จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 508 ซื่อจื่อ ที่แท้เป็นฝีมือท่านเอง
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 508 ซื่อจื่อ ที่แท้เป็นฝีมือท่านเอง
“หยุนถิง ระวัง!” เสียงหวีดร้องดังขึ้น
หยุนถิงตกใจ ถึงได้รับรู้อันตรายจากด้านหลัง และหลบโดยอัตโนมัติ
จวินหย่วนโยวที่อยู่บนต้นไม้สีหน้าเย็นเยียบถึงขีดสุด ตวัดสายตาดำขลับไปทางนางกำนัลคนนั้น ทับทิมในมือที่พึ่งเด็ดมาซัดออกไปทันที
หลงเอ้อร์และหลิงเฟิงได้ยินเสียงร้อง เหาะเข้าไปหาทันที กระบี่ในมือก็พุ่งแทงเข้าไป
เพียงแต่พวกเขายังไม่ทันได้แตะต้องนางกำนัลผู้นั้น ก็ได้ยินเสียงนางกำนัลผู้นั้นร้องโหยหวน โดนทับทิมของจวินหย่วนโยวซัดลอยกระเด็น
นางโดนทับทิมซัดกระเด็นไปหลายเมตร จนไปกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ในอุทยานหลวง กระอักเลือดออกมาคำโต
จวินหย่วนโยวกระโดดลงมาจากบนต้นไม้ทันที “ถิงเอ๋อร์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”
“ซื่อจื่อ ข้ามิเป็นไร นางยังไม่ทันได้แตะต้องข้าก็โดนท่านซัดกระเด็นไปแล้ว” หยุนถิงตอบ
จวินหย่วนโยวถึงได้วางใจ หันไปมองนางกำนัลที่นอนบาดเจ็บอยู่ไม่ไกลนัก สายตาคมปลาบดุจใบมีดมองไป กรามแข็งเกร็ง บรรยากาศรอบตัวเขาเย็นจนติดลบ
“เจ้าเป็นใครกัน กล้ามาลอบทำร้ายซื่อจื่อเฟยของข้า หากมิบอกความจริงมา ข้าจะให้เจ้าอยู่มิสู้ตาย?” น้ำเสียงดุดันของจวินหย่วนโยวทำเอาคนฟังขนหัวลุก
โดยเฉพาะดวงตาดำขลับดุจราตรีกาลคู่นั้น ทุกที่ที่มองไป ทำให้คนใจกระตุกวูบอย่างประหลาด แรงกดดันมากล้น
นางกำนัลตกใจจนหน้าซีดเผือด กำลังคิดว่าจะสารภาพดีหรือไม่
หยุนถิงปราดเข้ามาบีบคางนางให้อ้าปาก อีกมือยัดยาใส่ปากนางไปหนึ่งเม็ดทันที
นางกำนัลอยากอาเจียน แต่ยานั่นแค่เข้าปากก็ละลาย นางโดนบังคับให้กลืนลงไป
หยุนถิงถึลคลายมือออก เลิกคิ้วถาม “ตอนนี้พูดมาเถอะ ใครสั่งเจ้ามาฆ่าข้า?”
“เจ้าบ้านตระกูลเก๋อ!” นางกำนัลพูดคำนี้จบ นางเองยังตะลึง
“ทำไมจึงเป็นเช่นนี้?”
ทั้งๆที่นางมิอยากพูดถึงเจ้าบ้านเลย ทำไมรู้สึกราวกับควบคุมตัวเองไม่ได้ และพูดออกมาเยี่ยงนี้เลย
หยุนถิงขมวดคิ้ว “เจ้าบ้านตระกูลเก๋อ ข้าไม่รู้จักเลยสักนิด ทำไมเขาต้องฆ่าข้าด้วย?”
