คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 661 คุณหนูตงฟาง / ตอนที่ 662 ทำความเคารพ
ตอนที่ 661 คุณหนูตงฟาง?
หูเฟิงมีสีหน้าประหลาดใจ อะไรที่ว่าบังเอิญและแปลกอย่างนั้นหรือ
ตงฟางมู่เล่าเรื่องราวที่พบไป๋จื่อในเมืองฉี และเล่าเรื่องชั่วช้าที่เผยชิงหานทำลงไปอีกด้วย หูเฟิงได้ฟังดังนั้ นสักพักก็ดีใจ สักพักก็โมโห ทั้งสองคนราวกับคนบ้าอย่างไรอย่างนั้น เดี๋ยวก็กัดฟันกรอด เดี๋ยวก็หัวเราะไม่ยอมห หยุดยั้ง
“เช่นนี้หมายความว่า พวกไป๋จื่อและพ่อของข้าล้วนอยู่ที่นี่หรือขอรับ” หูเฟิงถามด้วยความร้อนใจ
ตงฟางมู่พยักหน้า “อยู่ อยู่กันทั้งหมด”
โจวกังเองก็ตื่นเต้นขึ้นมาเช่นกัน “เสี่ยวเฟิงก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือขอรับ”
ตงฟางมู่พยักหน้าอีกครั้ง กล่าวอย่างเบิกบานใจ “อยู่สิ หรูยาโถวก็อยู่ที่นี่ด้วย”
โจวกังและอาอู่ต่างก็ดีใจจนแทบจะกอดคอกันกระโดดโลดเต้น พากันยิ้มไม่หุบ เพราะพวกเขากำลังกังวลว่าไม่รู้ควร รจะไปตามหาพวกเขาที่ใด คิดไม่ถึงเลยว่าจะอยู่ตรงหน้านี้เอง
หูเฟิงร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง ถามตงฟางมู่ว่า “พวกเขาเล่าขอรับ ไยไม่ให้พวกเขาออกมา”
ตงฟางมู่ยิ้มว่า “พวกเขาไม่อยู่ที่จวน วันนี้หว่านเอ๋อร์อารมณ์ดี จึงพาพวกเขาออกไปข้างนอกด้วย นางบอกว่าจะพาพว วกเขาไปตัดชุดใหม่ กินของอร่อย และดูละคร”
ในใจของหูเฟิงคิดถึงแต่เพียงไป๋จื่อและหูจ่างหลิน ไหนเลยจะมีกะใจอยู่ต่อที่จวนสกุลตงฟาง เขากล่าวกับตงฟางมู่ ว่า “ท่านอาจารย์ ข้าจะไปหาพวกเขาขอรับ”
ตงฟางมู่โบกมือ “ไปเถอะๆ พบพวกเขาแล้วก็รีบกลับมาเร็วหน่อยเถอะ พวกเราศิษย์อาจารย์จะได้ร่ำสุรากันสักจอกสองจอก ก”
คฤหาสน์สกุลตงฟางห่างจากบริเวณตลาดไม่ไกลเท่าไร พวกเขาสี่คนห้อม้าผ่านไปโดยตรง ระหว่างทางพบโรงน้ำชา ร้านอาหาร ร ร้านขายผ้า และโรงละคร พวกเขาไม่ปล่อยที่ใดให้เล็ดรอดไป ค้นหาทุกแห่งอย่างละเอียด
โจวกังกล่าวกับหูเฟิงว่า “ท่านอ๋อง เมืองหลวงใหญ่ถึงเพียงนี้ พวกเราค้นหาจนฟ้ามืดก็อาจจะไม่พบ มิสู้พวกเราสอบถา ามดูสักหน่อย ว่าร้านขายผ้าร้านใดดีที่สุด เหล่าฮูหยินและคุณหนูชอบไปที่สุด ร้านอาหารใดโด่งดังที่สุด อาหารอร ร่อยที่สุด เช่นนั้นพวกเราจะได้หาพบพวกเขาเร็วหน่อย”
หูเฟิงพยักหน้า “มีเหตุผล รีบไปสอบถามมาเถอะ”
ทั้งสามคนแยกกันไปคนละทาง ครั้นสอบถามเสร็จสิ้นก็กลับมารวมตัวกันที่ข้างกายของหูเฟิง
“ข้าได้ยินมาว่าหอเทียนอีเป็นร้านขายผ้าที่ดีที่สุดในเมืองหลวง เหล่าฮูหยินและคุณหนูที่พอมีเงินต่างก็ชอบ ไปตัดชุดที่นั่นขอรับ” โจวกังกล่าว
ฟู่เจิงกล่าวบ้าง “สวนไป่เหนี่ยวเป็นโรงละครที่ดีที่สุดในเมืองหลวงขอรับ”
“เดิมทีที่เมืองหลวงก็มีร้านสือเค่อเช่นกัน แต่พวกเขาบอกว่าร้านอาหารที่ดีที่สุดก็คือหอจุ้ยเซียน ร้านสือเค่อ อเป็นอันดับสองขอรับ” อาอู่เอ่ย
