คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 723 นางยังมีชีวิตอยู่หรือนี่ / ตอนที่ 724 นี่คือน้ำแกงยาขม ไม่ใช่พุทราเชื่อมน้ำผึ้ง!
- Home
- คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
- ตอนที่ 723 นางยังมีชีวิตอยู่หรือนี่ / ตอนที่ 724 นี่คือน้ำแกงยาขม ไม่ใช่พุทราเชื่อมน้ำผึ้ง!
ตอนที่ 723 นางยังมีชีวิตอยู่หรือนี่
หมอหลวงเหลียงจะไปคาดคิดได้อย่างไร ว่าความกล้าของไป๋จื่อจะมากมายจนถึงขั้นนี้ นางกล้าพูดจามั่วซั่วต่อหน้าฮองเฮาเช่นนี้ หรือว่านางไม่รู้ว่าด้วยวาจาที่ไม่ได้ผ่านการคิดของนาง จะทำให้เขาตกที่นั่งลำบากไปด้วย
เขาคุกเข่าลงต่อหน้าไทเฮาทันที ก้มตัวลงโขกศีรษะ “ไทเฮาโปรดเมตตา ใบสั่งยาของกระหม่อมเป็นเพียงใบสั่งยาที่ใช้สำหรับบำรุงร่างกายทั่วๆ ไป แม้จะไม่ได้ดีเลิศจนรักษาโรคใดได้ แต่กลับ บมีฤทธิ์ในการบำรุงร่างกายดียิ่ง ไม่มีจุดใดที่เป็นผลร้ายเลยพ่ะย่ะค่ะ” ขณะที่พูดอยู่นั้น เขาหันกลับไปมองไป๋จื่อครั้งหนึ่ง ก่อนจะกล่าวอีกว่า “แม่นางไป๋ผู้นี้เป็นใครมาจากที่ ไหนก็ไม่รู้ อายุยังน้อย แค่อ่านตำราแพทย์สองเล่มด้วยตนเอง ก็กล้าวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นต่อหน้าไทเฮาแล้ว การกระทำเช่นนี้ ทำให้กระหม่อมอับอายจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ!”
ไทเฮามองไปยังไป๋จื่ออีกครั้ง ไม่ได้เอ่ยวาจาใด ราวกับว่ากำลังรอนางอธิบาย
ดีเหมือนกัน ในเมื่อรอนางอธิบาย เช่นนั้นนางก็จะอธิบายให้ฟังอย่างดีเลยทีเดียว!
ไป๋จื่อชำเลืองมองหมอหลวงเหลียง กล่าวคล้ายยิ้ม คล้ายไม่ยิ้มว่า “เมื่อครู่หมอหลวงเหลียงมาช้านัก ทว่าก็รีบร้อนเขียนใบสั่งยา อีกทั้งไม่รู้ที่มาของข้าอีก เช่นนั้นข้าจะเล่าให้ ท่านฟังสักรอบ”
นางเม้มปาก รอยยิ้มชัดลึกขึ้น พลางมองหมอหลวงเหลียงจนเขารู้สึกว่ามีเหงื่อเย็นเยียบซึมขึ้นมาชั้นหนึ่งโดยพลัน
“ข้าสกุลไป๋ เป็นสกุลของพ่อที่เก็บข้ามาเลี้ยง ก่อนหน้านี้ข้าเพิ่งจำท่านแม่ของข้าได้ แม่ของข้าชื่อว่าตงฟางหว่านเอ๋อร์ ตาของของข้าคือตงฟางมู่ ดูท่าหมอหลวงเหลียงคงไม่ได้ไม่ค คุ้นเคยกระมัง”
หมอหลวงเหลียงสีหน้าเปลี่ยนไปทันควัน นางเป็นลูกของตงฟางหว่านเอ๋อร์ที่ ‘ตายไป’ ในปีนั้นหรือนี่ นางยังมีชีวิตอยู่หรอกหรือ
มิน่าเล่ามองดูหน้าตาของนางแล้ว ช่างคล้ายกับตงฟางหว่านเอ๋อร์และเผยชิงหานอย่างยิ่ง
