จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 268 เปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของซูซินโหรว
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 268 เปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของซูซินโหรว
น้ำเสียงหยุนถิงดังพอ จนทำให้สตรีทั้งหมดทางนั้นได้ยิน ทุกคนหันมองหยุนถิงอย่างตกตะลึงไม่เชื่อสายตาตนเอง และหันมองซูซินโหรวอย่างงงเป็นไก่ตาแตก
หลัวซางกลับมีสีหน้าตกตะลึง “คุณหนูหยุน ท่านไม่รู้จักซูซินโหรวรึ ไม่สมควรสิ นางบอกว่าสนิทสนมกับท่านยิ่งนัก และยังรับเงินของพวกเรา รับปากพวกเราช่วยซื้อหน้ากากพอกหน้าให้ด้วยนะ?”
“สมัยนี้ ใครที่ไหนอะไรก็ออกมาหลอกคนได้ พวกเจ้าระวังโดนหลอกล่ะ” หยุนถิงพูดเนิบช้า
สีหน้าหลัวซางดำทะมึนทันที หมุนตัวเดินเข้าไป “ซูซินโหรว เจ้าพูดมาให้ชัดเจนสิ คุณหนูหยุนบอกว่าไม่รู้จักเจ้าเลยสักนิด เมื่อครู่เจ้ายังคุยโวว่าสนิทสนมกับคุณหนูหยุนยิ่งนัก ข้าว่าเจ้าคิดจะหลอกเอาเงินพวกเรากระมัง”
เหล่าคุณหนูที่เดิมพะเน้าพะนอเอาใจซูซินโหรวพอได้ยินอย่างนั้น พร้อมกันมองมาอย่างตกตะลึง
สีหน้าซูซินโหรวไม่น่าดูยิ่งนัก นางไม่คิดเลยว่าหยุนถิงจะบอกว่าไม่รู้จักตน นี่มันจงใจหักหน้านางคาที่ชัดๆ
พอคิดถึงเงินที่เมื่อครู่นางเก็บเข้ากระเป๋าไปแล้ว ซูซินโหรวยังหวังคิดจะหมกเม็ดเงินส่วนตัวจากในนั้นเลยนะ นางไม่อยากเอามันออกมาเลย
ดังนั้นซูซินโหรวเลยทำหน้าตาน่าสงสารใส่ทุกคนว่า “พี่สาวทุกคนอย่าพึ่งขึ้งโกรธเลย มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ต้องเป็นเพราะเพื่อนคุณหนูหยุนมีมากนัก นางเลยลืมข้า ข้าจะไปบอกกับนางเอง พวกท่านรอข้าที่นี่นะ ข้ารับรองว่าจะช่วยพวกท่านซื้อหน้ากากพอกหน้าได้แน่”
ทุกคนล้วนมองนางอย่างสงสัย “เอาเถิด พวกเราจะให้โอกาสเจ้าพิสูจน์ตน ขอเพียงเจ้าทำให้คุณหนูหยุนรับปากยอมขายหน้ากากพอกหน้าให้กับพวกเราได้ พวกเราก็จะเชื่อเจ้า”
ก่อนหน้านี้ทุกคนต่างเห็นกับตาที่คุณหนูหยุนรักษาใบหน้าให้กับซูชิงโยว อีกทั้งคุณหนูหยุนก็ไปที่จวนตระกูลซูหลายครั้ง ทุกคนล้วนเคยเห็นทั้งนั้น
“ตกลง” ซูซินโหรวสูดลมหายใจเข้าปอดลึก พลางลุกขึ้นเดินไปหาหยุนถิง
“คารวะคุณหนูหยุน จู่ๆเข้ามารบกวน ขอคุณหนูหยุนโปรดอภัย ข้าเป็นน้องสาวของซูชิงโยว ชื่อว่าซูซินโหรว” ซูซินโหรวคารวะให้กับหยุนถิง พูดอย่างนอบน้อม
หยุนถิงเลิกคิ้วมองนาง “เจ้าก็คือซูซินโหรว?”