หูเฟิงโบกมือ “เวลานี้ไม่ใช่เวลากินข้าว จะฟังละครก็ต้องเป็นช่วงบ่าย เวลานี้พวกเขาน่าจะอยู่ที่หอเทียนอี พวกเรา าไปที่หอเทียนอีกันเถอะ”
…
หอเทียนอี
ตงฟางหว่านเอ๋อร์ไม่ได้มาที่หอเทียนอีสิบกว่าปีแล้ว ตอนที่นางเพิ่งแต่งให้เผยชิงหาน นางเป็นลูกค้าประจำของท ที่นี่ หอเทียนอีในเวลานี้ใหญ่กว่าในอดีตมากทีเดียว
พนักงานที่ออกมาต้อนรับไม่รู้จักตงฟางหว่านเอ๋อร์ ชุ่ยเอ๋อร์ที่อยู่ข้างกายจึงรีบให้สาวใช้ไปประกาศฐานะของนาง
เมื่อพนักงานผู้นั้นได้ยินว่าเป็นคุณหนูของสกุลตงฟาง รอยยิ้มงดงามก็พลันปรากฏเต็มใบหน้า “ที่แท้ก็เป็นฮูหยิน ตงฟาง เชิญขึ้นชั้นบนขอรับ”
พวกเขายกขบวนขึ้นไปชั้นบน ส่วนคนที่อยู่ชั้นล่างก็เริ่มซุบซิบกันแล้ว
“คนผู้นี้คือคุณหนูตงฟาง ที่แต่งเข้าจวนชางหยวนโหวใช่หรือไม่”
“น่าจะใช่กระมัง สกุลตงฟางมีคุณหนูเพียงคนเดียว ไม่ใช่นางแล้วจะเป็นใคร น่าแปลกเสียจริง ในเมื่อนางแต่งเข้าจวน ชางหยวนโหวไปแล้ว ออกมาเช่นนี้ก็ควรใช้ฐานะฮูหยินของชางหยวนโหว เหตุใดยังเรียกตนเองว่าคุณหนูตงฟาง นี่หมายความ มว่าอย่างไร”
“ก็หมายความว่าไม่ใช่เรื่องของพวกเรา ทว่าอีกไม่นานก็จะมีเรื่องสนุกให้ดูแล้วละ เจ้าลืมไปแล้วหรือ เมื่อครู่ฮูห หยินเซียงแห่งจวนชางหยวนโหวก็พาคุณหนูใหญ่และคุณหนูรองขึ้นชั้นบนไป การปะทะกันครั้งนี้ช่างน่าดูชมยิ่งนัก”
……….
ตอนที่ 662 ทำความเคารพ
แม้ตงฟางหว่านเอ๋อร์จะป่วยมานานสิบกว่าปี ทว่าหูของนางไม่ได้ป่วยตามไปด้วย จึงได้ยินบทสนทนาของคนเหล่านี้ชัดเจ จน
ฮูหยินเซียง? คุณหนูจากครอบครัวถังแตกที่รู้จักกับเผยชิงหานตั้งแต่เล็กนั่นหรือ นางสารเลวที่ถือโอกาสยามนางต ตั้งครรภ์ ยั่วยวนเผยชงหานอย่างลับๆ กระมัง
คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าอี๋เหนียงที่ต่ำต้อยคนหนึ่ง จะกล้าเรียกตนเองว่าฮูหยินต่อหน้าธารกำนัล ช่างน่าหัวร่อให้ฟั นร่วงยิ่งนัก
ไป๋จื่อถามตงฟางหว่านเอ๋อร์เสียงเบา “ท่านแม่ เซียงอี๋เหนียงผู้นี้เป็นใครหรือ”
ตงฟางหว่านเอ๋อร์ยิ้มอย่างเยือกเย็น ใบหน้าก็เย็นชาเช่นกัน “เซียงอี๋เหนียงแห่งจวนชางหยวนโหว ข้าป่วยมาหลายปี เรือนหลังของจวนโหวล้วนเป็นนางที่จัดการ สาวใช้ที่เข้าจวนมาพร้อมกับข้าล้วนตายด้วยน้ำมือนางทั้งสิ้น ก่อนหน้ านี้ข้าร่างกายอ่อนแอ ไม่มีกะใจและเรี่ยวแรงจะต่อกรกับนางมาก แต่วันนี้ข้ากับเผยชิงหานแยกทางกันแล้ว เดิมก็ ไม่คิดจะวุ่นวายกับนางอีกหรอก ทว่าในเมื่อวันนี้ได้พบกันแล้ว ก็ย่อมต้องฟื้นความทรงจำกันเสียหน่อย”
ไป๋จื่อจับมือตงฟางหว่านเอ๋อร์ด้วยความเป็นห่วง เจ็บใจที่นางต้องทนทรมานอยู่ในจวนโหวตั้งหลายปี เมื่อเทียบตนเ เองกับนางแล้ว ชีวิตของตัวนางเองกลับดูดีกว่ามาก อย่างน้อยก็มีร่างกายที่แข็งแรง ได้กิน ได้นอนตามใจ