มือที่อยู่ข้างใต้แขนเสื้อของเขาสั่นระริก ในใจรู้สึกกระวนกระวายเป็นอย่างมาก ราวกับเป็นเด็กที่ทำอะไรผิดและปิดบังความผิดนั้นอยู่ในใจคนหนึ่ง เขาคิดว่าเสื้อผ้านางฟ้าไร้รอยต ตะเข็บ[1] แต่ใครจะรู้ว่ายังมีผู้เห็นเหตุการณ์ซ่อนอยู่ในความมืดด้วย
ผู้เห็นเหตุการณ์อยู่เบื้องหน้า ก็ไม่รู้เหมือนว่าผู้เห็นเหตุการณ์ผู้นั้นจะพูดอะไรบ้าง
ไป๋จื่อพิจารณาสีหน้าของหมอหลวงเหลียง ในใจลอบยิ้มเย็น ปริศนาที่รอให้มีใครไปตรวจสอบเหล่านั้น วินาทีนี้ราวกับมีคำตอบแล้ว
“ได้ยินมาว่าหลายปีนั้นที่ท่านแม่ของข้าล้มป่วย ล้วนเป็นหมอหลวงเหลียงที่เขียนใบสั่งยาเองกับมือใช่หรือไม่” นางถาม
หมอหลวงเหลียงหน้าซีดเผือด ร่างกายสั่นไหวรุนแรงขึ้น “ชะ ใช่กระมัง ขะ ข้าไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน บางทีท่านโหวเรียกหมอคนอื่นมาหรือไม่ ข้าก็ไม่แน่ใจ!”
ไป๋จื่อกล่าวอีกว่า “ได้ยินสาวใช้ข้างกายของท่านแม่บอกว่า หมอหลวงเหลียงเคยพูดเอาไว้เมื่อสองเดือนก่อน ว่าท่านแม่ของข้าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน และมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงปีเท่ านั้น!”
เม็ดเหงื่อบนหน้าผากของหมอหลวงเหลียงหยดลงมาทีละหยด ตกลงบนแขนเสื้อขุนนางสีเขียวของเขา
ไทเฮาได้ฟังดังนั้นก็ถามแทรกขึ้นทันใด “เช่นนั้นแล้วตอนนี้แม่ของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
“ทูลไทเฮา ตอนนี้ท่านแม่ของข้าแข็งแรงขึ้นแล้ว รอดพ้นจากโรคร้ายแล้วเพคะ!” ไป๋จื่อตอบ
เมื่อหมอเหลียงได้ยินคำพูดของไป๋จื่อ เขาก็ยิ่งตัวสั่นมากยิ่งขึ้น ก่อนจะนึกได้ว่าไม่ถูกต้อง ร่างกายของตงฟางหว่านเอ๋อร์เสียหายไปโดยสิ้นเชิงแล้ว จะรักษาให้หายได้อย่างไร หรือว่า นางจะหลอกเขา
เขาพูดทันที “เป็นไปไม่ได้ แม้ของเจ้าป่วยจนไม่มียาใดรักษาได้แล้ว ต่อให้เทพเซียนผู้ยิ่งใหญ่ลงมาจุติ ก็ไม่มีทางรักษานางให้หายได้!”
ไป๋จื่อหัวเราะเบาๆ “หมอหลวงเหลียงแน่ใจปานนั้นเชียว เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน ท่านรักษาไม่ได้ ก็คิดว่าคนอื่นรักษาไม่ได้เช่นกันหรือ หรือแท้ที่จริงแล้วมีอะไรในกอไผ่ท ที่พวกข้าล้วนไม่รู้ มีเพียงท่านที่ชัดแจ้งอยู่แก่ใจตนเอง ถึงได้เอ่ยวาจาอย่างมั่นใจเช่นนั้นใช่หรือไม่”
คราวนี้หมอหลวงเหลียงพลันรู้สึกเสียใจในภายหลัง ไหนเลยเขาจะรู้ว่าฝีปากของเด็กสาวคนนี้จะคมกล้าถึงเพียงนี้ ทำเอาเขากลายเป็นคนผิดต่อหน้าไทเฮาไปเสียได้
……….
