จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 470 ข้าทำร้ายผู้ชายของตนเอง
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 470 ข้าทำร้ายผู้ชายของตนเอง
หยุนถิงพูดขึ้นมาอย่างไม่หวาดกลัวว่า “ข้าพอเข้าใจในความตั้งใจที่เจ้าบ้านตระกูลหานอยากปกป้องหลานสาว เจ้าบ้านตระกูลหานกับคุณหนูหาน ไม่แปลกใจหรือว่าลูกในท้องของข้าเป็นของใคร แล้วข้าเข้ามาได้อย่าง?”
น้ำเสียงที่เย็นชา ทำให้ทุกคนตกตะลึง ต่างพากันหันมามอง
ปกติตระกูลหานมีชื่อเสียงในด้านใช้ค่ายกลและวิทยากล จู่ๆ มีผู้หญิงท้องโตโผล่ออกมา ทำให้ทุกคนตกใจ คาดไม่ถึง แปลกประหลาดใจอย่างมาก
นางรู้เคล็ดค่ายกลและวิทยากลแล้วเดินเข้ามาเอง หรือว่ามีคนพานางเข้ามา?
“พี่ใหญ่ นางพูดไม่ผิด เราถามให้ชัดเจนก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วค่อยลงมือ เกี่ยวข้องกับความสุขทั้งชีวิตของยินยิน ต้องรอบคอบหน่อย” ผู้อาวุโสรองของตระกูลหานที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นมา
“คนตระกูลหานของเรามีมากมายขนาดนี้ ยังจะกลัวนางที่ท้องโตคนหนึ่งหนีไปหรือ” หานเหล่าซานพูดขึ้นมา
“เจ้าพูดมาตามตรง ลูกในท้องของเจ้าเป็นลูกของใคร หากเจ้ากล้าพูดโกหก ข้าจะทำให้ศพของเจ้าไร้ที่ฝัง” หานมู่ชิงกัดฟันพูดขึ้นมา
เขาคือพี่ชายใหญ่ของหานยินยิน รักน้องสาวคนนี้ที่สุด เดิมเขาไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานในครั้งนี้ แต่จนใจที่พ่อกับผู้อาวุโสคนอื่นๆเห็นด้วย เขาทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้จู่ๆมีผู้หญิงท้องโตคนหนึ่งโผล่มา เขาต้องรู้ให้ชัดเจน
คนอื่นๆต่างก็ยิ่งแปลกใจ ล้วนพากันหันมามอง
โดยเฉพาะหานยินยิน นางก็ตกใจกับภาพตรงหน้านี้มาก นางไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าผู้หญิงคนนี้จะเกี่ยวข้องกับโม่เหลิ่งเหยียน
“เจ้าเป็นใครกันแน่?” หานยินยินถามขึ้นมา มือภายใต้แขนเสื้อกับกำแน่นไว้แต่แรกแล้ว
“ข้าเป็นใคร เจ้าถามโม่เหลิ่งเหยียนก็รู้แล้วนี่” หยุนถิงพูดขึ้นมาอย่างเยาะเย้ย พร้อมเดินตรงไปหาโม่เหลิ่งเหยียน
สีหน้าโม่เหลิ่งเหยียนเยือกเย็น ดวงตามืดครึ้ม ไม่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนโยน สายตาที่เย็นชาและเฉียบคมจ้องเขม็งอย่างไร้ความรู้สึก มองหยุนถิงเหมือนมองดูคนแปลกหน้า
“โม่เหลิ่งเหยียนเจ้าคนสารเลว ทำข้าท้องโตแล้วก็มาแต่งงานกับคุณหนูหาน เจ้าทำกับข้าแบบนี้ได้อย่างไร ทั้งๆที่เจ้าเคยพูดว่าจะดูแลข้าไปตลอดชีวิต เจ้ายังพูดว่าลูกของเราจะเป็นผู้สืบทอดจวนซวนอ๋องในอนาคต สืบทอดตำแหน่งอ๋องของเจ้า” หยุนถิงไม่ได้เปลี่ยนเสียง ใช้เสียงเดิมของตนเอง
ถึงแม้นางจะเปลี่ยนโฉมแล้ว ตามที่โม่เหลิ่งเหยียนรู้จักนาง ไม่มีทางที่จะจำเสียงนางไม่ได้
ส่วนโม่เหลิ่งเหยียนกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เพียงมองดูนางด้วยสายไฟเย็นชา พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไม่…..”
