จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 452 นึกไม่ถึงว่านางยังไม่ตาย
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 452 นึกไม่ถึงว่านางยังไม่ตาย
หลงซื่อกล่าวด้วยความโกรธ “ซื่อจื่อ หอเทพเซียนแห่งนี้ไร้ศีลธรรมเกินไปแล้ว ถึงกับโหดร้ายเช่นนี้ นี่ล้วนเป็นคนที่มีชีวิตทั้งนั้นเลย”
“เบื้องหน้าแสร้งทำเป็นดำเนินอาชีพทางด้านหมอสร้างกุศล ความเป็นจริงกลับทรมานและฆ่าคนทั้งเป็นเช่นนี้ ไร้มนุษยธรรมเกินไปแล้ว ความชั่วที่พวกเขาก่อควรจะถูกเปิดเผยสาธารณชน!” หลงซานก็กล่าวด้วยความโกรธเช่นกัน
“อ๊า เจ็บจังเลย ข้าทรมานมาก ใครก็ได้มาช่วยข้าหน่อย——” เสียงร้องโหยหวนที่เศร้าสลดอย่างยิ่งดังมา
สีหน้าของจวินหย่วนโยวมืดมนอย่างยิ่ง ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ผมเผ้ารุงรังหน้าตาสกปรกมอมแมมถูกล่ามด้วยโซ่ที่อยู่ไม่ไกลออกไป บนร่างกายเต็มไปด้วยคราบเลือด กำลังเกาข่วนร่างกายอย่างแรง จากการเกาข่วนของเขา เนื้อบนร่างกายของคนผู้นั้นถึงกับร่วงหล่นออกมาทีละชิ้นทีละชิ้น แค่มองดูก็รู้สึกว่ามันเจ็บปวดจนยากที่จะทนได้
จวินหย่วนโยวมองอย่างเย็นชาครู่หนึ่ง “รีบไปหาท่านลั่วเดี๋ยวนี้!”
“ขอรับ!” บรรดาองครักษ์เงามังกรแยกย้ายกันออกไปตามหาทันที เพียงแต่ว่าพวกเขาหาจนทั่วห้องลับแล้ว แต่ก็ไม่พบท่านลั่ว
“ซื่อจื่อ ท่านลั่วไม่ได้อยู่ที่นี่!” หลงยีรายงาน
สีหน้าของจวินหย่วนโยวไม่น่าดูขึ้นมาอีกเล็กน้อย ไม่อยู่ที่นี่ จะอยู่ที่ไหนได้?
“พวกเจ้ากำลังตามหาตาเฒ่าลั่วใช่ไหม?” เสียงที่แก่เฒ่าและอ่อนแอดังมา
ทุกคนมองไปทางด้านนั้นด้วยความระมัดระวังทันที คือชายชราผมขาวโพลนคนหนึ่ง ขาขาดไปหนึ่งข้าง ทั่วทั้งตัวก็มีคราบเลือดทุกหนแห่ง น่าสยดสยองอย่างมาก
“เจ้ารู้จักท่านลั่ว?” จวินหย่วนโยวเลิกคิ้วมองมา
“ยังมีคนห่วงใยความเป็นความตายของตาเฒ่านั่นอีก คิดไม่ถึงจริงๆ” ชายชรากล่าวเสียดสี ไม่รู้ว่ากำลังเยาะเย้ยท่านลั่ว หรือว่าเยาะเย้ยตัวเอง
“ขอผู้อาวุโสโปรดแจ้งให้ทราบด้วย!” จวินหย่วนโยวเอ่ยปาก
“ข้าบอกกับเจ้าก็ได้ แต่เจ้าต้องช่วยข้าออกไป!”
