คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 671 เหตุผล / ตอนที่ 672 การเสียสละของเซียวอ๋อง
ตอนที่ 671 เหตุผล
ใช่ นางเป็นบุตรีของสกุลเผย ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาล้วนต้องได้นางมาไว้ในกำมือ มีเพียงทำเช่นนั้น เขาถึ งจะมีโอกาสได้รับการสนับสนุนจากตงฟางมู่
ฉู่เฟิงกล่าวว่า “เสด็จแม่ ข้ารู้ว่าควรทำอย่างไร”
ฉุนเฟยพยักหน้า นางชื่นชมโอรสของตนมาก แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยทำให้นางผิดหวัง ควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร เขาล้วนร รู้ชัดแจ้งแก่ใจดี
ชายหนุ่มลุกขึ้น กล่าวกับนางกำนัลที่อยู่ข้างๆ ว่า “นำทางข้าที ข้าจะไปพบบุตรีของสกุลเผยผู้นี้สักหน่อย”
ในแววตาของนางกำนัลพลันปรากฏความประหลาดใจ บุตรีจากสกุลเผยผู้นั้นเพิ่งอายุสิบสาม และตอนนี้ก็ไปทางด้านหลังตำห หนักแล้ว หากเซียวอ๋องไปในเวลานี้…
แม้นางกำนัลจะรู้สึกแปลกใจ แต่กลับไม่ได้แสดงความรู้สึกนั้นออกมาแม้สักนิดเดียว นำเซียวอ๋องไปทางด้านหลังตำหนักทัน นที
…
ไป๋เจินจูกำลังกำชับนางกำนัลสองคนให้เปลี่ยนชุด เมื่ออาภรณ์ชิ้นแล้วชิ้นเล่าถูกถอดออก เรือนร่างของเด็กสาววับ สิบห้าปีก็เผยออกมาให้เห็น นางกำนัลทั้งสองคนเพิ่งอายุได้สิบสามปี เมื่อเห็นร่างกายของสตรีที่บอกว่าตนเองอายุ สิบสามปีเช่นกันแล้ว ก็ไม่อาจทำใจเชื่อได้ว่านางอายุเพียงแค่สิบสามปีจริงๆ…
นางทำเป็นมองไม่เห็นสายตาแปลกใจของพวกนาง แม้ในใจจะรู้สึกหวั่นเกรงก็ตาม
ขณะที่ไป๋เจินจูถอดเสื้อผ้าจนเหลือเพียงชุดชั้นในชิ้นสุดท้าย ประตูตำหนักที่ปิดสนิทก็พลันถูกเปิดออก เงาร่างสูง งใหญ่ย่างกรายเข้ามาจากข้างนอก ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏขึ้นต่อหน้าไป๋เจินจู นางมองใบหน้านี้อย่างตะลึงงัน เพราะมันช่ างคล้ายคลึงกับใบหน้าของหูเฟิงอยู่หลายส่วน จนถึงขั้นที่นางลืมไปว่า ณ ตอนนี้และเวลานี้นางสวมเพียงชุดชั้นในชิ นเดียว กำลังยืนอยู่ต่อหน้าบุรุษแปลกหน้าคนหนึ่ง
ฉู่เฟิงก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหมุนกายหนี “ข้าช่างเสียมารยาทเสียจริง ข้าไม่รู้ว่ามีคนอยู่ข้างในนี้ ข้าไ ไม่ได้ตั้งใจ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้!” จากนั้นเขาก็รีบร้อนออกไป
คราวนี้ไป๋เจินจูถึงค่อยรู้สึกตัวว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น และเวลานี้นางก็ได้เข้าใจว่าเขาคือเซียวอ๋อง หรือฉู เฟิงที่ประสงค์จะแย่งนางมาจากจิ้นอ๋องนั่นเอง
นี่ก็คือแผนการของพวกเขากระมัง ช่างตรงไปตรงมาเกินไปแล้ว!
