คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 601 ตามหาค่ายทหาร / ตอนที่ 602 จื่อเอ๋อร์อยู่ที่ใด
- Home
- คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
- ตอนที่ 601 ตามหาค่ายทหาร / ตอนที่ 602 จื่อเอ๋อร์อยู่ที่ใด
ตอนที่ 601 ตามหาค่ายทหาร
ตงฟางมู่กล่าว “รีบนำคนลงเขาไปสักสองสามคน แล้วค่อยเข้าไปดูในเมืองสักครั้ง ต้องตามหาเขาให้พบ และต้องพาเขากลับมาให้ได้”
ชุ่ยเอ๋อร์พยักหน้ารับ ก่อนจะรีบร้อนออกไป
ฝ่ายตงฟางมู่หันกลับไปมองห้องของบุตรี ประตูห้องปิดสนิท เขาถอนใจเสียงหนึ่ง แล้วหมุนกายกลับไปที่ห้องหนังสือ
ไม่นานนัก พ่อบ้านซ่งก็เร่งฝีเท้านำคนมาสองคน “นายใหญ่ คนจากในวังมาขอรับ”
ตงฟางมู่รีบวางพู่กันในมือลง “โอ้? เร็วเข้า รีบเชิญเข้ามา”
ผู้มาเยือนเป็นองครักษ์สองคน หลังจากผ่านประตูเข้ามาแล้ว พวกเขาก็คารวะตงฟางมู่ครั้งหนึ่ง แล้วยื่นจดหมายที่ฮ่องเต้เขียนลายมือของพระองค์เองมาให้
ครั้นอ่านจดหมายจบ ตงฟางมู่ก็ขมวดคิ้วมุ่น
เขาวางจดหมายลงบนโต๊ะ แล้วถามกับองครักษ์ว่า “ไม่มีหมู่บ้านนั้นแล้ว หมายความว่าอย่างไร”
องครักษ์รีบรายงาน “เรียนใต้เท้า ข้าและคนอื่นๆ มุ่งหน้าไปที่เมืองชิงหยวน ทว่าเพิ่งไปถึงเมืองชิงหยวนก็ได้ยินว่ามีหลายหมู่บ้านถูกล้อมจู่โจมจากแคว้นซีเยว่ พวกเขาเข่นฆ่าผู้อาวุโสในหมู่บ้าน แล้วพาชายหนุ่มและหญิงสาวไป ไม่เหลือแม้สักคน หมู่บ้านหวงถัวก็ไม่ยกเว้น ตอนที่พวกข้า…ตอนที่พวกข้าไปถึงหมู่บ้านหวงถัว ที่นั่นไม่มีใครเลยสักคน จึงไม่พบสองพี่น้องที่นำพู่หยกไปจำนำขอรับ”
ตงฟางมู่รีบถามทันที “เช่นนั้นช่วยคนกลับมาได้หรือไม่ คนถูกจับไปมากมายถึงเพียงนั้น หรือว่าไม่ได้ส่งทหารไปช่วยเลยหรืออย่างไร”
องครักษ์เอ่ยว่า “จิ้นอ๋องนำคนไปช่วยแล้วขอรับ ตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวอะไร ฝ่าบาทจึงให้ข้าน้อยมาบอกกล่าวท่านก่อน ท่านจะได้ไม่ต้องร้อนใจขอรับ”
แล้วตงฟางมู่จะไม่ร้อนใจได้อย่างไร ผ่านมาหลายปีถึงเพียงนี้แล้ว คนที่คิดว่าตายไปตอนนี้กลับมีความหวังขึ้นมารางๆ แต่จู่ๆ ความหวังนี้ก็มลายหายไป เป็นไปได้หรือที่เขาจะไม่ร้อนใจ
“เอาละ พวกเจ้ากลับไปก่อนเถอะ มีข่าวคราวอะไรก็มารายงานข้าทันที” ตงฟางมู่กล่าว
