คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 719 ไทเฮาประชวรเป็นอะไร / ตอนที่ 720 เด็กสาวบ้านนอกคนหนึ่ง
- Home
- คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
- ตอนที่ 719 ไทเฮาประชวรเป็นอะไร / ตอนที่ 720 เด็กสาวบ้านนอกคนหนึ่ง
ตอนที่ 719 ไทเฮาประชวรเป็นอะไร
ชิงเหลียนมองไปยังไป๋จื่อ นางจึงรีบกล่าว “ทูลไทเฮา นี่คือยาหนิวหวงเพคะ ช่วยในการไหลเวียนเลือด เป็นผลดีต่ออาหารของพระนางในตอนนี้เพคะ”
ไทเฮาไม่สนใจไป๋จื่อ นางเงยหน้ามองชิงเหลียน “ให้หัวหน้าสำนักหมอหลวงที่เข้าเวรอยู่มาที่นี่ให้หมด ข้าอยากถามเรื่องอาการป่วยของข้า”
สีหน้าของไป๋จื่อยังคงเรียบเฉย ทว่านางรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เพราะไทเฮาไม่เชื่อใจนางอย่างเห็นได้ชัด จึงต้องการเชิญหัวหน้าสำนักหมอหลวงมาตอกหน้านาง ดียิ่งนัก นางก็อยากจะดูเห หมือนกันว่าคนที่ถูกตอกหน้าในที่สุดจะเป็นใครกันแน่
หัวหน้าสำนักหมอหลวงที่เข้าเวรในวันนี้มีสองคน คนหนึ่งคือหมอหลวงเหลียงฝั่งซ้าย และหมอหลวงสวี่ส่วนกลาง
หมอหลวงสวี่เคยพบไป๋จื่อแล้ว นางยังถ่ายทอดสูตรยาหนิวหวงให้เขาอีกด้วย ส่วนหมอหลวงเหลียงผู้นั้น นางเพิ่งเคยพบเป็นครั้งแรก ทว่าหมอหลวงเหลียงกลับอยากพบนางสักครั้งมาก่อน แล้ว
หมอหลวงเหลียงไม่ได้อยู่ในคืนส่งท้ายปีเก่า เขาไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง วันนี้เขาเข้าเวรครั้งแรกในปีใหม่นี้ ก็ถูกไทเฮาเรียกมาตรวจอาการเสียแล้ว เขาจึงรู้สึกกระวนกระวา ายใจอยู่บ้าง
ไทเฮาร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงมาแต่ไหนแต่ไร ปกติแล้วเขามักจะหลีกเลี่ยงเรื่องของไทเฮาเสมอ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็จะตรวจอาการไปเท่าที่ทำได้ แต่ไม่มีทางออกใบสั่งยาให้ไทเฮาด้วยต ตนเองลำพังแน่นอน จะได้ไม่เป็นการดึงความผิดพลาดมาใส่ตัว
วันนี้โชคดีที่หมอหลวงสวี่ก็อยู่เช่นกัน อีกทั้งหมอหลวงสวี่ยังมีท่าทีกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ราวกับคอยท่าให้ไทเฮาเรียกเขามาตรวจอาการอย่างไรอย่างนั้น
“หมอหลวงสวี่ ข้าจำได้ว่าเจ้าเข้าเวรในคืนส่งท้ายปีเก่า”
หมอหลวงสวี่พยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะ”
“คืนนั้นแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้น ไทเฮาประชวรเป็นอะไรกันแน่” หมอหลวงเหลียงหรี่ตามองหมอหลวงสวี่ ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย
