คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 553 ขู่กรรโชก / ตอนที่ 554 เจ้าหน้าที่
ตอนที่ 553 ขู่กรรโชก
มองครั้งเดียวก็รู้ว่าเป็นตุ๊กตาผ้าที่มาจากร้านของพวกนาง ทว่าตอนนี้มันสกปรกมาก ราวกับว่ามีใครเหยียบย่ำมันในโคลนเลน
ไป๋จื่อพยักหน้า “เป็นของร้านข้าจริง”
หูจิ่วเม่ยอุ้มเด็กคนนั้นลงจากหลังของสามี ก่อนจะโยนนางลงบนพื้นอย่างไม่ยี่หระ คล้ายกับเด็กคนนี้เป็นแค่ก้อนผ้า…
เด็กหญิงสลบเหมือด แม้จะถูกโยนลงบนพื้นหินสีดำข้างนอกร้านค้าเช่นนี้ก็ตาม
ไป๋จื่อมุ่นคิ้ว “นางเป็นลูกของเจ้าไม่ใช่หรือ”
“เจ้าพูดไร้สาระอะไร แน่นอนว่านางเป็นลูกของข้า ไม่เช่นนั้นแล้วจะเป็นใคร” หูจิ่วเม่ยกล่าว
ทันใดนั้น ไป๋จื่อส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยหน่าย “ข้าไม่เคยเห็นคนเป็นแม่คนไหนทำกับลูกของตนเองเช่นนี้มาก่อน”
คนที่มุงดูอยู่รอบๆ พากันวิพากษ์วิจารณ์ หูจิ่วเม่ยรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง เมื่อครู่นางไม่น่าโยนเด็กต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้เลย นางขึ้นเสียงกล่าวว่า “ไยเจ้าต้องมาสนใจด้วย ว่าข้าจะปฏิบัติต่อลูกของข้าอย่างไร ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการเห็นหลักฐานหรือ นี่อย่างไรเล่าหลักฐาน ลูกของข้าเล่นตุ๊กตาผ้าของพวกเจ้าเพียงไม่ถึงสองวัน ก็มีสภาพเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเจ้ายังกล้าบอกว่าไม่เกี่ยวกับพวกเจ้าอีกหรือไม่”
ไป๋จื่อแค่นหัวเราะ ไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืด นางตรงไปนั่งยองลงใกล้ๆ เด็กหญิงผู้นั้น เพื่อตรวจสอบร่างกายดูอย่างละเอียด
“เจ้ากำลังจะทำอะไร” หูจิ่วเม่ยถามด้วยความร้อนใจ
เวลานี้ไป๋จื่อพอจะเข้าใจแล้ว จึงยืนขึ้น หมุนกายกลับไปพูดว่า “ข้าลืมบอกเจ้าไป โถงจี้เหรินเป็นร้านยาที่ข้าเปิดเองเช่นกัน ข้าเป็นหมอคนหนึ่ง และข้ารู้ปัญหาของลูกเจ้าแล้ว”
สีหน้าของหูจิ่วเม่ยเปลี่ยนไปในทันที “เจ้าเป็นหมอด้วยหรือ” นางพิจารณาไป๋จื่อตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบหนึ่ง ก่อนที่จู่ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา “เด็กบ้านนอกอย่างเจ้ากล้าเรียกตนเองว่าหมอได้อย่างไร ช่างน่าหัวร่อให้ฟันร่วงเสียจริง”
ไป๋จื่อไม่เถียงกับนาง เพียงชี้ไปยังเด็กหญิงที่นอนอยู่บนพื้น “ข้าเดาว่านางต้องไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเจ้าแน่ เจ้าเป็นแม่เลี้ยงของนาง!”
