คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 581 บนแขนของบุตรสาวข้ามีปานดำสองจุด / ตอนที่ 582 ข้าต้องการบุตรสาวที่เชื่อฟัง
- Home
- คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
- ตอนที่ 581 บนแขนของบุตรสาวข้ามีปานดำสองจุด / ตอนที่ 582 ข้าต้องการบุตรสาวที่เชื่อฟัง
ตอนที่ 581 บนแขนของบุตรสาวข้ามีปานดำสองจุด
ทว่าคนที่พวกเขาเผชิญหน้าด้วยในวันนี้ ไม่ใช่คนที่อยู่ในระดับเดียวกันกับพวกเขา
เผยชิงหานไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งเลยสักนิด แม้กระทั่งจับความจอมปลอมได้จากคำพูดของเจ้าใหญ่
เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงเลิกคิ้วพิจารณาไป๋เจินจูอีกครั้ง สีหน้าเคร่งขรึมทีเดียว
ในสกุลเผยมีเด็กสาวอายุสิบสองอยู่คนหนึ่ง เด็กอายุสิบสองและสิบสามไม่ต่างกันเท่าไร ทว่าเด็กสาวที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้ ไม่มีทางอายุเพียงสิบสามปีเป็นแน่
เขากวักมือเรียกไป๋เจินจู “เจ้ามานี่”
ไป๋เจินจูมือสั่นเล็กน้อย แทบจะควบคุมสีหน้าไว้ไม่ได้
หลิวซื่อดันนางออกไป “รีบไปสิ ยังตะลึงอะไรอยู่อีก”
คราวนี้ไป๋เจินจูถึงจะเดินเข้าไปหาเผยชิงหานอย่างเชื่องช้า
จู่ๆ เผยชิงหานก็ยื่นมืออกมาจับมือของไป๋จื่อเจินจู ก่อนจะถกแขนเสื้อของนางขึ้นอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นแขนเรียวเล็ก
ไป๋เจินจูตกใจจนสะดุ้งโหยง รีบหดมือกลับ “ท่านทำอะไร”
เผยชิงหานยิ้มเย็น “บนแขนของบุตรสาวข้ามีปานดำสองจุด แล้วเหตุใดเจ้าไม่มี”
ไป๋เจินจูรีบดึงแขนเสื้อลง สีหน้าลนลานทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะตอบคำถามนี้อย่างไร ยิ่งไม่รู้ว่าควรจะโต้ตอบเขาอย่างไรดี
เผยชิงหานหันไปมองเจ้าใหญ่ “เมื่อครู่เจ้าบอกว่านางคือเด็กทารกที่เก็บมาเมื่อสิบสามปีก่อน คำพูดนี้เป็นความจริงหรือไม่”
เจ้าใหญ่เห็นว่าเรื่องใกล้แดงแล้ว สีหน้าจึงเปลี่ยนไปโดยพลัน เขาวางแผนทุกอย่างไว้ดิบดี สำหรับเขาแล้ว นี่เป็นแผนการที่ไม่แทบจะไม่มีช่องโหว่เลยด้วยซ้ำ
แต่ใครจะรู้ว่าตั้งแต่ผู้สูงศักดิ์ท่านนี้เข้าประตูมา ยังไม่ทันได้พูดอะไรเท่าไร เขายังไม่ทันเอ่ยสิ่งที่ตนคิดใคร่ครวญไว้อย่างดีออกมาจนจบ อีกฝ่ายก็มองทุกอย่างได้ทะลุปรุโปร่งแล้ว เพราะเหตุใดกัน แผนการของเขายังสมบูรณ์แบบไม่พอหรือ
เจ้าใหญ่จะรู้ได้อย่างไรว่าสำหรับเผยชิงหานแล้ว ตั้งแต่เขาเห็นเจ้าใหญ่ ตั้งแต่เขาเข้าประตูรั้วสกุลไป๋เข้ามา เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล แม้กระทั่งไม่ชอบมาพากลจนเกินไป เจ้าใหญ่ก็กระตือรือร้นเสียเหลือเกิน ต่อให้เป็นคนที่ชอบรับแขกเพียงใด ก็ต้องถามว่าผู้ที่มาเยือนเป็นใคร ต้องการอะไร มาดีหรือมาร้าย ทว่าคนผู้นี้กลับไม่ถามสักคำ ราวกับว่าทุกอย่างอยู่ในการคาดเดาของทั้งหมด
ตอนที่เขาเพิ่งนำรูปเหมือนของพู่หยกออกมา เขายังไม่ได้อธิบายอะไรทั้งสิ้น อีกทั้งเด็กสาวคนนั้นก็เดินออกมาด้วยตนเองอีก คำพูดของเจ้าใหญ่เมื่อครู่นี้ก็ปลอมจนไม่รู้จะปลอมกว่านี้ได้อย่างไรแล้ว
