จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 307 กล้าลอบฆ่าพ่อข้า เจ้าไม่ต้องเป็นผู้ชายแล้ว
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 307 กล้าลอบฆ่าพ่อข้า เจ้าไม่ต้องเป็นผู้ชายแล้ว
คนขับรถกับองครักษ์ที่ตามอารักขาต่างพากันระแวดระวังทันที รีบเข้ามาขวางหน้ารถม้าทันที
หยุนเฉิงเซี่ยงในรถม้าพอได้ยินว่ามีคนโจมตี รีบควักลูกศรธนูขนาดเล็กออกมาและยิงออกทางหน้าต่างรถ พริบตาเดียวแสงสีขาวก็ลอยขึ้นท้องฟ้า จากนั้นก็ระเบิดออกเป็นพลุสัญญาณ
นี่เป็นลูกศรธนูขนาดเล็กที่หยุนถิงเคยให้เขาก่อนหน้านี้ เพราะกลัวจะเกิดอันตรายกับพ่อตน ไม่คิดว่าจะได้ใช้จริงๆ
พวกนักฆ่าพอเห็นพลุสัญญาณ ก็รีบเร่งมือเข้า กระบี่ยาวในมือแทงเข้ามาอย่างดุดัน และต่อสู้กับองครักษ์ที่ตามอารักขาทันที
ประกายดาบและกระบี่ฟาดฟัน แต่ละกระบวนท่าเอาถึงตาย อันตรายมาก
“นายท่าน ท่านรีบลงจากรถม้าก่อนเร็ว” คนขับรถตะโกน
หยุนเฉิงเซี่ยงรีบออกมาจากรถม้าทันที คนขับรถพยุงเขาหลบไปด้านข้าง
นักฆ่าคนหนึ่งลอบโจมตีเข้ามาทางด้านหลัง คนขับรถเห็นเข้าพอดี ไม่คิดเลยสักนิด ก็ผลักหยุนเฉิงเซี่ยงหลบไป
“นายท่าน รีบไปเร็ว!”
กระบี่ยาวในมือนักฆ่าแทงเข้าที่หน้าอกคนขับรถอย่างจัง คนขับรถกระอักเลือดออกมา แต่กลับพยายามใช้แรงทั้งหมดกอดเจ้านักฆ่าคนนั้นไว้
“เหล่าจง เหล่าจง!” หยุนเฉิงเซี่ยงปวดใจยิ่งนัก เห็นคนขับรถตายเพื่อตน รู้สึกผิดยิ่งนัก เขาสูดลมหายใจลึก และรีบหนี
ตอนนี้เป็นกลางดึกแล้ว ฟ้าก็มืดแล้ว บนถนนไร้ซึ่งผู้คนแล้ว หยุนเฉิงเซี่ยงได้เพียงวิ่งหนีหลบพัลวัน
ยังไงเขาก็เป็นขุนนางบุ๋น ไม่มีวรยุทธ์ด้วย ไหนเลยจะเป็นคู่ต่อสู้ของคนชุดดำพวกนั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ระยะห่างจากจวนซื่อจื่อถึงจวนตระกูลหยุนก็แค่สี่ห้าถนนเท่านั้น ใครจะคิดว่าจะมีคนบังอาจทำการลอบฆ่าอย่างนี้
นักฆ่าคนหนึ่งเหาะเข้ามา ขวางทางไปของเขาเอาไว้ “หยุนเฉิงเซี่ยง เวลาตายของเจ้ามาถึงแล้ว!”
“ต่อให้ตาย ก็ต้องให้ข้าตายตาหลับรึไม่ ใครกันที่อยากได้ชีวิตข้า?” หยุนเฉิงเซี่ยงพูดหน้าเย็นชา
“ต้องโทษที่เจ้ามีลูกสาวดียิ่ง ไปขวางทางคนอื่น ตายซะเถอะ!” มีดใหญ่ในมือนักฆ่าคนนั้นเงื้อขึ้นจะฟันหยุนเฉิงเซี่ยง
หยุนเฉิงเซี่ยงตกใจบื้อไปเลย มีดนี้ฟันลงไปเขาคงขาดเป็นสองท่อนแน่ เขาอยากหนี แต่สองขาแข็งค้างเป็นหิน ขยับไม่ได้เลย
“ปั้งปั้ง!” เสียงปืนดังขึ้นสองนัด คนผู้นั้นร้องด้วยความเจ็บปวด แล้วล้มลงพื้นทันที
หยุนถิงพาองครักษ์เงามังกรเร่งรุดมา เธอรีบพุ่งเข้าไปพยุงหยุนเฉิงเซี่ยง “ท่านพ่อ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ถิงเอ๋อร์ เจ้ามาแล้วจริงๆ พ่อตกใจแทบตาย พ่อนึกว่าจะไม่ได้เห็นหน้าเจ้าอีกแล้ว” สีหน้าหยุนเฉิงเซี่ยงซีดเผือด
ถึงเขาจะเป็นเฉิงเซี่ยง แต่ใครกันไม่กลัวตาย
“อย่ากลัวไปเลย ลูกมาช้าไปเอง” หยุนถิงปลอบ
“ท่านพ่อตา ทำให้ท่านตกใจแล้ว!” จวินหย่วนโยวพูดอย่างเป็นห่วง
“โชคดีที่พวกเจ้ามาแล้ว ไม่ช้าไป มาได้จังหวะพอดี” หยุนเฉิงเซี่ยงตอบ
องครักษ์เงามังกรเข้าร่วมการต่อสู้ทันที โจมตีใส่คนชุดดำคนอื่น
หยุนถิงหันมองคนชุดดำที่ร้องครวญครางอยู่บนพื้น มองเขาอย่างผู้ที่อยู่สูงกว่า “ใครบงการเจ้ามาลอบฆ่าพ่อข้ากัน?”
