คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 717 ลบหลู่ / ตอนที่ 718 รักแรกพบ
ตอนที่ 717 ลบหลู่
ไป๋จื่อดันร่างอีกฝ่าย ยิ้มว่า “พี่สาวอย่าล้อข้าเล่นเลย ตอนที่ข้าเพิ่งมาที่นี่ ท่านไม่พูดกับข้าด้วยซ้ำไป”
ชิงเหลียนหัวเราะขึ้น “นั่นข้าเป็นฝ่ายผิดเอง เจ้าเป็นถึงคนที่ท่านตงฟางส่งมา อีกทั้งจิ้นอ๋องยังให้ความสำคัญกับเจ้าอีก พวกข้าเป็นเพียงบ่าว ไหนเลยจะกล้าตีสนิท ทว่าเจ้าจิตใจด ดี มีเมตตา ยอมให้บ่าวอย่างพวกข้านับถือเป็นพี่เป็นน้องกับเจ้า”
เด็กสาวส่งเสียง ‘เชอะ’ ก่อนจะเชิดคางเล็กละเอียดเอ่ย “ในสายตาของข้าไป๋จื่อ คนก็คือคน ไม่มีแบ่งสูงส่งหรือต่ำต้อยหรอก ไม่มีใครอยากเป็นบ่าวหรือไพร่ไปตลอดชีวิต ถึงจะเป็นเรื่องทา างโลกที่ไม่มีทางเลี่ยง แต่ข้าไม่เห็นด้วยนักหรอก”
ฝ่ายชิงเหลียนจับมือไป๋ขื่อไว้จนแน่น “สาวน้อย เจ้าอย่าได้พูดมั่วไป หากมีใครได้ยินเข้า แล้วบอกกล่าวไปว่าเจ้าลบหลู่ เช่นนั้นก็แย่แล้ว!”
ไป๋จื่อแลบลิ้น ด้วยสนทนากันอย่างออกรออกชาติ นางจึงลืมไปว่าที่นี่คือวังหลัง พูดเรื่องเหล่านี้ไม่เหมาะสมจริงๆ ถึงอย่างไรเสียการแบ่งชนชั้นก็เกี่ยวพันกับราชวงศ์อย่างแนบแน่น
“เซียวอ๋องไปแล้วใช่หรือไม่” ไป๋จื่อคำนวณเวลาดู ขณะนี้ผ่านถึงเวลาไปตรวจดูไทเฮาแล้ว หากนางคำนวณไม่ผิดพลาด วันนี้ไทเฮาจะฟื้นขึ้นมาได้
ชิงเหลียนส่ายหน้า “ข้ามาที่นี่เพื่อบอกเจ้าเรื่องนี้ ท่านอ๋องไม่ยอมออกจากห้องบรรทมของไทเฮา ราวกับว่าจงใจรอเจ้าอยู่อย่างนั้นแหละ”
ไป๋จื่อกลับไปนั่งลงบนเก้าอี้ เอนกายตากแดดต่อ “เช่นนั้นก็ให้เขารอไปเถอะ เมื่อข้านอนเต็มอิ่มแล้วค่อยตัดสินใจว่าวันนี้อยากพบเขาหรือไม่”
ชิงเหลียนวางพัดในมือลง “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าก็พักผ่อนเสียเถอะ ข้าจะกลับไปดูที่ด้านหน้าสักหน่อย หากมีเรื่องอะไรจะรีบมาบอกเจ้าโดยเร็ว”
จากนั้นชิงเหลียนเพิ่งกลับหลังหันไป กำลังคิดจะก้าวเท้าก้าวแรก นางกำนัลสาวคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาอย่างเร่งร้อน หายใจไม่ทันเลยทีเดียว “เร็ว หมอไป๋ เร็วเข้าเถิด ไทเฮาฟื้นแล้ว ไทเฮ ฮาฟื้นแล้วเจ้าค่ะ!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ไป๋จื่อพลันดีดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ในทันใด ไม่สนใจยาที่กำลังเดือดอยู่ในหม้อ ทว่าก็ยังกำชับให้ชิงเหลียนลดไฟในหม้อลงครึ่งหนึ่ง คอยเคี่ยวมันด้วยไฟอ่อนอย ย่างช้าๆ
ไป๋จื่อรีบร้อนมาถึงหน้าตำหนัก นางกำนัลสองคนกำลังดูแลไทเฮาดื่มชา เมื่อเห็นไป๋จื่อเข้ามาแล้ว นางกำนัลคนหนึ่งก็พูดขึ้นในทันที “ไทเฮา ท่านนี้คือหมอไป๋ หมอที่รักษาพระนางเพคะ”
ฉู่เฟิงที่นั่งอยู่หน้าเตียงมองตามสายตาไทเฮา หันกลับไปเห็นเงาร่างผอมบางเข้ามาจากข้างนอก เขามองเห็นใบหน้าของนางไม่ชัดเพราะแสงอาทิตย์ จนกระทั่งนางเดินเข้ามาใกล้ทีละก้าว เขาถึงจ จะมองเห็นใบหน้าของนางได้เสียที
