คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 621 หลินหยาง / ตอนที่ 622 อวี๋ม่านน่า
ตอนที่ 621 หลินหยาง
จ้าวหลานยิ้ม “เด็กโง่ ทำอย่างกับข้าจะไม่พอใจที่เจ้าจะทำเรื่องนี้ เจ้าอยากทำอะไรก็ทำเถอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร แม่ล้วนสนับสนุนเจ้า”
ไป๋จื่อกอดจ้าวหลาน ซุกหน้าลงที่ไหปลาร้าของนาง “ท่านแม่ ไม่ว่าต่อไปจะเป็นเช่นไร ท่านจะเป็นท่านแม่ของข้าตลอดไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรื่องนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”
จ้าวหลานลูบหลังบุตรสาว เอ่ยพร้อมรอยยิ้มว่า “แม่รู้ ทว่าแม่แท้ๆ ของเจ้าจะต้องรักเจ้ามากยิ่งกว่าข้าแน่ เจ้าจงดีกับนาง อย่าได้ทำตัวห่างเหินกับนางเลย นางจะเสียใจเอาได้นะ”
ไม่มีอะไรทำให้แม่คนหนึ่งเสียใจได้มากเท่ากับลูกของตนเองตีตนออกห่างแล้ว
ไป๋จื่อยิ้มจาง “ข้ารู้เจ้าค่ะ ท่านแม่ ท่านดีที่สุดเลย!”
จ้าวหลานลูบเรือนผมไป๋จื่อ “เด็กโง่!”
หรูเอ๋อร์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เห็นพวกนางกอดกัน ในใจก็รู้สึกอิจฉามาก เพราะนางเองก็คิดถึงแม่เช่นกัน
“พี่ไป๋ เมื่อไรแม่ของข้าจะมาหาข้าบ้าง”
“อีกไม่นานหรอก เดี๋ยวนางก็จะมาแล้ว” ไป๋จื่อเอ่ย
…
เมื่อฟ้ามืดลง ไป๋จื่อเห็นตงฟางหว่านเอ๋อร์หลับไปแล้ว ชีพจรของนางมั่นคงและสงบ จึงวางใจลงได้บ้าง เด็กสาวให้ชุ่ยเอ๋อร์ดูแลนางให้ดี ก่อนบอกชุ่ยเอ๋อร์ว่าตนจะปิดเรือนหลอมยา หากไม่มีเรื่องด่วนถึงชีวิต ก็อย่าได้มารบกวนเป็นอันขาด
ชุ่ยเอ๋อร์รับปาก เมื่อส่งไป๋จื่อกลับไปแล้ว นางก็กลับไปนั่งลงที่ข้างเตียงของฮูหยิน พลางมองใบหน้าที่ซูบซีดของอีกฝ่าย เอ่ยพร้อมน้ำตานองหน้า “ฮูหยิน ท่านรีบตื่นขึ้นมาเถอะเจ้าค่ะ บุตรีที่ท่านคิดถึงสุดหัวใจผู้นั้น นางกลับมาแล้ว ตอนนี้นางล้วนอยู่ข้างกายท่าน ขอเพียงท่านตื่นขึ้นมา ท่านก็จะได้เห็นนาง โอบกอดนาง ฟังนางเรียกท่านว่าท่านแม่ ฮูหยิน ท่านต้องตื่นขึ้นมาให้ได้นะเจ้าคะ!”
ไป๋จื่อนอนลงบนเตียง เนิ่นนานไม่อาจหลับลงได้ อาจจะเป็นเพราะนางกำลังเคร่งเครียด ถึงได้นอนไม่หลับเช่นนี้ นางอยากใช้กระบองตีหัวตัวเองสักครั้ง ไม่เช่นนั้นขืนตื่นเต็มตาต่อไป นางก็จะกลับไปยังยุคปัจจุบันไม่ได้ นำยากลับมาไม่ได้ แล้วจะช่วยตงฟางหว่านเอ๋อร์ได้อย่างไร
นางนึกได้ว่ายาชาที่ก่อนหน้านี้พกติดตัวมาด้วยยังเหลืออยู่เล็กน้อย จึงนำออกมาผสมน้ำดื่มเสียเลย อย่างน้อยยาชาชนิดนี้ก็พอจะทำให้หลับได้สักสองชั่วยาว หากหลินหยางอยู่ สองชั่วยามก็เพียงพอแล้ว
หลังจากกินยาชาลงไป นางก็นอนลงบนเตียงอีกครั้ง ม่านเหนือเตียงเริ่มเลือนรางขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่นางจะรู้สึกว่าร่างกายของตนเองจมดิ่งลง ราวกับตกลงมาจากกลางอากาศไม่ยอมหยุด จนสุดท้ายก็ตกลงสู่เตียงที่คุ้นเคยหลังนั้น