หมอหลวงสวี่แตกต่างกับหมอหลวงเหลียง เขาเป็นคนไม่ปิดบังเรื่องราว และไม่รู้สึกว่ามีเรื่องอะไรที่น่าปิดบัง จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นเสียรอบหนึ่ง
“ภาวะสมองขาดเลือด? รักษาหายแล้วหรือ” หมอหลวงเหลียงตกใจจนอ้าปากค้าง ภาวะสมองขาดเลือดมีเป็นเช่นไรเขารู้อยู่แก่ใจดี ยิ่งแน่ใจว่าเมื่อผู้สูงอายุอย่างไทเฮาเกิดภาวะนี้ ก็ถือว ว่าเป็นไม้ใกล้ฝั่งเต็มที และไม่มียาใดรักษาได้โดยสิ้นเชิง
“ตอนนั้นข้าก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกับเจ้า ไม่เชื่อว่ามีวิธีใดหรือยาใดสามารถรักษาไทเฮาได้โดยสิ้นเชิง แต่ตอนที่นางหลอมยาหลิวหวงเสร็จสิ้น จนกลิ่นยาเตะเข้าจมูกข้านั้น ข้าก็ รู้ในทันทีว่าที่ภาวะสมองขาดเลือดไม่มียาใดรักษาได้ นั่นเป็นเพราะพวกเราไม่มีวิธีอื่น ไม่รู้จักศึกษาศาสตร์อื่น ทว่าในสายตาของคนที่มีโลกทัศน์กว้างไกล บนโลกนี้ไม่มีโรคอะไรที ยากจะรักษาหรอก” หมอหลวงสวี่เอ่ย
“หมอที่หลอมยาหลิวหวงออกมา เป็นหมอวิเศษจากที่ใดกัน” หมอหลวงเหลียวถาม
หมอหลวงสวี่ส่ายหน้า “ข้าเองก็ไม่แน่ชัดนัก รู้เพียงว่านางสนิทสนมกับท่านตงฟางและจิ้นอ๋องมาก ดูเหมือนจะสกุลไป๋ เป็นแม่นางน้อยคนหนึ่ง”
ถึงแม้หมอหลวงเหลียงจะรู้ความจริงเช่นนั้นอยู่บ้าง แต่เมื่อได้พบไป๋จื่อ เขาก็ยังคงแปลกใจมาก แม่นางน้อยที่หมอหลวงสวี่ว่า แท้จริงแล้วนางเยาว์ได้ถึงเพียงนี้เชียว อีกทั้งยัง เป็นเด็กสาวบ้านนอกคนหนึ่งอีกด้วย ที่สำคัญที่สุดคือหน้าตาของนางกลับคล้ายฮูหยินของจวนชางหยวนโหวเป็นอย่างยิ่ง และคล้ายกับชางหยวนโหวเองอยู่หลายส่วนเช่นกัน
เมื่อนึกถึงอาการป่วยของฮูหยินแห่งจวนชางหยวนโหว เขาก็พลันรู้สึกหวั่นใจ จนฝ่ามือและแผ่นหลังของเขาเริ่มมีเหงื่อเย็นๆ ผุดออกมา
ไทเฮาเห็นทั้งสองคนเข้ามาแล้ว จึงเอ่ยเสียงนุ่มนวลว่า “ไม่ต้องมากพิธี ข้าฟื้นขึ้นมาแล้วรู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอย่างยิ่ง เรี่ยวแรงก็ไม่ค่อยจะมี จึงให้คนไปเชิญพวกเจ้ามาตรวจดูข้าสัก กหน่อย!”
หมอหลวงสวี่พิจารณาใบหน้าและสีหน้าของไทเฮาก่อน จากนั้นก็เห็นว่านางดีดลูกประคำเล่นอยู่ในมือ ท่าทางสดใสดีทีเดียว จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มว่า “ยินดีกับไทเฮา ยินดีกับไทเฮา!”
……….
ตอนที่ 720 เด็กสาวบ้านนอกคนหนึ่ง
ไทเฮาไม่เข้าใจ “มีอะไรน่ายินดี”
หมอหลวงสวี่ตอบ “ไทเฮาหายจากอาการประชวรที่สาหัส ถือเป็นความน่ายินดีของใต้หล้า สวรรค์ประทานพรพ่ะย่ะค่ะ!”
