คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 559 มาด้วยเรื่องสำคัญ / ตอนที่ 560 ไปเมืองชิงหยวนอีกครั้ง
- Home
- คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
- ตอนที่ 559 มาด้วยเรื่องสำคัญ / ตอนที่ 560 ไปเมืองชิงหยวนอีกครั้ง
ตอนที่ 559 มาด้วยเรื่องสำคัญ
วาจาให้เกียรติเช่นนี้ เมิ่งหนานไม่รู้ว่าได้ยินมาแล้วกี่ครั้ง เขาจึงตอบรับอย่างขอไปทีเท่านั้นเอง
“พวกเจ้ามีพี่น้องทั้งหมดกี่คน” เมิ่งหนานถาม
เคอซีเฉิงพลันชะงัก เพราะคิดไม่ถึงว่าเมิ่งหนานจะถามเช่นนี้
เมิ่งหนานยิ้มจางๆ “ข้าขอถามตามตรงเลยแล้วกัน ไม่ทราบว่าคุณชายเคอมีน้องสามนามว่าเคอเสียนหย่าหรือไม่”
เมื่อได้ยินอีกฝ่ายถามเช่นนั้น เคอซีเฉิงก็รีบตอบว่า “ความจริงข้ามีน้องสาวนามว่าเคอเสียนหย่า เป็นน้องสาวคนสุดท้องของสกุลเคอพวกข้า ไยคุณชายเมิ่งถึงถามเรื่องนางหรือ”
“แล้วน้องเสียนเอ๋อร์ผู้นี้อยู่ที่จวนหรือไม่” เมิ่งหนานไม่ตอบ กลับถามต่อ
เคอซีเฉิงลังเลอยู่บ้าง แต่ในที่สุดก็พยักหน้า “อยู่ที่จวนขอรับ หลายวันมานี้นางเป็นไข้หวัด กำลังพักรักษาตัวอยู่ ไม่ทราบว่าคุณชายเมิ่งถามถึงนางด้วยเหตุใด”
เมิ่งหนานกล่าวว่า “ข้าย่อมต้องมีเหตุผลอยู่แล้ว” เพียงแต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าของเคอซีเฉิง เขาก็รู้ได้ทันทีว่าคุณชายใหญ่เคอผู้นี้กำลังพูดปด และคำโกหกเช่นนี้ก็เป็นที่เข้าใจได้ ถึงอย่างไรเสียก็เป็นบุตรีคนหนึ่งของสกุลที่มีความสำคัญต่อราชสำนัก แม้จะอายุยังน้อย แต่การหายตัวไปเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องดี หากตามหาตัวนางกลับมาได้อย่างเงียบๆ ถึงจะดีที่สุด แต่หากทำไม่ได้ก็ไม่ควรกระโตกกระตาก จะได้ไม่เป็นการทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูล เพราะในจวนแห่งนี้ยังมีคุณหนูคนอื่นอยู่อีก
เมิ่งหนานไม่ถามต่อ เพราะคุณชายเคอผู้นี้ไม่มีสิทธิ์พูดเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด ถามไปก็ไร้ประโยชน์ รอใต้เท้าเคอกลับมาก่อนค่อยว่ากัน
เขาดื่มชาไปถ้วยแล้วถ้วยเล่า ผ่านไปหนึ่งชั่วยามเต็มๆ ใต้เท้าเคอถึงจะกลับมาถึงจวน
ใต้เท้าเคอตัวสูงมาก สูงกว่าเมิ่งหนานเล็กน้อย ท่าทางของเขาในเวลานี้ดูไม่ค่อยดีอยู่บ้าง แม้บนใบหน้าจะมีรอยยิ้มเจิดจ้า ทว่าในดวงตากลับเต็มไปด้วยความกังวล
“คุณชายเมิ่งให้เกียรติมาถึงที่นี่ ข้าเดาว่าจะต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่นอน”
