คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 605 อู๋เจียง / ตอนที่ 606 ตามหมอยามวิกาล
ตอนที่ 605 อู๋เจียง
โถงสมุนไพร
คนหลายร้อยที่จู่ๆ ก็โผล่มาล้อมรอบโถงสมุนไพรเอาไว้ ทำเอาผู้ดูแลตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน รีบวิ่งออกมา ครั้นเห็นใบหน้าของหูเฟิง เขาก็จำอีกฝ่ายได้ทันที คนผู้นี้เคยมาที่โถงสมุนไพรพร้อมกับแม่นางน้อยคนหนึ่ง
“นายท่านผู้นี้ ท่าน เอ้ย พวกท่านมาซื้อยาหรือ”
“ได้ยินว่ามีชาวบ้านที่ถูกจับตัวไปหนีกลับมาได้ ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่นี่ เป็นความจริงหรือไม่” หูเฟิงถาม
ผู้ดูแลรีบพยักหน้า “เป็นความจริง พวกเขากำลังใส่ยาอยู่ข้างใน ให้ข้าเรียกให้ท่านดีหรือไม่”
หูเฟิงโบกมือ “ไม่ต้อง ข้าจะเข้าไปเอง”
ทุกคนล้วนรออยู่ข้างนอก มีเพียงหูเฟิงและโจวกังสองคนที่เข้าไปข้างใน
หมอซ่งกำลังใส่ยาให้บุรุษผู้หนึ่ง บนขาของเขามีบาดแผลฉกรรจ์ คล้ายกับถูกสัตว์ป่าบางชนิดกัดทึ้ง
หูเฟิงรู้จักบุรุษผู้นี้ เขาคืออู๋เจียง อยู่ในหมู่บ้านหวงถัวเช่นเดียวกัน
อีกคนหนึ่งคือภรรยาของอู๋เจียง เดิมทีพวกเขามีบุตรด้วยกันคนหนึ่ง ทว่าเวลานี้กลับหายตัวไป เกรงว่าจะหาตัวพบยากแล้ว
เมื่ออู๋เจียงเห็นหูเฟิง เขาก็รู้สึกตื้นตันใจขึ้นมา “หูเฟิง เจ้าคือหูเฟิงใช่หรือไม่”
หูเฟิงพยักหน้า “ข้าเอง ท่านพ่อของข้าและไป๋จื่อเล่า” เขาถาม
อู๋เจียงรีบตอบทันที “พวกเราแยกทางกัน พวกข้านับว่าโชคดี เดินทางอยู่หนึ่งวันก็เข้าเมืองได้แล้ว แต่ใครจะรู้ว่าสุนัขที่เมืองนั้นดุมาก ทั้งยังมีอยู่หลายตัวจริงๆ พวกข้าเพิ่งเข้าเมืองก็ถูกสุนัขกัดจนบาดเจ็บ ส่วนบุตรชายของข้า เขา…” เขาสะอื้นไห้ขึ้นมา พูดอะไรต่อไปไม่ได้อีก บุตรชายของเขาถูกสุนัขกัดตายต่อหน้าต่อตา ตอนนั้นเขาหิวจนไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไร จึงตีสุนัขดุร้ายเหล่านั้นไม่ได้โดยสิ้นเชิง คนเดินถนนเห็นพวกเขาทั้งครอบครัวดูน่าสงสาร ก็ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ช่วยชีวิตเขาและภรรยาไว้ได้ รวมถึงมีคนไปแจ้งทางการให้ด้วย หลังจากขุนนางของเมืองนั้นรู้เรื่องราวของพวกเขาแล้ว ก็สั่งให้คนส่งพวกเขากลับเมืองชิงหยวนทันที
เมื่อถึงเมืองชิงหยวน พวกเขาถึงได้รู้ว่าคนที่ถูกจับไปในราวนั้น นอกจากพวกเขาแล้วก็ยังไม่มีใครกลับมาเลย
“ตอนนี้เจ้าจึงไม่รู้เช่นกัน ว่าพวกไป๋จื่อและท่านพ่อของข้าอยู่ที่ใด” หูเฟิงเอ่ย
อู๋เจียงส่ายหน้า “ข้าไม่รู้เลย ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสถานที่ที่ข้าถูกสุนัขกัดจนบาดเจ็บคือที่ใด ขณะที่กำลังปวดเศียรเวียนเกล้า ก็ถูกส่งตัวกลับมาที่นี่แล้ว”
“คนอื่นยังอยู่ดีหรือไม่ เสี่ยวเฟิงบุตรชายของข้า รวมถึงหรูเอ๋อร์ พวกเขาสบายดีหรือไม่” โจวกังรีบถาม
