คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 99 ห่อเกี๊ยว / ตอนที่ 100 เงินนั้นมาจากที่ใด
ตอนที่ 99 ห่อเกี๊ยว
หัวหน้าหมู่บ้านโบกมือ “ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก ข้าเป็นหัวหน้าหมู่บ้านหวงถัว เรื่องพวกนี้สมควรให้ข้าทำ จะมาขอบคุณอะไรกัน”
ไป๋จื่อให้ลุงหูและหูเฟิงกลับไปก่อน ส่วนพวกนางสองแม่ลูกตามหัวหน้าหมู่บ้านไปวัดที่ดิน
จ้าวหลานเป็นหญิงสาวที่มาจากนอกหมู่บ้าน ไป๋จื่อก็เป็นเด็กที่เก็บมาเลี้ยง ว่ากันตามตรงแล้ว สถานการณ์ของพวกนางเช่นนี้ หมู่บ้านหวงถัวจะไม่ให้ที่ดินอยู่อาศัยแก่พวกนาง นั่นเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล หัวหน้าหมู่บ้านก็ไม่ได้ตั้งความหวังไว้มากนัก แต่คาดไม่ถึงเลยว่า เรื่องนี้จะราบรื่นถึงเพียงนี้ ทำให้เขาดีใจเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน
ด้านข้างต้นไหวแก่ไม่ไกลจากบ้านของหูจ่างหลินมีที่ว่างอยู่ผืนหนึ่ง จ้าวหลานกับไป๋จื่อมีกันเพียงแค่สองคน ที่ดินอยู่อาศัยที่จัดให้จึงไม่ใหญ่ จัดให้อยู่ด้านข้างต้นไหวพอดิบพอดี ตำแหน่งก็อยู่ตรงกลางหมู่บ้าน พวกนางสองแม่ลูกจะได้ไม่ต้องถูกจัดให้อยู่ทางประตูด้านตะวันตก หากสตรีสองคนอยู่ที่นั่นเพียงลำพัง คงจะไม่สะดวกเอาเสียเลย
เมื่อเห็นที่ผืนนี้ ในสมองของไป๋จื่อก็เริ่มวางแผน แม้พื้นที่จะไม่ใหญ่ แต่หากสร้างบ้านแบบชาวตะวันตกสองชั้นสักหลัง เช่นนั้นคงจะสบายมาก ทั้งยังประหยัดการล้อมที่ดินเป็นลานบ้านได้บ้าง นี่เป็นช่วงเวลาของครอบครัวทำเกษตรที่นางฝันอยากจะได้เลยทีเดียว
เมื่อวัดที่ดินเสร็จแล้ว ไป๋จื่อก็เชิญหัวหน้าหมู่บ้านไปกินข้าวที่สกุลหู ทว่าไม่ว่าอย่างไรหัวหน้าหมู่บ้านก็ไม่ยอม “ช่างเรื่องกินข้าวเถอะ ข้าเพิ่งจัดการเรื่องนี้ให้พวกเขจ้า หากไปกินข้าวกับพวกเจ้าอีก คนในหมู่บ้านอาจจะวิจารณ์ข้าก็ได้ บอกว่าข้าได้กำไรจากพวกเข้า เช่นนั้นน่าเป็นห่วงนัก”
ไป๋จื่อก็ไม่ดึงดัน หากอยากตอบแทนหัวหน้าหมู่บ้าน วันหน้ายังมีโอกาส ไม่ต้องรีบร้อนทำตอนนี้
เมื่อส่งหัวหน้าหมู่บ้านไปแล้ว ไป๋จื่อก็จูงจ้าวหลานกลับไปที่สกุลหู
มือของหูจ่างหลินและจ้าวหลานไม่สะดวกจะทำงาน อาหารเย็นจึงให้ไป๋จื่อและหูเฟิงทำไปโดยปริยาย
หูเฟิงกลับมาหลังจากล้างผักเสร็จ เห็นไป๋จื่อนวดแผ่นแป้งอยู่บนเขียงไม้ แผ่นแป้งที่ทั้งกลมและบางแผ่นแล้วแผ่นเล่าเป็นรูปเป็นร่างจากฝีมืออันชำนิชำนาญของนางอย่างรวดเร็ว ทุกแผ่นดูแล้วมีขนาดพอๆ กัน คล้ายกับวาดไว้อย่างดีก็ไม่ปาน
ครั้นเห็นเขายืนโง่งมอยู่ข้างๆ ไป๋จื่อก็ชี้ไปที่ไส้เกี๊ยวในชามใหญ่ที่ตนผสมไว้แล้ว “มาห่อกับข้าสิ”
“ห่อไม่เป็น” เขากลับกล่าวอย่างเด็ดขาด
ไป๋จื่อวางไม้นวดแป้งลง ก่อนจะหยิบแผ่นแป้งขึ้นมาหนึ่งแผ่น แล้วตักไส้หมูผสมต้นหอมจากในชามมาช้อนหนึ่ง จากนั้นก็ค่อยๆ ห่อให้เขาดูทีละนิด