จนถึงตอนนี้ไทเฮาก็ยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วตนเองเดินเข้าไปในประตูปรโลกแล้วครั้งหนึ่ง นางคิดว่าตนเองป่วยเพียงเล็กน้อย ตอนนี้เห็นหมอหลวงสวี่พูดเช่นนี้จึงเกิดความสงสัย รีบถา ามว่า “หมอหลวงสวี่ เจ้าหมายความว่าอย่างไร เจ้ายังไม่ทันได้จับชีพจรของข้าดูเลย รู้ได้อย่างไรว่าข้าหายแล้ว”
“ในวันงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่า กระหม่อมอยู่ในตำหนักด้วย ยามที่ไทเฮาเกิดประชวรขึ้นมา กระหม่อมคอยปรนนิบัติอยู่ข้างๆ พ่ะย่ะค่ะ ทว่าน่าเสียดายนัก วิชาแพทย์ของกระหม่อมไม่เพียงพอ ไม ม่อาจคลายความทุกข์ให้ไทเฮาได้ ครั้นกำลังจวนตัว จิ้นอ๋องและท่านตงฟางแนะนำแม่นางไป๋ขึ้นมา บอกว่านางเก่งกาจด้านวิชาแพทย์ ความสามารถอันเต็มเปี่ยมของนางทำให้กระหม่อมนับถือเป็นอ อย่างยิ่ง บัดนี้เห็นไทเฮาฟื้นขึ้นมาพร้อมกำลังวังชา กระหม่อมก็ยิ่งเลื่อมใสในวิชาแพทย์ของแม่นางไป๋มากขึ้นพ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงสวี่ว่า
ไทเฮาตะลึงลาน มองหมอหลวงสวี่ด้วยความงงงัน
หมอหลวงสวี่เป็นถึงหัวหน้าสำนักหมอหลวงส่วนกลาง เป็นคนที่ซื่อสัตย์และจริงใจที่สุดในบรรดาหัวหน้าสำนักหมอหลวงทั้งสามคน เถรตรงเป็นอย่างยิ่ง นางจึงเชื่อในคำพูดของเขาทีเดียว
พูดเช่นนี้หมายความว่าเด็กสาวบ้านนอกตรงหน้าช่วยชีวิตนางเอาไว้จริงๆ หรือ อาการป่วยที่แม้แต่หมอหลวงสวี่ก็จนปัญญา กลับแก้ไขได้อย่างง่ายดายหรือนี่
ไป๋จื่อประสานมือคารวะหมอหลวงสวี่ เอ่ยเสียงเรียบว่า “หมอหลวงสวี่ชมเกินไปแล้ว ไป๋จื่อไม่กล้ารับไว้เจ้าค่ะ!”
หมอหลวงสวี่คารวะนางกลับไปโดยพลัน “ข้าพูดจากใจจริงทุกคำ!”
