คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 701 สตรีชั่วร้ายสองคน / ตอนที่ 702 อวยพรปีใหม่
ตอนที่ 701 สตรีชั่วร้ายสองคน
หมอตำแยอู๋หวาดกลัวจนตัวสั่น รีบร้อนก้มหน้าลง ไม่กล้าสบตากับเซียงอี๋เหนียงอีก ในใจของนางหวั่นเกรงเป็นอย่างมาก ทว่าขณะเดียวกันก็สงสัย หลายวันก่อนเผยชิงหานยังมีท่าทางอ่อนโยนอยู่เลย ไยวันนี้ถึงดูดุร้ายเช่นนี้ได้
เผยชิงหานถามเสียงเคร่งขรึม “ข้าจะถามเจ้าอีกครั้งหนึ่ง หากเจ้ากล้าพูดปดแม้แต่ครึ่งคำ ก็อย่าหาว่าข้าไม่ไว้หน้า ไม่ปราณี อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าบุตรชายไม่เอาอ่าวหลายคนของเจ้าวันๆ ทำงานอะไรบ้าง”
ทันใดนั้นหมอตำแยกลัวสุดขั้วหัวใจ บริเวณหน้าผากมีเหงื่อเย็นๆ ซึมออกมาโดยพลัน นางกล่าวอย่างลนลานว่า “ไม่ว่าท่านโหวจะถามเช่นไร ข้าก็ไม่รู้อะไรทั้งนั้นเจ้าค่ะ!”
“ในปีนั้นเจ้าลงแรงกายทำคลอดให้ฮูหยินของข้า ข้าจำได้ว่าตอนนั้นฮูหยินคลอดก่อนกำหนดเพราะหกล้ม หมอที่เชิญมาก็ยืนยันว่าเป็นการคลอดก่อนกำหนดเช่นกัน แต่เหตุใดต่อมาเจ้าบอกว่าครบกำหนดคลอดอยู่แล้ว เจ้าอธิบายให้ข้าฟังสิ แท้จริงแล้วเด็กคนนั้นคลอดก่อนกำหนด หรือถึงกำหนดคลอดแล้วกันแน่” เผยชิงหานถาม
ขณะนี้หมอตำแยอู๋ทำตัวไม่ถูกแล้ว นางอยากมองเซียงอี๋เหนียงแต่ก็ไม่กล้า ทำได้เพียงคิดใคร่ครวญคำพูดอยู่ในใจ
“ระ เรียนท่านโหว ในปีนั้นข้าลงแรงกายทำคลอดให้ฮูหยินจริง ตอนที่เด็กคลอดออกมา ดูแล้วเหมือนทารกที่คลอดก่อนกำหนดจริงๆ เจ้าค่ะ แต่ตอนนั้นนางร้องไห้เสียงดังกังวาน ข้ารู้สึกว่าลักษณะนี้คล้ายกับทารกที่ถึงกำหนดคลอดทีเดียว จึงแยกแยะไม่ได้ไปชั่วขณะ ส่วนวาจาที่ข้ากล่าวออกไปในตอนนั้น ข้าจำไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ”
เผยชิงหานโมโหจนแทบจะกระอักเลือด นางบอกว่าจำไม่ได้หรือนี่ นางกล้าบอกว่าจำเรื่องนี้ไม่ได้รึ
“ใครๆ ก็จำได้ชัดแจ้งว่าเด็กคนนั้นหน้าตาเป็นเช่นไร ตอนนี้เจ้ากลับบอกว่าจำไม่ได้ว่านางคลอดก่อนกำหนดหรือไม่ เจ้ากำลังเล่นละครให้ข้าดูอยู่หรือไรกัน”
หมอตำแยอู๋รีบโขกศีรษะสองครั้ง ในใจว้าวุ่นยิ่งนัก จึงกัดฟันกล่าวเสียเลย “ท่านโหว เด็กในตอนนั้นดูเหมือนคลอดก่อนกำหนดจริง แต่เซียงอี๋เหนียงกลับบอกว่าเด็กแข็งแรงมาก เสียงร้องไห้ก็ดังกังวานกว่าเด็กคลอดตามกำหนดทั่วไป ทั้งแม่และเด็กต่างปลอดภัย ว่ากันว่าแม่ที่คลอดก่อนกำหนดมักจะขาดใจตาย จึงให้ข้าบอกว่าเป็นการคลอดตามกำหนด ทั้งยังมอบเงินให้ข้าอีกสิบตำลึงทอง ข้าโลภไปชั่วขณะ หลังจากนั้นถึงได้รู้ว่าทำเรื่องใหญ่ลงไปแล้ว แต่ตอนนั้น แต่ตอนนั้น…” นางไม่พูดต่อ เอาแต่ฟุบหน้าลงกับพื้น
เผยชิงหานมองสตรีสองคนในห้องด้วยท่าทีแข็งทื่อ คนหนึ่งเป็นคนรักที่เขาเอ็นดูมาสิบกว่าปี ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นหมอตำแยที่เขาเคยเชื่อใจอย่างไร้ข้อกังขา แต่อยู่ต่อหน้าของพวกนางแล้ว เขากลับดูน่าขัน น่าสมเพช น่าเวทนา!