…
ทางด้านจ้าวซู่เอ๋อ หลังจากที่นางกลับไปถึงในเมือง นางพบกับเฉินไท่เหรินที่กำลังคิดหนีพอดี ครั้นเฉินไท่เหรินรู้เรื่องราวทุกอย่างแล้ว เขาก็ให้คนรถของตนเองไปส่งนางที่ค่ายทหารทันที
ผู้คุมของค่ายทหารขวางจ้าวซู่เอ๋อไว้ นางบอกว่ามาพบจิ้นอ๋อง ผู้คุมสอบถามนางเสียรอบหนึ่งแล้ว ทว่าไม่เชื่อคำพูดของนางโดยสิ้นเชิง ครั้นนางบอกว่ามาพบอาอู่ เหล่าผู้คุมก็ยิ่งไม่เชื่อคำพูดของนาง จึงไล่นางไปโดยตรง นางร้อนใจจนได้แต่นั่งลงร้องไห้ พลางร้องเรียกชื่อของอาอู่อยู่ที่นอกค่ายทหาร ผู้คุมผู้นั้นเกรงว่านางจะทำให้ทหารในค่ายแตกตื่น จึงพลันเงื้อแส้จะฟาดนาง ฝ่ายหมอเฉินที่กำลังจะออกไปเก็บสมุนไพรเห็นเข้า “พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้ จะตีคนได้อย่างไร”
“ท่านหมอเฉิน สตรีนางนี้เป็นบ้าไปแล้ว บอกว่าต้องการพบจิ้นอ๋อง ทั้งยังบอกว่าทัพใหญ่ของแคว้นซีเยว่บุกเข้าเมืองชิงหยวนแล้ว ท่านว่านางไม่ใช่คนบ้าแล้วจะเป็นอะไร เมื่อวานจิ้นอ๋องเพิ่งถอนทัพจากทัพซีเยว่ ใครๆ ในค่ายทหารต่างก็รู้เรื่องนี้”
หมอเฉินถลึงตาใส่เขา “ถึงแม้นางจะเป็นบ้า แต่เจ้าก็ไม่อาจตีคนได้ตามใจชอบ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่านางเป็นสตรีคนหนึ่งเลย”
จ้าวซู่เอ๋อร้องไห้พลางส่ายหน้า “ข้าไม่ใช่คนบ้า ข้าเป็นภรรยาของอาอู่จริงๆ ท่านคือท่านหมอเฉินจริงหรือ เช่นนั้นท่าจะต้องรู้จักไป๋จื่ออย่างแน่นอน นางบอกกับข้าไว้ว่าหากข้าไม่ได้พบจิ้นอ๋อง ก็ให้ตามหาท่านแทน พบท่านก็ใช้ได้เช่นกัน”
หมอเฉินตะลึง “เจ้าบอกว่าไป๋จื่อหรือ เจ้ารู้จักไป๋จื่อด้วยหรือนี่”
จ้าวซู่เอ๋อรีบพยักหน้า “ใช่เจ้าค่ะ ไป๋จื่อให้ข้ามาที่นี่ ทหารแคว้นซีเยว่บุกเข้ามาในอาณาเขตแคว้นฉู่ผ่านเทือกเขาลั่วอิง และจับคนจากหลายหมู่บ้านไป บุตรสาวของข้าและแม่แท้ๆ ของไป๋จื่อก็ถูกจับไปด้วยเช่นกัน ได้ยินมาว่าพวกเขาต้องการจับชาวบ้านนี้ไปแลกตัวกับเชลย ท่านหมอเฉิน ท่านเชื่อข้านะเจ้าคะ ข้าไม่ได้เป็นบ้า ที่ข้าพูดล้วนเป็นความจริง ไป๋จื่อนางตามไปลำพังแล้ว ข้าเกรงว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับนาง ท่านหมอเฉิน ข้าขอร้องท่านเถอะเจ้าค่ะ พาข้าไปพบจิ้นอ๋องที พาข้าไปพบเขาด้วยเถอะ!”
……….
