คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 689 เคอซีเฉิง / ตอนที่ 690 หูเฟิงกำลังเล่นลูกไม้
- Home
- คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
- ตอนที่ 689 เคอซีเฉิง / ตอนที่ 690 หูเฟิงกำลังเล่นลูกไม้
ตอนที่ 687 เป็นบุตรีอย่างแน่นอน
แม่นมอู๋เป็นหมอตำแยมาหลายสิบปี เรื่องลับลมคมในภายในเรือนหลังเช่นนี้ นางเคยสัมผัสมามากกว่าเซียงอี๋เหนียงนัก ในใจนางจึงพอจะคิดได้อยู่บ้างแล้ว
นางพูดกับเซียงอี๋เหนียงว่า “ฮูหยินเซียง ข้าจำเรื่องในปีนั้นไม่ได้แล้ว เพียงแต่รู้ว่าฮูหยินของจวนนี้ให้กำเนิดบุตรีคนหนึ่ง ร่างกายอ่อนแอเป็นอย่างมาก ไม่นานนักก็จากโลก นี้ไป ส่วนเรื่องอื่นเป็นเช่นไรก็จำไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ”
เซียงอี๋เหนียงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ก่อนที่สาวใช้จะนำถุงผ้าฝ้ายใส่เงินไว้จนเต็มส่งถึงมือนาง
แม่นมอู๋กะนำหนักดูแล้ว มุมปากก็ยกโค้งเป็นรอยยิ้มแห่งความเบิกบาน จากนั้นนางถึงยัดถุงเงินไว้ในช่องแขนเสื้อ แล้วหมุนกายออกไป
ที่โถงหน้าของจวนชางหยวนโหว เผยชิงหานดื่มชาไปสองจอกแล้ว ในที่สุดก็ได้พบแม่นมที่ทำคลอดให้ตงฟางหว่านเอ๋อร์ในปีนั้น เขาพิจารณานางตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบหนึ่ง ด้วยไม่อาจแ แน่ใจได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นคนเดียวกับในปีนั้น เพราะอย่างไรเสียก็ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว ในตอนนั้นเขาไม่ได้สังเกตนางเช่นกัน จึงไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับหน้าตาของนางเลยสัก กนิด
แม่นมอู๋คารวะเผยชิงหาน “ข้าขอคารวะท่านโหวเจ้าค่ะ!”
ทันทีที่นางเอ่ยปาก เผยชิงหานก็จำเสียงนี้ได้ในทันที ในปีนั้นเขารออย่างกังวลใจอยู่ข้างนอกประตู หลังจากได้ยินเสียงเด็กทารกร้องแล้ว เสียงนี้ขอนางงดังก้องอยู่ในเรือน นาง งกล่าวว่า ‘ยินดีกับท่านอ๋องด้วย เป็นบุตรีเจ้าค่ะ ปลอดภัยทั้งคู่แล้ว’
ตอนนั้นเขาดีใจมาก อยากจะถลันเข้าไปดูพวกนางแม่ลูก แต่กลับถูกหมอตำแยที่เป็นคนทำคลอดขวางเอาไว้ นางยืนจังก้าอยู่ที่หน้าประตู ให้เขามองบุตรีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น พลาง บอกว่าตอนนี้เขายังเข้าไปไม่ได้
เด็กคนนั้นตัวแดงไปหมด เส้นผมบนศีรษะก็บางยิ่งนัก แต่กลับมีดวงตาที่สดสวยอย่างยิ่งยวด เหมือนกับดวงตาของตงฟางหว่านเอ๋อร์ยิ่งนัก
เขาคิดถึงเรื่องในปีนั้นจนตกอยู่ในภวังค์ แม่นมอู๋จึงเรียกเขา “ท่านโหว?”