“หากมิใช่เพราะเจ้าเคียดแค้นตระกูลเก๋อเปิดร้านไก่ทอด แย่งการค้าเจ้า ดังนั้นเจ้าก็เลยให้จวินซื่อจื่อกดดันตระกูลเก๋อ สามวันมานี้การค้าทุกอย่างของตระกูลเก๋อล้วนเกิดปัญหาสาหัสนัก
หากมิใช่เกิดปัญหาคุณภาพสินค้า ก็โดนเผาคลังเสบียง คนรับใช้ทรยศ หนูกินอาหารแล้วตาย—สรุปแล้ว เวลาแค่สามวัน การค้าของตระกูลเก๋อก็เข้าสู่ภาวะคับขัน อลหม่านไปหมด
เจ้าบ้านโกรธจนกระอักเลือดหมดสติ ดังนั้นข้าเลยเกิดความคิดมาฆ่าเจ้า เจ้าจะฆ่าจะแกงอย่างไรก็ตามใจ ก็แค่อาศัยอำนาจจวินซื่อจื่อ เจ้าถึงได้เย่อหยิ่งจองหองได้เพียงนี้ หากมิมีจวินซื่อจื่อ เจ้าก็มิใช่อะไรทั้งสิ้น!” นางกำนัลตะคอกดังอย่างเดือดดาล
“ตระกูลเก๋อแย่งการค้าของข้า ทำไมข้าไม่รู้ล่ะ?” หยุนถิงไม่เข้าใจ
“หยุนถิง เจ้าอย่ามาแกล้งไขสือ นอกจากเจ้ากับจวินซื่อจื่อแล้ว จะมีผู้ใดมีอำนาจเช่นนี้อีก!” นางกำนัลกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมตนจึงพูดในสิ่งที่คิดออกมา แต่ในเมื่อพูดออกมาแล้วก็กลืนคำพูดไม่ได้แล้ว ในเมื่อนางกำนัลกล้ามาลอบฆ่าหยุนถิง ย่อมต้องยอมตายอยู่แล้ว
หยุนถิงถึงหันมองคนด้านหลัง “ซื่อจื่อ แสดงว่าฝีมือท่านรึ?”
“ใช่ ข้าเอง!” จวินหย่วนโยวตอบรับอย่างเปิดเผย
“เพราะเหตุใด?”
“ตระกูลเก๋อแย่งการค้าเจ้า ข้าย่อมมิมีทางให้พวกมันเป็นสุขอยู่แล้ว!”
สายตาหยุนถิงมองไปทางหลงเอ้อร์อย่างเย็นชา “ข้าหมายความว่า ตระกูลเก๋อแย่งการค้าข้า ทำไมข้าถึงไม่รู้ และไม่มีใครบอกข้าเลย?”
หลงเอ้อร์ทำหน้าน่าสงสาร “ซื่อจื่อเฟย โทษข้ามิได้นะ ซื่อจื่อบอกว่าเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ไม่ต้องรบกวนท่านดอก ให้ท่านพักผ่อนดีกว่า!”
จวินหย่วนโยวเดินเข้ามา จูงมือหยุนถิง “ข้าไม่อยากให้เจ้าเครียด ข้าจัดการเองก็ได้แล้ว!”
“ดังนั้น แค่สามวันท่านก็ทำให้ตระกูลเก๋อตกอยู่ในภาวะอันตราย?” หยุนถิงบอกอย่างหน่ายใจ
“ไม่ว่าเป็นใคร หากคิดแย่งการค้ากับเจ้า ข้าจะให้มันอยู่ไม่สู้ตาย!” มือจวินหย่วนโยวที่กุมมือหยุนถิงไว้บีบแน่นขึ้น
หยุนถิงซาบซึ้งนัก เอ่ยปากว่า “ซื่อจื่อ ท่านมักจะรับเหมาเรื่องเช่นนี้เสมอ ข้าเองก็เบื่อมากนะ ข้าเจ้าคิดเจ้าแค้นที่สุด และชอบล้างแค้นที่สุด ดังนั้นเรื่องอย่างนี้ข้าทำเอง ไม่งั้นคงว่างจนราขึ้นแน่!”