“พูดไม่ออกเลยหรือ เจ้ารู้หรือไม่ว่าปลอมแปลงสายเลือดก็ถือว่าผิดกฎหมายเช่นกัน” เผยชิงหานมองเจ้าใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา แววตาของเขามีความเหยียดหยามฉายชัด
เจ้าใหญ่เห็นว่าเรื่องถูกเปิดโปงแล้ว จึงตกใจจนเข่าอ่อน เสียงพูดของเผยชิงหานเมื่อครู่ดูเยือกเย็นมาก เขาจึงคุกเข่าลงกล่าวว่า “ใต้เท้าไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าถูกภูตผีดลใจ หน้ามืดตามัวไปชั่วขณะ”
“พูดมาสิ ว่าแท้จริงแล้วเจ้าได้พู่หยกนี้มาได้อย่างไร แล้วเด็กทารกเมื่อสิบสามปีก่อนนั้น ความจริงแล้วอยู่ที่นี่หรือไม่” เผยชิงหานถามเสียงเย็น
หัวใจของไป๋เจินจูเต้นโครมคราม ไม่รู้ว่านางได้ความกล้าหาญมาจากที่ใด แย่งเจ้าใหญ่พูดเสียงดัง “เด็กทารกคนนั้นตายไปตั้งแต่ตอนที่พ่อข้าพบนางแล้ว พ่อข้าจึงนำกลับมาเพียงพู่หยก ส่วนศพเด็กก็ฝังอยู่ในภูเขานั่นแหละ”
นางคิดดูแล้ว ถ้าหากนางไม่ได้ไปอยู่ในที่ที่ดีกว่านี้ ไป๋จื่อผู้นั้นก็ไปไม่ได้เช่นกัน
เมื่อได้ยินว่าเด็กทารกคนนั้นตายไปแล้ว เผยชิงหานก็พลันคลายใจ ความดุดันบนใบหน้าอ่อนลงหลายส่วนเช่นกัน
เขาถามเจ้าใหญ่ว่า “ที่นางพูดเป็นเรื่องจริงหรือ”
เจ้าใหญ่เกลียดแค้นไป๋จื่อจะตาย ย่อมไม่อยากให้ไป๋จื่อได้ดี เขากัดฟันพูดว่า “ถูกต้องขอรับ ที่เจินจูพูดเป็นเรื่องจริง ตอนที่ข้าพบเด็กคนนั้น นางก็ตายไปแล้วขอรับ”
เผยชิงหานมองพ่อลูกสองคน ในใจเกิดความคิดบ้าบิ่นบ้างอย่าง
……….
ตอนที่ 582 ข้าต้องการบุตรสาวที่เชื่อฟัง
เขาไม่อยากตามเด็กคนนั้นกลับไป แต่เขาต้องการให้งานแต่งงานระหว่างเด็กคนนั้นและจิ้นอ๋องเกิดขึ้นต่างหาก ถ้าเด็กคนนั้นยังมีชีวิตอยู่จริงๆ หรือแม้กระทั่งตงฟางมู่พบนางเข้าแล้ว หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร เขาไม่กล้าคิดต่อไปเลยจริงๆ
ตอนนี้เด็กไม่อยู่แล้ว แม้เขาจะรู้สึกสบายใจ แต่จะทำอย่างไรกับงานแต่งของจิ้นอ๋องดี หลังจากบิดาของเขาตายจากไป จวนชางหยวนโหวก็ตกต่ำลงทุกวัน ตงฟางมู่เป็นพ่อตาของเขา ทว่าแต่ไหนแต่ไรกลับไม่เคยช่วยเขาในราชสำนัก ยิ่งไม่เคยพูดจายกย่องเขาต่อหน้าฮ่องเต้เลยสักคำ เขาเป็นโหวผู้สง่างาม แม้แต่งานราชการที่ดีก็ไม่เคยได้รับ หลายปีมานี้เขากินบุญเก่าอยู่ในจวนโหวมาโดยตลอด ทว่าบุญเก่านี้ต้องหมดลงสักวัน อยากจะให้จวนชางหยวนโหวรุ่งเรืองขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้ก็มีเพียงหนทางเดียวแล้ว
แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับจิ้นอ๋อง อาศัยอำนาจของจิ้นอ๋องให้กลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง
เด็กคนนั้นตายแล้ว ทว่าพู่หยกยังคงอยู่ เขาใช้พู่หยกนี้ร่วมกับเด็กคนไหนสักคนหนึ่ง อุปโลกน์ว่านางเป็นเด็กหญิงในปีนั้นก็เพียงพอแล้ว เขาเป็นบิดาของนาง เขาว่าอย่างไร นางก็ต้องว่าตามนั้น