…
เมื่อลืมตาขึ้น หลินหยางนั่งอยู่ที่ข้างเตียง ดวงตาจ้องเขม็งไปที่เธอ ทันทีที่เธอลืมตาขึ้น เขาก็โผเข้าไปหาเธอทันที แล้วยื่นมือไปจับข้อมือของเธอเอาไว้แน่นขนัด ราวกับว่ามีกุญแจมือล็อกเธออยู่
สภาพของเขาดูย่ำแย่มาก ใต้คางมีเครา ขอบตาลึกโหล ทรงผมยุ่งเหยิง แตกต่างกับหลินหยางที่สะอาด เรียบร้อย สง่างาม และหล่อเหลาเหมือนกับคนละคน
หัวใจของหลินหยางเต้นแรงมาก เขากอดเธอไว้แนบอก มือข้างหนึ่งจับข้อมือของเธอไว้ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งโอบรอบแผ่นหลังของเธอ เขาออกแรงมากเสียจนคล้ายกับต้องการฝังเธอลงไปในร่างกายของตัวเอง
ไป๋จื่ออยากดันเขาออก แต่กลับขยับมือไม่ได้เลยสักนิด ตอนนี้เธอไร้เรี่ยวแรง ไม่สามารถต้านทานแรงของเขาได้โดยสิ้นเชิง
“หลินหยาง ปล่อยเถอะ รีบปล่อยฉันเร็ว ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้ว”
คราวนี้หลินหยางถึงจะปล่อยเธอ แต่มือที่จับเธอไว้กลับไม่ยอมคลายออก “คุณตื่นแล้ว ในที่สุดคุณก็ตื่นสักที ไป๋จื่อ คุณใจร้ายมาก”
ไป๋จื่อเหล่มองแสงจันทร์ข้างนอกหน้าต่าง รีบพูดว่า “หลินหยาง คุณช่วยฉันเรื่องหนึ่งได้ไหม”
หลินหยางชะงักกึก จากนั้นก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ “คุณคิดได้แล้วเหรอ คุณอยากกลับมาแล้วใช่ไหม วางใจได้เลยนะ ตอนนี้ผมกำลังคิดวิธีอยู่ จะต้องหาวิธีได้แน่นอน”
แต่ไป๋จื่อกลับส่ายหน้า “ไม่ใช่เรื่องนั้น หลินหยาง ตอนนี้ฉันต้องการยาเพนิซิลิน คุณช่วยหาให้ฉันสักสองสามกล่องสิ” เธอขบคิดอย่างรอบคอบแล้ว กล่าวอีกว่า “ห้ากล่องเลยดีกว่า ฉันต้องการห้ากล่อง”
……….
ตอนที่ 622 อวี๋ม่านน่า
หลินหยางขมวดคิ้ว “คุณจะเอามันไปทำอะไร มันเป็นยาล้างเลือดชำระพิษ คุณจะใช้มันทำอะไรเหรอ”
ไป๋จื่อร้อนใจ “ฉันมีเรื่องด่วนต้องใช้มัน ไม่มีเวลาอธิบายให้คุณฟังแล้ว คุณไปหายามาก่อนเถอะ พอได้ยามาแล้ว ฉันจะค่อยๆ อธิบายให้คุณฟังเอง” ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้ร่างกายของเธออ่อนแอมาก เธอคงไปหายามาเองแล้ว
ชายหนุ่มเห็นเธอร้อนใจ ก็ไม่ได้ถามอะไรมากความอีก “งั้นก็ได้ ผมจะไปเอายามาให้คุณ คุณรอผมก่อน ต้องรอผมนะ”
“อืม ฉันจะรอคุณอยู่ที่นี่ รีบไปรีบมาเถอะ” ไป๋จื่อพยักหน้า
หลินหยางสวมเสื้อคลุมออกไปด้วย ส่วนเธอนั่งอยู่บนเตียง ตอนนี้รู้สึกเวียนหัวมาก น่าจะเป็นเพราะไม่ได้ตื่นขึ้นที่นี่หลายเดือน ร่างกายถึงได้อ่อนแอลงถึงขั้นนี้
หลังจากหลินหยางไปได้ไม่นานเท่าไร ประตูห้องผู้ป่วยก็เปิดออกอีกครั้ง เธอคิดว่าหลินหยางกลับมาแล้ว จึงรีบหยัดตัวตรง ทว่าคนที่เข้ามากลับเป็นอวี๋ม่านน่า
“อวี๋ม่านน่า? เธอมาได้ยังไง” เธอมองอวี๋ม่านน่าด้วยความระแวดระวัง ขณะเดียวกันมือก็ค่อยๆ เลื่อนไปหาปุ่มฉุกเฉิน
อวี๋ม่านน่าแค่นหัวเราะ “ที่นี่คือโรงพยาบาลหมิงซิง ฉันอวี๋ม่านน่าอยากมาก็มา อยากไปก็ไป ทำไม? เธอไม่ชอบใจเหรอ”
