จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 494 เล่นอะไรที่มันน่าตื่นเต้นหน่อยไหม
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 494 เล่นอะไรที่มันน่าตื่นเต้นหน่อยไหม
หยุนถิงย่อมรู้สึกถึงคนที่ตามอยู่ด้านหลังอยู่แล้ว แต่กลับระงับอารมณ์และคำพูด แสร้งทำเป็นมองไม่เห็น พูดคุยกับซูชิงโยวและคนอื่นๆอย่างมีความสุขต่อไป
“จวินหย่วนโยว ภรรยาของเจ้าไร้ศีลธรรมเกินไปแล้ว รถม้าที่มอบให้ข้าคราวก่อนมีปัญหา ทำให้ม้าได้รับความตกใจจนรถพัง แถมยังถูกฝ่าบาทตำหนิและถูกกักบริเวณอีก เจ้าต้องดูแลจัดการเมียของเจ้าหน่อยแล้ว!” ฟู่อี้เฉินบ่น
ทันทีที่ทุกคนได้ยิน ก็มองมาอย่างชมการแสดงทันที
จวินหย่วนโยวกลอกตามองเขาครู่หนึ่ง “ตัวเองโง่เอง ก็อย่าไปโทษคนอื่น หากเจ้าไม่ได้ไปยั่วยุถิงเอ๋อร์ ถิงเอ๋อร์จะหลอกเจ้าได้อย่างไร ต่อไประวังตัวหน่อยก็แล้วกัน!”
น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกและรังเกียจ เสียดแทงหูอย่างมาก
ฟู่อี้เฉินเดือดดาลขึ้นมาทันที “จวินหย่วนโยวไอ้คนที่ใช้ดาบพันเล่มฟันก็ไม่หายแค้นอย่างเจ้า ถึงกับกล้าว่าข้าโง่ พวกเจ้าสองผัวเมียช่างมีพฤติกรรมเดียวกันจริงๆ ข้าจะตัดขาดความเป็นมิตรภาพกับเจ้า!”
“ข้ากับเจ้าไม่มีมิตรภาพต่อกัน!” จวินหย่วนโยวเปิดโปงเขา
ฟู่อี้เฉินแทบจะระเบิดอารมณ์ออกมาอยู่แล้ว เหวี่ยงหมัดอยากจะต่อยเข้ามา แต่เขาก็รู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจวินหย่วนโยว ความรู้สึกที่เกลียดอีกฝ่ายแทบตาย แต่กลับกำจัดอีกฝ่ายไปไม่ได้ มันน่าหงุดหงิดรำคาญใจจริงๆ
“ฟู่ซื่อจื่อ หากเจ้าไม่โกงตอนชนไก่ ข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าเช่นนั้นได้อย่างไร อีกอย่างรถม้าของซื่อจื่อเจ้าเป็นคนจะเอาให้ได้เอง มันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย” หยุนถิงเบะปาก
ฟู่อี้เฉินทั้งอับอายและโกรธอย่างยิ่ง ยังอยากจะพูดอะไร แต่กลับไม่มีคำพูดจะตอบโต้ได้
ต้องโทษที่ตัวเองเด็กเกินไป หลงกลอุบายของหยุนถิง วันหน้าเขาจะไม่เชื่อนางง่ายๆอีกแล้ว
“ชิงโยว ข้ามีการค้าขายที่อยากจะคุยกับเจ้าพอดี” หยุนถิงเอ่ยปาก
ทันทีที่ฟู่อี้เฉินได้ยิน ก็เงี่ยหูเข้าไปใกล้ทันที
ถึงแม้จะไม่พอใจหยุนถิง แต่ความคิดด้านค้าขายของนางยอดเยี่ยมมากจริงๆ แม้แต่ฟู่อี้เฉินก็ยังต้องยอมรับนับถือ
องค์ชายสี่ร่วมมือกับหยุนถิงทำกำไรได้มากมาย มักจะโอ้อวดกับตัวเองบ่อยๆ หากเขาสามารถร่วมมือกับหยุนถิง ก็ไม่จำเป็นต้องรับเงินเดือนอันน้อยนิดจากราชสำนักทุกเดือน ทนมองสีหน้าของฮ่องเต้อีก
ซูชิงโยวฟังหยุนถิงกล่าวโดยสังเขปครู่หนึ่ง รู้สึกว่าสามารถทำได้จริงๆ “เช่นนั้นข้ากลับไปจะให้คนไปเช่าร้านเลย”
“ได้ ไม่จำเป็นต้องใหญ่มาก ทำแบบซื้อกลับบ้านเป็นหลัก!”