ตรงหน้ามีตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมอยู่พอดิบพอดี เด็กสาวที่ชื่อว่าไป๋เจินจูผู้นี้ท่าทางจะอยากมีฐานะดีเป็นอย่างยิ่ง คนเช่นนางนี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด หากเขาคุมนางไว้ในมือได้ ต่อไปถึงแม้จะแต่งให้จิ้นอ๋องไปแล้ว นางก็ยังต้องทำตามคำสั่งของเขาต่อไปไม่ใช่หรือ
ในที่สุดเผยชิงหานก็พูดออกมาว่า “เจ้าอยากเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ส่วนข้าต้องการบุตรสาวที่เชื่อฟัง ข้ามอบสิ่งที่เจ้าต้องการได้ แล้วเจ้ามอบสิ่งที่ข้าต้องการได้หรือไม่”
ไป๋เจินจูเงยหน้าขึ้นทันที เห็นดวงตาของบุรุษผู้นั้นมองตรงมาที่ตน นางถึงได้รู้ว่าเมื่อครู่เขากล่าวกับตนอยู่
ความหมายของเขาก็คือ ถึงแม้นางจะไม่ใช่บุตรสาวที่แท้จริงของเขา เขาก็สามารถทำให้นางกลายเป็นคุณหนูตระกูลร่ำรวยจริงๆ ได้ ขอเพียงนางเชื่อฟังก็พออย่างนั้นหรือ
ง่ายดายเช่นนี้เลยหรือ แค่เชื่อฟังก็เพียงพอแล้วหรือนี่
ไป๋เจินจูแทบจะไม่ลังเลเลยสักนิด นางพยักหน้ารับปากทันที “ข้าทำได้ ข้าจะเชื่อฟังท่านเจ้าค่ะ ท่านให้ข้าทำอะไร ข้าก็จะทำเช่นนั้น ขอเพียงท่านยอมพาข้าไปด้วย พาข้าออกไปจากที่นี่” นางใช้ชีวิตที่นี่จนเพียงพอแล้ว และนางรู้สึกอยู่เสมอว่าตนเองแตกต่างจากเด็กสาวในหมู่บ้านแห่งนี้ นางควรจะมีชีวิตอยู่ในจวนอันหรูหรา ไม่ใช่ในหมู่บ้านซอมซ่อเช่นนี้
ในที่สุดวันนี้นางก็มีโอกาสแล้ว
“ลุกขึ้นเถอะ!” เผยชิงหานเอ่ยเสียงเรียบ
ทั้งครอบครัวที่คุกเข่าอยู่ล้วนตะเกียดตะกายลุกขึ้น ไม่มีใครตื่นจากอารามตกใจ พวกเขาอ้าปากตาค้างมองไป๋เจินจู จากนั้นก็มองเผยชิงหาน...กลับไปกลับมาเช่นนี้จนเวียนหัว
“เจ้าเก็บข้าวของให้เรียบร้อย พรุ่งนี้ข้าจะส่งคนมารับเจ้า” เผยชิงหานกล่าว
บนใบหน้าของไป๋เจินจูปรากฏความปีติยินดี สำเร็จแล้วหรือ เท่านี้เองหรือนี่
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าก็ดังมาจากข้างนอก ตามมาด้วยเสียงถามไถ่ของจางซื่อ “พวกท่านเป็นใครกัน”
ไม่มีใครในเรือนตอบคำถาม จางซื่อและเจ้ารองเข้ามาเห็นขบวนยิ่งใหญ่เช่นนี้ จึงรู้สึกงุนงงอยู่บ้าง นี่มันเกิดอะไรขึ้น ไยในบ้านถึงมีคนแปลกหน้ามากมายเช่นนี้ รถม้าข้างนอกก็หรูหราเสียจริง ดีกว่ารถม้าที่ไป๋จื่อใช้ยิ่งนัก
ครั้นเผยชิงหานเห็นหน้าจางซื่อ สีหน้าของเขาก็พลันดำคล้ำเหมือนก้นหม้อ สตรีนางนี้หน้าตาคล้ายกับไป๋เจินจูอย่างยิ่ง มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นแม่ลูกกัน คนพวกนี้ไม่ได้พูดความจริงดังที่เขาคาดเดาไว้
จางซื่อรีบเดินไปถึงข้างกายบุตรสาว มือจับแขนของนางเอาไว้ ทว่านางกลับดันออกp
เมื่อบุตรสาวทำเช่นนี้ จางซื่อพลันตะลึงงัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น
“เจ้าเป็นอะไรกับไป๋เจินจู” เผยชิงหานถาม
จางซื่อตอบทันที “ข้าเป็นแม่ของนาง แล้วท่านเป็นใคร” นางรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง บุรุษตรงน้าดูท่าทางไม่ใช่คนธรรมดาเลยจริงๆ