เผยชิงหานดึงสติกลับมา ก่อนจะกระแอมเสียงหนึ่ง แล้วถามว่า “เจ้าคือแม่นมที่ทำคลอดให้ฮูหยินของข้าในปีนั้นหรือ”
“ใช่เจ้าค่ะ” แม่นมอู๋ตอบรับ
เผยชิงหานจ้องมองใบหน้าของอีกฝ่าย ถามอีกว่า “เด็กที่เกิดในตอนนั้น แท้จริงแล้วเป็นชายหรือหญิงกันแน่”
แม่นมอู๋คิดไม่ถึงว่าเขาจะถามคำถามนี้ จึงตอบไปตามตรง “เป็นหญิงเจ้าค่ะ ดวงตาของนางเหมือนกับฮูหยินอย่างกับแกะ ส่วนจมูกและปากกลับเหมือนท่านอ๋อง งดงามน่ามองยิ่งนัก ข้าทำคล ลอดมานานตั้งหลายปี แต่เพิ่งเคยเห็นเด็กหญิงที่งดงามเช่นนั้นเป็นครั้งแรก แต่น่าเสียดายที่…”
เมื่อฟังถึงตรงนี้ เผยชิงหานก็คล้ายกับถูกสายฟ้าฟาด เขาหยัดกายลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วสาวเท้าหลายก้าวไปถึงตรงหน้าของแม่นมอู๋ เร่งถามว่า “เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอะไรนะ เจ้าบอ กว่าเด็กคนนั้นเหมือนข้าหรือ”
แม่นมอู๋มีสีหน้าตะลึงงัน บุตรีของเขาเหมือนเขา แล้วมันไม่ถูกต้องหรือไร
นางพยักหน้า “เจ้าค่ะ จมูกกับปากของนางเหมือนท่านมาก ยามยิ้มแย้มยังมีลักยิ้มเล็กๆ อีกด้วย นอกจากดวงตาคู่นั้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตรงไหนก็เหมือนท่านโหวเจ้าค่ะ”
“เจ้าแน่ใจว่าไม่ได้มองผิดใช่หรือไม่ เหมือนข้ามากๆ จริงหรือ หน้าตาของเด็กคนนั้นเหมือนข้ามากเลยใช่หรือไม่” สีหน้าของเผยชิงหานดูตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ
เห็นเผยชิงหานมีท่าทางเช่นนั้น ในใจของแม่นมอู๋ก็เกิดความรู้สึกเสียดาย นางพูดอะไรที่ไม่ควรแล้วกระมัง หลังจากพูดออกไปแล้ว จะส่งผลกระทบอะไรต่อนางหรือไม่
แม่นมอู๋กลอกตา ก่อนจะยิ้มเจื่อนว่า “ท่านโหว เรื่องผ่านมานานแล้วเจ้าค่ะ ที่จริงข้าจำอะไรไม่ค่อยได้เท่าไรนัก”
กองไฟที่ลุกโชนในใจของเผยชิงหานพลันดับมอด จริงด้วย ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว นางจะจำหน้าตาของทารกน้อยคนหนึ่งได้อย่างไร วาจาเมื่อครู่นี้ก็เพียงพูดให้น่าฟังเท่านั้น เขาคิด เป็นจริงเช่นนี้ออกจะน่าขันเกินไปหน่อย
เด็กคนนั้นจะเหมือนเขาได้อย่างไร ไม่มีทางเด็ดขาด
เขาถอยกลับไปนั่งลงบนเก้าอี้ สีหน้าเซื่องซึม เงียบงันอยู่นานถึงได้ถามอีก “เจ้าแน่ใจว่าเป็นสตรี ถูกต้องหรือไม่”
แม่นมอู๋พยักหน้า “เรื่องนี้ข้ายืนยันได้เจ้าค่ะ เป็นบุตรีอย่างแน่นอน ไม่มีทางผิดไปได้”
……….
ตอนที่ 688 ปากของคนตายปิดสนิทที่สุด
ดูท่าทางจะเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ เด็กหนุ่มที่พบในศาลาว่าการเมืองวันนี้ ก็เป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น!
