คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 721 รบกวนเจ้าแล้ว / ตอนที่ 722 วิชาแพทย์นี้เรียนด้วยตนเองได้ด้วยหรือ
- Home
- คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
- ตอนที่ 721 รบกวนเจ้าแล้ว / ตอนที่ 722 วิชาแพทย์นี้เรียนด้วยตนเองได้ด้วยหรือ
ตอนที่ 721 รบกวนเจ้าแล้ว
ราวกับว่าหากออกตรวจแล้วไม่เขียนใบสั่งยา จะไม่ได้แสดงวิชาแพทย์อันสูงส่งของเขาออกมาอย่างไรอย่างนั้น
เป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน หากไทเฮาเป็นอันตรายเพราะน้ำมือของเขา เขาก็คงมีจุดจบที่น่าเวทนาแล้ว!
ไทเฮากล่าวออกมาดังที่คาดไว้ “หมอหลวงเหลียง ก่อนหน้านี้ข้าป่วยเพียงเล็กน้อย เคยใช้ใบสั่งยาที่เจ้าเขียน ดูท่าทางเจ้าจะคุ้นชินต่ออาการของข้าทีเดียว ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ครั้งนี้ ก็ต้องรบกวนเจ้าแล้วละ”
ด้วยฐานะของไทเฮา นางขอรบกวนด้วยเขาด้วยวาจาเช่นนั้น หากเขาขืนปฏิเสธอีก นั่นไม่เท่ากับหักหน้าของนางหรืออย่างไร ยิ่งถ้าหากนางตัดสินโทษลงมา เขาก็ลงจากหลังเสือยากแล้ว
หากเป็นเวลาปกติก็ช่างเถอะ ใช้น้ำแกงเสริมความอบอุ่นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่อย่างไรเสียตอนนี้อาการของนางก็ต่างออกไปจากเดิม ยังไม่หายสนิทดี ทว่าอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญเป็นที่ สุด หากกินยาที่เขาเขียนใบสั่งให้แล้วเกิดความผิดพลาดใดแม้แต่นิดเดียว เช่นนั้นคอของเขาก็ต้องหลุดจากบ่าแล้ว
ครั้นเห็นหมอหลวงเหลียงตะลึงลานไม่เอ่ยวาจา สีหน้าของไทเฮาก็พลันเปลี่ยนไป นางพูดเขากับเขาถึงเพียงนั้นแล้วก็ยังร้องขอเขาไม่ได้หรือนี่
“หมอหลวงเหลียง ข้าไม่คู่ควรกับใบสั่งยาของเจ้าหรือ” เสียงของนางตอนนี้เย็นชากว่าเมื่อครู่นี้ไม่รู้กี่ส่วน มันเย็นชาเสียจนหมอหลวงเหลียงตัวสั่นงันงกเลยทีเดียว
หมอหลวงเหลียงรีบคุกเข่าลง โขกศีรษะให้นางหนึ่งครั้ง เอ่ยว่า “เมื่อครู่กระหม่อมกำลังคิดว่าควรใช้ยาอะไร จึงเหม่อลอยไปชั่วขณะ ไทเฮาอย่าได้ทรงกริ้วเลยพ่ะย่ะค่ะ!”
ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง ไทเฮาเก็บสีหน้า โบกมือพลางกล่าว “ช่างเถอะ ไปเขียนใบสั่งยาได้แล้ว”
หมอหลวงเหลียงรับคำ ลุกขึ้นยืนทั้งๆ ที่ขาสั่น ยามที่จะหมุนกายเดินไปจากโต๊ะหนังสือ เขาลอบปาดเหงื่อด้วย
เขาชำเลืองสายตาไปมองหมอหลวงสวี่ ขยิบตาให้เขาไม่ยอมหยุดหย่อน
หมอหลวงสวี่กลับทำเป็นมองไม่เป็น เพียงมองไปข้างหน้า เขาเป็นคนซื่อสัตย์จริงใจ ทว่าก็ไม่ใช่คนโง่ เวลานี้จะหาเรื่องใส่ตัวอีกหรือไร
ไป๋จื่อก็มองข้ามสายตาไม่เป็นมิตรที่หมอหลวงเหลียงมองนาง ในใจลอบยิ้มเย็น ‘โกรธหรือ นี่เพิ่มเริ่มต้นเท่านั้น เรื่องสนุกคือหลังจากนี้ต่างหาก’
หากเขาไม่เชี่ยวชาญวิชาแพทย์ และมองไม่ออกจริงๆ ว่าตงฟางหว่านเอ๋อร์ถูกพิษก็ช่างเถิด ทว่าหากเขารู้ชัดแจ้งแก่ใจว่าตงฟางหว่านเอ๋อร์ถูกพิษ กลับยังคงแสร้งทำเป็นไม่รู้ แม้กระทั่ งรวมหัวกับเผยชิงหานหรือซ่งเหอเซียง จงใจปิดบังทุกอย่าง เช่นนั้นเขาก็สมควรตาย!
เมื่อหมอหลวงเหลียงออกไปเขียนใบสั่งยา สายตาของไทเฮาก็ตกลงที่ร่างของไป๋จื่ออีกครั้ง ยิ่งมองนางก็ยิ่งรู้สึกว่าเหมือนตงฟางหว่านเอ๋อร์และเผยชิงหานอย่างยิ่ง อีกทั้งดึงส่วน นที่ดีของทั้งสองคนมาอีกต่างหาก จึงงดงามยิ่งกว่าตงฟางหว่านเอ๋อร์ในตอนนั้นเสียอีก
มิน่าเล่าสีหน้ายามที่เฟิงเอ๋อร์มองนางเมื่อครู่ถึงดูแปลกๆ หากนางเป็นบุรุษก็ย่อมหวั่นไหวเพราะใบหน้าเช่นนี้เหมือนกัน
เพียงแต่…ในเมื่อนางกับตงฟางหว่านเอ๋อร์จำกันได้แล้ว เช่นนั้นก็ต้องได้รับการยอมรับจากตงฟางมู่ ส่วนเด็กสาวคนนี้มีหมั้นหมายกับจิ้นอ๋องตั้งแต่ยังเด็ก เฟิงเอ๋อร์เข้าใกล้นาง และต้องการแย่งชิงอำนาจจากตงฟางมู่เกรงว่าจะไม่ง่าย
แม้ทั้งหมดล้วนเป็นหลานชายของนาง แต่นางเห็นเฟิงเอ๋อร์อยู่ในสายตามาตั้งแต่อ้อนแต่ออก ส่วนจิ้นอ๋องกลับเคยพบอยู่ไม่กี่ครั้ง หากจะพูดถึงความสนิทสนม นางย่อมสนิมสนมกับเฟิงเอ๋อร ร์มากกว่า
ไทเฮากวักมือเรียกไป๋จื่อ “สาวน้อย เจ้ามานี่หน่อย”
ไป๋จื่อเข้าไปหาอย่างว่าง่าย บนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มจางๆ พลางก้มหน้าลง มีสีหน้าเคารพนบนอบยิ่ง
ไทเฮาจับมือของนาง ยิ้มว่า “แม้แต่หมอหลวงสวี่ก็ชื่นชมความสามารถด้านวิชาแพทย์ของเจ้า ดูท่าทางเจ้าจะไม่ธรรมดาเลยนะ เจ้าเรียนวิชาแพทย์มาจากใครกัน แล้วเหตุใดถึงได้เรียนวิชาแพทย์ ตั้งแต่ยังอายุน้อยเช่นนี้”
หมอหลวงสวี่เองก็ประหลาดใจอย่างมาก รีบเงี่ยหูฟังทันใด ตื่นเต้นจนไม่กล้าหายใจ ด้วยกลัวว่าหากหายใจเสียงดังเกินไป เขาจะไม่ได้ฟังสมญานามของหมอเทวดาผู้นี้
ไป๋จื่อยิ้มเล็กน้อย “ทูลไทเฮา หม่อมฉันเรียนวิชาแพทย์ด้วยตนเองเพคะ”
ไทเฮามีสีหน้าแปลกใจทันควัน ส่วนหมอสวี่กลับมีสีหน้าประหวั่นพรั่นพรึง!
