จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 461 ซื่อจื่อคงคิดถึงข้าแล้ว
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 461 ซื่อจื่อคงคิดถึงข้าแล้ว
จวินหย่วนโยวกลับมาที่เรือนซ่างกวนหรูอีกครั้ง ได้ยินเสียงหายใจหอบหนักและเสียงกรีดร้องของผู้หญิงภายในห้อง สีหน้าเขาเยือกเย็นลง เปิดฝาขวดยาสองขวดในมือ โยนยาลูกกลอนหลายลูกเข้าไปในหน้าต่าง
เวลานี้ คนสองคนภายในห้องกำลังเอากันกันอยู่อย่างบ้าระห่ำ จึงไม่สังเกตเห็นอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นพิษที่หยุนถิงกลั่นขึ้นมาเป็นพิเศษ ไร้สีไร้รส มีไว้เพื่อรับมือมู่เทียนบาที่เป็นยอดฝีมือในการใช้ยาพิษ
ทำทุกอย่างเสร็จแล้ว จวินหย่วนโยวก็เดินออกมาจากหอเทพเซียน เดินไปถึงหลังเขาตรงที่ไม่มีคน เขากลายร่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม แล้วเดินลงเขาไปตามทางลัด
หลายวันมานี้มีคนมาหอเทพเซียนอย่างต่อเนื่อง แต่ล้วนถูกองครักษ์ลับห้ามไว้ จากนั้นก็พาไปยังที่อื่น
หากปล่อยให้มู่เทียนบารู้เรื่อง คงจะกำจัดคนพวกนั้นทิ้งอย่างเงียบๆ
ท่านลั่วมองเห็นจวินหย่วนโยวมา ก็พูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “เจ้าหนูจวินมีฝีมือจริงๆ สามารถช่วยข้าออกมาได้อย่างไม่มีใครรู้ ไม่เสียแรงที่รักเจ้า”
“ข้าจะสั่งคนไปส่งเจ้าเดี๋ยวนี้” จวินหย่วนโยวพูดขึ้น
“ข้ายังไปไม่ได้ ข้าจะแก้แค้นให้กับอาจารย์ ตอนนั้นอาจารย์เห็นเขามีพรสวรรค์ จึงรับเขามาเป็นศิษย์ ใครจะคิดได้ หลังจากเขาร่ำเรียนประสบความสำเร็วแล้ว กลับมีจิตใจเหี้ยมโหด แอบใช้คนทดลองพิษลับหลังอาจารย์
เมื่อถูกอาจารย์จับได้ ถูกขับไล่ออกจากสำนัก ก็เกิดความเคียดแค้น วางยาพิษอาจารย์จนตาย หลายปีมานี้ข้าสืบค้นสาเหตุการตายของอาจารย์ในตอนนั้นมาตลอด หากไม่ใช่เพราะครั้งที่แล้ว มู่เทียนบายอมรับออกมาด้วยตนเอง จนถึงตอนนี้ข้าก็ไม่เชื่อว่าเขาจะมีจิตใจเหี้ยมโหดขนาดนี้ ถึงขั้นวางยาฆ่าอาจารย์ด้วยมือตัวเอง
เขาเปลี่ยนแปลงรูปโฉมตนเองแล้วเข้าไปอยู่ในสำนักหอเทพเซียน วางแผนฆ่าตาเฒ่าเหอ ยึดครองตำแหน่งท่านเจ้าหอของหอเทพเซียน คนเลวทรามเช่นนี้ จะปล่อยให้เขาทำอันตรายโลกมนุษย์ไม่ได้” ท่านลั่วพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ได้ ข้าไม่ห้ามเจ้า ยอดฝีมือหมอพิษทั้งสี่แคว้นต่างทยอยมายังหอเทพเซียน ขอเพียงเจ้าเล่าเรื่องที่เจ้ารู้ให้ข้าฟังก็พอ” จวินหย่วนโยวพูดขึ้น
“เจ้าคิดอยากให้ข้า สร้างความกระทบกระเทือนจิตใจผู้คนก่อน”
“ใช่” จวินหย่วนโยวพูดขึ้นมาอย่างไม่ปิดบัง
“ได้ ทำตามอย่างที่เจ้าพูด” ท่านลั่วรีบพูดตอบ
ทั้งสองคนวางแผนร่วมกันเสร็จ จวินหย่วนโยวค่อยจากไป
จวินหย่วนโยวไม่ได้กลับไปยังหอเทพเซียน แต่กลับไปที่ห้องด้านข้างแล้วเขียนจดหมายให้หยุนถิง ไม่รู้ว่านางคิดถึงตนเองบ้างไหม