“ตกลง รอข้าหาท่านลั่วเจอแล้วจะต้องทำลายล้างหอเทพเซียนไปในคราวเดียวอย่างแน่นอน หอเทพเซียนที่สร้างความหายนะให้กับทุกคนเช่นนี้จะเก็บเอาไว้ไม่ได้เด็ดขาด!” จวินหย่วนโยวกล่าวอย่างแสดงอำนาจ
ดวงตาที่พร่ามัวของชายชราเบิกกว้างเล็กน้อย รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย มองไปทางจวินหย่วนโยวที่เต็มไปด้วยความสูงส่ง หน้าตาดูดีมีราศี แค่มองก็รู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดา
ใช่แล้ว สามารถหามาถึงที่นี่ได้จะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร
“อาศัยแค่คำพูดประโยคนี้ของเจ้า ข้าจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่แน่นอน ที่นี่คือสถานที่ที่หอเทพเซียนใช้มนุษย์ที่มีชีวิตมากลั่นยา แต่ตาเฒ่าลั่วถูกขังอยู่ในห้องนอนท่านเจ้าหอของหอเทพเซียน ในห้องของเขามีห้องลับอยู่ห้องหนึ่ง กลไกอยู่ด้านหลังม้วนภาพตรงกำแพงฝั่งตะวันออก!” ชายชราเอ่ยปาก
“เจ้ารู้ได้อย่างไร?” จวินหย่วนโยวมองมาด้วยความสงสัย
“เพราะข้าก็คือท่านเจ้าหอคนก่อนของหอเทพเซียน มู่เทียนบาท่านเจ้าหอในตอนนี้คือลูกศิษย์ของข้า หลังเขาแห่งนี้ก็คือสถานที่ที่เขาแอบใช้มนุษย์ที่ยังมีชีวิตมาทดลองยาลับหลังข้า
ต่อมาถูกข้าพบเข้า ข้าก็โกรธอย่างมาก สั่งให้เขาหยุดทันที หอเทพเซียนดำเนินอาชีพทางด้านการแพทย์มาหลายชั่วอายุคน จะทำลายชีวิตคนอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ได้อย่างไร ดังนั้นข้าจึงออกคำสั่งให้ขับไล่เขาออกจากหอเทพเซียนทันที
มู่เทียนบาคุกเข่าอยู่หน้าห้องข้าสามวันสามคืน ขอร้องให้ข้าอภัยให้ ถึงแม้ข้าจะหวั่นไหวแต่ก็ไม่ได้ตอบตกลง คิดไม่ถึงว่าเขาถึงกับติดสินบนเด็กรับใช้คนสนิทของข้า วางยาข้า
หลังจากนั้นก็ถึงกับประกาศต่อภายนอกว่าเสียชีวิตด้วยอาการป่วยกะทันหัน จากนั้นเขาก็รับตำแหน่งท่านเจ้าหอของข้าไปตามกฎเกณฑ์ วางยาพิษทำลายศิษย์รักของข้าทุกคน ทั้งถูกสังหาร และได้รับบาดเจ็บ สรุปแล้วหอเทพเซียนในตอนนี้ล้วนเป็นคนของเขาทั้งนั้น
มู่เทียนบาที่จิตจิตใจอำมหิต โหดเหี้ยมเช่นนี้ไม่คู่ควรจะเป็นท่านเจ้าหอของหอเทพเซียนข้า ชื่อเสียงที่สั่งสมมานับร้อยปีของหอเทพเซียนข้าเกรงว่าคงจะถูกทำลายในมือของเขาแล้ว ข้าละอายใจต่อบรรพบุรุษจริงๆ” ตาเฒ่าเหอกล่าวด้วยความเสียใจ
ดวงตาของจวินหย่วนโยวเบิกกว้างอย่างรวดเร็ว มองพิจารณาชายชราที่อยู่ตรงหน้าอย่างละเอียด ถึงแม้สีหน้าของเขาจะเต็มไปด้วยฝุ่นดิน เสื้อผ้ายุ่งเหยิง รอยเลือดเลือนราง แต่ก็ยังสามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้ชัดเจน
“ท่านก็คือตาเฒ่าเหอ?”