ไป๋เจินจูไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น นางรู้ว่านางไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแล้ว
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ นางก็ถูกส่งกลับจวนสกุลเผย ไม่มีใครรั้งตัวนางไว้รับมื้อกลางวันเช่นที่ตกลงกันไว ว้ นางรู้สึกว่าตนเองเหมือนผ้าขี้ริ้วที่ถูกส่งไปถึงหน้าบ้าน เมื่อหมดประโยชน์แล้วก็ถูกทิ้งไว้ที่มุมห้อง จนถึงเ เวลาที่ต้องใช้ผ้าขี้ริ้วชิ้นนี้ในครั้งต่อไป นางถึงจะถูกเก็บขึ้นมาจากมุมห้องนั้น
…
ตงฟางหว่านเอ๋อร์เพิ่งเขียนจดหมายหย่าเสร็จสิ้น กำลังจะมอบหมายให้คนไปส่งถึงมือของเผยชิงหาน ทว่าจดหมายหย่ายังไ ไม่ทันออกจากนอกจวน ก็ได้ยินข่าวว่าเซียวอ๋องไปสู่ขอถึงจวนชางหยวนโหว
บิดาของนางไม่อยู่ที่จวน นางจึงบอกเล่าเรื่องนี้ให้ไป๋จื่อฟัง
ตงฟางหว่านเอ๋อร์ถามไป๋จื่อว่า “จื่อเอ๋อร์ เจ้าคิดเช่นไรกับเรื่องนี้”
ไป๋จื่อยิ้มจาง “เซียวอ๋องกลัวจิ้นอ๋อง เพราะจิ้นอ๋องไม่เพียงแย่งอำนาจทหารทางตะวันตกเฉียงเหนือกลับมาได้อีกครั้ง ง แต่ยังได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากท่านตา ยิ่งมีความรักใคร่เอ็นดูของฮ่องเต้ด้วย ดังนั้นเขาจำต้องทำอ อะไรสักอย่าง พยายามให้ตนเองเหนือกว่าจิ้นอ๋อง แม้จิ้นอ๋องจะกุมอำนาจทหารทางตะวันตกเฉียงเหนือ แต่เซียวอ๋องก็มีอำ ำนาจทหารทางใต้เช่นกัน เขาไม่จำเป็นต้องแย่งอำนาจทหารทางตะวันตกเฉียงเหนือในตอนนี้ สิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้คือก การสนับสนุนจากฮ่องเต้และเหล่าขุนนาง และประเด็นสำคัญที่จะได้การสนับสนุนเช่นนั้น ก็ขึ้นอยู่ที่ท่านตาเจ้าค่ะ”
ตงฟางหว่านเอ๋อร์ยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง เขาถึงได้ไปสู่ขอที่จวนชางหยวนโหวในเวลานี้ เพราะต้องการจะใช้โอกาสนี้ แย่งชิงการสนับสนุนจากท่านตาของเจ้า แต่ที่ข้าคิดไม่ตกก็คือ เขารู้ดีว่าเจ้ามีหมั้นหมายกับจิ้นอ๋อง แต่กลับ ไปสู่ขอถึงจวนเช่นนั้น มันต้องมีเหตุผลอะไรแน่!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของไป๋จื่อพลันเฉยชา ก่อนที่นางจะแค่นเสียงหนึ่ง แล้วเอ่ยเสียงเรียบว่า “ย่อมมีเหตุผลแน่นอนเจ้า าค่ะ และเผยชิงหานจะต้องตอบตกลงแน่”
……….
ตอนที่ 672 การเสียสละของเซียวอ๋อง
เซียวอ๋องผู้สง่างาม ไยถึงได้ทำเรื่องที่ไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด
และไป๋เจินจูเองก็ไม่ใช่สตรีที่จะไม่สนใจทุกอย่างเพราะบุรุษที่นางตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น หากไม่ใช่เพราะมีการวางแ แผนกันอย่างลับๆ เรื่องพรรค์นี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้
ไป๋จื่อเอ่ยว่า “ให้พวกเขาวุ่นวายกันไปเถอะเจ้าค่ะ”
ตงฟางหว่านเอ๋อร์มุ่นคิ้ว “แต่สตรีนางนั้นใช้ชื่อของเจ้า นี่ไม่เป็นผลดีกับชื่อเสียงของเจ้าหรอกนะ”
เด็กสาวยิ้มจางๆ ขณะเดียวกันก็ส่ายหน้า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกเจ้าค่ะ ข้าไม่คิดจะใช้ชื่อนี้อยู่แล้ว ฐานะบุตรีข ของสกุลเผยนี้ แต่ไหนแต่ไรข้าก็ไม่เคยต้องการ ต่อให้เขาคุกเข่าขอร้องข้าอยู่ตรงหน้า ข้าก็ไม่มีทางกลับสกุลเผย ชื่อนี้ หากนางต้องการก็ใช้ไปเถิด ไม่ช้าก็เร็วนางจะรู้ว่าสิ่งของที่ไม่ใช่ของตนเองแต่กลับฝืนหยิบฉวยมาไว้ในมือ อ สุดท้ายแล้วนางก็ต้องบาดเจ็บอยู่ดีเจ้าค่ะ”
