คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 777 ปิดประตูเมือง / ตอนที่ 778 หลงใหล
ตอนที่ 777 ปิดประตูเมือง
อาซื่อรู้ว่าหากไม่ทำอะไรเสียบ้างในเวลานี้ เหล่าชาวบ้านพวกนี้จะต้องคิดว่าเขาทำอะไรพวกเขาไม่ได้แน่
เขากระโจนตัวขึ้น ลอยตัวผ่านกลุ่มคน หลังจากเท้าแตะไหล่และศีรษะของคนหลายคนเพื่อเพิ่มแรงแล้ว เขาถึงจะตกลงบนส่วนนอกสุดของประตูเมืองด้านใน
เวลานี้มีชายหนุ่มสวมชุดสีเขียวฝ่าออกมาคนหนึ่งพอดี เขากำลังจะออกไปจากเมืองได้แล้ว เขาจึงไม่ได้สนใจอะไร
อาซื่อยกดาบในมือขึ้น ฟันร่างชายหนุ่มผู้นั้นล้มกองอยู่บนพื้น
“ฆ่าคนแล้ว เจ้าพนักงานฆ่าคนแล้ว!”
เมื่อมีคนฝ่าออกไปอีก อาซื่อก็เงื้อดาบฟันพวกเขา เพียงแค่ชั่วขณะเดียวก็มีคนนอนอยู่บนพื้นห้าหกคนแล้ว
ครั้นคนที่เบียดไปข้างหน้าเห็นสถานการณ์นี้เข้า ไหนเลยจะยังกล้านำตัวเองไปเสี่ยงอันตรายอีก พากันถอยหลังไปอย่างเร่งร้อน
ทว่าก็เร่งร้อนกันจนเกินไป ในกลุ่มผู้คนมีคนชราและเด็กอยู่ด้วย เมื่อมีคนหนึ่งยืนไม่มั่นคงก็ล้มลงบนพื้นง่ายนัก ทว่าฝูงชนที่เบียดกันอยู่เห็นสถานการณ์วุ่นวายตอนนี้แล้ว พว วกเขาไม่อาจใจเย็นหรือหยุดฝีเท้าได้เลย
เสียงร้องน่าเวทนาดังมาจากเหล่าชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีคนร้องว่าเหยียบคนตายแล้วอีกด้วย…
ผู้คุมหลายคนทำอะไรไม่ถูก คิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้ พวกเขาเพียงแค่มารับหน้าที่ตรวจหาคนร้ายเท่านั้น คนตรงหน้าพวกนี้เป็นเพียงแค่ชาวบ้าน เหตุใดอาซื่อถึงฆ่าพวกเขาได้ ลงคอ ทั้งยังทำให้พวกชาวบ้านเบียดกัน เหยียบกัน ตอนนี้ไม่รู้ว่ามีคนตายไปมากน้อยเท่าไร คาดว่าพวกเขาคงจะรักษาชีวิตไว้ไม่ได้แล้ว
อาซื่อเลือดขึ้นหน้าแล้ว ไหนเลยจะสนใจอะไรมากมาย เขาเพียงอยากตามหาคนผู้นั้นให้เจอโดยเร็วที่สุด เช่นนั้นเขาถึงจะมีชีวิตรอดต่อไปได้!
“เร็วเข้า ปิดประตูเมือง!”
ผู้คุมหลายคนมองเขาตาปริบๆ ด้วยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ถึงอย่างไรเสียในมือของเขาก็มีตราของเจ้าเมืองอยู่
อาซื่อเห็นเหล่าผู้คุมยืนนิ่ง จึงไปปิดประตูเมืองเองเสียเลย ทว่าตัวเขาเพิ่งไปถึงข้างประตูบานใหญ่ยักษ์ เสียงม้าร้องสายหนึ่งก็พลันดังมา เขากลับหลังกันไปมองตามสัญชาตญาณ เห็น นทิวแถวทหารม้ากรูเข้ามาจากนอกประตู ผู้ที่ขี่ม้านำอยู่ข้างหน้าสุดเป็นชายหนุ่มในชุดคลุมผ้าไหมสีดำขลับ หน้าตาหล่อเหลาเป็นอย่างยิ่ง กลิ่นอายก็ดูสูงศักดิ์อีกด้วย
เบื้องหลังชายหนุ่มตามมาด้วยกองหทารหลายร้อยนาย แต่ละคนสวมชุดองครักษ์ของเมืองหลวงทั้งสิ้น
อาซื่อพลันเวียนศีรษะ เกือบจะล้มลงบนพื้น ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าบุรุษที่ขี่ม้านำทัพผู้นี้เป็นใคร บริเวณไหล่ของชุดคลุมผ้าไหมสีดำใช้ด้ายสีทองปักลายงูที่เหมือนจริงราวกับมีช ชีวิตเอาไว้ เมื่อเทียบกับมังกรแล้วมันกลับไม่ใช่ เซียวอ๋องก็เคยสวมชุดเช่นนี้เหมือนกัน
ชายหนุ่มตรงหน้าผู้นี้หน้าตาคล้ายคลึงกับเซียวอ๋องอยู่หลายส่วน เป็นใบหน้าของผู้ที่เป็นพี่น้องกัน
เป็นไปได้อย่างไร เขาอยู่ในเมืองชัดๆ เหตุใดถึงไปอยู่นอกเมืองได้
ขณะที่เขาเริ่มจะเข้าใจอะไรขึ้นได้บ้าง หูเฟิงก็มาถึงหน้าประตูเมืองแล้ว เขาเหลือบเห็นสถานการณ์น่าเวทนาข้างในประตู จึงเอ่ยด้วยความโกรธเกรี้ยวทันใด “พวกเจ้าเป็นคนตายกันไปหมดแล้ว วหรือไร จะมองชาวบ้านเหยียบกันเช่นนี้ไปถึงเมื่อใด”
ยามที่หูเฟิงไม่ได้โมโห ใบหน้าของมักจะเรียบเฉย แต่บัดนี้เขาหน้าบึ้งตึงนัก เมื่อตะคอกเสียงดังเช่นนี้แล้ว ผู้คุมพวกนั้นก็ตกใจกลัวจนเข่าอ่อน แม้จะไม่รู้ถึงฐานะของเขา ทว่าเสื อผ้าเช่นผู้สูงศักดิ์นี้ของเขาไม่ใช่สิ่งที่คุณชายทั่วๆ ไปจะสวมใส่ได้ บนนั้นปักลายงูเขียวนะ!