ตั้งครรภ์อยู่ยังไม่ยอมอยู่นิ่ง ทำไปหมดทุกอย่าง รอกลับไปแล้วจะกดนางนอนติดเตียง ให้นางพักผ่อนดีๆ
คิดได้แบบนี้ ในใจจวินหย่วนโยวรู้สึกว่างเปล่า เป็นครั้งแรกที่แยกจากหยุนถิงนานขนาดนี้ คิดถึงนางมาก
โม่เหลิ่งเหยียนจะต้องขยันไปจวนซื่อจื่ออย่างแน่นอน จวินหย่วนโยวไม่ต้องคิดก็รู้ แต่ถิงเอ๋อร์ของเขา ไม่ใช่คนที่จะสามารถหลอกลวงไปได้ง่ายๆ คิดได้แบบนี้ จวินหย่วนโยวค่อยสบายใจขึ้น
หยุนถิงที่อยู่ในจวนซื่อจื่อไกลถึงแคว้นต้าเยียน จู่ๆก็จามขึ้นมาสองที
“คุณหนู ท่านไม่สบายหรือเปล่า?” ซูหลินถามขึ้นอย่างเป็นกังวล พร้อมรีบเอาเสื้อคลุมสวมให้กับหยุนถิง
“ไม่เป็นไร คงเป็นเพราะซื่อจื่อคิดถึงข้าแล้ว เป็นครั้งแรกที่เราแยกกันนานขนาดนี้ ข้าก็คิดถึงเขา” หยุนถิงพูดตอบ
“คุณหนูกับซื่อจื่อรักกันอย่างลึกซึ้ง เชื่อว่าไม่นานซื่อจื่อก็จะกลับมาแล้ว” เยว่เอ๋อร์พูดขึ้น
“คุณหนู ทำไมหมอหลวงหลิวนอนไปทั้งวันเลย” ซูหลินถามขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจ
“ข้าให้พ่อบ้านใส่ยาลงไปในกับข้าวของเขา ฮ่องเต้ส่งเขามาดูแลข้า ข้าจะแกล้งนอนหมดสติทุกวันก็ไม่ไหว ช่วงสามเดือนต้องเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสม ดังนั้นข้าจึงให้เขานอนหลับ วางใจ ยาของข้าหมอหลวงหลิวสืบไม่รู้อย่างแน่นอน” หยุนถิงพูดอธิบาย
ซูหลินค่อยวางใจ ไม่เสียแรงที่เป็นคุณหนู ช่างมีวิธีจริงๆ
องครักษ์คนนั้นวิ่งมาจากด้านนอก คารวะด้วยความเคารพ พร้อมพูดขึ้นว่า “ซื่อจื่อเฟย หน้าประตูมีทหารหลายคนพาคนคนหนึ่งมาส่ง บอกว่าคุณหนูโม่ให้พวกเขาพามาส่งที่จวนซื่อจื่อ”
ได้ยินชื่อโม่หลาน หยุนถิงรีบสั่งให้พวกเขาพาคนเข้ามา
เป็นทหารมาจากในค่าย มีคนหนึ่งชื่อจ้าวฮู่ หยุนถิงรู้จักดี พร้อมถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
“คุณหนูโม่พาพวกเราไปลอบโจมตีทหารแคว้นเทียนจิ่ว จับตัวเซียจิ่วเซียวมาได้ เขาเป็นโอรสเพียงคนเดียวขององค์หญิงใหญ่แคว้นเทียนจิ่ว และเป็นแม่ทัพแคว้นเทียนจิ่วในครั้งนี้ คุณหนูโม่กลัวเกิดเหตุสุดวิสัยหรือเขาหนีไปได้ จึงสั่งให้พวกเราพากลับมาก่อน นางบอกว่าเอาคนมาให้ท่านวางใจที่สุด” จ้าวฮู่พูดตอบตามความจริง
สีหน้าหยุนถิงเย็นชาทันที ดวงตาคู่หงส์เหลือบมองดูเซียจิ่วเซียว เวลานี้หน้าตาเขาสกปรกมอมแมม หมดสติอยู่จึงดูไม่เห็นชัดเจน
“รั่วจิ่ง เอาไปขังไว้ในคุกใต้ดิน”
“ขอรับ” รั่วจิ่งรีบร้องเรียกองครักษ์มาสองคน แล้วพาตัวเซียจิ่วเซียวไป
“พวกเจ้าพักอยู่ในจวนซื่อจื่อก่อน ก่อนที่โม่หลานจะกลับมายังไม่ต้องออกมาให้ใครเห็น”
“ขอบคุณคุณหนูหยุน” พวกจ้าวฮู่ต่างซาบซึ้งใจอย่างมาก
พ่อบ้านรีบพาพวกเขาไปพักในห้องรับแขก ซูหลินเดินมา พร้อมพูดขึ้นว่า “คุณหนู ทำไมอยู่ดีๆ คุณหนูโม่ถึงคิดไปลอบทำร้ายแคว้นเทียนจิ่ว?”