นางห่อเกี๊ยวได้น่ารักมาก มีพุงอ้วนกลมกลึง ด้านนอกสีขาวสะอาด
เขาลองดูครั้งหนึ่ง ทว่าไม่สำเร็จ จึงลองอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สำเร็จอีก
ชายหนุ่มอดหัวเสียอยู่บ้างไม่ได้ นี่ดูแล้วทำง่ายๆ กระนั้นทำขึ้นมาแล้วเหตุใดถึงได้ยากเช่นนี้
ไป๋จื่อจับมือของเขา ประคองนิ้วมือของเขาไว้ สอนเขาจับทีละเล็ก ทีละน้อย “ก็แค่ควบคุมแรงให้ดี เบามือหน่อย นุ่มนวลหน่อย ช้าๆ หน่อย ดูสิ นี่สำเร็จแล้วไม่ใช่หรือ” นางเงยหน้ามองเขา รอยยิ้มบนใบหน้าเจิดจ้า ประกายตาในดวงตาก็ราวกับจะไหลล้นออกมาด้วย
“เจ้าลองดูอีกทีสิ” นางปล่อยมือของเขา ก่อนจะไปนวดแป้งเกี๊ยวต่อ
ยามที่ฝ่ามือของนางออกไปจากฝ่ามือของเขา วินาทีนั้น หัวใจของเขารู้สึกถึงความหดหู่จางๆ อย่างคาดไม่ถึง บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร แปลกยิ่งนัก
แม้ทีแรกหูเฟิงจะงกๆ เงิ่นๆ ทว่าหลังจากไป๋จื่อสอนแล้ว ในที่สุดเขาก็พบหนทาง ยิ่งห่อไปก็รู้สึกว่าไม่ยากเท่าไร
ครั้นห่อเกี๊ยวเสร็จ ไป๋จื่อก็ให้หูเฟิงไปก่อไฟ ส่วนนางหั่นผักที่ล้างเรียบร้อยแล้วอย่างรวดเร็ว
หมูผัดพริกหยวก เนื้อปลาผัดน้ำแดง มะเขือม่วงผัดเต้าเจี้ยว ส่วนซี่โครงหมูและข้าวโพดที่ตุ๋นใส่หม้อเล็กๆ ในลานบ้าน ตอนนี้มันเริ่มส่งกลิ่นหอมสดชื่นแล้ว
ไป๋จื่อผัดผักอยู่ทางนี้ ส่วนหูเฟิงก่อไฟไปพลาง ดมกลิ่นหอมของอาหารเหล่านั้นไปพลาง จนท้องรองอยู่นานแล้ว ช่างเป็นการทรมานคนเสียจริงๆ เดิมทีเขาไม่รู้สึกหิว ทว่าเมื่อได้กลิ่นหอมของอาหารที่นางทำ ท้องกลับร้องเสียงดังพลิกฟ้า ราวกับไม่ได้กินข้าวมาแปดร้อยปีก็ไม่ปาน
……….
ตอนที่ 100 เงินนั้นมาจากที่ใด
ในที่สุดก็ผัดผักจานสุดท้ายเสร็จ ไป๋จื่อกำชับให้หูเฟิงนำอาหารออกไปทั้งหมด ส่วนนางจะลงเกี๊ยวลวกในหม้อ
เรื่องที่หัวหน้าหมู่บ้านพาไป๋จื่อและจ้าวหลานไปวัดที่ดินอยู่อาศัยถึงหูคนสกุลไป๋แล้ว ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ไม่กล้าเชื่อ ว่าในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน พวกนางจะได้ที่ดินอยู่อาศัยมาได้
“ท่านแม่ ที่ดินอยู่อาศัยเป็นสิ่งที่ต้องใช้เงินซื้อ พวกนางนำเงินมาจากไหน” หลิวซื่อกล่าว
หญิงชรากัดฟันเอ่ย “เจ้าถามข้า แล้วข้าจะไปถามใคร ไปดูสักหน่อยสิ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าพวกนางจะแอบเก็บเงินซื้อบ้านลับหลังข้า”
เดิมทีเจ้ารองไม่อยากยุ่งเกี่ยว ทว่าเห็นพวกเจ้าใหญ่จะไป เขาจึงพาลูกชาย ไป๋ฟู่กุ้ยไปด้วย
เพื่อที่ว่าหากพวกเขาได้ประโยชน์ใดจากจ้าวหลานจริง ถึงตอนนั้นจะได้มีส่วนแบ่งของตนเองด้วย
หญิงชรานำหน้า ตามหลังมาด้วยสองพี่น้องสกุลไป๋และหลิวซื่อ ด้านหลังยิ่งกว่านั้นเป็นหลานชายของนางสามคน ทั้งหมดเรียงแถวกันเจ็ดคน ท่าทางโกรธเกรี้ยวไม่น้อย
