คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 731 โรคเบาหวาน (2) / ตอนที่ 732 โรคเบาหวาน (3)
ตอนที่ 731 โรคเบาหวาน (2)
ข้ารับใช้ของสกุลเมิ่งรู้งานเป็นอย่างยิ่ง รีบส่งผ้าขนหนูให้
จวนสกุลเมิ่งซับซ้อนกว่าคฤหาสน์ตงฟางมาก เดี๋ยวเข้าประตูซ้าย เดี๋ยวเข้าประตูขวา เวียนวนไปมาจนนางเวียนศีรษะไปหมด เมื่อผ่านซุ้มประตูอันประณีตไปได้ นั่นก็เป็นเรือนของฮูหยินสก กุลเมิ่งแล้ว
เมื่อได้ยินว่าไป๋จื่อจะมา หมอหลวงจางที่เดิมทีควรจะกลับไปแล้วกลับยังคงรออยู่ในเรือน ส่วนใต้เท้าเมิ่งนั่งอยู่ข้างเตียง คอยถอนหายใจอยู่ตลอดเวลา
ในใจของเขาไม่เชื่อเลยสักนิด ว่าไป๋จื่อผู้นั้นจะรักษาโรคของฮูหยินได้ แม้แต่หมอหลวงจางยังบอกว่าหมดหนทาง ปู่ของอีกฝ่ายยังตายเพราะโรคนี้ พี่ชายก็รอความตายแล้วเช่นกัน ราวกั บว่าหากเป็นโรคนี้ จุดจบจะมีเพียงคำว่าตายเท่านั้น แล้วจะยังหวังอะไรได้อีก
ยิ่งคิดก็มีแต่ยิ่งหมดกำลังใจ ยิ่งกลัดกลุ้มใจมากขึ้นทุกที
บัดนี้มีข้ารับใช้เข้ามารายงาน บอกว่าคุณชายพานายใหญ่ตงฟางและคุณหนูไป๋มาแล้ว
นายใหญ่ตงฟาง? ตงฟางมู่น่ะหรือ
ใต้เท้าเมิ่งตกใจไม่น้อย จึงรีบร้อนลุกขึ้นออกไปตอนรับข้างนอกประตู
แต่ไหนแต่ไรตงฟางมู่ไม่เคยไปที่จวนของขุนนางคนไหนมาก่อน เรื่องนี้ขุนนางทั่วทั้งราชสำนักต่างรู้ดี ตอนนี้เขามาเยือนที่นี่แล้ว นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งจริงๆ!
ครั้นใต้เท้าเมิ่งออกไปข้างนอกเรือนก็ได้พบกับตงฟางมู่พอดี เขาจึงลนลานคารวะ “ยินดีต้อนรับท่านตงฟาง ถือเป็นเกียรติของข้ายิ่งนัก!”
ตงฟางมู่โบกมือทันที “ใต้เท้าเมิ่งไม่จำเป็นต้องเอ่ยวาจาเช่นนี้ ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อพบเจ้า เจ้าถือเสียว่าข้าไม่ได้อยู่ตรงนี้เถอะ ทำเรื่องที่ควรทำก็พอแล้ว”
เมิ่งหนานเห็นบิดาของตนเองมีท่าทีเก้ๆ กังๆ ก็เข้ามาแนะนำว่า “ท่านพ่อ นี่คือแม่นางไป๋ขอรับ”
ไป๋จื่อย่อกายให้เมิ่งหยวนเต๋อ “ได้ยินชื่อเสียงของใต้เท้าเมิ่งมานาน ข้าขอสวัสดีปีใหม่เจ้าค่ะ!”
เมิ่งหยวนเต๋อทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะตอบอะไรไปชั่วขณะ การสวัสดีปีใหม่มักแลกกับอั่งเปา ทว่าเขาไม่ได้เตรียมไว้น่ะสิ!