“เข้าใจแล้ว”
“หยุนถิง ข้าก็จะร่วมมือเปิดร้านกับเจ้า!” ฟู่อี้เฉินกล่าวอย่างไม่เต็มใจ
“ฟู่ซื่อจื่อไม่คิดแค้นที่ข้าทำให้ท่านอับอายแล้วหรือ?” หยุนถิงจงใจถาม
“นั้นเป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งนั้น ไม่ขนาดนั้นหรอก”
“เมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นท่านก็ร่วมมือกับชิงโยว คนหนึ่งรับผิดชอบเขตตะวันตก อีกคนรับผิดชอบเขตตะวันออก!” หยุนถิงเสนอแนะ
“ตกลง!”
พวกเขาพูดคุยวางแผนพร้อมกับเดินไปด้วย พวกเขาเดินออกไปจากทุ่งข้าวสาลีแล้ว เดินไปทางภูเขาสูงที่อยู่ถัดไป
หลังจากที่ฟู่อี้เฉินฟังจบแล้ว ก็รู้สึกยินดีอย่างยิ่ง เร่งเดินทางกลับไปให้คนเตรียมพร้อมคืนนั้นทันที ไม่ได้อยู่ค้างคืนที่พื้นที่เพาะปลูกของราชวงศ์ด้วยซ้ำ
หลังจากที่หยุนถิงคุยเรื่องงานจบแล้ว เห็นองค์หญิงห้ายังไม่ยอมแพ้ เมื่อเห็นว่ากำลังจะถึงกับดับแล้ว ดวงตาคู่สวยของหยุนถิงกลอกหมุนมีความคิดขึ้นมาทันที
“ชิงโยว ข้าอยากจะลอบสังหารฝ่าบาท ข้าขุดกับดักไว้ด้านหน้า ข้าจะพาเจ้าไปดู!” หยุนถิงจงใจกล่าวเสียงดัง
ซูชิงโยวตกใจจนชะงักงัน กำลังจะพูดอะไร ก็เห็นหยุนถิงส่งสายตาให้นาง เข้าใจความหมายและให้ความร่วมมือทันที
“ลอบสังหารฝ่าบาทนั่นคือโทษประหารเก้าชั่วโคตรเชียวนะ เจ้าไม่กลัวเลยหรือ?”