ซูซินโหรวพยักหน้าอย่างแรง “ข้าเอง”
“ไม่รู้จัก” หยุนถิงแค่นเสียงใส่
สตรีเหล่านั้นต่างมองมาทางนี้ตั้งแต่ที่ซูซินโหรวเดินมาแล้ว ย่อมได้ยินบทสนทนาระหว่างหยุนถิงกับซูซินโหรว
“ซูซินโหรว เจ้ามันคนหลอกลวง คุณหนูหยุนพูดต่อหน้าแล้วว่าไม่รู้จักเจ้า เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก” จ้าวชิงชิงเดินเข้ามาอย่างโกรธจัด
สีหน้าซูซินโหรวบิดเบี้ยวไม่น่าดูยิ่ง นางไม่อาจให้ทุกคนคิดว่านางเป็นนักต้มตุ๋นโดยเด็ดขาด มิเช่นนั้นหากเรื่องนี้แพร่ออกไป ต่อไปนางจะมีหน้าอยู่อย่างไรกัน
นางละล่ำละลักรีบบอก “คุณหนูหยุน ท่านเคยไปตระกูลซูนะ ท่านเป็นคนรักษาใบหน้าของซูชิงโยวพี่สาวข้าให้หายดียังไงล่ะ”
“เจ้าหมายถึงซูชิงโยวรึ ข้าเป็นคนรักษาใบหน้านางจริงๆ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้าล่ะ” หยุนถิงบอกอย่างไม่แคร์
“ฮูหยิน ท่านลืมแล้วหรือไร นางเป็นน้องสาวที่เกิดจากเมียรอง แสร้งทำทีเป็นห่วงอยู่นอกเรือนซูชิงโยว แต่คิดขัดขวางมิให้ท่านรักษาคุณหนูซูได้สำเร็จอย่างไรเล่า ตอนนั้นยังตกใจเป็นลมเพราะเห็นข้าน้อยชักกระบี่ออกมาอยู่เลย” หลงเอ้อร์ที่อยู่ข้างๆบอกทันที
หยุนถิงเลิกคิ้ว ถึงได้หันมามองสำรวจซูซินโหรว “อ๋อ ที่แท้ก็ลูกสาวเมียรองที่ไม่หวังดีผู้นั้นนี่เอง มิน่าล่ะข้าถึงจำไม่ได้”
คำพูดเดียวประหนึ่งเหยียบหน้าซูซินโหรว
ทุกคนฟังแล้วตกใจมาก จากนั้นก็เดือดดาลยิ่งนัก “ดูไม่ออกจริงๆนะ เจ้าคิดขัดขวางไม่ให้คุณหนูหยุนรักษาใบหน้าพี่สาวเจ้า เสียแรงที่ปกติเจ้ามักชอบบอกว่ารักใคร่พี่สาวเจ้ายิ่งนัก” จ้าวชิงชิงเยาะให้
“ซูซินโหรว เจ้าช่างชั่วร้ายเสียจริง หากมิใช่วันนี้ได้ยินคุณหนุหยุนแบะองครักษ์ลับหลงเอ้อร์พูดกับปาก พวกเราคงไม่รู้ว่าเจ้าเป็นคนเช่นนี้เอง”
“พี่น้องแท้ๆยังเป็นเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราที่ไม่ได้เป็นอะไรด้วยเลยเล่า รีบเอาเงินคืนข้ามาเลย ข้าว่าเจ้าอยากหลอกเอาเงินพวกเรามากกว่า”
“ลูกสาวเมียรองก็คือลูกสาวเมียรอง มิอาจเชิดหน้าชูตาได้ตลอดกาล คืนเงินมา”
ทุกคนพากันเปลี่ยนสีหน้าใส่ซูซินโหรว ต่างลบหลู่ ด่าว่า เย้ยหยัน รังเกียจเสียดสีนาง ไม่เหลือวี่แววความรักสนิทสนมเฉกสหายเช่นเมื่อครู่เลย
หยุนถิงมองอย่างพอใจ สำหรับคนที่คิดหลอกใช้เธอ จะปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด
ซูซินโหรวใบหน้าซีดเผือด ขายขี้หน้ายิ่งนัก เหล่าคุณหนูน่าตายพวกนี้ เมื่อครู่ยังรายล้อมตนพะเน้าพะนอยกใหญ่ ตอนนี้กลับพากันลบหลู่เยาะเย้ยตน ซูซินโหรวเคียดแค้นพวกนางยิ่งนัก
แต่นางกลับทำท่าน่าสงสารแทบตาย บีบน้ำตาบอกว่า “มิใช่เช่นนี้ดอก พวกท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้ารักใคร่กับพี่ใหญ่จะตาย ทั้งหมดเป็นการเข้าใจผิด”