สีหน้าหยุนถิงเย็นชา ยกฝ่ามือขึ้นฟาดตบหน้าโม่เหลิ่งเหยียนไปสองที
“โม่เหลิ่งเหยียน ทำไมเจ้าชั่วช้าเลวทรามขนาดนี้ เจ้าเคยรับปากว่าจะยกตำแหน่งซวนหวางเฟยให้กับข้า ยังบอกว่าจะพาข้าไปกินเนื้อย่างที่แคว้นเป่ยลี่ ไปแช่น้ำพุที่จิ่วซางหมิง ยังจะพาข้าไปดูวิวทะเลในน่านน้ำทั้งสี่แคว้น เรื่องพวกนี้เจ้าลืมไปหมดแล้วหรือ?” หยุนถิงพูดขึ้นมาอย่างน่าสงสาร น้ำตาก็ร่วงไหลลง
เสียงฟาดตบหน้าสีดังฟังขึ้น ดังสนั่นไปทั่วทั้งห้อง แม้แต่หมิงจิ่วซางที่หลบซ่อนอยู่ข้างนอกยังนิ่งอึ้ง
หยุนถิงช่างรุนแรงจริงๆ กล้าตบหน้าเหลิ่งเหยียน กล้าหาญจริงๆ
ทุกคนภายในห้องก็ตกใจอย่างมาก โม่เหลิ่งเหยียนไม่เคยสนใจใยดีญาติพี่น้อง เลือดเย็นไร้ความปรานี โหดเหี้ยมและอำมหิตอย่างที่สุด หญิงท้องโตตรงหน้าคนนี้กล้าตบหน้าโม่เหลิ่งเหยียน หรือนางพูดความจริง?
“นังสารเลว เจ้ากล้าตบหน้าเหลิ่งเหยียน?” หานยินยินพูดขึ้นมาอย่างโมโห
“ข้าตบหน้าผู้ชายของตนเอง ตบหน้าพ่อของลูกในท้องของข้า ตบหน้าคนชั่วคนนี้ คุณหนูหานไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย” หยุนถิงแสดงเป็นผู้หญิงบ้าคลั่งได้อย่างสมจริงมาก
“เจ้า…..” หานยินยินอยากฆ่าหยุนถิงอย่างมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ใช่ นางยังไม่ได้เข้าพิธีแต่งงานกับเหลิ่งเหยียน ส่วนผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ กลับตั้งครรภ์ลูกของเขาแล้ว ตอนนี้นางสู้ไม่ได้จริงๆ แต่อนาคตยังอีกยาวไกล
เดิมสีหน้าโม่เหลิ่งเหยียนที่เยือกเย็น กลายเป็นเหมือนดั่งน้ำค้างแข็งขึ้นมาทันที สายตาเฉียบคมราวกับใบมีด หันมามองหยุนถิงอย่างโหดเหี้ยม มีพลังอำนาจแต่ปราศจากความโกรธ ล้อมรอบเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความอาฆาต ทั่วทั้งตัวเป็นเหมือนอย่างอสูรยามราตรี รัศมีอันทรงพลังนั้นทำให้ผู้คนสั่นสะท้าน รู้สึกได้ถึงความกดดัน
หานยินยินที่อยู่ด้านข้างก็ตกตะลึงกับรัศมีรอบตัวของโม่เหลิ่งเหยียน จนก้าวถอยหลังไปหลายก้าว
หยุนถิงกลับไม่หวาดกลัว เผชิญกับสายตาโหดเหี้ยมของโม่เหลิ่งเหยียน จับจ้องมองดูโดยตรง ปากพูดพึมพำ
เพราะเสียงเบา หานยินยินจึงได้ยินไม่ชัด
ส่วนโม่เหลิ่งเหยียน ดวงตาที่ลึกและมืดมนนั้น จู่ๆก็จับจ้องมอง เห็นชัดเจนแล้วว่าคนตรงหน้าคือหยุนถิง ก็ตกใจอย่างมาก
“โม่เหลิ่งเหยียน เจ้าคนทรยศ ทำไมเจ้าถึงเป็นคนโลภในเกียรติยศและเงินทองเช่นนี้ อยากได้คุณหนูหานจนไม่เอาข้ากับลูก เจ้าคนชั่วข้าจะไม่มีทางให้อภัยเจ้า” หยุนถิงทั้งต่อยทั้งเตะโม่เหลิ่งเหยียน
คนอื่นเห็นโม่เหลิ่งเหยียนถูกฟาดตบไปสองที ถึงแม้เมื่อกี้จะโกรธ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรผู้หญิงคนนี้ ยังปล่อยให้นางทุบตีก่นด่า คราวนี้ทุกคนต่างก็นั่งไม่เป็นสุขแล้ว