ผู้คุมสิบกว่าคนพุ่งไปยังชาวบ้านที่กำลังเบียดกันทันที พวกเขาพยายามควบคุมฝูงชน นำทางไปยังพื้นที่ว่างโล่ง
อาซื่อยืนตะลึงลานอยู่ที่ข้างประตูเมือง รู้สึกเหมือนฟ้าถล่มดินทลาย เขาพยายามทำอะไรตั้งมากมาย แต่ทุกอย่างกลับเสียเปล่า ครอบครัวต้องถูกเซียวอ๋องจับไป และเขาก็มีเหลือเพียง เส้นทางตายให้เลือกเดินแล้ว
หูเฟิงพลิกตัวลงจากม้า แววตาเย็นชากวาดมองไปทั่วบริเวณ เขาถามเสียงเข้ม “เหตุใดเจ้าไม่ไป”
บัดนี้อาซื่อปากสั่นเทา พูดไม่ออกแม้สักคำ
……….
ตอนที่ 778 หลงใหล
เวลานี้หูเฟิงเห็นตราในมือของเขาแล้ว บนนั้นสลักคำว่าจินหยางเอาไว้ ลวดลายสำคัญใดของเมืองจินหยางก็มีครบครัน
เขาสาวเท้าก้าวใหญ่ไปหาอาซื่อ “ข้าถามเจ้า เหตุใดเจ้าถึงไม่ตอบ”
อาซื่อมองบุรุษที่ก้าวเข้ามาหาตนเองทีละก้าว อีกฝ่ายรูปร่างสูงใหญ่ น่าเกรงขาม ใบหน้าเย็นชา ความลนลานและหวาดกลัวในหัวใจพลันหายไปเป็นปลิดทิ้ง ความคิดชั่วร้ายสายหนึ่งเอ่อขึ้น มาแทนที่ ‘เขาคือจิ้นอ๋อง หากเขาตายไปแล้ว แผนการใหญ่ของเซียวอ๋องคงไม่มีทางผิดพลาดเช่นนี้ อย่างมากตัวข้าก็แค่ตาย แต่รักษาชีวิตครอบครัวเอาไว้ได้ บุตรชายของเขาเพิ่งอายุเพี ยงสิบปีเท่านั้น!’