เผยชิงหานถอนใจเสียงหนึ่ง ไม่รู้เหมือนกันว่าตนเองกำลังคาดหวังอะไรอยู่ เหตุใดตอนนี้เขาถึงได้ผิดหวังเช่นนี้
…
หลิวซื่อและไป๋เสี่ยวเฟิงเข้ามาอาศัยอยู่ในจวนชางหยวนโหวแล้ว เดิมทีคิดว่าจะได้มีชีวิตที่ดี แต่ใครจะรู้ว่าตั้งแต่เข้าจวนมาก็ถูกขังอยู่ในเรือนหลังเล็กซอมซ่อ เรื่องควา ามเป็นอยู่และอิสระแตกต่างจากก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก
หลิวซื่อนั่งซึมกะทือพลางเหม่อลอยอยู่บนเก้าอี้พังๆ ตัวหนึ่ง ส่วนไป๋เสี่ยวเฟิงเดินไปเดินมาอยู่ในเรือน บ่นพึมพำอะไรบางอย่างไม่ยอมหยุดปาก ทว่าหลิวซื่อฟังไม่เข้าหูเลยสักคำ
ทันใดนั้นมีเสียงดังมาจากข้างนอก
จากนั้นก็มีใครบางคนปลดกลอนที่หน้าประตูเรือน กลิ่นหอมสายหนึ่งโชยเข้ามาตามลม ลอยเข้าจมูกของคนทั้งสอง
หลิวซื่อเงยหน้าขึ้นอย่างเชื่องช้า เห็นไป๋เจินจูที่แต่งกายงดงามเดินเข้ามาหานาง
นางตัวสั่นเทิ้มไปทั้งตัว รีบลุกขึ้นในทันที แล้วถลันไปถึงตรงหน้าของไป๋เจินจู ก่อนจะคว้าแขนของนางไว้ ถามด้วยความร้อนใจว่า “เจ้าใหญ่กับต้าเป่าเล่า ตอนนี้พวกเขาเป็นอย่างไรบ้ าง”
ไป๋เจินจูมองมือคู่นั้นที่จับแขนตน เรียวคิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ในแววตามีความรังเกียจที่ปกปิดไว้ไม่มิด นางออกแรงเล็กน้อยให้หลุดพ้นจากพันธนาการของหลิวซื่อ จากนั้นก็ห หมุนกายไปที่ใต้หน้าต่าง หันหลังให้หลิวซื่อพลางเอ่ยเสียงเรียบ “พวกเขาจะเป็นเช่นไรได้ ท่านน่าจะรู้อยู่แก่ใจนะ”
หลิวซื่อคุกเข่าลงบนพื้น น้ำตาไหลออกจากเบ้าไม่ขาดสาย คนเป็นทั้งสองคนหายไปภายใรคืนเดียว แถมนั่นเป็นสามีและบุตรชายของนางเชียวนะ!
ส่วนตอนนี้นางและบุตรชายคนเล็กถูกขังอยู่ในเรือนผุพังแห่งนี้ ไม่อาจทราบอนาคตข้างหน้าได้
ไป๋เสี่ยวเฟิงยืนตะลึงลานอยู่นาน ก่อนที่จู่ๆ จะถามไป๋เจินจูว่า “แล้วพวกข้าเล่า? พวกเจ้าคิดจะทำเช่นไรกับพวกข้า”
ไป๋เจินจูกลับหลังหัน มองไป๋เสี่ยวเฟิงที่มีสีหน้าหมองคล้ำ “ท่านโหวบอกแล้วไม่ใช่หรือ ว่าให้พวกเจ้าหลบอยู่ที่นี่ชั่วคราว เมื่อเรื่องนี้ผ่านไปแล้วย่อมมีผลประโยชน์ของพวกเจ้า เสี่ยวเฟิง เจ้ามีอนาคตที่สดใสรออยู่นะ”
จริงหรือ อนาคตของเขาสดใสจริงหรือ
ตอนนี้เขามองไม่เห็น สิ่งที่เห็นตรงหน้ามีเพียงท้องฟ้าที่มืดสลัว หมอกหนาหนักบดบังหนทางข้างหน้า แต่ละก้าวไม่รู้ว่าเป็นพื้นราบหรือเหวลึกกันแน่
ไป๋เจินจูไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงกวาดสายตามองทั้งสองคนอย่างเฉยชา แล้วหมุนกายจากไป
หลิวซื่อร้องไห้อยู่นานมาก ร้องไห้จนตาบวมปูดเป็นเมล็ดของผลท้อ แต่ไป๋เสี่ยวเฟิงกลับไม่เอ่ยวาจาปลอบใจเลยสักคำ มีแต่ทำสีหน้ารำคาญใจเท่านั้น