หมอหลวงเหลียงที่อยู่ข้างๆ ไม่อาจเชื่อได้อย่างแท้จริง ว่าเด็กสาวบ้านนอกคนหนึ่งจะรักษาภาวะสมองขาดเลือดได้
เขาก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง กล่าวกับไทเฮาว่า “ไทเฮา โปรดให้กระหม่อมจับชีพจรดูด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
ไทเฮาพยักหน้าทันที “ดีเหมือนกัน”
นางกำนัลหยิบหมอนอิงนิ่มๆ สองใบมารองหลังของไทเฮา เพื่อให้นางเอนกายพิงลงไปได้สบายยิ่งขึ้น
หมอหลวงเหลียงเดินเข้าไป หยิบผ้าแพรในล่วมยาที่พกมาด้วยออกมา ก่อนจะนำผ้านั้นปิดบังข้อมือของไทเฮาเอาไว้ แล้วตรวจดูชีพจรของพระนางอย่างละเอียด
ชีพจรของไทเฮาค่อนข้างอ่อนอยู่บ้าง แต่กลับไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร นับได้ว่าปกตินัก และตรวจไม่พบอะไรจากในชีพจรโดยสิ้นเชิง อีกทั้งตอนนี้ไทเฮากระปรี้กระเปร่ายิ่ง ยามพูดจาก็ต ต่างจากปกติ หากไม่ใช่เพราะหมอหลวงสวี่ว่าไว้ เขาก็ไม่มีทางจินตนาการถึงตอนที่ไทเฮามีอาการปากและตาเบี้ยวได้เลย
“เป็นอย่างไรบ้าง” ไทเฮาเห็นหมอหลวงเหลียงถอนมือกลับไปแล้ว ท่าทางของเขาชะงักค้างอยู่บ้าง จึงรีบถามออกไป
หมอหลวงรีบดึงสติกลับมา รีบกล่าว “ชีพจรของไทเฮาปกติดีพ่ะย่ะค่ะ ร่างกายก็ไม่มีอาการใดที่น่าเป็นห่วง เพียงต้องดื่มน้ำแกงเสริมความอบอุ่นสักหน่อย”
ไป๋จื่อจ้องเขม็งไปยังหมอหลวงเหลียง บุรุษตรงหน้าผู้นี้อายุสี่สิบต้นๆ ใบหน้าขาวผ่อง ไม่มีริ้วรอย ดูท่าทางเขาจะบำรุงตัวเองดีมาก หากมองผ่านๆ บอกว่าเขาอายุเพียงสามสิบต้นๆ ก็ยั งน่าเชื่อ
นางถามหมอหลวงเหลียง “หมอหลวงเหลียง มิสู้ท่านเขียนใบสั่งน้ำแกงเสริมความอบอุ่นให้ไทเฮาหน่อยเถอะเจ้าค่ะ!”
หมอหลวงเหลียงหันมามองนาง ดวงตาสบเข้ากับดวงตาของไป๋จื่อ ในใจของเขาเกิดความหวาดหวั่นอยู่สายหนึ่ง ถึงอย่างไรเขาก็เป็นหมอคนหนึ่ง แม้จะไม่ได้เก่งกาจเท่าหมอหลวงสวี่และหมอหลว วงจง แต่ก็ฉลาดเฉลียวกว่าหมอธรรมดาทั่วไปมากโข อาการของไทเฮาตอนนี้ไม่จำเป็นต้องดกินน้ำแกงเสริมความอบอุ่นอะไรทั้งนั้น เขาเพียงพูดออกไปเพราะความเคยชิน พูดออกไปตามที่เคยพูดเท ท่านั้น คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะมีคนคิดจริงจังกับมัน
เขายิ้มเจื่อน “แม่นางไป๋กำลังรักษาไทเฮาอยู่ ข้าเขียนใบสั่งคงจะไม่เหมาะสมกระมัง”
ไป๋จื่อยักไหล่ “มีอะไรไม่เหมาะสมเล่าเจ้าคะ พระวรกายของไทเฮามีค่าดั่งทองหมื่นชั่ง หากพระนางต้องการคำแนะนำเรื่องการรักษา ก็ย่อมต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้พระนางสิเจ้าคะ”
หมอหลวงสวี่มุ่นคิ้ว ก่อนจะกวาดสายตามองไปยังหมอหลวงเหลียงด้วยความไม่พอใจ ในใจเกิดไฟโทสะอยู่กองหนึ่ง เขากล่าวเตือนหมอหลวงเหลียงไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าให้เขาเขียนใบสั่งยาสำหร รับน้ำแกงเสริมความอบอุ่นที่ไม่จำเป็นเหล่านั้นให้น้อยลง ทว่าอีกฝ่ายไม่เคยสนใจ ขอเพียงได้ออกตรวจ ก็จำต้องเขียนใบสั่งยา โดยไม่สนใจว่าจะมีประโยชน์หรือไม่