หยุนถิงก็รู้สึกแปลก ไม่เหมือนเป็นการกระทำของโม่หลาน แต่ในเมื่อเซียจิ่วเซียวถูกส่งมาถึงที่แล้ว หยุนถิงก็ไม่เกรงใจอยู่แล้ว ยังไงในตอนนั้นพ่อแม่ของซื่อจื่อก็เกิดเรื่องเพราะองค์หญิงใหญ่
หยุนถิงหยิบเอาขวดยาออกมาหลายขวด พร้อมพูดขึ้นว่า “อย่างละหนึ่งเม็ด เอาให้เซียจิ่วเซียวทานลงไป”
“ขอรับ” ซูหลินรับขวดยาแล้วรีบไปทำ
พ่อบ้านจัดการคนเสร็จ เดินกลับมาพูดขึ้นว่า “ซื่อจื่อเฟย เซียจิ่วเซียวท่านคิดจะทำยังไง”
“ฆ่าเขานั้นง่ายเกินไป ให้เขาตายทั้งเป็น แม่ของเขาทำร้ายพ่อแม่ของซื่อจื่อ ข้าไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆแน่ ความเป็นความตายของเขา รอซื่อจื่อกลับมาแล้วค่อยว่ากัน” รอบกายหยุนถิงเยือกเย็นลง
สายตาลึกๆของพ่อบ้านฉายแววชื่นชม พร้อมพูดขึ้นว่า “ซื่อจื่อเฟยเฉลียวฉลาด”
ด้านนอกเรือน หยุนเฉิงเซี่ยงพาลูกสาวหลายคนมายังเรือนหยุนถิง พวกเขาได้ยินผู้คนต่างพูดว่าหยุนถิงบาดเจ็บสาหัสหมดสติไม่ฟื้น พวกหยุนเฉิงเซี่ยงรีบพากันมาอย่างรวดเร็ว
เมื่อพวกเขาเข้ามาให้ห้อง ก็เห็นหยุนถิงกำลังนั่งกินผลไม้ สุขสบายอย่างมาก
“ถิงเอ๋อร์ เจ้าบาดเจ็บหมดสติไม่ใช่หรือ หรือว่าข้างนอกพูดไปเรื่อย?” หยุนเฉิงเซี่ยงถามขึ้นมาอย่างตกใจ
“ดีมากเลยที่พี่ใหญ่ไม่เป็นไร ข้าตกใจแทบแย่ ข้าก็บอกพ่อแล้ว พี่ไม่เป็นอะไรแน่ พ่อก็ไม่เชื่อ” หยุนหลีพูดขึ้นมาอย่างดีใจ
“พี่ใหญ่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ข้ากับพ่อตกใจแทบแย่?” หยุนซูถามขึ้น
“พี่ใหญ่ พวกเราได้ยินว่าเกิดเรื่องกับเจ้า ก็รีบพากันมาเลย” หยุนหลิงก็พูดขึ้นมา
ช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเทศกาลเก็บเกี่ยวของจวนซื่อจื่อ หยุนถิงกับนางจ้าวมีรายได้เพิ่มไม่น้อย ถึงในใจหยุนหลิงยังเป็นปฏิปักต่อหยุนถิง แต่ต่อหน้าแล้วยังไงก็ต้องดีไว้ก่อน
หยุนไห่เทียนกลับไป ก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าวๆ ไม่ได้พูดว่าหยุนถิงไม่เป็นไร ดังนั้นคนตระกูลหยุนต่างตกใจอย่างมาก
หยุนถิงมองดูสายตาเป็นกังวลของทุกคนแล้วก็อบอุ่นใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำให้พวกเจ้าต้องเป็นกังวลแล้ว วางใจ ข้าไม่เป็นไร เพราะมีคนวางแผนทำร้ายข้า ดังนั้นข้าจึงใช้แผนซ้อนแผน” จากนั้นก็เล่าเรื่องอย่างคร่าวๆ ออกมาให้ฟัง
ทุกคนในตระกูลหยุนได้ยินแล้วต่างก็ตกใจ หลังจากตกตะลึงก็ชื่นชมในความเฉลียวฉลาดของหยุนถิง
หยุนถิงมองดูทุกคนพูดคุยกัยหยุนถิง ด้วยสายตาฉายแววน่ากลัว
ดีมากเลย ในที่สุดนางก็จับจุดอ่อนของหยุนถิงได้แล้ว