“ร้องไห้ๆๆ เอาแต่ร้องไห้ ตอนนี้ร้องไห้ไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร คนก็จากไปแล้ว ร้องไห้แล้วพวกเขาจะกลับมาหรือไร” ในที่สุดไป๋เสี่ยวเฟิงก็ทนไม่ไหว ตะคอกใส่หลิวซื่อ
หลิวซื่อชะงักงัน พลางเบิกตามองไป๋เสี่ยวเฟิงด้วยดวงตาที่มีแต่น้ำตา
ไป๋เสี่ยวเฟิงเห็นท่าทางนางเช่นนั้น ก็เกิดใจอ่อนขึ้นมา เขาเอ่ยเสียงทุ้มว่า “ท่านแม่ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาร้องไห้ พวกเราต้องหนทางเอาชีวิตรอดแล้ว”
“หาทางเอาชีวิตรอด?” หลิวซื่อไม่เข้าใจ
“ท่านแม่ ท่านยังไม่เข้าใจอีกหรือ ชีวิตของพวกเราอยู่ในกำมือของคนสกุลเผย ต่ำต้อยไม่ต่างอะไรกับต้นหญ้า ที่พวกเรายังมีชีวิตรอดจนถึงตอนนี้ได้ นั่นเป็นเพราะพวกเรายังมีประ ะโยชน์อยู่ ขอเพียงไป๋เจินจูแต่งกับท่านอ๋องอะไรนั้น พวกเราก็หมดประโยชน์โดยสิ้นเชิง จนถึงตอนนั้นแล้ว คนที่รู้เรื่องรู้ราวเช่นพวกเราจะต้องมีจุดจบเช่นเดียวกับท่านพ่อและพี่ ใหญ่แน่”
ในที่สุดสมองอันโง่เขลาของหลิวซื่อก็แล่นปรูดปราด เสี่ยวเฟิงพูดถูกต้องทุกอย่าง เจ้าใหญ่และต้าเป่าจะฆ่าตัวตายได้อย่างไร นั่นเป็นเพราะพวกเขารู้เรื่องราวทุกอย่าง ถึงได้ถูกจับไ ไปยังสถานที่เช่นนั้น เผยชิงหานกลัวว่าเรื่องจะแดงขึ้นมา ถึงได้ลงมือสังหารคน ถึงอย่างไรปากของคนตายก็ปิดสนิทที่สุดอยู่แล้ว
PS C:UsersAdmin> & C:/Users/Admin/AppData/Local/Programs/Python/Python313/python.exe c:/Users/Admin/Desktop/code/2.py
ข้อความก่อนแก้ไข:
เาัังั ชเ้าัจิเสี่ัี่ิ่งเ้ามาี ั้งสงสูงเ่าั้ ้าาจึงะแั่างแง เืจะัแแ้เชี
เมิ่งาศีษะางถาม “เจ้าู้ืไม่่าสุงงฟางู่ี่ใ”
จิเสี่ัส่า้า “่าังไมู่้เ แ้ไเ้าจะู้”
ัใั้เมิ่งา็ี้าาเง เ่้ามเิาใจ่า “้าู้แ้่าจะใ้ใำาง!”
ึ่งชั่ามใ้ัง เมิ่งาแะจิเสี่ั็ืู่้าฤาส์งฟางแ้
ังเิญิ่งั ูเฟิง็มาถึง้าฤาส์งฟางใเาี้เช่ั
ั้งสงปะจั้าั ิ่ิปืใัี
“ุณชาเมิ่ง ไม่้งมาิธี!” ูเฟิงเ่เสีงเี
“จิ้๋ง ไม่ัา!”
ูเฟิงมีสี้าเีเฉ มุมปาิ้มี่้ามี้าไม่มีจางๆ ่าไม่ไู้ะไี เีงมุาเ้าฤาส์ไป
เมิ่งา็าามไปเช่ั ่าาาางเาไ้เสี่
“เาเ้าไปไ้ เุใ้าเ้าไปไม่ไ้” เมิ่งาเิโสะ ถึงาางถาม
าาเ็เช่ี้มามา จึงไม่ไู้้สึโธะไ เีงิ้มเ่่า “ุณชา ี่จิ้๋งสามาถเ้าไปไุ้เมื่ ั่เป็ำสั่งงาใญ่ั ส่ื่จะ้งางาใ้ าใญ่า่ าใญ่ไ้่า่ใ้ฮ่งเ้เส็จมา็้งางาใ้า ่าสัู่เถะั!”
ใจะไปาิ ่าสัู่ี่่าั่จะ่าไปึ่งชั่ามเ็มๆ
เมิ่งาแะจิเสี่ัู่้าปะูใญ่งฤาส์งฟาง ามะัเฉีงเืั้งมึ่งชั่ามเ็ม เาาเ็เสีจจามมาาั้ง ้งไ้ั้งี่ไม่มี้ำ า
“้งเป็ูเฟิงเู่ไม้ะไแ่ ้งเป็เา่างแ่” เมิ่งา่แะ
จิเสี่ัจะูะไไ้ เาำไ้เีงมา่ามางมา้สี้ามื่่ไป ใใจ่า่าุณชาช่างโช้าเสีจิง าัีุ่ณชาจะชสีใ ่าัมีศัู ี่่าัเช่ี้ างุณชาาเาไ้าิ่งั!