ใต้เท้าเคอเพิ่งเคยพบเมิ่งหนานเป็นครั้งแรก แต่กลับแสดงท่าทางว่าสนิทสนมกันมาก เพราะถึงอย่างไรผู้มาเยือนก็มาจากสกุลเมิ่ง จะดูแคลนไม่ได้โดยเด็ดขาด
เมิ่งหนานก็ไม่อ้อมค้อม พูดเข้าประเด็นทันที “ใต้เท้าเคอ บุตรีคนเล็กของจวนนามเคอเสียนหย่า ไม่ทราบว่าเชิญนางออกมาพบข้าหน่อยได้หรือไม่”
สีหน้าของใต้เท้าเคอพลันแปรเปลี่ยน “คุณชายเมิ่งหมายความว่าอย่างไร”
“ข้าได้รับการไหว้วานจากใครบางคน ต้องการสะสางเรื่องนี้ให้กระจ่างแจ้ง หวังว่าใต้เท้าเคอจะกล่าวกับข้าตามความจริง” เมิ่งหนานกล่าวพร้อมยิ้มจาง
ใต้เท้าเคอลุกขึ้นจากเก้าอี้ สีหน้าหวั่นวิตกอยู่บ้าง “หรือท่านจะรู้ว่าเสียนเอ๋อร์อยู่ที่ใด”
เมิ่งหนานก็ยืนขึ้นเช่นกัน “ดูท่าคุณหนูเสียนเอ๋อร์จะไม่อยู่ที่จวนจริงๆ”
ใต้เท้าเคอเป็นห่วงบุตรสาวอย่างยิ่ง ไหนเลยจะสนใจพูดถึงเรื่องอื่น เขารีบถามว่า “ขอไม่ปิดบังคุณชายเมิ่ง เดือนกว่าๆ ก่อนหน้านี้ เสียนเอ๋อร์และแม่ของนางไปไหว้บรรพบุรุษที่วัดชิงซานที่นอกเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเพียงเวลาชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น เสียนเอ๋อร์ก็หายตัวไปแล้ว พวกข้าหาทั่วทั้งวัดชิงซานก็ไม่พบตัวนาง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ภรรยาของข้าก็ล้มป่วย จนถึงตอนนี้ยังลงจากเตียงไม่ได้ ดวงตาของนางมีแต่คราบน้ำตา หากคุณชายเมิ่งมีข่าวคราวของเสียนเอ๋อร์จริง ข้าก็หวังว่าท่านจะบอกกับข้าตามตรงเช่นกัน”
เมิ่งหนานเห็นอีกฝ่ายเป็นกังวลอย่างแท้จริง ตอนที่เขาเอ่ยวาจา ดวงตาของเขาแดงก่ำ เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดมากความอีก เมิ่งหนานหยิบจดหมายออกมาส่งให้ใต้เท้าเคอในทันที “ใต้เท้าเคอ นี่เป็นจดหมายที่สหายคนหนึ่งของข้าเขียนส่งมาให้ ท่านอ่านแล้วก็จะรู้เอง”
ใต้เท้าเคอรับจดหมายมาด้วยมืออันสั่นเทา ขณะที่อ่านตัวหนังสือในจดหมาย สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย ความโศกเศร้าในดวงตาพลันหายไป “พบเสียนเอ๋อร์แล้ว เร็วเข้า ตามคนมา รีบไปบอกฮูหยินด้วย บอกนางว่าพบเสียนเอ๋อร์แล้ว”
เหล่าข้ารับใช้รีบออกไป ไม่นานนักหลังจากนั้น สาวใช้สองคนก็ประคองสตรีที่มีใบหน้าซีดขาว ปล่อยผมยาวสยาย คลุมผ้าคลุมตัวบางเดินเข้ามาในโถง
“นายท่าน เสียนเอ๋อร์อยู่ที่ใดหรือ นางอยู่ที่ใด” นางเดินไม่ไหวด้วยซ้ำ ดวงตาคู่นั้นของนางมองไปทั่วทั้งโถง แต่กลับไม่พบวี่แววของบุตรีเลยสักนิด
……….