หูจิ่วเม่ยไม่ได้ปฏิเสธ บุรุษที่อยู่ข้างกายนางรีบถามขึ้นแทน “เจ้ารู้ได้อย่างไร”
ไป๋จื่อหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกล่าว “มีแม่ที่ไหนใจร้ายเช่นนี้บ้าง ตีลูกของตนเองจนกลายเป็นเช่นนี้ ทั้งยังโยนนางต่อหน้าคนอื่นอีก ข้าไม่เคยเห็นแม่แท้ๆ มีท่าทีเช่นนี้ หากไม่ใช่แม่เลี้ยงแล้วจะเป็นอะไรไปได้”
ฝ่ายหูจิ่วเม่ยลนลาน นางโมโหเป็นอย่างมาก “เจ้าพูดจาน่ารำคาญให้น้อยๆ หน่อยเถอะ เจ้าเห็นข้าตีนางที่ไหนกัน”
ไป๋จื่อชี้ดวงตาของตนเอง “ตาสองข้างของข้ามองเห็นชัดแจ้งดี เด็กคนนี้บาดเจ็บทั่วร่างกาย โดยเฉพาะที่ท้ายทอยของนาง มันบวมปูดเหมือนกับซาลาเปา ข้าอยากจะมองไม่เห็นก็ยากทีเดียว หรือว่าตุ๊กตาผ้าตัวนี้จะตีนาง”
นางกล่าวจบก็หันไปหาจ้าวซู่เอ๋อ “พี่สะใภ้ ท่านไปฟ้องร้องที บอกว่าที่นี่มีคนรังแกเด็ก ทั้งยังวางแผนขู่กรรโชกผู้อื่นด้วย”
เมื่อเห็นจ้าวซู่เอ๋อกำลังจะรับคำและไปฟ้องร้อง หูจิ่วเม่ยก็ปรี่มาข้างหน้า รั้งจ้าวซู่เอ๋อกลับมา “เจ้าคิดจะไปที่ใด ทำร้ายชีวิตของบุตรสาวข้าแล้ว เจ้ายังคิดหนีอีกหรือ”
จ้าวซู่เอ๋ออยากดันนางออกไป ทว่ายังไม่ทันได้เริ่มออกแรง นางก็ล้มลงไปเองเสียแล้ว
หูจิ่วเม่ยนอนลงบนื้น ดีดดิ้นกลิ้งไปมา บอกว่าพวกนางรังแกตน ทำร้ายชีวิตบุตรสาวของนางไม่ว่า ยังทำร้ายตัวนางเองอีก นางเจ็บตรงนั้น ปวดตรงนี้ ไม่มีบริเวณใดบนร่างกายที่ไม่เจ็บ ราวกับว่ามีใครถือกระบองตีทั้งร่างของนางก็ไม่ปาน
จ้าวซู่เอ๋อทำอะไรไม่ถูก รีบพูดกับไป๋จื่อว่า “ข้ายังไม่ได้ทำอะไรนางเลย นางล้มลงไปของนางเอง”
ไป๋จื่อพยักหน้าให้นาง “ข้ารู้เจ้าค่ะ นางตั้งใจจะใส่ร้ายพวกเราอยู่แล้ว ย่อมต้องล้มลงไปเองสักครั้ง ท่านอย่าไปสนใจนางเลย ไปฟ้องร้องเถอะ ข้าไม่เชื่อว่าเง็กเซียนฮ่องเต้จะยังมองเล่ห์กลนี้ไม่ออก”
……….
ตอนที่ 554 เจ้าหน้าที่
จ้าวซู่เอ๋อกำลังจะไป แต่ก็ได้ยินเสียงตะโกนต่อว่าจากด้านนอกกลุ่มคนเสียก่อน “ยืนมุงอะไรกันอยู่ที่นี่ หลีกไป!”
ทุกคนหลีกทางไปด้านข้างทันที บุรุษสวมชุดเจ้าหน้าที่สองคนเดินเข้ามา หนึ่งคนในนั้นไป๋จื่อเคยเห็นมาก่อน เขาคือคนที่พาเมิ่งหนานไปยังหมู่บ้านหวงถัวในครั้งแรก
เจ้าหน้าที่คนนั้นจำไป๋จื่อได้ และรู้ว่านางเป็นสหายของเมิ่งหนาน ย่อมไม่กล้าชักช้า ใบหน้าของเขาที่เดิมทีบึ้งตึงพลันปรากฏรอยยิ้ม “แม่นางไป๋ นี่คือร้านของเจ้าหรือ”
ไป๋จื่อพยักหน้า “ถูกต้อง พวกข้ากำลังจะไปฟ้องร้องอยู่เลย ท่านมาได้จังหวะจริงๆ เลยเจ้าค่ะ”
หูจิ้วเม่ยชะงักค้าง เจ้าหน้าที่เหล่านี้ฝีเท้าว่องไวเหลือเกิน นางยังเล่นละครไม่จุใจเลย
ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือ เจ้าหน้าที่ผู้นี้ยังรู้จักกับนางเด็กหน้าตายผู้นี้อีก
เมื่อคิดถึงตรงนี้ นางพลันตะกายตัวลุกขึ้น โผไปยังเบื้องหน้าของเจ้าหน้าที่ กอดขาของเขาเอาไว้ “ใต้เท้า ท่านต้องช่วยข้าตัดสินด้วย นางเปิดร้านมนตร์ดำ ทำร้ายบุตรสาวของข้าไม่ว่า ยังทำร้ายข้าต่อหน้าคนมากมายอีกต่างหาก หากไม่เชื่อข้า ท่านก็ถามนางเอาเองเถอะ”