“กลัวทำไม ทันทีที่ฝ่าบาทเกิดเรื่อง ผู้สืบทอดบัลลังก์ต้องเป็นหลีอ๋องแน่นอน หลีอ๋องยังไม่ลืมความรักครั้งเก่าที่มีต่อข้า เขาขอบคุณข้ายังไม่ทันด้วยซ้ำ จะลงมือกับข้าได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นแผนการของข้ากับหลีอ๋อง!” หยุนถิงกล่าว
องค์หญิงห้าที่อยู่ไม่ไกลออกไปได้ยินอย่างชัดเจน ตกใจจนรีบยื่นมือไปปิดปากเอาไว้ทันที กลัวว่าตัวเองจะส่งเสียงออกมา
คิดไม่ถึงว่านางจะได้ยินความลับที่น่าตกใจของหยุนถิง หยุนถิงกับหลีอ๋องร่วมมือกันจะกำจัดเสด็จพี่ จะต้องรีบบอกเสด็จพี่ให้เร็วที่สุดให้ได้
เมื่อเห็นหยุนถิงและคนอื่นๆเดินไปด้านข้าง องค์หญิงห้าเดินตามต่อไป ขอเพียงหากับดักนั่นเจอ ถึงเวลานั้นหลักฐานแน่นหนา ถึงแม้หยุนถิงต้องการจะพูดใส่ร้ายก็ทำไม่ได้แล้ว
องค์หญิงห้าเดินอย่างเร่งรีบ เวลานี้เป็นเวลากลางคืน ในป่ารกไปด้วยวัชพืช อาศัยแสงจันทร์สามารถมองเห็นได้รางๆ นางมองไม่เห็นใต้เท้า
จู่ๆใต้เท้าขององค์หญิงห้าก็เหยียบความว่างเปล่า คนทั้งคนตกใจจนกรีดร้องออกมา ร่วงหล่นลงไปด้านล่างกะทันหัน
หยุนถิงที่อยู่ไม่ไกลได้ยินเสียง “ตุ้บ!” ดังขึ้นมา เสียงกรีดร้องนั่นหยุดลงทันที
หยุนถิงถึงได้เดินกลับไป มองลงไปในหลุมขนาดใหญ่ องค์หญิงห้าที่หมดสติอยู่ ใบหน้าของหยุนถิงเต็มไปด้วยการดูหมิ่น
“หยุนถิง เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าที่นี่มีกับดัก เหตุใดองค์หญิงห้าถึงต้องสะกดรอยตามเจ้าด้วย?” ซูชิงโยวงุนงง
“กับดักนี่เดิมทีข้าเตรียมเอาไว้ให้เจ้ากับพี่ใหญ่ ว่ากันว่ายามตกทุกข์ได้ยากจะได้เห็นความจริงใจ หากพวกเจ้าสองคนตกลงไปอยู่ในนั้นคืนหนึ่ง ความสัมพันธ์ต้องพัฒนาขึ้นแน่นอน พรุ่งนี้เรามาหาตั้งแต่เช้าตรู่ ถึงแม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ด้วยนิสัยของพี่ใหญ่ข้าก็จะต้องรับผิดชอบเจ้าแน่นอน เช่นนี้จะไม่พอเหมาะพอดีหรอกหรือ” หยุนถิงอธิบาย
ใบหน้าของซูชิงโยวแดงจนถึงต้นคอ โชคดีที่เวลานี้ฟ้ามืด มองเห็นไม่ชัดเจน มิเช่นนี้นางอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไปจริงๆ
“หยุนถิง เจ้าทำเช่นนี้มันจะใจกล้าเกินไปแล้ว เช่นนี้มันไม่ยุติธรรมต่อพี่ใหญ่เจ้า!” ซูชิงโยวกล่าว
“เรื่องความรักเป็นเรื่องที่เห็นแก่ตัวอยู่แล้ว บางครั้งก็ต้องใช้วิธีการกันหน่อย ขอเพียงในใจพี่ใหญ่มีเจ้าก็พอแล้ว”
“เช่นนั้นตอนนี้จะทำอย่างไร องค์หญิงห้านาง?”
“นางรนหาที่ตายเอง เช่นนั้นก็ไม่ต้องไปสนใจนาง เรากลับไปกันเถอะ ข้านึกเกมสนุกๆได้พอดี!” หยุนถิงเอ่ยปาก
จวินหย่วนโยวรีบจูงมือของหยุนถิงเอาไว้แน่นทันที ถึงแม้วัชพืชใต้เท้าจะไม่สูง แต่ก็กลัวนางจะสะดุดล้ม ดังนั้นจวินหย่วนโยจึงจูงอย่างระมัดระวังมาก
ในตอนที่หยุนถิงและคนอื่นๆกลับมา คนมากมายกำลังก่อกองไฟในลานของพื้นที่เพาะปลูกราชวงศ์ กำลังล้อมกองไฟพูดคุยสนุกสนานกันอยู่
“กองไฟมีอะไรน่าสนใจ หาได้ยากที่ทุกคนจะออกมาครั้งหนึ่ง เล่นอะไรที่มันน่าตื่นเต้นหน่อยไหม?” หยุนถิงกล่าวเสียงดัง
ทุกคนมองมาทันที องค์ชายสี่อยากรู้อยากเห็นอย่างมาก “หยุนถิง มีอะไรน่าตื่นเต้นหรือ?”