ตอนที่ 560 ไปเมืองชิงหยวนอีกครั้ง
“เสียนเอ๋อร์เล่า เสียนเอ๋อร์ของข้าอยู่ที่ใด” ฮูหยินเคอร้องเรียกพร้อมดวงตาแดงๆ เสียงของนางแหบพร่า ได้ยินแล้วพาให้ปวดใจยิ่ง
ใต้เท้าเคอรีบเข้าไปประคองนาง พานางนั่งลงบนเก้าอี้ “ฮูหยินอย่าเพิ่งร้อนใจ ตอนนี้เสียนเอ๋อร์ไม่ได้อยู่ที่เมืองหลวง เจ้าลองอ่านจดหมายฉบับนี้ดูสิ”
ฮูหยินเคออ่านจดหมาย ทั้งร้องไห้และยิ้มไปพร้อมๆ กัน “เสียนเอ๋อร์ผู้น่าสงสารของข้า เป็นแม่ที่ไม่ดีเอง เป็นแม่ที่ไม่ได้ดูแลเจ้าให้ดี เจ้าคอยแม่ก่อนนะ แม่จะไปรับเจ้ากลับมา” นางหันไปมองข้ารับใช้ที่อยู่ข้างกาย “เร็วเข้า ไปเตรียมรถม้า ข้าจะไปรับเสียนเอ๋อร์เดี๋ยวนี้”
“ฮูหยิน ตอนนี้เจ้าร่างกายไม่แข็งแรง จะออกไปได้อย่างไร หากเจ้าออกไปรับเสียนเอ๋อร์แล้วเป็นอะไรกลับมา หลังจากนั้นเสียนเอ๋อร์จะทำอย่างไรเล่า” ใต้เท้าเคอร้อนใจทีเดียว
หญิงชราที่อยู่ข้างๆ ก็โน้มน้าวเช่นกัน “ใช่เจ้าค่ะฮูหยิน นายท่านพูดถูกต้อง ตอนนี้ร่างกายของท่านไม่แข็งแรง ไม่ควรจะออกไปข้างนอกจริงๆ เจ้าค่ะ”
ใต้เท้าเคอมุ่นคิ้ว “ตอนนี้ข้าไปไหนไม่ได้ ฮ่องเต้มอบหมายงานให้ข้าจำนวนหนึ่ง ให้ข้าจัดการให้เสร็จสิ้นภายในสามวัน ให้ซีเฉิงไปน่าจะดีกว่า”
ทว่าฮูหยินเคอส่ายหน้าทันที “ไม่ได้ ซีเฉิงไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกจะทำอย่างไร”
เมิ่งหนานแทรกโดยพลัน “หากทั้งสองท่านเชื่อใจข้า ข้ายินดีไปแทนพวกท่านสักครั้ง”
ฮูหยินเคอเพิ่งรู้ตัวว่าเมิ่งหนานก็อยู่ที่นี่ ณ ตอนนี้เอง นางหันไปมองสามีด้วยสีหน้างงงัน “เขาเป็นใครหรือ”
ใต้เท้าเคอรีบแนะนำ “ท่านนี้คือคุณชายเมิ่งแห่งจวนสกุลเมิ่ง เขาเป็นคนนำจดหมายมาให้ข้า และคนที่ช่วยเสียนเอ๋อร์ไว้ก็เป็นสหายของเขา ซึ่งเขียนจดหมายมาสอบถามเรื่องของเสียนเอ๋อร์โดยเฉพาะ”
ทันใดนั้นฮูหยินเคอหมายลุกขึ้นทำความเคารพ ทว่าเมิ่งหนานกลับรีบกล่าวเสียก่อนว่า “ฮูหยินไม่ต้องมากพิธี ข้ากับสหายคนนี้ไม่ได้พบกันมานานแล้ว คราวนี้ข้าจะได้ไปพบนางพอดี ถือว่ายิงธนูดอกเดียวได้นกสองตัว”
เมื่อมีความช่วยเหลือของเมิ่งหนาน สองสามีภรรยาก็ย่อมขอให้เป็นเช่นนั้น ใต้เท้าเคอกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ต้องรบกวนคุณชายเมิ่งแล้ว ข้าจะให้ซีเฉิงไปกับท่านด้วย”