คนผู้นั้นเจ็บจนใบหน้าบิดเบี้ยว แต่ยังถลึงตาใส่อย่างเดือดดาล “ข้าไม่มีทางทรยศนายท่านหรอก” พูดจบ เขาทำท่าจะกัดยาพิษที่ซ่อนอยู่ในฟันให้แตกออก
หยุนถิงเร็วกว่าเขาก้าวหนึ่ง ทรุดลงทำคางเขาหลุดฉับพลัน
“ข้ามีวิธีมากมายในการรับมือพวกปากแข็ง กล้าทำร้ายท่านพ่อข้า ข้าจะให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตาย!” หยุนถิงควักมีดสั้นออกมา แทงเข้าไปที่ขาคนผู้นั้นอย่างแรง
“อ๊าก!” เสียงร้องเจ็บปวดดังขึ้น เสียดแก้วหูยิ่งนัก เจ็บจนคนผู้นั้นร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
หยุนถิงดึงมีดออกโดยแรง เลือดร้อนๆพุ่งกระฉูด มาโดนหน้าหยุนถิงโดยพลัน ใบหน้าที่งดงามอยู่แล้วยิ่งดูเย้ายวนอันตรายมากขึ้น เมื่อมีเลือดมาเสริม คนผู้นั้นหน้าซีดเผือดฉับพลัน
หยุนถิงแทงมีดเข้าไปที่ขาอีกข้างของเขา คนผู้นั้นเจ็บจนแทบสลบไปแล้ว แต่กลับโดนหยุนถิงจิกเข้าจุดใต้จมูกอย่างแรงให้รู้สึกตัว
วินาทีนี้เขารู้ซึ้งทันทีว่าอะไรเรียกว่าอยู่ไม่สู้ตายจริงๆ นักฆ่าเสียใจยิ่งนัก มิสู้ให้เขาตายเสียตอนนี้เลยยังจะดีกว่า
นักฆ่าคนอื่นโดนองครักษ์เงามังกรจัดการหมดแล้ว พอเห็นหยุนถิงทรมานคนแบบนี้ ก็ตกใจแทบตาย
“มีดที่สามนี่ตัดให้เจ้าสิ้นลูกสิ้นหลานเลยแล้วกัน กล้าลอบฆ่าพ่อข้า เจ้าก็ไม่ต้องเป็นผู้ชายแล้วล่ะ” หยุนถิงยิ้มมุมปากอย่างเลือดเย็น มีดสั้นในมือทำท่าพุ่งลงจะแทงหว่างขาของเขาทันที
ทำเอาหยุนเฉิงเซี่ยงขนหัวลุก ถิงเอ๋อร์เมื่อก่อนถึงจะเย่อหยิ่งจองหอง แต่ไม่เคยโหดเหี้ยมเด็ดขาดอย่างนี้ หยุนถิงในตอนนี้สายตาเย็นเยียบ บรรยากาศรอบตัวแข็งกล้านัก วินาทีลงมีดแต่ละทีช่างสาสมใจ แต่ก็ทำคนสะท้านเยือกเช่นกัน
นางคือถิงเอ๋อร์ของตนจริงรึ
อันที่จริงหยุนเฉิงเซี่ยงสังเกตได้นานแล้วว่าหยุนถิงไม่เหมือนก่อนจริงๆ ทั้งนิสัยและอารมณ์เปลี่ยนแปลงไปมาก แต่รอยปานบนตัวนางไม่ผิดเพี้ยนเลย นางกลายเป็นรู้เรื่อง แยกแยะผิดชอบชั่วดี ไม่ไล่ตามหลังหลีอ๋องอย่างโง่งมอีก และยังเป็นวิชาแพทย์ รู้จักทำมาค้าขาย—
การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ทำให้หยุนเฉิงเซี่ยงประหลาดใจ แต่ก็ตื้นตันใจ ขอเพียงนางมีความสุขดีก็พอแล้ว ถือว่าทำถูกต่อมารดานางแล้ว
พอจวินหย่วนโยวที่อยู่ข้างๆได้ยินคำพูดนี้ มุมปากกระตุก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
พอเห็นมีดสั้นนั่นกำลังจะแทงลงมา คนผู้นั้นตกใจเหงื่อแตกซิก “พูด ข้าพูด ข้าพูดหมดเลย!”