“พวกเขาล้วนสบายดี ครั้งนี้ลำบากจื่อยาโถวแล้ว หากไม่ได้นาง เกรงว่าพวกข้าคงจะตายอยู่ในเงื้อมือของคนเลวพวกนั้นไปแล้ว” อู๋เจียงกล่าว
หูเฟิงพยักหน้า ก่อนจะยื่นมือไปตบบ่าอู๋เจียงเบาๆ “เจ้ารักษาตัวให้ดีเถอะ” จากนั้นเขาก็ส่งสายตาให้โจวกัง
โจวกังรู้กัน เขารีบหยิบเงินตำลึงออกมาสองก้อน แล้วยัดใส่มือของอู๋เจียง “นำเงินนี้ไปซื้อเสื้อผ้าและเสบียงอาหาร ผ่านฤดูหนาวนี้ไปให้ได้ก่อนค่อยว่ากล่าว”
อู๋เจียงรีบพยักหน้าขอบคุณ ในใจรู้สึกขมขื่นยิ่งนัก เดิมทีเขากำลังมีชีวิตที่ดีอยู่แท้ๆ แต่หายนะที่มาเยือนอย่างกะทันหันก็ทำให้เขากลายเป็นเช่นนี้จนได้
เขาเกลียดแค้นยิ่งนักที่สวรรค์หาได้มีตา แม้แต่เทวดาก็ไม่ประทานความเมตตาให้
ครั้นออกจากโถงสมุนไพรแล้ว โจวกังก็ถามหูเฟิงว่า “ท่านอ๋อง ตอนนี้จะทำเช่นไรดีขอรับ”
หูเฟิงลอบถอนใจ เขาเงียบอยู่เนิ่นนาน ก่อนที่จะพูดขึ้นในที่สุด “กลับค่ายทหารก่อน ทิ้งทหารไว้คุ้มกันเมืองชิงหยวนและหมู่บ้านหวงถัวด้วย เมื่อมีข่าวคราวอะไรก็ให้พวกเขาไปรายงานพวกเราที่ค่ายทหาร”
……….
ตอนที่ 606 ตามหมอยามวิกาล
เขาฉีอวิ๋น
ชุ่ยเอ๋อร์นำคนเสาะหาตามโรงเตี๊ยมต่างๆ ในเมือง จนสุดท้ายก็พบไป๋จื่อและครอบครัว ตอนนั้นเป็นเวลาดึกสงัด ไป๋จื่อกำลังคล้อยหลับ ครั้นได้ยินเสียงเคาะประตู นางก็ตกใจตื่นในทันที หรูเอ๋อร์ยิ่งตกใจจนร้องไห้จ้า เพราะความหวาดหวั่นก่อนหน้านี้ยังไม่จางหายไป เมื่อตกใจกลัวอย่างกะทันหันเช่นนี้ จิตใจของเด็กน้อยอย่างหรูเอ๋อร์จะรับไหวได้อย่างไร
ไป๋จื่อกระโดดลงจากเตียง นางยืนนิ่งอยู่บนพื้น พลางถามคนที่เคาะประตูข้างนอกห้องว่า “ใคร”
คนที่เคาะประตูเป็นพนักงานของโรงเตี๊ยม “มีคนมาหาพวกเจ้า บอกว่ามีเรื่องด่วน”
เด็กสาวมุ่นคิ้ว มีคนมาหาพวกนาง? พวกนางอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ใครจะมาพวกนางกัน
“ใครมาหาพวกข้า ชื่อแซ่ว่าอะไร” ไป๋จื่อถาม
พนักงานข้างนอกเอ่ยว่า “เป็นแม่นางคนหนึ่ง นางบอกว่าฮูหยินของนางโชคดีได้เจ้าตรวจอาการให้เมื่อกลางวัน ทว่าบัดนี้ฮูหยินอาการทรุดหนัก หวังว่าจะเชิญเจ้าไปตรวจอาการให้ฮูหยินอีกครั้ง”
ไป๋จื่อเข้าใจในทันที ที่แท้ก็เป็นสาวใช้ที่นางพบเมื่อกลางวัน นางจึงถอนใจด้วยความโล่งอก แล้วหมุนกายไปสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย คราวนี้ถึงจะเปิดประตูออกได้ นางถามทันทีว่า “แม่นางผู้นั้นอยู่ที่ใด”
“รออยู่ในโถงข้างล่าง เจ้าไปถึงก็จะรู้เอง” พนักงานกล่าว
นางให้จ้าวหลานกล่อมหรูเอ๋อร์นอนต่อ ก่อนจะตามพนักงานลงไปชั้นล่าง แม่นางที่รออยู่ในโถงชั้นล่างก็คือคนเดียวกับที่นางเจอเมื่อตอนกลางวันจริงๆ
“แม่นาง ตอนนี้ฮูหยินของเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง” นางรีบก้าวไปข้างหน้า ในใจรู้สึกหวั่นใจอย่างไรบอกไม่ถูก