เมิ่งหนานดีใจเป็นอย่างยิ่ง ในที่สุดก็มีเหตุให้ได้พบหน้านาง ได้ไปยืนอยู่ต่อหน้านางอีกครั้ง คราวนี้เขาจะต้องพานางกลับเมืองหลวงให้ได้
…
ครั้นทราบว่าเมิ่งหนานจะออกจากเมืองหลวง ใต้เท้าเมิ่งและสวี่ซื่อไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก ทว่าได้ยินว่าเพื่อรับบุตรีหัวแก้วหัวแหวนของใต้เท้าเคอกลับมา ทั้งคู่จึงยากจะปฏิเสธ ทำได้เพียงตกลงให้เมิ่งหนานไป
สวี่ซื่อกลัวว่าเมิ่งหนานจะพัวพันกับเด็กสาวสกุลไป๋ไม่เลิกรา นางตัดสินใจส่งข้ารับใช้สองคนไปคุ้มครองเขาด้วย รวมถึงให้ตามไปที่เมืองชิงหยวนด้วยเช่นกัน
สกุลเมิ่งและสกุลเคอส่งคนร่วมขบวนไปด้วยไม่น้อย ทั้งสองฝ่ายรวมกันแล้วจึงกลายเป็นการเดินทางครั้งใหญ่ เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องกลับว่าจะพบโจรป่ากลางทางแล้ว
…
ระหว่างทาง พวกเขาเร่งเดินทางโดยไม่สนใจเดือนและตะวัน เมิ่งหนานร้อนใจอยากพบไป๋จื่อ เคอซีเฉิงก็ร้อนใจอยากรับน้องสาวกลับบ้าน ต่อให้เหนื่อยล้าเพียงใดก็ไม่มีบ่น ส่วนคนที่ติดตามมาด้วยย่อมไม่มีสิทธิ์บ่นอะไรอยู่แล้ว
เมื่อถึงชายแดนเมืองชิงหยวน พวกเขาไม่ได้เข้าไปในตัวเมือง แต่ตรงไปยังหมู่บ้านหวงถัว
คนในหมู่บ้านหวงถัวไม่เคยเห็นขบวนรถม้าที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน ทุกคนจึงอยู่แต่ในบ้าน ไม่กล้าออกมาดูความคึกคักเท่าไร
“คุณชายที่บังคับม้าผู้นั้น ดูไปแล้วคุ้นตาอยู่บ้าง”
“นั่นคือคุณชายเมิ่งไม่ใช่หรือ ได้ยินว่าเขากลับไปเป็นขุนนางในเมืองหลวงแล้ว ไยถึงกลับมาที่นี่อีก”
“ยังต้องพูดอีกหรือ เขาจะต้องมาหาจื่อยาโถวอย่างแน่นอน เจ้าดูสิ เขาตรงไปทางนั้นแล้ว”
ยามเมิ่งหนานจากไป บ้านทรงตะวันตกยังสร้างไม่เสร็จดี ทว่าบัดนี้ไม่เพียงสร้างเสร็จแล้ว ทุกห้องหับภายในนั้นยังถูกจับจองจนเต็มอีกต่างหาก
เขาลงจากม้าที่ด้านนอกบ้านของไป๋จื่อ ขณะนี้ประตูรั้วปิดสนิท ประตูบ้านก็ปิดสนิทเช่นกัน เขาจึงตะโกนเรียก “อาจื่อ เจ้าอยู่หรือไม่”
ไม่มีคนตอบรับ เขาตะโกนอีกหลายเสียง ทว่าก็ยังไม่มีใครตอบอยู่ดี
ทันใดนั้น หัวหน้าหมู่บ้านเร่งรุดเข้ามาหา กล่าวกับเมิ่งหนานว่า “นี่ใต้เท้าเมิ่งไม่ใช่หรือ ท่านมาหาไป๋จื่อกระมัง”