……….
ตอนที่ 722 วิชาแพทย์นี้เรียนด้วยตนเองได้ด้วยหรือ
“เรียนด้วยตนเอง? วิชาแพทย์นี้เรียนด้วยตนเองได้ด้วยหรือ” ในใจของไทเฮาเริ่มหวั่นใจขึ้นมา โรคนี้ของนางไม่ใช่ว่ารักษาไม่ได้หรือไร
ไป๋จื่อพยักหน้า “คืออย่างนี้เพคะ หม่อมฉันเก็บตำราแพทย์เล่มหนึ่งได้ในป่าตอนที่ยังเด็ก มันมหัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง สิ่งที่เขียนอยู่ในนั้นน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน ตอนเด็กๆ ห หม่อมฉันไม่รู้ประสา ตัวหนังสือที่รู้จักก็มีไม่มาก จึงอ่านมันเหมือนเป็นหนังสือที่ไว้อ่านในยามว่าง คิดไม่ถึงว่านานวันเข้าจะจำเนื้อหาของตำราได้ขึ้นใจ เมื่อหม่อมฉันโตขึ้นบ้าง งถึงได้รู้ว่าที่แท้จริงแล้วมันเป็นตำราแพทย์ มันไม่เพียงมีศาสตร์การจับชีพจรและหยูกยาเท่านั้น ยังมีศาสตร์การฝังเข็มที่ยอดเยี่ยมมากด้วยเพคะ”
“เพื่อเรียนศาสตร์การฝังเข็มนี้ หม่อมฉันทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมด จนกระทั่งภายหลังเก็บสมุนไพรจากในป่ามาขายเป็นเงิน ถึงได้ลองซื้อเข็มเงินและหุ่นเพคะ”
ไทเฮาฟังอยู่เนิ่นนาน พระนางอ้าปากค้าง แต่หมอหลวงสวี่กลับนับถือนางอย่างลึกซึ้งเพราะคำพูดของนาง เขาลำบากลำบนไปไม่น้อยเพราะเรียนวิชาแพทย์ แต่เมื่อเทียบกับสตรีที่อยู่ตรงหน้านี แล้ว ความลำบากที่เขาได้รับนับว่าน้อยนิดยิ่ง
กล่าวได้ว่านางมีพรสวรรค์ด้านวิชาแพทย์ เดิมทีนางไม่เพียงมีพรสวรรค์ ที่นางมีความสำเร็จในวันนี้ได้ยิ่งต้องฝึกฝนร่ำเรียนอย่างหนักอย่างแน่นอน
เด็กสาวคนหนึ่งโตมาได้อย่างไป๋จื่อเช่นนี้ จิตใจจะต้องไม่ธรรมดาเพียงใดกัน ใช้สายตาที่มองเด็กสาวธรรมดามองนาง เห็นทีว่าจะไม่ได้แล้ว
ไทเฮากำลังคิดว่าควรใช้วาจาเช่นไรเอ่ยชมนางสักสองคำ หมอหลวงเหลียงทางนั้นที่เขียนใบสั่งยาเรียบร้อยแล้วก็เข้ามา นางจึงตัดใจไม่พูดเสียเลย
“พวกเจ้าสองคนดูใบสั่งยาของหมอหลวงเหลียงหน่อยสิ เป็นเช่นที่ไป๋จื่อกล่าว ควรเลือกสิ่งที่ดีที่สุด!” ไทเฮากล่าว