“โม่เหลิ่งเหยียน เจ้าพูดมาให้ชัดเจน ผู้หญิงคนนี้ตั้งครรภ์ลูกของเจ้าจริงไหม เจ้าไม่คู่ควรกับยินยินเลย” ผู้อาวุโสรองของตระกูลหานพูดขึ้นมาอย่างโกรธโมโห
เขามีลูกชายเพียงสองคน ไม่มีลูกสาว ดังนั้นจึงรักใคร่หานยินยินมาตั้งแต่เด็ก รักเหมือนดั่งลูกสาวของตนเอง ดังนั้นจึงโกรธโมโหอย่างมาก
“หากเป็นความจริง พี่ชายใหญ่เจ้าอย่าให้อภัยโม่เหลิ่งเหยียนเด็ดขาด นี่เท่ากับเขาโกหกเรื่องแต่งงาน ไม่คู่ควรที่จะเป็นลูกเขยของตระกูลหาน” หานเหล่าซานก็พูดขึ้นมา
สีหน้าเจ้าบ้านตระกูลหานย่ำแย่อย่างมาก เส้นเลือดขนหน้าผากเต้นกระตุก หันมามองอย่างโกรธโมโห
“โม่เหลิ่งเหยียน เจ้าคนสารเลว ข้าทำร้ายจิตใจน้องสาวของข้า ข้าจะฆ่าเจ้า” หานมู่ชิงต่อยหมัดโจมตีอย่างรุนแรง
โม่เหลิ่งเหยียนรีบหลบเลี่ยง ยังดึงหยุนถิงไปยังด้านข้าง ปกป้องไว้ข้างหลังอย่างอัตโนมัติ
การกระทำของเขา เป็นการยอมรับสถานะของหยุนถิงอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้ทุกคนยิ่งโกรธโมโห
“ท่านปู่ ข้าไม่สนใจ ข้าไม่สนว่าเหลิ่งเหยียนเคยมีผู้หญิงคนอื่นมาก่อนหรือไม่ ข้าสนใจแต่เพียงเหลิ่งเหยียน ขอร้องท่านให้ข้าแต่งงานกับเหลิ่งเหยียนเถอะ หลังจากแต่งงานแล้วเขาต้องดีกับข้าแน่” หานยินยินรีบพูดขึ้นมา
ไม่ง่ายกว่านางจะวางยาวิทยากลให้โม่เหลิ่งเหยียน ซึ่งก็เพื่อแต่งงานกับเขา จะให้ใครมาทำลายงานแต่งในครั้งนี้ไม่ได้เด็ดขาด ใครก็ไม่ได้
“นังหนู เขาทำถึงขนาดนี้แล้ว เจ้ากลับไม่สนใจ?” เจ้าบ้านตระกูลหานเจ็บปวดใจอย่างมาก
“ท่านปู่ ข้ารักเหลิ่งเหยียนอย่างมากจริงๆ เหลิ่งเหยียนช่วยชีวิตข้าไว้เมื่อตอนอายุสิบขวบ ข้าก็ชอบเขาแล้ว หลายมีมานี้ท่านก็รู้มาตลอด ผู้ชายมีเมียหลายคนนั้นเป็นเรื่องปกติ ข้ารับได้ที่เหลิ่งเหยียนจะมีเมียน้อย ขอท่านปู่กับท่านลุงทุกท่านเห็นใจ ต่อให้ไม่ทำเพื่อข้า ก็ขอให้ทำเพื่อตระกูลหานของเรา” หานยินยินคุกเข่าลงพื้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความร้องขอ
เจ้าบ้านตระกูลหานโกรธโมโหอย่างมาก ไอขึ้นมาอย่างรุนแรง รีบเอาผ้าเช็ดหน้ามาปิดปากไว้ ไออยู่หลายทีแล้วค่อยหยุดลง
หยุนถิงเหลือบมองเห็นเลือดบนผ้าเช็ดหน้านั้น เห็นทีเจ้าบ้านตระกูลหานคนนี้ป่วยหนักไม่เบา
สีหน้าคนอื่นยิ่งหนักอึ้ง ถึงแม้ตระกูลหานจะดูรุ่งเรืองแต่ก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้เจ้าบ้านตระกูลหานป่วยหนัก ที่พึ่งที่แข็งแกร่งคนต่อไปนั้น แม่ของโม่เหลิ่งเหยียนเป็นลูกสาวบุญธรรมของเจ้าบ้านตระกูลหาน และโม่เหลิ่งเหยียนก็เป็นถึงซวนอ๋อง จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็…….” เจ้าบ้านตระกูลหานกำลังจะพูดขึ้นมา
“ข้าไม่มีทางแต่งงานกับหานยินยิน” เสียงอันเย็นชาของโม่เหลิ่งเหยียน ดังขึ้นมาอย่างเยือกเย็น