“ถูกต้อง ข้าเอง คิดไม่ถึงว่ายังมีโอกาสได้ยินคนเรียกชื่อของข้าอีก” ตาเฒ่าเหอตื่นเต้นไม่สิ้นสุด
“เมื่อก่อนท่านลั่วเคยเอ่ยกับข้า”
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง” ตาเฒ่าเหอบอกแผนผัง กลไก และห้องลับ ประตูลับทั้งหมดของหอเทพเซียนให้จวินหย่วนโยวอย่างละเอียดทันที
จวินหย่วนโยวฟังด้วยความตั้งใจ กล่าวขอบคุณตาเฒ่าเหอ “ขอผู้อาวุโสโปรดช่วยเราอีกอย่าง”
หลงยียื่นหน้ากากหนังมนุษย์ที่หยุนถิงเตรียมเอาไว้ให้พวกเขาออกมาทันที ตาเฒ่าเหอตื่นเต้นอย่างยิ่ง รีบปลอมตัวให้จวินหย่วนโยวและองครักษ์เงามังกรทุกคนทันที ในตอนที่จวินหย่วนโยวและคนอื่นๆออกมาล้วนกลายเป็นรูปลักษณ์ของลูกศิษย์หอเทพเซียนกันหมดแล้ว
ตามเวลาเปลี่ยนกะที่ตาเฒ่าเหอบอก จวินหย่วนโยวและคนอื่นๆแฝงตัวเข้าไปในหอเทพเซียนอย่างราบรื่นมาก มุ่งหน้าไปที่ห้องของท่านเจ้าหอทันที
การตกแต่งในห้องประณีต การจัดวางพิถีพิถัน จวินหย่วนโยวหลบอาวุธลับพวกนั้นออกไปอย่างราบรื่น มุ่งหน้าไปที่ภาพม้วนนั่นโดยตรง
เพียงแต่ว่ามือของเขายังไม่ทันได้แตะภาพม้วนนั่น จู่ๆก็มีเสียงดังมาจากด้านหลัง “เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”
คิดไม่ถึงว่าด้านในห้องจะมีเสียงของผู้หญิงดังมา หลงยีและคนอื่นๆเฝ้าอยู่ด้านนอก ดังนั้นจึงคิดไม่ถึงเลยว่าข้างในยังมีคนอยู่อีก
สีหน้าของจวินหย่วนโยวผงะไปทันที จากนั้นก็หันมองไปทางคนผู้นั้น ในตอนที่เห็นใบหน้าของนางชัดเจน จวินหย่วนโยวชะงักงันไป
ซ่างกวนหรูมาอยู่ที่หอเทพเซียนได้อย่างไร นางถูกตัวเองกับเป่ยจิ่วฉิงโยนลงไปใต้หน้าผาแล้วไม่ใช่หรือ คิดไม่ถึงว่ายังไม่ตาย
ซ่างกวนหรูในเวลานี้สีหน้าซีดขาว เดินเชื่องช้ามาก ดูแล้วอ่อนแออย่างมาก
แค่ชั่วพริบตาเดียวจวินหย่วนโยวก็กลับมาเคารพนบนอบแล้ว “ศิษย์มาหยิบของให้ท่านเจ้าหอ รบกวนการพักผ่อนของแม่นาง ขอแม่นางโปรดอภัย!”
ซ่างกวนหรูมองไปทางลูกศิษย์คนนั้นด้วยความสงสัย นางจำได้ว่าเคยเห็นเขามาก่อน เพียงแต่ว่าเขาดูเหมือนจะสูงกว่าครั้งที่แล้วเล็กน้อย “เมื่อครู่นี้ข้าเห็นเจ้าอยากจะหยิบภาพวาดนั่น หรือว่าเจ้าคิดจะขโมยภาพวาด?”