ตงฟางหว่านเอ๋อร์ส่ายหน้า พลางยิ้มจางให้บุตรี “ไม่เป็นไร ทุกอย่างเป็นอดีตไปแล้วละ”
พนักงานนำพวกนางไปยังห้องรับรองที่ใหญ่ที่สุด พวกนางมากันหลายคน อีกทั้งด้วยชื่อเสียงของสกุลตงฟาง ได้เข้าไ ไปในห้องรับรองขนาดใหญ่ที่สุดย่อมเป็นเรื่องธรรมดา
ทว่าหากต้องการเข้าไปในห้องรับรองนั้น จำเป็นต้องผ่านห้องรับรองขนาดกลางและขนาดเล็ก หนึ่งห้องในนั้นเป็นห้อง ที่พวกเซียงอี๋เหนียงและไป๋เจินจูอยู่
เมื่อเดินถึงห้องหมายเลขห้า ตงฟางหว่านเอ๋อร์ก็หยุดฝีเท้า คนข้างหลังจึงหยุดตามไปด้วย ก่อนที่นางจะหันหน้าไปกล่ าวกับพนักงานผู้นำทางว่า “เปิดประตู”
พนักงานรู้สึกลำบากใจมาก “คุณหนูตงฟาง ในห้องนี้มีคนอยู่ขอรับ พวกเราเปลี่ยนห้องกันดีกว่า”
ตงฟางหว่านเอ๋อร์ยิ้มจาง “ข้ารู้จักคนที่อยู่ข้างใน เจ้ารีบเปิดประตูเถอะ”
แน่นอนว่าพนักงานรู้ว่าพวกนางรู้จักกัน ภายในห้องคือเซียงอี๋เหนียงแห่งจวนชางหยวนโหว ส่วนคนที่อยู่เบื้องหน้ าคือฮูหยินที่แท้จริงของจวนชางหยวนโหว พูดง่ายๆ ก็คือภรรยาเอก พวกนางสองคนรู้จักกันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยส สักนิด
ทว่าหากทั้งสองคนวิวาทกันขึ้นมา เรื่องราวก็คงยุ่งยากแล้วละ
ชุ่ยเอ๋อร์เห็นพนักงานชักช้าไม่ยอมเปดประตูเสียที จึงก้าวไปข้างหน้าเอง และเปิดประตูบานนั้นออก
เซียงอี๋เหนียงกำลังหยิบผ้าผืนหนึ่งทาบบนร่างกายของเผยเซี่ยเฉิน ไป๋เจินจูเองก็ถือผ้าสีสันสดใสเทียบกับร่าง งกายของตนเองเช่นกัน ใบหน้าดูมีความสุขนัก
ครั้นประตูเปิดออก เซียงอี๋เหนียงก็มีสีหน้าดำคล้ำในทันที “ใครกันช่างไร้มารยาท”
ชุ่ยเอ๋อร์ก้าวอาดๆ เข้ามา ก่อนจะกวาดสายตามองเซียงอี๋เหนียงอย่างเย็นชาครั้งหนึ่ง แล้วเอ่ยเสียงดังว่า “ฮูหยิน มาแล้ว ยังไม่รีบทำความเคารพอีก”
ฮูหยิน? ฮูหยินที่ไหนอีก เซียงอี๋เหนียงชะงักงัน เหตุใดชุ่ยเอ๋อร์ถึงอยู่ที่นี่ นางไม่ใช่ว่าควรอยู่ดูแลอยู่ข้า างคนป่วยใกล้ตายหรือไร
ตงฟางหว่านเอ๋อร์ก้าวเข้ามาช้าๆ แววตาเฉยเมยตกอยู่บนใบหน้าตะลึงลานของเซียงอี๋เหนียง “เป็นอะไรไป ไม่พบกันเพีย ยงเดือนเดียว เจ้าจำข้าไม่ได้แล้วหรือ”
เซียงอี๋เหนียงเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ตงฟางหว่านเอ๋อร์ตรงหน้านางผู้นี้เป็นคนเดียวกับตงฟางหว่านเอ๋อร์คนที่นางเ เคยรู้จักหรือ บนใบหน้าที่เคยซีดขาวดูอิ่มเอิบขึ้นมาก แม้กระทั่งมีเลือดฝาดอยู่มากมาย ดูท่าทางสบายดีทีเดียว นา างไม่กล้าเชื่อเลยจริงๆ ว่าตงฟางหว่านเอ๋อร์เมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้จะยืนอยู่ตรงหน้านางแล้ว
“ตะลึงอะไรอยู่ พบฮูหยินก็ต้องทำความเคารพไม่ใช่หรือไร” ชุ่ยเอ๋อร์เท้าเอวและเต๊ะท่า ตะคอกใส่เซียงอี๋เหนียง
เซียงอี๋เหนียงมุ่นคิ้ว ทำความเคารพ? นางไม่ได้ทำความเคารพตงฟางหว่านเอ๋อร์มานานเท่าไรแล้วนะ