ตงฟางหว่านเอ๋อร์เข้าใจโดยพลัน นางยิ้มว่า “เจ้าพูดถูก ชื่อของบุตรีสกุลเผยมีอะไรดี เมื่อข้าหย่าขาดกับเผยชิง งหานแล้ว เจ้าก็ใช้สกุลตงฟางเช่นเดียวกับพวกข้าเสีย จากนี้ไปเจ้าคือบุตรีของสกุลตงฟาง สกุลเผยไม่เกี่ยวข้องอะไรก กับเจ้าอีก”
แม้จะฟังดูแล้วเป็นการวางท่า กระนั้นไป๋จื่อก็รู้สึกตื้นตันนัก ทว่าก็ยังคงส่ายหน้า “ท่านแม่ ข้าไม่อยากเปลี่ยนสก กุล และไม่อยากเปลี่ยนชื่อด้วยเช่นกัน ข้าเพียงอยากเป็นตนเอง ไม่ยึดติดกับวงศ์ตระกูล ข้าต้องการให้ทุกคนแค่มองข ข้าก็รู้ว่าข้าคือไป๋จื่อ ไม่ใช่เห็นข้าแล้วเรียกข้าว่าคุณหนูจากสกุลตงฟาง”
เดิมทีตงฟางหว่านเอ๋อร์ก็มีนิสัยรักในอิสระ เมื่อได้ยินวาจาของไป๋จื่อ นางก็เข้าใจบุตรีได้อย่างถ่องแท้ “สกุล ก็เป็นเพียงสิ่งที่นำหน้าชื่อ ข้าอย่างไรก็ได้ เจ้าชอบเช่นไรก็ว่าตามนั้น แม่จะสนับสนุนเจ้าเสมอ”
ขณะนี้มีสาวใช้เข้ามารายงานว่า “คุณหนูใหญ่ คุณหนูเล็ก จิ้นอ๋องมาเจ้าค่ะ ขณะนี้รออยู่ที่โถงใหญ่”
ความปีติพลันฉายชัดบนดวงหน้าของไป๋จื่อ นางรีบเอ่ยว่า “เชิญเขาไปรอข้าที่สวนเถอะ” ไม่ได้พบกันหลายวัน ได้ยิ นว่าฮ่องเต้มอบหมายงานให้เขาทำ อย่างน้อยก็ยุ่งตลอดวันทำงานจนไม่มีเวลาว่าง ทว่านี่ยังผ่านไปไม่ถึงสามวัน เหตุ ใดเขาถึงมาได้อีกเนี่ย
ตงฟางหว่านเอ๋อร์มองท่าทางของบุตรี ในใจรู้สึกเบิกบานใจนัก จิ้นอ๋องชอบพอนาง นางเองก็ชอบพอจิ้นอ๋องเช่นกัน ได ด้แต่งให้กับคนที่ตนเองชอบพอ นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดในชีวิตของสตรีแล้ว
ใต้ต้นไหวเก่าแก่ บุรุษสวมชุดผ้าไหมทั้งตัวกำลังยืนเอามือไพล่หลัง ในดวงตาที่แม้จะมีเส้นเลือดฝอยอยู่ประปราย บั ดนี้กลับเต็มไปด้วยความชื่นมื่นและรอยยิ้ม ขณะเดียวกันนั้นเขาก็จับจ้องเงาร่างเล็กจ้อยที่กำลังเข้ามาใกล้
“เจ้ามาแล้ว!” นางยิ้มว่า
“อื้ม!” เขาตอบรับ
ดวงตาสองคู่สอดประสานกัน ไม่จำเป็นต้องเอื้อนเอ่ยสิ่งใด ทุกอย่างดำดิ่งสู่ความเงียบงัน
ไป๋จื่อสั่งให้เด็กรับใช้จัดวางเก้าอี้เอนไว้บนที่ว่างของสวน ด้านข้างเก้าอี้วางไว้ด้วยเตาเล็กๆ สำหรับต้มชา พ พวกเขาเอนกายอยู่ภายใต้แสงตะวันงดงามจับตา จิบชาไปพลาง สนทนาไปพลาง
หูเฟิงถามว่า “เจ้ารู้เรื่องที่ฉู่เฟิงไปสู่ขอที่สกุลเผยหรือไม่”
เด็กสาวพยักหน้า “เพิ่งรู้เมื่อครู่”
“แล้วเจ้าคิดจะทำเช่นไร” หูเฟิงถามอีก
ไป๋จื่อส่ายหน้า “ข้าไม่คิดจะทำอะไรทั้งนั้น พวกเขาต้องการแต่งงานก็ให้พวกเขาแต่งกันไปเถอะ ข้าไม่ใช่เผยเซี่ยเหยี ยน ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับข้าเลย”
“เจ้าไม่โกรธ?” ชายหนุ่มยิ้มถาม
“เหตุใดข้าต้องโกรธ จะมีก็แต่ดีใจด้วยซ้ำไป ข้ารอดูเรื่องตลกของพวกเขาอยู่เชียว” ไป๋จื่อก็ยิ้มเช่นกัน
ฉู่เฟิงไปสู่ขอถึงสกุลเผย เห็นได้ชัดว่าหลงเมามายทั้งๆ ที่ไม่ได้แตะสุรา เขาไม่มีทางชอบพอไป๋เจินจู และไม่ได้พิศวา าสจวนชางหยวนโหว เขาก็เพียงแค่อยากคว้าโอกาสนี้สร้างความสัมพันธ์กับตงฟางมู่ ใช้ประโยชน์ของความสัมพันธ์ตาหลาน รั บเอาการสนับสนุนของขุนนางมากมาย
แต่น่าเสียดายนัก เขาคิดคำนวณผิดพลาดไปแล้ว
นางอยากรู้เสียจริง ว่าหากฉู่เฟิงรู้ว่าหลังจากตนเองเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ไปแล้ว แต่ก็ยังคงไม่สามารถได้การสนับสน นุนจากตงฟางมู่ ถึงตอนนี้แล้วเขาจะเต้นเร่าราวกับถูกสายฟ้าผ่าเช่นไร