หมอหลวงสวี่รับคำ ก่อนก้าวไปรับใบสั่งยาจากในมือของหมอหลวงเหลียง เขากวาดสายตามองดูรอบหนึ่ง ในใจเข้าใจได้โดยพลัน ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น คล้ายคลึงกับใบสั่งยาที่หมอ หลวงเหลียงเขียนส่วนใหญ่ เพียงแต่ขาดยาสำหรับให้เลือดลมไหลเวียนอยู่สองสามชนิด ฉลาดทีเดียว รู้ว่าตอนนี้จำเป็นต้องลดยาเหล่านั้นในสถานการณ์เช่นนี้
จากนั้นหมอหลวงสวี่ก็ไม่ได้พูดอะไร ส่งใบสั่งยาให้ไป๋จื่อ
ไป๋จื่อรับมาดู เกือบจะหลุดหัวเราะ
ไทเฮาเห็นนางเป็นเช่นนั้น จึงรีบถามขึ้นว่า “เหตุใดเจ้าถึงหัวเราะ”
ไป๋ขื่อเขย่าใบสั่งยาในมือ ก่อนจะถามพร้อมรอยยิ้ม “หม่อมฉันเพียงไม่เข้าใจเพคะ ว่าแท้จริงแล้วนี่เป็นใบสั่งยาอะไร รักษาโรคอะไรได้ หรือบำรุงอวัยวะใดได้บ้าง”
ไทเฮาขมวดคิ้ว มองไปทางหมอหลวงเหลียง “เจ้าอธิบายทีเถอะ!”
เวลานี้หมอหลวงเหลียงชังน้ำหน้าไป๋จื่อยิ่งนัก นางเด็กน่าตายผู้นี้ เห็นได้ชัดว่านางจงใจฉีกหน้าเขา เดิมทีแล้วใบสั่งยาของผู้ร่วมอาชีพเดียวกันเช่นนี้ ขอเพียงไม่มีพิษและไม่เป็นอ อันตรายก็ไม่ควรวิจารณ์ถึงคุณภาพของมัน นางทำเช่นนี้เพราะจงใจแน่นอน
ทว่าต่อหน้าไทเฮา เขาจะพูดอะไรได้เล่า
หมอหลวงเหลียงกล่าวว่า “ทูลไทเฮา ก่อนหน้านี้กระหม่อมบอกไว้แล้วว่าจะออกใบสั่งยาสำหรับสร้างความอบอุ่นให้พระนาง แม้ใบสั่งยานี้จะรักษาโรคใดไม่ได้ แต่กลับมีประโยชน์ต่อร่างกาย บำรุง งเลือดลมไหลเวียนได้ดี”
ไป๋จื่อกล่าวต่อทันที “จริงหรือ ใส่โหราเดือยไก่[1]แล้วบำรุงเลือดลมได้หรือ ยาที่ผสมหยวนกานช่วยให้สงบจิตใจได้ด้วยหรือเจ้าคะ หมอหลวงเหลียง ท่านไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งไม่รู ”
ไทเฮาไม่รู้เรื่องสมุนไพร ทว่าฟังจากที่ไป๋จื่อกล่าวแล้ว หนังตาของนางก็กระตุกครั้งหนึ่ง ใบสั่งยาที่หมอหลวงเหลียงสั่งให้ช่างไม่มีประโยชน์ต่อพระนางเอาเสียเลย
……….
[1] โหราเดือยไก่ (伏子) คือ พรรณไม้ล้มลุกขนาดเล็ก มีสรรพคุณมากมาย เช่น แก้พิษสัตว์ ช่วยขับลม ช่วยขับระดูสตรี และขับโลหิตช้าๆ ช่วยบำรุงระบบหัวใจ ให้ความอบอุ่นแก่กระเพาะอาหารเ เสริมความแข็งแรงของไต ช่วยบำรุงธาตุไฟ