งดงามกว่าตอนที่เขาพบในงานเลี้ยงวันนั้นเสียอีก โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น มันทั้งเป็นประกายและสดใส สีขาวและดำแบ่งแยกกันอย่างชัดเจน ยามที่นางอมยิ้ม มุมปากของนางยกโค้งขึ้นเล็ก กน้อย ริมฝีปากสีแดงระเรื่อเม้มเข้าหากันเบาๆ น่ามองยิ่งนัก
ไป๋จื่อถวายบังคมให้ไทเฮาที่พิงร่างอยู่บนกายนางกำนัล
ไทเฮาอ้าปากเอ่ยว่า “ตามสบายเถอะ”
เสียงของไทเฮาแหบพร่าอยู่บ้าง แต่ทุกพยางค์ที่เปล่งเสียงออกมากลับชัดแจ้ง แตกต่างจากคนสามัญธรรมดา
เด็กสาวเหยียดกายขึ้น แล้วช้อนสายตามองไทเฮาที่นั่งอยู่บนเตียง ยิ้มว่า “ไทเฮาสวรรค์คุ้มครอง ดูท่าจะไม่เป็นไรแล้วเพคะ”
ไทเฮาเพิ่งฟื้นขึ้นมาได้ไม่นาน ยังไม่เข้าใจสถานการณ์เต็มที่ รู้เพียงว่าตนเองป่วย ในเมื่อเพิ่งฟื้นขึ้นมาเช่นนี้ นางจึงไม่รู้ว่าเด็กสาวที่เอ่ยวาจาอยู่ตรงหน้าเป็นใคร เคยพบอ อีกฝ่ายมาก่อนหรือไม่ แต่ดูจากการแต่งกายของแล้วก็ไม่เห็นเหมือนคนในวังเลยสักนิด!
ชิงเหลียนเป็นนางกำนัลคนสนิทที่อยู่ข้างกายไทเฮา ครั้นเห็นไทเฮามีท่าทางเช่นนั้น นางก็รีบเข้าไปใกล้ในทันที แล้วเอ่ยด้วยเสียงอันนุ่มนวลว่า “ไทเฮาเพคะ แม่นางไป๋เป็นหมอ หลังจาก พระนางล้มป่วย นางเป็นคนที่คอยปรนนิบัติอยู่ข้างๆ ตลอดเวลาเลยเพคะ”
คราวนี้ไทเฮาถึงจะเข้าใจ มิน่าเล่าสายตาของนางกำนัลทั้งหลายที่มองนางถึงผิดแผกไป แม้กระทั่งหลานชายของตนเอง ก็ยังมองนางด้วยสายตาแปลกไปจากปกติเช่นกัน!
……….
ตอนที่ 718 รักแรกพบ
ไป๋จื่อก้าวไปข้างหน้า กล่าวกับไทเฮาว่า “ไทเฮาเพคะ ได้โปรดให้หม่อมฉันจับชีพจรด้วย!”
ไทเฮาพยักหน้า นางกำนัลข้างๆ จึงประคองนางนอนลง เมื่อลมหายใจมั่นคงแล้ว ไป๋จื่อถึงจะจับบริเวณข้อมือของนาง
พร้อมกันนั้นไทเฮาก็พินิจพิจารณาเด็กสาวโดยตลอด สายตาที่จับต้องมาที่ตัวนางนั้น บอกไม่ถูกว่ามีเจตนาดีหรือไม่ แต่อย่างไรการที่มีคนจ้องมองตัวเองก็ไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีนัก ไป๋จื อพลันคิดในใจ ‘ตอนที่หญิงชราคนนี้นอนหลับยังจะดูจัดการง่ายกว่าตอนนี้เสียอีก’
เมื่อไป๋จื่อถอนมือกลับไป ไทเฮาก็ถามว่า “เจ้าชื่อว่าอะไร”
“ข้าชื่อไป๋จื่อเพคะ” ไป๋จื่อเอ่ยด้วยสีหน้านอบน้อม
ไทเฮาเลิกคิ้ว “สกุลไป๋หรือ ข้าว่าเจ้าหน้าตาคล้ายกับสกุลตงฟางอยู่หลายส่วน คิดว่าเจ้าเป็นคนของสกุลตงฟางเสียอีก”
ถึงป่านนี้แล้ว ไป๋จื่อย่อมไม่กล้าปิดบัง หากตอนนี้ไม่พูดออกไปให้ชัดเจน หลังจากนี้ไทเฮาอาจเปลี่ยนมันให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ กล่าวโทษนางว่าหลอกลวงราชวงศ์
ไป๋จื่อถอยหลังไปถวายบังคงให้ไทเฮาครั้งหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยเสียงหวาน “ทูลไทเฮา สกุลไป๋เป็นสกุลของบิดาที่เลี้ยงดูหม่อมฉัน ส่วนมารดาแท้ๆ ของหม่อมฉันคือตงฟางหว่านเอ๋อร์ หน้าตาจึงค คล้ายกันเพคะ”
ครั้นไทเฮาได้ฟังดังนั้น พระนางก็พลันเบิกบานใจ “มิน่าเล่าสายตาที่เฟิงเอ๋อร์มองเจ้าเมื่อครู่ถึงได้แปลกไป ที่แท้เจ้าก็เป็นเด็กสาวที่เฟิงเอ๋อร์ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นนี่เอง!”