ไป๋จื่อถามทันที “เธอมีอะไรก็ว่ามา แต่ถ้าเป็นเรื่องไร้สาระ พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก”
ความรังเกียจปรากฏขึ้นในแววตาของอวี๋ม่านน่า คนต่ำช้าอย่างไป๋จื่อคนนี้ ทำไมถึงได้มีหน้าตาสะสวยขนาดนี้นะ
อวี๋ม่านน่าพูดว่า “ฉันเป็นรองผู้อำนวยการของโรงพยาบาลหมิงซิง ฉันจะมาบอกเธอเรื่องหนึ่ง ว่าฉันจะขอรับเตียงนี้คืน เพราะในเมื่อเธอหายดีแล้ว งั้นก็ออกจากโรงพยาบาลซะสิ”
ไป๋จื่อยิ้มเย็น “เรื่องออกจากโรงพยาบาลเนี่ย เธอไปพูดกับหลินหยางเองเถอะ ถ้าเธออยากรับเตียงนี้คืนจริงๆ ฉันเดาว่าหลินหยางต้องรับฉันไปอยู่ที่บ้านของเขาแน่ พอถึงตอนนั้น พวกฉันก็ถือว่าได้อยู่บ้านเดียวกันแล้ว เธอไม่กลัวหรือไง”
สีหน้าของอวี๋ม่านน่าเปลี่ยนไปในทันที โมโหจนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เธอชี้หน้าไป๋จื่อ “เธอไม่รู้จักเอากระจกมาส่องดูบ้างเลยเหรอ เธอคิดว่าเธอคู่ควรกับหลินหยางใช่ไหม ครอบครัวก็ไม่มี ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำงานอะไรอีก แล้วเธอยังมีหน้าอะไรมาเกาะแกะหลินหยาง เธอรู้หรือเปล่าวว่าหลินหยางเป็นใคร”
“ไม่รู้หรอก ฉันรู้แค่ว่าหลินหยางชอบฉัน เท่านั้นก็พอแล้ว เธอต่างหาก ครอบครัวก็ร่ำรวย มีหน้าที่การงานที่ดี แต่แล้วยังไง หลินหยางไม่ชอบเธอ ถึงขั้นเกลียดเธอด้วยซ้ำไป แค่เขามองเธอครั้งเดียวก็รู้สึกคลื่นไส้แล้วมั้ง เธอคู่ควรกับเขาหรือไง” ไป๋จื่อยักไหล่
ไฟโทสะของอวี๋ม่านน่าพุ่งสูงเสียดฟ้าในพริบตา เธอปรี่ไปข้างหน้า หมายจะบีบคอของไป๋จื่อ แต่วินาทีที่ไป๋จื่อกำลังจะกดปุ่มฉุกเฉิน หลินหยางก็พุ่งเข้ามาในห้องทันที เขาตะคอกใส่อวี๋ม่านน่าว่า “เธอทำอะไร คิดจะทำอะไรอีก”
อวี๋ม่านน่าหดมือของตัวเองกลับ ยิ้มเจื่อนว่า “เปล่า ก็แค่ล้อเล่นเฉยๆ”
หลินหยางก้าวไปข้างหน้า ขวางระหว่างอวี๋ม่านน่ากับไป๋จื่อ จากนั้นเขาก็ผลักอวี๋ม่านน่าออก “ฉันบอกแล้วใช่ไหม ว่าเธอห้ามมาที่นี่อีก ห้ามเข้าใกล้ไป๋จื่อด้วย เธอเห็นคำพูดของฉันเป็นลมผ่านหูหรือไง”
อวี๋ม่านน่าไม่อยากเถียงกับหลินหยางที่กำลังโมโห เธอถลึงตามองไป๋จื่อครั้งหนึ่ง ก่อนจะกลับหลังหันออกจากห้องไป
“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม” หลินหยางถามไป๋จื่อ
ไป๋จื่อส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไร”
เขามองรอยบีบแดงๆ บนคอบางของเธอ พาให้เขาทุบกำปั้นลงบนเตียงด้วยความโมโห “แม่งเอ๊ย!”
ไป๋จื่อเห็นเขาถือยากล่องหนึ่งอยู่ในมือ จึงรีบยื่นมือไปหา “เอายามาให้ฉัน”
หลินหยางส่งยาให้เธอ พลางถามว่า “คุณจะเอายาไปทำอะไรกันแน่”
เธอหันไปกวาดสายตามองตู้บนหัวเตียง บนนั้นมีกล่องปฐมพยาบาลวางอยู่อย่างที่คาดไว้ แถมขนาดของมันยังใหญ่กว่าครั้งก่อนอีกต่างหาก น่าจะเป็นกล่องรุ่นใหม่ที่เพิ่งออกมา