“เด็กๆ นำสตรีชั่วร้ายสองคนนี้ไปขังไว้ในโรงฟืน รอฟังคำสั่งจากข้า” เขาหลับตากล่าวเสียงแข็ง
ขังไว้ในโรงฟืน?
ซ่งเหอเซียงพลันเงยหน้าขึ้น มองเผยชิงหานอย่างไม่เข้าใจพร้อมน้ำตาเปื้อนใบหน้า เมื่อครู่เขาว่าอะไรนะ ขังนางไว้ในโรงฟืนในวันที่หนาวเหน็บที่สุดของปีเนี่ยนะ เขาต้องการให้นางตายหรือไร เพื่อสตรีนางนั้นน่ะหรือ
เพื่อสตรีนางนั้น ความรักสิบกว่าปีของพวกขาไม่มีค่าแล้วใช่หรือไม่
วาจาหวานซึ้งมากมายในตอนนั้น เป็นสิ่งที่ไม่มีค่าจนหมดสิ้นแล้วหรือ
นางคลานเข่าไปข้างหน้า จับแขนเสื้อของเผยชิงหานไว้จนแน่น “ท่านโหว ข้าผิดไปแล้ว ท่านโหวได้โปรดเห็นแก่ความพยายามทั้งกายและใจที่ข้าอุทิศให้ท่านโหวด้วย ไว้ชีวิตข้าสักครั้งเถอะนะเจ้าคะ!”
เผยชิงหานสะบัดมือ ทำให้นางกระเด็นออกไปโดยสิ้นเชิง ความอ่อนโยนและความรักลึกซึ้งยามที่มองนาง บัดนี้มันหายไปจนสิ้น เหลือแต่เพียงความรังเกียจและเย็นชาเท่านั้น
“ซ่งเหอเซียง เจ้ายังมีหน้ามาขอให้ข้าไว้ชีวิตเจ้าอีกหรือ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าทำอะไรผิด เพราะแผนการชั่วร้ายของเจ้า ข้าถึงได้เสียบุตรีและสตรีผู้เป็นที่รัก พัวพันไปถึงจวนชางหยวนโหวแห่งนี้อย่างใหญ่หลวง สิ่งที่เจ้าทำลงไปไม่ใช่ความผิดเล็กน้อย ต่อให้ข้าสังหารเจ้าต่อหน้าทวยเทพในเวลานี้ก็ยังไม่พอเลยด้วยซ้ำ!”
……….
ตอนที่ 702 อวยพรปีใหม่
ซ่งเหอเซียงคลานเข่าไปข้างหน้าอีกครั้ง จับแขนเสื้อของเผยชิงหานไว้ไม่ยอมปล่อย ร้องไห้จนเครื่องสำอางบดบังดวงตา ยิ่งทำให้เผยชิงหานนึกรังเกียจมากยิ่งขึ้น
“ท่านโหว ข้ารู้ว่าตนเองทำความผิดมหันต์ แต่ขอท่านโหวโปรดจำไว้ว่าข้าเป็นเพียงสตรีโง่ที่ไม่รู้ประสา ไว้ชีวิตข้าสักครั้งเถอะนะเจ้าคะ ต่อจากนี้ไปข้า…”
เผยชิงหานสะบัดมือ เสียงตบหน้าดังก้องขึ้นในห้อง พาให้เสียงของซ่งเหอเซียงขาดห้วง พลางมองบุรุษตรงหน้าด้วยร่างกายที่แข็งเหมือนไม้ เขายังคงรูปหล่อและสง่างาม ยังคงมีใบหน้าที่นางรักและเทิดทูน แต่ดวงตาของเขากลับไม่ใช่ดวงตาที่นางคุ้นเคยอีกต่อไป
“นางแพศยา ยังมีหน้ามาร้องขอชีวิตอีก หากเจ้าไม่ได้คลอดบุตรีให้ข้าคนหนึ่ง เจ้าคิดว่าตอนนี้เจ้าจะยังมีชีวิตรอดอยู่อีกหรือ”
“เด็กๆ พาตัวนางไป!” เขากดข่มความรู้สึกแสบร้อนบริเวณทรวงอกเอาไว้ เบื้องหน้ามืดมนอยู่เป็นระลอก หลังจากเห็นสตรีชั่วร้ายสองคนถูกพาตัวไปแล้ว ของเหลวมีกลิ่นคาวในลำคอก็พลันเอ่อขึ้นมา เขากระอักเลือดออมาคำหนึ่ง ก่อนที่ร่างกายจะอ่อนแรงและล้มลงบนเตียงไป
…
ไป๋เจินจูกำลังลองชุดใหม่อยูที่เรือนหลาน นางไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเรือนของเผยชิงหานสักนิด และกำลังคิดว่าควรจะไปอวยพรปีใหม่เผยชิงหานและเซียงอี๋เหนียง นี่เป็นครั้งแรกที่นางจะได้อวยพรปีใหม่ให้ทั้งสองคน พวกเขาน่าจะมอบอั่งเป่าซองใหญ่ให้นางกระมัง