เจ้าหน้าที่มุ่นคิ้ว สีหน้ารำคาญใจอย่างยิ่ง “ปล่อย เจ้าคิดว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่”
เสียงหัวเราะดังมาจากในหมู่ผู้คน ทำให้เจ้าหน้าที่ยิ่งโกรธเกรี้ยว “ชืนยังไม่ปล่อยอีก ข้าจะนำเจ้าไปขังคุกเสีย”
คราวนี้หูจิ่วเม่ยถึงปล่อยมือ ถอยหลังไปสองก้าว
ขณะนี้เจ้าหน้าที่มองเห็นหน้าตาของหูจิ่วเม่ยชัดเจนแล้ว เขาขมวดคิ้วทันที “เจ้าอีกแล้วรึ”
“ครั้งก่อนเจ้าบอกว่าของที่ร้านอาหารฟู่หยวนไม่สดใหม่ พวกเจ้าทั้งบ้านกินเข้าไปแล้วท้องเสีย ต่อว่าและใส่ร้ายเจ้าของร้านอาหารอยู่ข้างนอก บีบบังคับให้เขาชดเชยเป็นเงินให้ เป็นเจ้าใช่หรือไม่”
หูจิ่วเม่ยรีบก้มหน้าลง “ใต้เท้าต้องจำผิดแน่ๆ ข้าไม่เคยไปที่ร้านอาหารฟู่หยวนอะไรนั่น” นางกล่าวในใจว่าซวยแล้ว ที่ทำการเมืองมีเจ้าหน้าที่ตั้งมากมาย ไยต้องมาเจอเขาผู้นี้ เปลี่ยนเป็นคนอื่นไม่ได้หรือไร
สายตาของเจ้าหน้าที่กวาดมองไปยังเด็กหญิงที่ยังสลบไสลไม่ฟื้น เขากล่าวด้วยโทสะทันที “เจ้ายังจะกล้าเถียงข้างๆ คูๆ อีกรึ ข้ารู้จักเด็กคนนี้เช่นกัน ครั้งก่อนนางก็อยู่ด้วย พวกเจ้าทั้งครอบครัวยังสบายดียู่แท้ๆ จะมีก็แต่นางที่ยืนอยู่ไม่ไหว คนที่ร้านอาหารตามหมอมาให้ด้วย แล้วหมอบอกว่าอย่างไร เจ้ายังจำได้อยู่หรือไม่”
หูจิ่วเม่ยโบกมือ “ข้าไม่รู้ว่าท่านกำลังพูดอะไร แต่ข้าไม่เคยไปที่ร้านอาหารอะไรนั่น”
เจ้าหน้าที่แค่นหัวเราะเสียงเย็น “เจ้าจำไม่ได้กระมัง เช่นนั้นก็ดี ข้าจะช่วยเจ้าทวนความจำเอง วันนั้นหลังจากหมอตรวจนางแล้ว เขาบอกว่ามีคนให้นางดื่มยาถ่าย ทำให้นางถ่ายท้องอย่างหนัก หากนางดื่มยาแก้ไม่ทันเวลาก็คงจะไม่เหลือชีวิตมาถึงวันนี้ ตอนนี้เจ้าน่าจะจำได้แล้วสินะ”
เมื่อหูจิ่วเม่ยฟังจบ นางก็เม้มปากไม่พูดจา
“วันนี้เจ้าคิดจะทำอะไร เหตุใดเด็กหญิงคนนี้ถึงมีสภาพเป็นเช่นนี้ไปได้” เจ้าหน้าที่ถาม
หูจิ่วเม่ยชี้ไปยังไป๋จื่อ “เป็นพวกนางต่างหาก ตุ๊กตาผ้าจากร้านของพวกนางทำร้ายบุตรสาวข้า หลังจากบุตรสาวของข้าเล่นตุ๊กตาผ้าแล้ว นางถึงได้มีสภาพเช่นนี้”
เจ้าหน้าที่ไม่เข้าใจ เล่นตุ๊กตาผ้าแล้วกลายเป็นเช่นนี้ได้หรือ
ไป๋จื่อกล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่า “นางถูกตีเจ้าค่ะ ต้องเร่งทำการรักษาโดยเร็ว ขืนชักช้าต้องไม่ทันกาลแน่”
คำพูดธรรมดาทั่วไปเช่นนี้ ไฉนเจ้าหน้าที่จะไม่เข้าใจอีก สตรีนางนี้คิดจะใช้เด็กหญิงขู่กรรโชกคน ตั้งใจทำให้นางบาดเจ็บ เห็นพวกแม่นางไป๋เป็นเพียงสตรีอ่อนแอที่เพิ่งเปิดร้านค้า จึงเลือกพวกนางเป็นเป้าหมาย
เจ้าหน้าที่ถลึงตามองหูจิ่วเม่ย ก่อนจะกล่าวในทันทีว่า “ช่วยเด็กก่อน เมื่อนางตื่นแล้ว ข้าจะถามให้รู้ความเอง”
เด็กคนนี้นอนอยู่บนพื้นหินเย็นๆ มาโดยตลอด ไป๋จื่ออยากอุ้มนางขึ้นมาตั้งนานแล้ว แต่เห็นหูจิ่วเม่ยเล่นลูกไม้เช่นนั้น สุดท้ายนางก็แข็งใจไม่เข้าไปช่วย ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่อยู่ด้วย นางย่อมไม่กลัวว่าหูจิ่วเม่ยจะใส่ร้ายนางอีกแล้ว!