ตงฟางมู่โบกมืออีกครั้ง “ไอ้หยา ไม่ต้องมาพิธี รีบเข้าไปข้างในเถอะ ไม่ใช่ว่าต้องตรวจโรคให้ฮูหยินของเจ้าหรือไร ยังชักช้าอะไรอยู่”
เมิ่งหยวนเต๋อเร่งพาพวกเขาเข้าไปในเรือน หมอหลวงจางที่อยู่ในเรือนทำความเคารพอีก ทำเอาตงฟางมู่เห็นแล้วขัดใจนัก เขาจึงหามุมหนึ่งในเรือนนั่งลงดื่มน้ำชาในทันที ไม่สนใจผู้ใด และ ะไม่ได้ให้ผู้ใดมาคอยรับใช้ ทำเหมือนว่าตนเองไม่มีตัวตนอย่างไรอย่างนั้น
ไป๋จื่อตรงไปที่หน้าเตียงของฮูหยินเมิ่งทันทีที่เข้ามาในเรือน นางจับชีพจรให้อีกฝ่ายก่อนเป็นอันดับแรก ชีพจรถี่กระชั้นดังคาด ลมหายใจแทบจะเหมือนกับหอบ มีอาการไข้ขึ้น ดวงตาลึก โหล พวงแก้มเหลืองตอบ เป็นลักษณะอาการของโรคเบาหวานตามแบบฉบับ
นางเรียกสาวใช้ที่คอยปรนนิบัติฮูหยินเมิ่งมาถามความ ส่วนใหญ่ที่ถามล้วนเป็นเรื่องส่วนตัว สาวใช้รู้ว่าฮูหยินป่วยหนักจึงไม่สนใจอย่างอื่นแล้ว นางถามมาก็ตอบไป และเป็นเช่นที่ไป๋จื่อ อคิดไว้ ฮูหยินเมิ่งเป็นโรคเบาหวานจริงๆ
ดูจากอาการในตอนนี้แล้ว น่าจะเป็นโรคเบาหวานชนิดที่สอง[1] สถานการณ์ไม่นับว่าย่ำแย่ อย่างน้อยก็ดีกว่าโรคเบาหวานชนิดที่หนึ่ง[2]มาก
นางสั่งสาวใช้ทันที “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ให้ฮูหยินงดของหวาน ดื่มน้ำให้มาก จำไว้ให้ดี ต้องดื่มน้ำให้มาก และน้ำนั้นต้องไม่ใช่น้ำชา เป็นน้ำสะอาดทั่วไป ไม่ต้องเติมอะไรลงไ ไปในน้ำทั้งนั้น”
สาวใช้หลายคนมองหน้ากันไปมา ในใจคิดว่านี่เป็นการรักษาโรคแบบใดกัน ไม่ต้องกินยา ดื่มแต่น้ำแล้วจะมีประโยชน์อะไร
“พวกเจ้าอย่าเพิ่งต่อต้านข้า นี่เป็นเพียงขั้นแรกเท่านั้น ข้าย่อมจัดยาให้อยู่แล้ว แต่จำคำของข้าไว้ หากข้าไม่อนุญาต อย่าให้ฮูหยินกินของหวานเด็ดขาด ต่อให้ฮูหยินฟื้นขึ้นมาแล ล้วร้องว่าอยากกินของหวาน ก็อย่านำมาให้นางทั้งสิ้น” ไป๋จื่อกล่าว
เมิ่งหนานฟังแล้วรู้สึกสับสนเช่นกัน “แม่ข้าชอบกินของหวานเป็นที่สุด แทบจะกินในทุกๆ วัน แต่จู่ๆ กินไม่ได้เช่นนี้ เป็นเพราะอะไรหรือ”
ไป๋จื่อตอบว่า “ตอนนี้ของหวานถือเป็นยาพิษสำหรับแม่ของท่าน ยิ่งกินมากก็ยิ่งป่วยหนัก ผลไม้รสหวานก็ต้องกินให้น้อยลงด้วยเช่นกัน อาหารที่นางกินหลังจากนี้ก็ต้องถามข้าก่อน ข้า าจะจัดเตรียมให้เองเจ้าค่ะ”
……….