คราวนี้ถึงตาฉู่เฟิงกระอักกระอ่วนแล้ว เขากระแอมเบาๆ สองเสียง แต่กลับไม่คิดจะอธิบาย เพียงเบนสายตาไปทางอื่นเท่านั้น
ไป๋จื่อกลับมีสีหน้าจริงจัง “ไทเฮาเข้าใจผิดแล้วเพคะ หม่อมฉันไม่ใช่คนที่เซียวอ๋องตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น เพราะวันนี้หม่อมฉันเพิ่งเคยพบเซียวอ๋องเป็นครั้งแรกเพคะ”
ไทเฮาตะลึงลาน หมายความว่าอย่างไรกัน ไม่ใช่นางหรอกหรือ ฉู่เฟิงไปสู่ขอถึงจวนชางหยวนโหวแล้วแท้ๆ แม้แต่ฮ่องเต้ก็พระราชทานอนุญาตแล้วเช่นกัน คนทั่วทั้งเหมือนหลวงล้วนรู้ว่าเซียวอ อ๋องจะแต่งงานกับคุณหนูใหญ่แห่งจวนชางหยวนโหว แต่ตอนนี้นางบอกว่าไม่ใช่นางหรือนี่
นางหยัดกายลุกขึ้นนั่ง ชี้ไปยังฉู่เฟิงที่กำลังมีสีหน้าลำบากใจ “เฟิงเอ๋อร์ หมายความว่าอย่างไรกัน คุณหนูใหญ่สกุลเผยที่เจ้าไปสู่ขอไม่ใช่นางหรือ หากไม่ใช่นางแล้วเป็นใคร”
ฉู่เฟิงเองก็กลุ้มใจนัก ด้วยไม่คิดว่าไป๋จื่อจะพูดเรื่องเหล่านี้ต่อหน้าไทเฮา เขาจึงถลึงตามองไป๋จื่ออย่างไม่พอใจครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มให้ไทเฮา “เสด็จย่า เรื่องนี้พูดแล้วยาว วนัก ไม่อาจพูดให้ชัดแจ้งได้ในเวลาอันสั้น ไม่สู้รอเสด็จแม่มาเยี่ยมเยียน แล้วถามพระนางดูเองเถอะพ่ะย่ะค่ะ!”
เรื่องน่าอายพรรค์นี้ เขาจะพูดออกไปต่อหน้าคนเหล่านี้ได้อย่างไรกัน จึงรีบยกมือขึ้นคารวะ ด้วยกลัวว่าไทเฮาจะถามอะไรอีก แล้วรีบร้อนออกไปในทันที
ไทเฮาเห็นเช่นนั้นก็ยิ่งงุนงง ทำได้เพียงถามไป๋จื่อว่า “แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หรือว่าจวนชางหยวนโหวของพวกเจ้ามีคุณหนูใหญ่สองคน”
ไป๋จื่อส่ายหน้า “หม่อมฉันไม่ทราบเรื่องที่เซียวอ๋องจะแต่งงานเพคะ และไม่ทราบเช่นกันว่าจวนชางหยวนโหวมีคุณหนูใหญ่กี่คน ตั้งแต่หม่อมฉันกับท่านแม่จำกันได้ หม่อมฉันก็อยู่ที่คฤหาส สน์ตงฟางมาโดยตลอด ไม่เคยไปที่จวนชางหยวนโหวเลยเพคะ”
ไทเฮายิ่งมึนงงเข้าไปใหญ่ เพราะกำลังจบต้นชนปลายไม่ถูก ทว่าพระนางเคยได้ยินมานานแล้ว ว่าความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาของชางหยวนโหวและตงฟางหว่านเอ๋อร์ระหองระแหง ทั้งสองเกลียดชัง ซึ่งกันและกัน หลังจากเด็กคนนั้น ‘ตายไป’ ตงฟางหว่านเอ๋อร์ก็ไม่เคยไปที่ใด พวกเขาสองคนไม่เพียงระหองระแหงกัน เกรงว่าจะหมดรักกันไปแล้วด้วยซ้ำ
แต่เรื่องใหญ่อย่างการแต่งงานนี้จะผิดตัวไปได้อย่างไร เฟิงเอ๋อร์กับฮองเฮากำลังทำอะไรกันแน่ ถึงได้จัดการแม้กระทั่งเรื่องนี้ให้ดีไม่ได้
บัดนี้ไป๋จื่อละลายยาหนิวหวงเข้ากับน้ำแล้ว จึงให้ชิงเหลียนป้อนให้ไทเฮา
ไทเฮามุ่นคิ้ว ทีแรกนางไม่รู้อายุและที่มาของเด็กสาวผู้นี้ จึงคิดว่าเป็นเพียงหมอหญิงธรรมดา ตอนนี้นางรู้แล้ว ในใจย่อมเกิดความสงสัยขึ้นมา นางจ้องยาน้ำในมือของชิงเหลียนพลา างถาม “นี่คืออะไร”