ตอนที่ 602 จื่อเอ๋อร์อยู่ที่ใด
ถึงอย่างไรหมอเฉินและไป๋จื่อก็มีมิตรภาพผูกพัน เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้ว เขาก็พลันรู้สึกร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง รีบตอบรับทันที “ได้ๆๆ ข้าจะพาเจ้าไปเดี๋ยวนี้ เจ้าตามข้ามาสิ”
ผู้คุมผู้นั้นกลัวว่าตนเองจะซวยไปด้วย จึงขวางไว้ไม่ให้เข้าไป
หมอเฉินตะคอกทันควัน “หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ข้าจะรับผิดชอบเอง ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า ไสหัวไป”
เดิมทีหมอเฉินก็มีอารมณ์ร้ายอยู่แล้ว เหล่าผู้คุมก็กลัวเขาเช่นกัน ครั้นเห็นเขาโมโหขึ้นมา จึงไม่กล้าขวางทางอีกต่อไป ทำเพียงหลบลี้ไปเท่านั้น
หมอเฉินนำจ้าวซู่เอ๋อเข้าไปในค่ายทหาร ไม่นานนักก็ถึงด้านนอกกระโจมของจิ้นอ๋อง
หูเฟิงและพวกโจวกังกำลังวิเคราะห์สถานการณ์รบอยู่ในกระโจม เมื่อได้ยินเสียงเอะอะจากข้างนอก หูเฟิงก็กล่าวกับอาอู่ว่า “เจ้าไปดูหน่อยเถอะ”
อาอู่ยังไม่ทันเดินถึงประตูกระโจม ก็เห็นหมอเฉินนำจ้าวซู่เอ๋อรีบร้อนเข้ามา
“ซู่เอ๋อ? จะ เจ้ามาได้อย่างไร” อาอู่ทั้งแปลกใจ ทั้งดีใจ จากนั้นเขาก็รู้สึกว่าผิดปกติ ไยจ้าวซู่เอ๋อร้องไห้จนมีสภาพเป็นเช่นนี้ นางตาบวมตุ่ยเหมือนถั่วเปลือกแข็ง นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
ทันทีที่จ้าวซู่เอ๋อเห็นหน้าโจวอาอู่ ไหนเลยนางจะควบคุมความรู้สึกเอาไว้ได้ นางพลันร้องไห้และกระโจนตัวไปหาเขา ก่อนจะพูดต่ออย่างไม่หยุดยั้ง ทว่าเสียงของนางเจือเสียงสะอื้นไห้ จึงฟังไม่รู้เรื่องโดยสิ้นเชิง
หมอเฉินเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้น ก็พลันกล่าวขึ้นมาว่า “คืออย่างนี้ขอรับ เมื่อครู่นางเล่าให้ข้าฟังแล้ว นางบอกว่าคนจากทัพซีเยว่กว่าพันคนบุกเข้ามาในอาณาเขตแคว้นฉู่ผ่านเทือกเขาลั่วอิง ทั้งยังจับชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านไปด้วย หนึ่งในนั้นมีหมู่บ้านหวงถัวด้วยขอรับ”
สีหน้าของหูเฟิงพลันเปลี่ยนไป รีบถลันไปถึงเบื้องหน้าของจ้าวซู่เอ๋อทันที เร่งถามว่า “ท่านพ่อของข้าเล่า แล้วจื่อเอ๋อร์อยู่ที่ใด พวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง”