ตอนที่ 732 โรคเบาหวาน (3)
เหล่าสาวใช้ยิ่งรู้สึกไม่เข้าใจ มีหมอที่ใดทำการรักษาโดยการจัดการอาหารให้ผู้ป่วยบ้าง อย่างมากก็แค่ให้ลดอาหารรสเผ็ดร้อน ไหนเลยจะต้องลดของหวานด้วย ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยจริง งๆ!
เมิ่งหนานเชื่อในวิชาแพทย์ของไป๋จื่อ นางพูดเช่นนี้ออกมาเพราะมีเหตุผล จึงตะคอกขึ้นว่า “ฟังที่คุณหนูไป๋พูดด้วย หากอยากให้ฮูหยินหายเร็วๆ ก็จำต้องทำตามที่คุณหนูไป๋สั่ง เข้าใจหร รือไม่”
พวกสาวใช้พยักหน้า ก่อนจะพากันถอยออกไป
ไป๋จื่อเขียนใบสั่งยาอย่างรวดเร็ว เป็นยาสำหรับลดระดับน้ำตาลขนานหนึ่ง แม้ผลของมันจะทันใจไม่เท่ายาแผนปัจจุบัน แต่ผลข้างเคียงกลับไม่มากเท่ายาแผนปัจจุบันถึงเพียงนั้น
ยาแผนปัจจุบันเห็นผลในหนึ่งวัน ส่วนยาชุดนี้ต้องรอสองวัน ถึงจะลดความร้ายแรงต่ออวัยวะภายในได้ครึ่งหนึ่ง คำนวณดูแล้วเป็นเช่นนั้น
ตอนที่ไป๋จื่อเขียนใบสั่งยา หมอหลวงจางยืนมองอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา เขาเห็นว่าในใบสั่งยามีสมุนไพรอยู่สองชนิด เป็นสิ่งที่มีในใบสั่งยาของเขาเช่นกัน เพียงแต่ส่วนอื่นล้วนแตกต่างกัน นทั้งสิ้น
เมื่อเมิ่งหนานส่งใบสั่งยาให้คนรับใช้ไปซื้อ หมอหลวงจางก็รีบถามว่า “แม่นางไป๋ ใบสั่งยานี้ของเจ้ารักษาโรคปัสสาวะร่วงได้จริงหรือ”
ไป๋จื่อส่ายหน้า “โรคปัสสาวะร่วงไม่มีทางรักษาได้ แต่ใบสั่งยาของข้ากลับทำให้อาการของฮูหยินดีขึ้นได้ หลังจากนี้ขอเพียงกินยาลูกกลอนที่ข้าหลอม และกินอาหารที่ข้าจัดให้อย่างเ เคร่งครัด ข้ารับรองได้ว่าฮูหยินจะอาการกำเริบน้อยลง ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทว่าเรี่ยวแรงจะน้อยลงกว่าเดิมเล็กน้อย นี่เป็นหนทางสุดท้ายแล้วเจ้าค่ะ”
หมอหลวงจางไม่กล้าเชื่อสิ่งที่ไป๋จื่อพูด แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธเช่นกัน เหมือนกับภาวะสมองขาดเลือดของไทเฮา ทุกคนล้วนจนปัญญา มีเพียงนางเท่านั้นที่รักษาได้ หรือนางจะรักษาโรคปัสสาวะ ร่วงได้เช่นกัน
กระนั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับผลการรักษา ต่อให้พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ เขาตัดสินใจว่าพรุ่งนี้จะมาที่นี่อีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ให้เห็นกับตาตนเอง
ไป๋จื่อหลอมยาตลอดทั้งคืน ส่วนตงฟางมู่รอคอยจนหลับไปอยู่ข้างๆ ข้างนอกมีหิมะตก แต่ภายในเรือนอบอุ่นดังฤดูใบไม้ผลิ นางจึงไม่กลัวว่าเขาจะไม่สบาย