“เข้าใจผิด คุณหนูหยุนเข้าใจเจ้าผิด หรือว่าองครักษ์เงามังกรเข้าใจเจ้าผิดกัน องครักษ์เงามังกรน่ะเป็นกองทัพอันดับหนึ่งแห่งแคว้นต้าเยียนที่ฝ่าบาททรงแต่งตั้งด้วยตัวเอง ขึ้นชื่อเรื่องความซื่อตรงยิ่งนัก หากมิใช่เจ้ามีใจคิดคด องครักษ์เงามังกรมีหรือจะทำเจ้าตกใจจนสลบ อย่าพล่ามให้เสียเวลา คืนเงินมาซะ” หลัวซางพูดอย่างเดือดดาล
ซูซินโหรวอธิบายไปพลาง ควักเงินในกระเป๋าเสื้อออกมาจนหมดอย่างจำยอม คืนกลับไปโดยดี
เหล่าคุณหนูเอาเงินตนเองคืนมา แล้วถึงพอใจ หันไปขอบคุณหยุนถิงทันที “วันนี้โชคดีได้คุณหนูหยุนช่วยเหลือ มิเช่นนั้นพวกเราคงไม่รู้โฉมหน้าที่แท้จริงของซูซินโหรว ต้องโดนนางหลอกเอาเงินไปแน่ๆ”
“ทุกคนไม่ต้องเกรงใจดอก จำไว้ว่าต่อไปอย่าหลงเชื่อคนง่ายๆอีก ต่อให้เป็นพี่น้องแท้ๆยังจะมาคิดแค้นต่อกันได้ นับประสาอะไรกับความสนิทสนมฉันท์พี่น้องที่พูดออกปากลอยๆ” หยุนถืงแค่นเสียงเย็น
ทุกคนพากันหันไปถลึงตามองซูซินโหรวอย่างเดือดดาล ด่าทอนางไปตามๆกัน
“ทำไมข้ารู้สึกเหมือนว่าเจ้าดูคุ้นหน้านะ?” หยุนถิงหันมองสตรีหนึ่งในนั้นพลางถาม
จ้าวชิงชิงดีใจยิ่งนัก “คุณหนูหยุน ข้าชื่อจ้าวชิงชิง หยุนหลีเป็นสหายที่ดีที่สุดของข้า ก่อนหน้านี้ที่เดินเล่นตลาดกันพวกเราเกือบโดนหลอก คุณหนูหยุนยื่นมือเข้าช่วยเหลือพวกเราสั่งสอนคนชั่วไว้พอดี”
“ในเมื่อเป็นสหายสนิทของหยุนหลี ก็เป็นคนกันเอง พาสหายเจ้าหลายคนนี้ไปหอชุนเฟิงหาองค์ชายสี่ บอกว่าข้าพูดเอง ให้เขาขายหน้ากากพอกหน้าให้กับพวกเจ้า คนหนึ่งซื้อได้มากที่สุดห้าอัน ไม่ต้องต่อคิว” หยุนถิงพูดเนิบช้า
จ้าวชิงชิงตื่นเต้นยิ่งนัก “จริงรึ ขอบคุณคุณหนูหยุนมาก คุณหนูหยุนท่านช่างดียิ่งนัก คราวนี้ในที่สุดพวกเราก็ซื้อหน้ากากพอกหน้าได้แล้ว ดีจริงๆเลย”
คนอื่นยิ่งขอบคุณหยุนถิงยิ่งนัก โชคดีว่ามีหยุนถิงออกหน้าให้
สีหน้าซูซินโหรวเปลี่ยนจากเขียวเป็นขาวจนไปถึงดำ เหมือนกิ้งก่าเปลี่ยนสีเลยทีเดียว ไม่น่าดูยิ่งนัก ทนอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว หมุนตัววิ่งออกไปทันที
หยุนถิงเห็นนางจากไป มุมปากยกขึ้นอย่างพอใจ ดื่มชาหมดจอกแล้วก็พาหลงเอ้อร์จากไป
ทุกคนมองตามแผ่นหลังหยุนถิง พากันเลื่อมใสนางยิ่งนัก
พอออกจากโรงน้ำชา หยุนถิงพาหลงเอ้อร์ไปจวนใหญ่ที่ฝ่าบาทพระราชทานให้ การตกแต่งหรูหรามาก พื้นที่กว้างมาก การจัดวางในห้องยิ่งหรูหราอีก หยุนถิงพอใจมาก
เธอให้หลงเอ้อร์ยืนเฝ้าหน้าประตู ตนเข้าไปก๊อปปี้ของมากมายจากในมิติออกมา คิดๆเวลาดูแล้ว ด้านกัวอวิ๋นโหรวนั่นส่งข้าวของไปไกลทั่วทั้งสี่แคว้นน่าจะพอประมาณแล้ว ดังนั้นหยุนถิงเลยตั้งใจมาทางนี้ จะได้ไม่โดนคนสงสัย
จวบจนข้าวของวางเต็มห้องใหญ่ หยุนถิงถึงจากไป
เพียงแต่ทั้งสองคนไปได้ไม่นาน องครักษ์ของจวนซื่อจื่อก็รีบเข้ามาอย่างรีบร้อน “ฮูหยิน แย่แล้ว ซื่อจื่อเกิดเรื่องแล้ว”