“ล่าสมบัติตอนกลางคืน ข้ากับซื่อจื่อซ่อนขลุ่ยหยกโลหิตเอาไว้ในป่าใกล้ๆ พวกเราแบ่งกันออกเป็นกลุ่ม หากใครหาเจอก่อน ก็จะมอบขลุ่ยหยกโลหิตให้กับเขา เป็นอย่างไร?” หยุนถิงกล่าว
“ขลุ่ยหยกโลหิต นั่นคืออะไร?” โม่เหลิ่งเหยียนกล่าว
“มันคืออาวุธที่ข้าค้นคว้าขึ้นมาใหม่ ที่เรียกว่าขลุ่ยหยกโลหิต ก็เพราะต้องจับคู่กับหนังสือบทเพลง ใช้เสียงพิณข้าคนอย่างไร้ร่องรอย พูดได้ว่าสามารถกวาดล้างข้าศึกได้จำนวนมาก”
“อาวุธที่ร้ายกาจขนาดนี้ ข้าจะต้องหาให้เจอให้ได้!” องค์ชายสี่ลุกขึ้นก็เดินจากไป
คนอื่นๆก็ยินดีมากเช่นกัน ร้านอาวุธของหยุนหลีถูกคนแย่งกันซื้อจนหมดเกลี้ยงในคราวเดียว อาวุธรอบต่อไปต้องรออีกหนึ่งเดือนให้หลัง ทุกคนได้เห็นความร้ายกาจของอาวุธ ได้รู้ว่าหยุนถิงเป็นคนออกแบบ เวลานี้หยุนถิงเสนอแนะเช่นนี้ย่อมทำให้ทุกคนตื่นเต้นไม่สิ้นสุดเป็นธรรมดา
ทุกคนแบ่งกลุ่มกันออกเป็นกลุ่มละสามถึงห้าคน มุ่งหน้าไปทางหลังเขาด้วยกัน
ฮ่องเต้มองไปทางหยุนถิง “ข้าไม่เคยเห็นเจ้าใจกว้างเช่นนี้มาก่อน?”
“ฝ่าบาท หาได้ยากที่จะมาพื้นที่เพาะปลูกของราชวงศ์สักครั้ง คืนนี้มีความสุข ดังนั้นข้ากับซื่อจื่อจึงนำสิริมงคลความโชคดีออกมา ให้ทุกคนได้สนุกสนานกัน!” หยุนถิงตอบ
“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าถึงไม่ไป?” ขุนนางใหญ่คนหนึ่งถามขึ้นมา
“หากว่าข้าไปแล้ว จะไม่นำขลุ่ยหยกโลหิตกลับมาโดยตรงหรอกหรือ เช่นนี้มันไม่ยุติธรรมกับทุกคน!” ขุนนางใหญ่คนนั้นกระอักกระอ่วนไม่สิ้นสุด เขาถึงกับเอ่ยคำถามที่ปัญญาอ่อนเช่นนี้ออกมา
“ฝ่าบาทสามารถให้พี่ใหญ่ข้าเป็นตัวแทนได้เช่นนี้หากฝ่าบาทได้ขลุ่ยหยกนี้แล้ว มันจะไม่เหมือนเสือติดปีกหรอกหรือ?” หยุนถิงเสนอแนะ