รู้ว่าพวกเจ้าที่เขาว่าหมายถึงใคร
โจวกังรีบกล่าวว่า “แม่นางไป๋ จิ้นอ๋องให้ข้ากลับไปกับเจ้าด้วย ข้าอยากพบเสี่ยวเฟิงและอาอู่ อีกสองสามวันค่อยกลับมา”
ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง นางจึงพยักหน้า “ได้เจ้าค่ะ เสี่ยวเฟิงเป็นห่วงท่านอยู่เสมอ พวกท่านพ่อลูกหากได้พบหน้ากัน เขาจะได้เรียนหนังสือได้อย่างสบายใจ”
อีกฝ่ายกล่าวขอบคุณนางไม่ยอมหยุด จิ้นอ๋องช่วยบุตรชายของเขา แม่นางไป๋ยังมอบอนาคตอันสดใสให้บุตรชายของขาอีก เพียงคำว่าขอบคุณไม่อาจบรรยายความซาบซึ่งในใจของเขาได้เลยด้วยซ้ำ
โจวกังกระโดดขึ้นบนรถม้า แล้วกล่าวกับหูเฟิงและฟู่เจิงว่า “จิ้นอ๋อง ท่านรีบกลีบไปเถอะขอรับ อย่าให้คนพบว่าท่านลอบออกมา”
หูเฟิงพยักหน้า สายตาจับจ้องไปที่ร่างของไป๋จื่อ เด็กสาวคนนี้คล้ายกับไม่ค่อยพอใจ เพราะเขาต้องการให้นางไปอย่างนั้นหรือ
เขาอยากพูดอะไรบางอย่าง ทว่าไป๋จื่อกลับไม่ให้โอกาสนั้นแก่เขา นางส่งแส้ม้าในมือให้โจวกัง แล้วตรงกลับเข้าไปในตัวรถทันที