ตอนที่หูเฟิงอยู่ห่างจากอาซื่อเพียงหนึ่งช่วงไหล่ อาซื่อพลันยกมือขึ้น ในมือมีกริชเปล่งประกายเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ มันแทงไปทางหน้าอกของหูเฟิงทันใด
…
วันที่สิบ
เผยชิงหานอยู่ข้างนอกประตูคฤหาสน์ตงฟางตั้งแต่ฟ้าสางจนถึงตอนนี้ วันนี้เขาสวมชุดคลุมผ้าไหมยาวสีฟ้า ประดับรัดเกล้าหยกสีมรกต กายเหยียดตรง แม้สีหน้าจะเหนื่อยล้า แต่กลับไม่อาจบดบั งความสง่างามของเขาได้
หลังจากนายท่านเผยมาสู่ขอกับตงฟางมู่ ฝ่ายตงฟางมู่ก็ไม่ได้รีบร้อน แม้กระทั่งกลับไปแล้วยังปรึกษากับบุตรีด้วยซ้ำไป ตงฟางหว่านเอ๋อร์เสนอว่าจะลอบสังเกตการณ์เขาก่อน หากเขาเป็นบุ รุษป่าเถื่อนคนหนึ่ง เช่นนั้นนางก็จะไม่แต่งให้เขา
ดังนั้นตงฟางมู่จึงแอบไปสอบถามถึงสถานที่ที่เผยชิงหานมักจะไป หนึ่งในนั้นมีโรงน้ำชาที่มีการเล่าเรื่องอยู่เสมอ
ตงฟางหว่านเอ๋อร์แต่งกายเป็นบุรุษ ลอบไปที่โรงน้ำชานั้นกับสาวใช้ บังเอิญยิ่งนัก แค่ไปครั้งแรกก็พบเผยชิงหานแล้ว ภายในโรงน้ำชาในเวลานั้นเต็มไปด้วยคุณชายตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ท ทว่าหน้าตาของเผยชิงหานก็ยังคงโดดเด่นกว่าใคร ท่วงท่าของเขาดูสง่างามเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากมองอยู่สักพัก นางกับสาวใช้ก็ตัดสินใจกลับ แต่ใครจะรู้ว่าขณะกำลังจะออกจากโรงน้ำชา สาวใช้กลับลืมนำกระเป๋าเงินมาด้วย สีหน้าของเสี่ยวเอ้อร์ผู้นั้นจึงเปลี่ยนไปในทันที
แม้นางจะแต่งตัวเป็นบุรุษ แต่ตอนนั้นก็อายุสิบหกปีแล้ว รูปร่างหน้าตาของนางล้วนเป็นสตรีงดงาม คนฉลาดมองครั้งเดียวก็รู้แล้วว่านางเป็นสตรี
ด้วยหน้าตาที่มองดูแล้วแตกต่างกับบุรุษคนอื่น จึงมีคุณชายมากหน้าหลายตายินดีจ่ายค่าน้ำชาครั้งนี้ให้
เผยชิงหานก็ไม่ยกเว้น นางไม่รู้ว่าเขาจำนางได้หรือไม่ เพียงแต่เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ แล้ว นางยินยอมรับความช่วยเหลือจากเผยชิงหานมากกว่า
เผยชิงหานได้รับการให้ความสำคัญโดยไม่ทันตั้งตัว เขามองเงาร่างของนางหายไปอย่างหลงใหล เมื่อครู่เขาได้ยินคนข้างๆ คุยกัน บอกว่านางก็คือคุณหนูใหญ่ของสกุลตงฟาง ตงฟางหว่านเอ อ๋อร์
ตั้งแต่ได้พบกันคราวนั้น เผยชิงหานก็รู้ว่าตนเองตกหลุมรัก ขณะเดียวกันนั้นมีข่าวลือแพร่สะพัดในเมืองหลวง ว่ากันว่าตงฟางหว่านเอ๋อร์จะต้องเข้าวังไปเป็นสนมฮ่องเต้ อนาคตอาจจะได้ เป็นฮองเฮาก็เป็นได้
ความต้องการที่อยากจะสู่ขอตงฟางหว่านเอ๋อร์ของเขาพลันหดหาย ทำได้เพียงกลัดกลุ้มใจอยู่ในจวนทั้งวัน ความคิดล่องลอยไปไกล
แต่ใครจะรู้ว่าผ่านไปไม่นานเท่าไร บิดาก็ให้คนมาตามเขาไปพบ บอกว่าช่วยจัดการเรื่องแต่งงานแล้ว ด้วยตนเองจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ไม่นาน หวังอยากเห็นบุตรชายแต่งงานตอนที่ตนเองยั งมีชีวิตอยู่
ตอนนั้นเขาไม่ได้ถามอะไรมาก คิดเพียงว่าถึงอย่างไรก็แต่งกับสตรีที่ตนเองรักไม่ได้แล้ว จากนี้จะแต่งให้กับใครก็ล้วนเหมือนกัน สุดท้ายบิดาก็สมใจปรารถนา ได้เห็นเขาแต่งงานตอนที่ ยังมีชีวิตอยู่แล้ว
ทว่าครั้นแม่สื่อส่งดวงชะตาวันเกิดและชื่อของอีกฝ่ายมาให้ เขาถึงได้พบว่าเรื่องแต่งงานที่บิดาจัดการไว้ให้เขา แท้จริงแล้วเป็นคนที่เขาคะนึงหา
แท้จริงแล้วเป็นคนที่เขาใฝ่ฝันหามาโดยตลอด
เขาดีใจจนแทบคลั่ง อยากจะถลันไปยังจวนสกุลตงฟางแทบจะขาดใจ เพื่อแสดงความรักของเขาให้แก่นาง
เดิมทีงานแต่งงานกำหนดไว้สามเดือนหลังจากนั้น แต่อาการป่วยของบิดากลับทรุดลงกะทันหัน ตงฟางมู่จึงเสนอให้เลื่อนจัดงานแต่งงานเร็วขึ้น หนึ่งเพื่อสร้างเรื่องน่ายินดีกับให้ทุกครอบครั ว สองเผื่อว่าบิดาของเขาจะด่วนจากไปเสียก่อน ทำให้งานแต่งงานล่าช้าออกไปมากกว่านี้