เมื่อชุ่ยเอ๋อร์เห็นไป๋จื่อ ก็พลันดีใจเป็นอย่างยิ่ง “ได้พบเจ้าเสียที ข้าน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วว่าเจ้าไม่น่าไปอยู่ในโรงเตี๊ยมแพงๆ เหล่านั้น ข้าควรจะมาหาเจ้าที่นี่ตั้งแต่แรก เสียเวลาเปล่าไปตั้งหลายชั่วยาม”
ไป๋จื่อถามอีกครั้ง “ตอนนี้ฮูหยินของเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง”
ชุ่ยเอ๋อร์ส่ายหน้า “ข้าออกมาหลายชั่วยามแล้ว ตอนนี้ฮูหยินเป็นเช่นไรข้าเองก็ไม่แน่ใจนัก หมอไป๋ เจ้าไปกับข้าสักครั้งเถอะ นายใหญ่ของข้าอยากพบเจ้า และมีเรื่องจะถามเจ้าด้วย”
ไป๋จื่อพยักหน้าทันที ไม่ได้มีความลังเลเลยสักนิด “ตกลง ข้าขอขึ้นไปบอกครอบครัวของข้าสักเดี๋ยว”
นางขึ้นไปที่ชั้นบนอีกครั้ง หลังบอกกล่าวจ้าวหลานแล้ว นางก็ลงมาชั้นล่างอีกครั้ง แล้วตามชุ่ยเอ๋อร์ขึ้นรถม้าไป
รถม้ามุ่งหน้าออกนอกเมือง นางจึงรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง “เหตุใดต้องออกจากเมืองด้วย”
ชุ่ยเอ๋อร์ยิ้มกล่าวว่า “ฮูหยินของพวกข้าเป็นคุณหนูของสกุลตงฟาง เจ้าไม่รู้จักบ้านของสกุลตงฟางหรือ”
ไป๋จื่อส่ายหน้า “ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำ มีชื่อเสียงมากเลยหรือ”
“สำหรับข้าถือว่ามีชื่อเสียงมาก ถึงอย่างไรเสียปีนั้นนายใหญ่ก็เป็นถึงผู้ช่วยเสนาบดี แม้กระทั่งเคยเป็นผู้สำเร็จราชการแทนฮ่องเต้ เป็นคนที่ฮ่องเต้ไว้ใจเป็นอย่างยิ่ง แม้ตอนนี้จะเกษียณออกมาแล้ว แต่ตำแหน่งของสกุลตงฟางก็ยังคงมั่นคงและมั่งคั่ง ไม่มีผู้ใดกล้าดูถูก”
ไป๋จื่อยังคงส่ายหน้า “ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ แล้วอยู่ไกลจากเมืองมากหรือไม่”
“ไม่ไกล ภูเขาฉีอวิ๋นอยู่ข้างนอกเมือง สกุลตงฟางของพวกเขาอาศัยอยู่บนภูเขาฉีอวิ๋นนี่แหละ”
“อาศัยอยู่บนภูเขา? สถานที่เช่นนั้นน่ากลัวจะตายไป ไม่มีสัตว์ป่าหรือ” ไป๋จื่อเบิกตาโพลง
ทว่าชุ่ยเอ๋อร์กลับขบขัน “เจ้าช่างตลกนัก มีทหารห้าพันนายประจำการอยู่บนภูเขาฉีอวิ๋น ถึงจะมีสัตว์ป่าจริง ก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าไรกระมัง”
ไป๋จื่อยิ่งงุนงงมากกว่าเดิน “เมื่อครู่เจ้าบอกว่านายใหญ่ของเจ้าเกษียณแล้วไม่ใช่หรือ เกษียณแล้วก็ยังควบคุมทหารได้หรือนี่ ฮ่องเต้ไม่ว่าอะไรหรือไร”
ชุ่ยเอ๋อร์ยิ้มกล่าวว่า “นี่เป็นพระบัญชาเป็นพิเศษของฮ่องเต้ หนึ่งเดียวไม่มีใครเหมือน!”
ระหว่างที่สนทนากัน รถม้าเคลื่อนที่ถึงหน้าประตูเมืองแล้ว ประตูเมืองที่เดิมทีปิดสนิทนี้ หลังจากเห็นป้ายคำสั่งที่คนรถแสดงแล้ว ก็พลันเปิดประตูเมืองใน ปล่อยให้พวกเขาออกไป
หนทางหลังออกจากเมืองเริ่มขรุขระขึ้นมาอย่างมาก ครั้นถึงเส้นทางขึ้นเขา กลับราบเรียบขึ้นมาเสียอย่างนั้น เห็นได้ชัดว่ามีการสร้างเส้นทางนี้ขึ้นมาเป็นพิเศษ