สีหน้าของจวินหย่วนโยวเคร่งขรึมลงทันที แต่ยังหาท่านลั่วไม่พบ จะแหวกหญ้าให้งูตื่นไม่ได้เด็ดขาด
ดังนั้นจวินหย่วนโยวจึงลดท่าทีลง คำนับทันที “แม่นางอย่าเข้าใจผิด ศิษย์แค่รู้สึกว่าภาพนี้พิเศษมาก ดังนั้นถึงได้มองอย่างตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ ขอแม่นางโปรดอย่าบอกท่านเจ้าหอเลย!”
ซ่างกวนหรูเดินเข้ามาทีละก้าวทีละก้าว สายตามองตรงไปที่จวินหย่วนโยว มองพิจารณาเขา
สีหน้าของจวินหย่วนโยวสงบนิ่งราบเรียบ ไม่มีความวิตกกังวลใดๆเลย
ซ่างกวนหรูเห็นว่าศิษย์คนนี้ไม่มีความตื่นตระหนกใดๆ สีหน้าไม่สะทกสะท้าน “เรื่องในวันนี้ ข้าจะไม่บอกท่านเจ้าหอ ห้ามมีครั้งหน้าอีก!”
นางสามารถฉวยโอกาสนี้ซื้อใจคนได้พอดี
“ขอรับ ศิษย์ขอตัวก่อน!” จวินหย่วนโยวหันหลังก็จากไป จู่ๆก็สาดผงหนึ่งกำมือไปบนใบหน้าของซ่างกวนหรูกะทันหัน
ซ่างกวนหรูยังไม่ทันได้ตอบสนองกลับมา ตรงหน้าก็มีกลิ่นหอมแปลกๆ ดวงตาดำมืดคนทั้งคนก็ล้มลงไปกับพื้นทันที
จวินหย่วนโยวไม่แม้แต่จะสนใจเลยด้วยซ้ำ เดินตรงไปที่ภาพวาดภาพนั้น และเห็นกลไกที่อยู่ด้านหลังม้วนภาพจริงๆ รีบเปิดออกทันที
ชั้นวางหนังสือที่อยู่ด้านข้างแว๊บไปอยู่ด้านข้างทันที จวินหย่วนโยวรีบร้อนเข้าไป
ข้างในห้องลับไม่ใหญ่นัก มีไขมุกราตรีวางอยู่หนึ่งเม็ด จวินหย่วนโยวมองแว๊บเดียวก็เห็นท่านลั่วที่มือและเท้าถูกโซ่ล่ามเอาไว้ สีหน้าของเขาซีดขาว ร่างกายเปื้อนไปด้วยเลือด รอยเลือดที่อยู่บนเสื้อผ้าแห้งไปหมดแล้ว ดูแล้วคงถูกทรมานมาอย่างหนัก
“ท่านลั่ว ท่านลั่วท่านเป็นอย่างไรบ้าง?” จวินหย่วนโยววิ่งเข้าไปด้วยความเอ็นดูสงสารทันที
ท่านลั่วที่ซึ่งหลับตาสนิทลืมตาขึ้นมาเล็กน้อย มองดูจวินหย่วนโยวที่อยู่ตรงหน้า เยาะเย้ยตัวเองคำหนึ่ง “ทำไมข้าถึงเห็นเจ้าหนูจวินได้ ต้องเป็นภาพหลอนแน่นอน
“ไม่ใช่ภาพหลอน ท่านลั่วข้ามาแล้ว ข้ามาช้าไป ทำให้ท่านได้รับความลำบากแล้ว” จวินหย่วนโยวนำสารอาหารเหลวยาถอนพิษที่หยุนถิงให้เขาออกมา ให้ท่านลั่วกินเข้าไปมากมายในรวดเดียว
ท่านลั่วกินยาพวกนั้นลงไป ได้กลิ่นที่คุ้นเคยนั่นแล้ว รู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง “เจ้าหนูจวิน ใช่เจ้าจริงๆด้วย ข้าไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?”