ตอนที่ 724 นี่คือน้ำแกงยาขม ไม่ใช่พุทราเชื่อมน้ำผึ้ง!
หมอหลวงเหลียงรีบตะโกนออกมา “แม่นางไป๋ กล้าพูดวาจาที่คาดเดาไปเองเช่นนี้ออกมาง่ายๆ ได้อย่างไร”
ไป๋จื่อยิ้มว่า “ไม่ใช่วาจาที่คาดเดาไปเอง ข้าคิดว่าหมอหลวงเหลียงรู้อยู่แก่ใจดี”
ไทเฮาไม่มีกะใจมองพวกเขาสองคนต่อปากต่อคำกัน ตอนนี้นางสนใจเพียงตงฟางหว่านเอ๋อร์หายดีเป็นปลิดทิ้งเช่นที่ไป๋จื่อว่าจริงหรือไม่
คนหนึ่งล้มป่วยอยู่สิบกว่าปี คนหนึ่งถูกหัวหน้าสำนักหมอหลวงตัดสินว่าตายไปแล้ว ทว่าภายในเวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนกว่าเท่านั้น จะมีโอกาสหายดีได้อีกหรือ
นางโบกมือ “เอาละ พวกเจ้าพูดให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ หมอหลวงสวี่ เจ้ารีบพูดเร็ว!”
หมอหลวงสวี่ก้าวมาข้างหน้า ก่อนจะทำความเคารพไทเฮาครั้งหนึ่ง แล้วถึงจะเอ่ยเสียงนุ่มนวลว่า “กระหม่อมคิดว่าแม้ใบสั่งยาของหมอหลวงเหลียงจะไม่มีประโยชน์ใดต่อร่างกาย แต่ก็ไม่มีผลเสีย ยอะไรเช่นกัน จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้พ่ะย่ะค่ะ!”
จะพูดหรือไม่พูดก็ไม่ต่างกัน!
ไทเฮาคล้ายจะเข้าใจแล้วเช่นกัน ใบสั่งยานี้ไม่มีประโยชน์ต่อนาง แต่ก็ไม่มีผลร้ายเช่นกัน ไม่เช่นนั้นหมอหลวงสวี่คงไม่มีท่าทีเช่นนี้
สำหรับคนนอกแล้ว นี่เป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างยิ่ง กินน้ำแกงยาที่ไม่มีผลอะไรสักสองถ้วยก็ช่างเถอะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนัก
แต่นางเป็นไทเฮา เป็นผู้ที่ได้รับความรักและเคารพเหนือคนหลายหมื่น จะยอมให้คนหลอกลวงได้ง่ายๆ เช่นนี้หรือ นี่คือน้ำแกงยาขม ไม่ใช่พุทราเชื่อมน้ำผึ้ง!
“หมอหลวงเหลียง เจ้าช่างกล้านัก!” ไทเฮาเสียงไม่ดังมาก แต่กลับเต็มไปด้วยแรงกดดัน แม้กระทั่งมีความรู้สึกโกรธเกลียดแฝงอยู่ด้วย
หมอหลวงเหลียงตกใจจนเข่าอ่อน ก้มหน้าไม่ยอมเงย หอบหายใจอย่างเอาเป็นเอาตาย
ไทเฮาแค่นหัวเราะ “เป็นหมอก็ต้องมีศีลธรรม หากลืมกิริยา ลืมตัวตน ก็ย่อมไม่เหมาจะเป็นหมอแล้ว เด็กๆ ลากเขาออกไป จับเขาไปขังไว้ในคุก รอฟังคำตัดสิน!”