“ตัวการที่แท้จริงคือใคร?” หยุนถิงถามเสียงเย็น
“คือซ่าง—-“ นักฆ่ายังพูดไม่ทันจบ ก็มีลูกศรธนูขนาดเล็กอันหนึ่งยิงมาจากที่มืด นักฆ่าขาดใจตายคาที่ทันที
หยุนถิงสีหน้าเย็นชา ยกมือขึ้นยิงปืนใส่คนชุดดำที่อยู่บนหลังคาไม่ไกลนักติดกันหลายๆนัด
คนผู้นั้นเหมือนจะอยากหลบหนี สุดท้ายไหล่โดนยิงไปหนึ่งนัด เจ็บจนเขาสะดุด ไม่กล้าชักช้ารีบเหาะจากไปทันที
“หลงเอ้อร์หลงซื่อ รีบตาม!” จวินหย่วนโยวสั่งการอย่างองอาจ
“ขอรับ”
“นักฆ่าคนอื่นๆเห็นอย่างนั้นก็พากันกัดลิ้นฆ่าตัวตายหมด
“ท่านพ่อตา เรื่องนี้ข้าต้องสืบค้นอย่างละเอียดแน่ ตอนนี้ดึกมากแล้ว ข้าส่งท่านกลับไปก่อนดีกว่า” จวินหย่วนโยวเสนอ
“ตกลง” หยุนเฉิงเซี่ยงรีบรับปากทันที
หยุนถิงยื่นมือมาพยุงพ่อตนเอง และส่งหยุนเฉิงเซี่ยงกลับไปด้วยกันกับจวินหย่วนโยว ด้านหลังมีองครักษ์เงามังกรตามมาด้วย โชคดีที่อีกแค่สองถนนก็จะถึงจวนตระกูลหยุนแล้ว
ซูอี๋เหนียงเห็นสภาพดูไม่จืดของนายท่าน และยังมีหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวตามมา ก็ตกใจหนักมาก “นายท่าน เกิดอะไรขึ้นรึ ทำไมท่านกลายเป็นสภาพเช่นนี้เล่า?”
“โดนลอบฆ่าระหว่างทางกลับมาน่ะ โชคดีที่ถิงเอ๋อร์กับจวินซื่อจื่อมาถึงทันเวลา ไม่เช่นนั้นข้าตายไปนานแล้ว” หยุนเฉิงเซี่ยงถอนหายใจยาว
ซูอี๋เหนียงตกใจแทบตาย “ทำไมเป็นเช่นนี้ นายท่าน ท่านได้รับบาดเจ็บหรือไม่ เชิญท่านหมอดีหรือไม่?”
“ข้าไม่เป็นไรหรอก เข้าไปก่อนเถอะ”
“ได้ ได้” ซูอี๋เหนียงรีบเข้าไปพยุงหยุนเฉิงเซี่ยงเข้าไป
เพราะยังเป็นห่วงพ่อตนเองอยู่ หยุนถิงเลยพักอยู่ที่จวนต่อ จวินหย่วนโยวก็อยู่ด้วยเหมือนกัน
“ซื่อจื่อ เรื่องในคืนนี้ท่านคิดยังไง?” หยุนถิงถาม
“คนปกติไม่กล้าลงมือกับเฉิงเซี่ยงแน่ เขาไม่ได้พูดคำว่าซ่างออกมาก่อนตายรึ ในเมื่ออีกฝ่ายร้อนรนฆ่าคนปิดปาก เห็นได้ชัดว่าพูดความจริง นี่เป็นเบาะแสในตอนนี้เลย” จวินหย่วนโยวตอบ
“ซ่าง ในเมืองหลวงมีใครแซ่ซ่างบ้างไหม?” หยุนถิงขมวดคิ้ว พลันนึกถึงซ่างกวนหรู
“บางทีอาจจะไม่ใช่ซ่าง แต่เป็นซ่างกวน เพราะก่อนหน้านี้ซ่างกวนหรูคิดเล่นงานเจ้า แต่กลับโดนข้าย้อนรอยคืน ถ้าพูดถึงตระกูลซ่างกวน เป็นไปได้ที่จะแก้แค้น”
“ตอนนี้ข้าจะให้คนจับตาดูตระกูลซ่างกวนเอาไว้” จวินหย่วนโยวรีบเรียกคนทันที
“ตกลง”
หยุนถิงเห็นซื่อจื่อเดินออกไป เธอพลันมีสีหน้าเย็นชายะเยือกขึ้นมาทันที น่าตายนัก กล้ามาลงมือกับพ่อเธอ ไม่ว่าจะเป็นใคร ครั้งนี้เธอจะไม่รามือแน่