นางเฝ้าอยู่ข้างเตาไฟ ครั้นเริ่มรู้สึกร้อนก็ถอดเสื้อคลุมออกมาพาดลงบนร่างของตงฟางมู่ เมิ่งหยวนเต๋อที่เข้ามาถามไถ่เห็นภาพนี้เข้าพอดี ในใจเกิดการคาดเดาถึงความสัมพันธ์ของคนทั งสองไปต่างๆ นานา ก่อนหน้านี้เขาเป็นห่วงฮูหยินมาก จึงไม่ได้สังเกตแม่นางผู้นี้อย่างละเอียด ตอนนี้มองดูให้ดีแล้วกลับพบว่านางหน้าตาคล้ายคลึงกับตงฟางมู่อยู่หลายส่วน โดยเฉพาะดว วงตาคู่นั้น เหมือนกันอย่างกับถอดแบบออกมา
ตงฟางมู่ผู้ยิ่งใหญ่งีบหลับอยู่ในบ้านคนอื่นเพื่อเด็กสาวคนหนึ่ง ใครได้ยินเข้าก็ต้องประหลาดใจแน่
เขาไม่ได้เข้าไปรบกวน เพียงกลับไปยังห้องนอนของฮูหยิน แล้วพาตัวเมิ่งหนานไปที่ด้านหนึ่ง “หนานเอ๋อร์ แม่นางไป๋ผู้นี้เป็นอะไรกับท่านตงฟางหรือ”
เมิ่งหนานลำบากใจอยู่บ้าง ตงฟางมู่เคยบอกเขาว่ายังไม่ถึงเวลาพูดเรื่องนี้ ทว่าบิดาถามเขาเช่นนี้แล้ว เขาจะตอบเช่นไรดี
“ไม่อยากพูดหรือ หรือว่านางจะเป็นบุตรีที่เกิดจากอนุของท่านตงฟาง” เขาจำได้ว่าตั้งแต่ฮูหยินหยวนเพ่ยจากไป ตงฟางมู่ก็ไม่เคยแต่งงานใหม่ หากเป็นบุตรีของเขาจริง เช่นนั้นก็ต้อง งเกิดจากอนุเป็นแน่แท้
เมิ่งหนานโบกมือเร็ว “ใม่ใช่ขอรับ ไม่ใช่เช่นที่ท่านคิด แม้ข้าจะรู้เรื่องอยู่บ้าง ทว่าท่านตงฟางไม่อนุญาตให้ข้าพูด ข้าก็พูดตามใจชอบไม่ได้ เอาเป็นว่าจื่อเอ๋อร์มีความสัมพันธ์อันดี กับท่านตงฟาง และไม่ใช่เช่นที่ท่านคิดขอรับ”
อะไรเรียกว่าความสัมพันธ์อันดี เมิ่งหยวนเต๋อยิ่งงุนงงหนัก
แต่จู่ๆ เขาก็จับใจความสำคัญได้ “เมื่อครู่เจ้าเรียกนางว่าอะไรนะ จื่อเอ๋อร์? หรือนางคือแม่นางที่ทำให้เจ้ากินไม่ได้ นอนไม่หลับ ทั้งยังทำให้แม่ของเจ้าโมโหจนสลบไปคนนั้น”
เมิ่งหนานกลัวว่าเขาจะพาลโกรธไป๋จื่อ จึงรีบกล่าว “ถูกต้องขอรับ ข้าชอบพอนาง แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาง ในใจนางไม่มีข้า และไม่เคยให้ความหวังใดกับข้ามาก่อน ทุกอย่างเป็นเพียง งความคิดของข้าเพียงผู้เดียวขอรับ”
……….
[1] โรคเบาหวานชนิดที่สอง เป็นโรคเบาหวานที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากร่างกายเกิดภาวะดื้ออินซูลิน ส่วนใหญ่จะพบในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ และมักมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวานเช่ นกัน
[2] โรคเบาหวานชนิดที่หนึ่ง เกิดจากร่างกายขาดฮอร์โมนอินซูลิน ส่วนใหญ่พบในเด็ก จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ยาอินซูลิน