อยู่ใกล้กษัตริย์ก็เหมือนอยู่ใกล้เสือ ก่อนหน้านี้ไป๋จื่อเพียงเคยได้ยินจากในละครโทรทัศน์และนิยาย ไม่เคยได้สัมผัสกับตนเองมาก่อน วันนี้นับว่าได้เปิดโลกทัศน์แล้ว ก่อนหน้านี้นั่ งอยู่บนตำแหน่งขุนนาง วินาทีต่อมาถูกจับขังไปแล้ว
หมอหลวงเหลียงเพิ่งถูกลากตัวออกไป ข้างนอกก็มีเสียงเล็กๆ ของขันทีดังมา “ฮองเฮาเสด็จ!”
เสียงขันทีจบลงได้ครู่หนึ่ง ถึงจะมีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกตำหนัก
จากนั้นเงาร่างที่รีบร้อนหลายสายก็เข้ามา ที่เดินอยู่ข้างหน้าสุดก็คือฉุนฮองเฮา
ครั้นฉุนฮองเฮาเข้าตำหนักแล้ว นางเห็นไทเฮากำลังนั่งมองนางอยู่บนเตียงโดยพลัน ในใจพลันตะลึงลาน ไม่ใช่ว่าไทเฮามีภาวะสมองขาดเลือดหรือ เหตุใดตอนนี้ถึงเหมือนกับคนไม่เป็นอะไรเลย ยเล่า
ก่อนหน้านี้แม่นมที่คอยปรนนิบัตินางก็มีภาวะสมองขาดเลือกเช่นกัน ตอนนั้นอีกฝ่ายเหมือนกับไทเฮาไม่มีผิด ตาและปากบิดเบี้ยว สลบไสลไปหลายวันถึงจะฟื้น ฟื้นขึ้นมาแล้วก็พูดจาไม่ชัดเจน น แม้แต่มือไม้ก็สั่นเครือ ลงจากเตียงไม่ได้ ทนทรมานอยู่หนึ่งปีก็จากไป
“หม่อมฉันถวายพระพรไทเฮา!”
ไทเฮายกมือขึ้น บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม “ตายสบาย หาที่นั่งเถอะ!”
หากพูดกันตามตรง นางพึงพอใจฉุนฮองเฮามาก ปกติแล้วฉุนฮองเฮาเห็นนางเป็นเหมือนมารดาของตนเอง งานเฉลิมพระชนม์ครั้งก่อนก็ดีมากเช่นกัน และเมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น นางฟื้นขึ้นมาได ด้หนึ่งชั่วยามกว่าๆ แล้ว นางสนมคนอื่นไม่เห็นมีใครมาเยี่ยมสักคน ฉุนฮองเฮากลับมาเร็วและว่องไวที่สุด นี่หมายความว่าอย่างไร นั่นหมายความว่าในใจของฉุนฮองเฮาคิดถึงหญิงชราคนนี้ อยู่เสมอ
“ขอบพระทัยเสด็จแม่!” ฮองเฮากวาดสายตามองไป๋จื่อที่ยืนอยู่ด้านข้าง เห็นนางยังคงรักษากิริยาสำรวมเอาไว้ได้ แม้จะไม่นับว่าได้มาตรฐาน แต่ก็ไม่เกินขอบเขต จึงยกมือขึ้นโบก “ทำตัวตามส สบายเถอะ!”
“ขอบพระทัยฮองเฮา!” ไป๋จื่อถอยไปข้างๆ ตามองปลายจมูก
ฮองเฮามองไปยังไทเฮา รอยยิ้มสดใสทีเดียว “สองสามวันมานี้หม่อมฉันส่วนมนต์ขอพรให้เสด็จแม่อยู่ตลอด วันนี้ได้เห็นเสด็จแม่มีพลานามัยแข็งแรง หม่อมฉันก็สบายใจแล้วเพคะ”
……….
[1] เสื้อผ้านางฟ้าไร้รอยตะเข็บ (天衣无缝) หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างไร้ความผิดพลาด สมบูรณ์แบบไปเสียหมด