“ได้ ตามใจเจ้า” จวินหย่วนโยวจับมือมั่นกับหยุนถิง
หยุนถิงหันมอง ห่างไปไม่ไกลเหมยเฟยพาสาวใช้จากไปแล้ว
เมื่อครู่คือนางเอ่ยปากเตือนหยุนถิง หยุนถิงเอาแต่สอบสวนนางกำนัลคนนั้น ลืมเหมยเฟยไปเลย
มองตามแผ่นหลังนางที่เดินไปไกล หยุนถิงขมวดคิ้วน้อยๆ
ตอนแรกเหมยเฟยปล่อยสองพ่อลูกซ่างกวนหรูไป พอพวกหลงเอ้อร์สืบได้อย่างนี้ หยุนถิงไม่เข้าใจมาตลอดว่า เพราะอะไรเหมยเฟยถึงทำเช่นนั้น
หากมิใช่ตน เหมยเฟยไม่มีทางหายเสียโฉม และได้รับการโปรดปรานจากฮ่องเต้อีกครั้ง
ทั้งๆที่นางก็รู้ว่าตนกับซื่อจื่อมีความแค้นใหญ่หลวงกับสองพ่อลูกซ่างกวนหรู แต่ยังคงทำเช่นนั้น มันทำให้หยุนถิงเสียใจมาก
ดังนั้นหยุนถิงจัดการพรรควิหคอีกครั้ง เพราะคิดว่าเหมยเฟยเป็นคนของซ่างกวนเจิ้น กลัวนางจะตัดทางรอดตนเอง แต่ระยะนี้เหมยเฟยกลับมิได้มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย ถึงหยุนถิงจะไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ
ตอนนี้นางส่งเสียงเตือน ทำให้หยุนถิงยิ่งไม่เข้าใจเหมยเฟยหนักขึ้น
นางเป็นคนอย่างไรกันแน่นะ
“พวกเรากลับบ้านกันเถอะ” จวินหย่วนโยวเสนอ
“อืม” หยุนถิงไม่คิดมากอีก
ต่อให้เป็นเพื่อนที่ดีแค่ไหน พอเริ่มสงสัยอีกฝ่าย ก็ยากที่จะกลับเป็นเหมือนเดิมได้อีกครั้ง
หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวเดินจูงมือกันจากไป ไม่มีใครสนใจนางกำนัลบนพื้นเลย
หลงเอ้อร์กับหลิงเฟิงเห็นอย่างนั้น ก็รีบตามไป
นางกำนัลบนพื้นมองตามหยุนถิงอย่างตกตะลึง ไม่คิดว่านางจะไม่ฆ่าตน ออกจะประหลาดใจ พอคิดถึงคำพูดเมื่อครู่ของหยุนถิงกับจวินหย่วนโยว ถึงได้รู้ว่าเข้าใจหยุนถิงผิดไป
นางมิรู้เลยสักนิด ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือจวินซื่อจื่อ นางกำนัลยิ้มมุมปากอย่างหยามหยัน
จะเป็นอิจฉา ริษยาหรือน่าขันนั้น มิอาจรู้ได้แล้ว
นางกำลังจะลุกขึ้น ซูกงกงพากองทัพหลวงมาพอดี “ทหาร จัดการนำนางกำนัลที่รนหาที่ตายนางนี้ออกไป โบยจนตาย!”
“กงกง กงกง ไว้ชีวิตข้าด้วย!” นางกำนัลอ้อนวอน
“ไว้ชีวิต เจ้ากล้าลอบฆ่าองค์หญิงหยุนถิง ยังคิดร้องขอชีวิต ข้าว่าเจ้าเบื่อโลกเต็มทีแล้ว ยังไม่ลงมืออีก!” ซูกงกงหยัน
“ขอรับ!” กองทัพหลวงสองคนเข้ามา โบยกระบองในมือไปที่ตัวนางกำนัลอย่างแรง
“อ๊า!” นางกำนัลร้องโหยหวน ทำเอาคนฟังขนหัวลุก
เหล่านางกำนัลขันทีที่ผ่านไปมา พอเห็นเป็นซูกงกงสั่งสอนคน ก็พากันเดินหนีห่างออกไปอย่างรู้งาน ไม่มีใครกล้ามาห้อมล้อมมุงดูเลย
นางกำนัลคนนั้นโดนโบยจนตาย ซูกงกงเห็นนางขาดใจตายคาที่แล้ว ว่าด้วยสีหน้าหยามหยัน “หามออกไป ไปทิ้งที่หลุมศพอนาถา!”
“ขอรับ!”
ซูกงกงจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็กลับไปรายงานกับฮ่องเต้ต่อ
ทั่วทั้งวังหลวงมีแต่หูตาของฮ่องเต้ เรื่องหยุนถิงโดนลอบฆ่าย่อมลอยไปเข้าหูฮ่องเต้อย่างรวดเร็ว ฮ่องเต้โกรธจัด ตอนนี้หยุนถิงเป็นขุมปัญญาของเขา จะให้นางเกิดเรื่องมิได้เด็ดขาด
ดังนั้นฮ่องเต้เลยส่งซูกงกงมาจัดการด้วยตัวเอง เพื่อบอกทุกคนในวังหลวงว่า หยุนถิงเป็นคนที่ฮ่องเต้ให้ความสำคัญ ไม่ว่าใครก็อย่าได้คิดแตะต้องหยุนถิงเด็ดขาด
อีกด้านหนึ่ง พวกหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวพากันออกจากวัง
ซวนอ๋องโม่เหลิ่งเหยียนอุ้มเด็กคนหนึ่งเข้ามาหาพวกเขาด้วยท่าทางร้อนรน “หยุนถิง ขอร้องเจ้าช่วยเขาด้วย!”