ใี่สุปะูาใญ่็เปิ ามาู้ั้เิมา เาเ็เมิ่งาังงู่ี่เิม็ู้สึปะาใจีเี “ุณชาังู่ืั ้า้ิ่า่าไปแ้ เสีี!”
ข้อความหลังแก้ไข:
เขากลับหลังหัน ชนเข้ากับจินเสี่ยวอันที่วิ่งเข้ามาพอดี ทั้งสองคนสูงเท่านั้น หน้าผากจึงกระแทกกันอย่างแรง เกือบจะหัวแตกแล้วเชียว
เมิ่งหนานนวดศีรษะพลางถาม “เจ้ารู้หรือไม่ว่าสกุงตงฟางอยู่ที่ใด”
จินเสี่ยวอันส่ายหน้า “ท่านยังไม่รู้เลย แล้วไหนเลยข้าจะรู้”
ทันใดนั้นเมิ่งหนานก็ตีหน้าผากตนเอง เอ่ยด้วยความเบิกบานใจว่า “ข้ารู้แล้วว่าควรจะให้ใครนำทาง!”
ครึ่งชั่วยามให้หลัง เมิ่งหนานและจินเสี่ยวอันก็ยืนอยู่ด้านนอกคฤหาสน์ตงฟางแล้ว
บังเอิญยิ่งนัก หูเฟิงก็มาถึงด้านนอกคฤหาสน์ตงฟางในเวลานี้เช่นกัน
ทั้งสองคนประจันหน้ากัน กลิ่นดินปืนตลบอบอวลในทันที
“คุณชายเมิ่ง ไม่ต้องมากพิธี!” หูเฟิงเอ่ยเสียงเรียบ
“จิ้นอ๋อง ไม่พบกันนาน!”
หูเฟิงมีสีหน้าเรียบเฉย มุมปากยกยิ้มที่คล้ายมีคล้ายไม่มีจางๆ ทว่าไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงหมุนกายเข้าคฤหาสน์ไป
เมิ่งหนานก็อยากตามไปเช่นกัน ทว่านายทวารขวางเอาไว้เสียก่อน
“เขาเข้าไปได้ เหตุใดข้าเข้าไปไม่ได้” เมิ่งหนานเกิดโทสะ ถลึงตาพลางถาม
นายทวารเห็นคนเช่นนี้มามาก จึงไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร เพียงยิ้มเอ่ยว่า “คุณชาย ที่จิ้นอ๋องสามารถเข้าไปได้ทุกเมื่อ นั่นเป็นคำสั่งของนายใหญ่ขอรับ ส่วนคนอื่นจะต้องรายงานให้ นายใหญ่ทราบก่อน นายใหญ่บอกไว้ว่าต่อให้ฮ่องเต้เสด็จมาก็ต้องรายงานให้ทราบ ท่านรอสักครู่เถอะขอรับ!”
ใครจะไปคาดคิด ว่ารอสักครู่ที่ว่านั่นจะผ่านไปหนึ่งชั่วยามเต็มๆ
เมิ่งหนานและจินเสี่ยวอันรออยู่ด้านนอกประตูใหญ่ของคฤหาสน์ตงฟาง ตากลมตะวันตกเฉียงเหนือทั้งหมดหนึ่งชั่วยามเต็ม พวกเขาหนาวเหน็บเสียจนจามออกมาหลายครั้ง ร้องไห้ทั้งที่ไม่มีน้ำต ตา
“ต้องเป็นหูเฟิงเล่นลูกไม้อะไรแน่ ต้องเป็นเขาอย่างแน่นอน” เมิ่งหนานค่อนแคะ
จินเสี่ยวอันจะพูดอะไรได้ เขาทำได้เพียงทนทรมานท่ามกลางลมหนาวด้วยสีหน้าขมขื่นต่อไป ในใจกล่าวว่าคุณชายช่างโชคร้ายเสียจริง ยากนักที่คุณชายจะชอบพอสตรีคนใด ทว่ากลับมีศัตรู ที่น่ากลัวเช่นนี้ อนาคตของคุณชายคาดเดาได้ยากยิ่งนัก!
ในที่สุดประตูบานใหญ่ก็เปิดออก นายมวารผู้นั้นเดินออกมา เขาเห็นเมิ่งนานยังคงคอยอยู่ที่เดิมก็รู้สึกประหลาดใจทีเดียว “คุณชายยังอยู่หรือขอรับ ข้าน้อยคิดว่าพวกท่านไปแล้ว วเสียอีก!”