นางฝันหวานพลางสวมเสื้อผ้าชุดใหม่จนเสร็จสิ้น ครั้นเตรียมจะออกไปข้างนอก สาวใช้คนหนึ่งก็รีบร้อนเข้ามาในเรือน เอ่ยกับนางว่า “คุณหนูใหญ่ แย่แล้วเจ้าค่ะ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”
ไป๋เจินจูมุ่นคิ้ว มองตาขวางใส่สาวใช้นางนั้นโดยพลัน นางเอ่ยด้วยโทสะว่า “วันนี้เป็นวันปีใหม่ เจ้าพูดถึงเรื่องไม่ดีได้อย่างไร”
สาวใช้หดคอ ไม่กล้าส่งเสียงอีก
ครั้นเห็นท่าทางของอีกฝ่าย ไป๋เจินจูก็เกิดลำพองใจ ตั้งแต่ออกจากหมู่บ้านหวงถัวมาอยู่ที่จวนโหวในเมืองหลวง จากความยากขนข้นแค้นในวันวาน สู่ความสูงส่งจนทำให้คนหวั่นเกรง การเปลี่ยนผันทางฐานะนี้ทำให้นางยิ่งชอบชีวิตที่นี่ สามารถกินอาหารอย่างสิ้นเปลืองได้ สามารถสวมเสื้อผ้าตัดใหม่ได้ทุกวัน สามารถต่อว่าข้ารับใช้ได้ตามใจชอบ อีกทั้งยังได้รับการปฏิบัติราวกับเป็นจันทราท่ามกลางหมู่ดาวอีกด้วย
สิ่งเหล่านี้เคยเป็นความฝันของนางทั้งสิ้น เป็นความฝันที่นางคิดว่าทั้งชีวิตนี้คงไม่มีทางจะได้มา
นางจับจ้องไปยังสาวใช้ที่กำลังหดคอด้วยความกลัวเกรง ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็นว่า “เกิดอะไรขึ้น เจ้าถึงได้ตกอกตกใจเช่นนี้”
สาวใช้รีบกล่าว “คุณหนูใหญ่ บ่าวเพิ่งมาจากเรือนซื่อหรง ได้ยินข้ารับใช้ในนั้นบอกว่าเมื่อวานท่านโหวถูกคนแบกกลับมาจากในวัง ครั้นตื่นขึ้นก็เรียกเซียงอี๋เหนียงไปถามความทันที หลังจากนั้นก็สั่งให้คนขังเซียงอี๋เหนียงไว้ที่โรงฟืน ตอนนี้ท่านโหวโมโหจนสลบไปแล้ว จนถึงตอนนี้ยังไม่ฟื้นเลยเจ้าค่ะ”
“อะไรนะ?” ไป๋เจินจูหน้าเปลี่ยนสี พลันลนลานทำตัวไม่ถูกขึ้นมาในทันใด ฮูหยินเซียงถูกนำตัวไปขังไว้ในโรงฟืน ส่วนเผยชิงหานโมโจนสลบไป นี่ต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่นอน!
เรื่องใหญ่นี้จะเกี่ยวข้องกับนางหรือไม่
ความคิดอวยพรปีใหม่มลายหายไปโดยพลัน นางเอ่ยกับสาวใช้ที่มาส่งสารว่า “เจ้ารีบไปสืบดู ว่าแท้จริงแล้วเหตุใดฮูหยินเซียงถึงถูกลงโทษ เร็วเข้า!”
เมื่อสาวใช้ออกไปแล้ว ไป๋เจินจูก็เดินวนเวียนอยู่ในเรือนเสียสองรอบ ขณะนั่งลงพักหายใจ ก็มีสาวใช้อีกคนหนึ่งมารายงานอีก “คุณหนูใหญ่ เซียวอ๋องมาเจ้าค่ะ เดิมทีจะไปหาท่านโหว แต่พอรู้ว่าท่านโหวสลบไสลไม่ได้สติ เขาจึงมุ่งหน้ามาที่เรือนหลานเจ้าค่ะ”
เซียวอ๋องมา?
ห้วงสมองของนางพลันปรากฏหน้าตาของบุรุษผู้หนึ่ง ใบหน้านั้นคล้ายคลึงกับหูเฟิงอยู่หลายส่วน หล่อเหลาไม่ธรรมดา ทว่ากลับจริงจังและสง่างามไม่เท่าหูเฟิง แววตาของเขามักจะมีแววเฉยชาอยู่เสมอ
นางไม่ชอบเซียวอ๋องผู้นี้ แต่ก็เรียกไม่ได้ว่าเกลียด ยามที่นางเห็นเขา นางไม่มีความรู้สึกหวั่นไหวเช่นยามที่เห็นหูเฟิง กลับจะมีความหวาดกลัวอยู่เล็กน้อยด้วยซ้ำไป
ไป๋เจินจูกลับไปที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ปักปิ่นไข่มุกลงบนมวยผมเพิ่มอีก “เชิญเขาไปที่โถงดอกไม้เถอะ ข้าจะตามไป”