ชาวบ้านระหว่างทางเห็นพวกเขา ก็อดไม่ได้ที่จะซุบซิบ “ดูสิ พอรู้ว่าจ้าวหลานและไป๋จื่อได้ที่สร้างบ้าน พวกเขาก็นั่งไม่ติดที่ จะก่อเรื่องอีกแล้ว”
“ก่อเรื่องอะไรกันเล่า ตอนนี้ล้วนแยกบ้านกันแล้ว พวกเขายังมีสิทธิ์อะไรไปก่อเรื่อง อีกอย่างนะ ตอนนี้จ้าวหลานกับไป๋จื่ออยู่ที่บ้านของหูจ่างหลิน พวกเขาไปแล้วจะทำอะไรได้ ด้วยนิสัยของหูเฟิงผู้นั้น พวกเขาจะกล้าลงมือหรือ เจ้าลืมไปแล้วรึ ว่าครั้งก่อนมือของเจ้าใหญ่หักได้อย่างไร”
เสียงพูดคุยของทุกคนล้วนแสดงการถากถาง เพราะแน่ใจว่าครั้งนี้สกุลไป๋หาเรื่องไม่ได้
หญิงชราพาครอบครัวของตนมาถึงใต้ต้นไหวแก่ ทว่าไม่เห็นจ้าวหลานและไป๋จื่อ
“ไม่ได้ลือกันผิดๆ ใช่หรือไม่” หลิวซื่อเอ่ย อย่างไรนางก็ไม่อยากเชื่อ ว่าจ้าวหลานและไป๋จื่อ สตรีสองคนที่ไม่มีญาติหรือสหายในหมู่บ้านนี้ ถึงแม้หูจ่างหลินจะมีใจช่วยนาง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีกำลังหาที่ดินอยู่อาศัยให้นางได้ ที่ดินนี้ไม่เพียงแต่ต้องใช้เงินซื้อมา หัวหน้าหมู่บ้านยังต้องไปยื่นคำร้องที่ศาลาว่าการ ไม่อาจได้มาถึงมือง่ายดายเพียงนั้น
“ลือกันผิดๆ หรือไม่ พวกเราไปที่บ้านหูจ่างหลินก็รู้ไม่ใช่หรือ” หญิงชรากล่าว
เจ้าใหญ่ได้ยินว่าจะไปบ้านหูจ่างหลิน เขาก็รู้สึกหวาดหวั่นในทันที “จะไปสกุลหูอีกแล้วหรือ ไม่ไปได้หรือไม่” เมื่อคิดถึงความรุนแรงจากหูเฟิงในวันนั้น ตอนนี้เขายังรู้สึกกลัวอยู่แลย
หญิงชรามองตาขวางใส่เขา “ไร้ประโยชน์นัก ใครให้เจ้าไปมีเรื่องเล่า พวกเราไปพูดด้วยเหตุผล ขอเพียงพวกเราไม่ลงมือก่อน พวกเขาจะกล้าลงมือก่อนหรือ”
เจ้ารองแค่นหัวเราพในใจ ‘พูดด้วยเหตุผลหรือ พวกเรามีเหตุผลอะไรไปพูดต่อหน้าจ้าวหลานและไป๋จื่อกัน’
แม้ในใจจะคิดเช่นนั้น ทว่าเท้ากลับยังคงตามไปยังสกุลหู
เวลานี้ไป๋จื่อเพิ่งยกเกี๊ยวขึ้นโต๊ะ กลิ่นหอมดึงดูดนั้น ผนวกกับรูปร่างอันเป็นเอกลักษณ์ ทุกคนเห็นเข้าแล้วก็จ้องเขม็ง “นี่คือเกี๊ยวหรือ” จ้าวหลานถาม
ไป๋จื่อพยักหน้า “อื้ม นี่คือเกี๊ยวเจ้าค่ะ รีบชิมเร็ว”
‘ทุกคน’ ยกตะเกียบขึ้น ทว่าเพิ่งคิดจะคีบเกี๊ยวมาลองชิม กลับได้ยินเสียงร้อนตะโกนอันคุ้นหูของใครบางคนดังมาจากข้างนอก
หูจ่างหลินมุ่นคิ้ว “พวกเขามาทำไม”
เด็กสาววางตะเกียบในมือลง ก่อนจะถอนใจ “เรื่องวัดที่ดินถึงหูพวกเขาแล้วแน่นอน ถึงได้มาถามต้นสายปลายเหตุ”
“คนสกุลไป๋ช่างเกินบรรยายนัก พวกเจ้าล้วนแยกบ้านกันแล้ว เรื่องของพวกเจ้าเกี่ยวอะไรกับพวกเขากัน” หูจ่างหลินก็ถอนใจเช่นกัน
ไป๋จื่อช้อนสายตาขึ้นมองหูจ่างหลิน ก่อนจะพูดว่า “ท่านลุงหู อีกเดี๋ยวหากพวกเขาถามว่าเงินซื้อที่ดินมาจากไหน ท่านบอกไปว่าเป็นของท่าน อย่าได้ปริปากเด็ดขาด พวกเขาจะได้ไม่ใส่ร้ายข้ากับท่านแม่”
นางคิดดูแล้วก็กล่าวอีก “ท่านลุงหู ท่านไปหยิบเงินสิบตำลึงเงินสักสองก้อนมาไว้กับตัว แล้วคอยดูข้าให้สัญญาณนะเจ้าคะ”