จ้าวซู่เอ๋อพูดทั้งน้ำตา “เดิมทีข้ากับอาจื่ออยู่ที่ร้านในเมือง ครั้นรู้ข่าวก็รีบกลับไป ตอนกลับไปถึงพบว่าไม่มีใครเหลืออยู่ในหมู่บ้านแล้ว มีเพียงท่านหัวหน้าหมู่บ้านที่เหลือแค่ลมหายใจเฮือกสุดท้าย ท่านหัวหน้าหมู่บ้านบอกว่าทหารจากซีเยว่พวกนั้นจับคนเพื่อแลกกับเชลย จึงให้พวกข้ารีบไปแจ้งทางการ แต่อาจื่อคิดว่าแจ้งทางการไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงให้ข้ามาหาพวกเจ้า นางบอกว่าขอเพียงคุ้มกันอยู่ทางออกของภูเขาลั่วอิงที่เชื่อมกับแคว้นซีเยว่ ก็ต้องพบพวกเขาอย่างแน่นอน”
“แล้วจื่อเอ๋อร์เล่า ไยนางถึงไม่มาด้วย” หูเฟิงรีบถาม
“นางให้ข้ามาเพียงลำพัง และนางตามเข้าไปในภูเขาลั่วอิงด้วยตัวเองแล้ว บอกว่าจะหาโอกาสช่วยพวกหรูเอ๋อร์กลับมา” จ้าวซู่เอ๋อตอบ
แผงอกของหูเฟิงกระเพื่อมขึ้นลงด้วยความร้อนใจ เขาหายใจแรงราวกับวัว ในห้วงความคิดของเขาพลันสับสนวุ่นวาย เขาเตือนตนเองอยู่ตลอดว่าอย่าลนลานไป ไม่เป็นอะไร ทุกอย่างต้องไม่เป็นอะไร
จื่อเอ๋อร์พูดถูกต้อง ขอเพียงคุ้มกันทางออกของเทือกเขาลั่วอิงได้ พวกเขาก็จะหาพวกชาวบ้านพบ
“โจวกัง!”
“ขอรับ!”
“เจ้าสั่งการทหารสามร้อยนาย ให้พวกเขาเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกทัพกับข้าทันที”
โจวอาอู่กล่าวด้วยความร้อนใจ “ท่านอ๋อง ข้าก็จะไปด้วยขอรับ”
หูเฟิงส่ายหน้า “เจ้าอยู่เฝ้าที่ค่าย ข้ามอบอำนาจคุมค่ายทหารให้เจ้า”
อาอู่ร้อนใจจนมือสั่น เพราะบุตรสาวของเขาก็ถูกจับไปตัวไปเช่นกัน รวมถึงลุงหูและน้าหลานที่เขาเคารพรัก ตอนนี้ยังมีอาจื่ออีก ทั้งหมดล้วนเป็นครอบครัวที่สนิทชิดเชื้อกับเขามากที่สุดในชีวิต เขาเองก็อยากไปช่วยพวกเขาด้วย อยากจะบินไปตอนนี้เสียเลย
ทว่าเขาไม่กล้าขัดคำสั่งของจิ้นอ๋อง บัดนี้ยังกำจัดคนทรยศในค่ายทหารไม่หมดสิ้น หากพวกเขาไปกันหมด สถานการณ์ที่นี่จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง ถึงแม้เขาจะอยากไป แต่ก็ไปไม่ได้
“ท่านอ๋อง ท่านจะต้องพาพวกเขากลับมาให้ได้นะขอรับ!” อาอู่คุกเข่าลงเบื้องหลังของหูเฟิง ทว่าหูเฟิงไม่ได้หยุดฝีเท้า ก่อนจะหายไปจากสายตาของพวกเขาอย่างรวดเร็ว
หมอเฉินรู้สึกงุนงงอยู่บ้าง นี่มันเกิดอะไรขึ้น ไป๋จื่อรู้จักจิ้นอ๋อง ไม่เพียงแต่รู้จักเท่านั้น ยังสนิทสนมกันมากอีกต่างหาก แล้วคนที่จิ้นอ๋องเรียกว่าพ่อเป็นใครกัน
อาอู่เช็ดน้ำตาที่หางตา ก่อนจะกล่าวกับหมอเฉินว่า “ท่านหมอเฉิน เรื่องนี้ข้าต้องขอบคุณท่านมาก ทว่าข้าอยากขอให้ท่านเก็บเป็นความลับ อย่าได้แพร่งพรายเรื่องนี้ให้ใครรู้”