จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 520 ซื่อจื่อ หวานมาก
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 520 ซื่อจื่อ หวานมาก
หยุนถิงอาศัยจังหวะที่สายตาอวี้เซียนเอ๋อร์จับจ้องโม่เหลิ่งเหยียน ผลันร่างเข้าอ้อมกอดจวินหย่วนโยวทันที “ซื่อจื่อ ปกปิดให้ข้า!”
จวินหย่วนโยวรับเรื่องทันที ชุดคลุมกว้างใหญ่โอบรัดหยุนถิงไว้ จากสายตาคนนอก เขาแค่โอบกอดหยุนถิงไว้
หยุนถิงรีบคิดส่งกล่องเข้ามิติทันที และก๊อบปี้สิบอันในชั่วลมหายใจ จากนั้นก็เอากล่องนั้นออกมา
ทั้งหมดแค่ชั่วพริบตา คนอื่นเห็นแค่เพียงจวินหย่วนโยวหวานใส่หยุนถิง เลยมิได้คิดอะไรมาก
โม่เหลิ่งเหยียนเหล่มองทางนี้ สีหน้าเย็นเรียบเหมือนปกติ ไร้ซึ่อารมณ์ใดๆ
อวี้เซียนเอ๋อร์เห็นมันทั้งหมด ในใจยิ่งเดือดดาลนัก
ข่าวลือเป็นเรื่องจริง ซวนอ๋องทำตัวไม่ธรรมดาต่อหยุนถิงจริงๆ นางพยายามทุกวิถีทางเพื่อเข้าใกล้ซวนอ๋อง สุดท้ายเพียงเพราะสตรีอื่น ซวนอ๋องถึงสนใจตน ช่างน่าขันนัก
หยุนถิงออกมาจากอ้อมกอดจวินหย่วนโยว หยิบกลอ่งมายื่นให้อวี้เซียนเอ๋อร์ “คุณหนูอวี้ เมื่อครู่ข้าเสียมารยาทแล้ว กล่องนี้คืนให้ท่านแล้วกัน เพราะความอยากรู้ของข้าทำให้ซวนอ๋องติดค้างน้ำใจท่าน มันมิสมควรเลย”
อวี้เซียนเอ๋อร์ตะลึงไปเลย ของที่นางมอบออกไปแล้วถูกตีคืนกลับ นี่มันมีเรื่องน่าขายหน้ากว่านี้อีกหรือไม่
ก่อนมานางตั้งใจสืบมา จวินหย่วนโยวต้องการตัวยานี้มาก หยุนถิงรู้วิชาแพทย์ นางไม่ควรที่จะไม่รู้สิ
โม่เหลิ่งเหยียนยิ้มมุมปาก ตนมิได้มองหยุนถิงผิดไปจริงๆ
สิ่งที่นางให้ตนคือ ความเชื่อใจ ยิ่งไปกว่านั้นคือความเคารพ
“กล่องยังไม่ได้แกะ ซื่อจื่อเฟยของข้าไม่ได้เปิดกล่องออกดู คุณหนูอวี้คงมิถือสากระมัง!” จวินหย่วนโยวแค่นเสียงเย็น
อวี้เซียนเอ๋อร์ฟังอย่างตะลึง เดิมนางยังคิดจะหาข้ออ้างผลัด เลยรีบยื่นมือออกไปรับมา “ในเมื่อซื่อจื่อเฟยมิต้องการ ข้ารับกลับมาก็ได้”
เฟิ่งจาวหยีโดนจวินซื่อจื่อบีบคั้นจนต้องอ้อนวอนขออภัย นางไม่อยากทำให้ตระกูลอวี้เดือดร้อนไปด้วย จวินหย่วนโยวไม่ต้องการก็ดี เช่นนั้นก็รอความตายไปเถอะ
“ขอบคุณในความใจกว้างของคุณหนูอวี้ยิ่งนัก เช่นนั้นข้าไม่รบกวนแล้ว” หยุนถิงหมุนตัวจากไป
จวินหย่วนโยวยื่นทับทิมเข้ามาให้ เป็นลูกที่แคะแล้วเรียบร้อย “ถิงเอ๋อร์ ลองชิมดู!”
หยุนถิงหยิบทับทิมหลายเม็ดจากกลางฝ่ามือจวินหย่วนโยวมากิน “หวานมาก”
ทั้งสองคนเดินคุยไปยิ้มไปไกล ซูชิงโยวรีบตามไปทันที
โม่เหลิ่งเหยียนเห็นหยุนถิงไปแล้ว เลยยิ่งไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ต่อ “ข้ายังมีธุระ ขอตัวก่อน!” พูดจบ ยังไม่รออวี้เซียนเอ๋อร์ตอบ โม่เหลิ่งเหยียนก็ไปทันที
ทำเอาอวี้เซียนเอ๋อร์โกรธจนหน้าดำหน้าแดง มือที่ถือกล่องไว้กำแน่นจนข้อกระดูกขาว
นางไม่คิดเลยว่า ซวนอ๋องจะรังเกียจตนถึงเพียงนี้
ตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนที่ได้เจอซวนอ๋อง นางก็หลงรักเขาตั้งแต่แรกพบ สามปีมานี้นางพยายามให้ตนเองกลายเป็นสตรีที่เพียบพร้อม แข็งแกร่งมากพอที่จะเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาได้
นางรอมาสามปี ถึงมีความกล้ามายืนตรงหน้าโม่เหลิ่งเหยียนได้ แต่เขากลับเย็นชาถึงเพียงนี้ ทำให้อวี้เซียนเอ๋อร์น้อยเนื้อต่ำใจและเดือดดาลยิ่งนัก
แต่นางไม่มีทางยอมแพ้หรอก นางมองตามทิศทางที่หยุนถิงจากไป สายตาอวี้เซียนเอ๋อร์หม่นหมองคมปลาบ
แต่หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวไม่ได้กลับไปที่งานเลี้ยง พวกเขาส่งคนไปมอบฝ่าบาท จากนั้นทั้งสองคนก็ออกจากวัง
หยุนถิงเป็นห่วงซูชิงโยว ให้นางนั่งรถม้าคันเดียวกับตน จากนั้นส่งนางกลับจวนตระกูลซู
ในรถม้าตอนนี้เหลือแค่หยุนถิงและจวินหย่วนโยว
“ซื่อจื่อ กลับไปท่านต้องเลี้ยงเหล้าซวนอ๋องนะ คืนนี้ได้เขาช่วยไว้ ไม่งั้นข้ายังเครียดอยู่เลยว่าจะไปหาดอกมังกรโรยรานี่ได้ที่ไหน มันเป็นตัวยาสำคัญในการถอนพิษให้ท่าน อวี้เซียนเอ๋อร์กลับมาหาพวกเราถึงที่ สวรรค์ช่วยเราจริงๆ!” หยุนถิงพูดอย่างพอใจ
จวินหย่วนโยวเดาได้แล้วว่า ถิงเอ๋อร์ต้องทำเพื่อตนเองแน่ ถึงได้รับกล่องนั้นมา จวินหย่วนโยวซาบซึ้งยิ่งนัก
“ได้ ฟังถิงเอ๋อร์นะ!”
“กลับไปข้าจะเข้าฌาน ข้ารวบรวมตัวยาได้มากพอแล้ว จะพยายามถอนพิษให้ท่านสำเร็จในครั้งนี้เลย!” หยุนถิงบอก
จวินหย่วนใจกระตุก ตื่นเต้นมาก “จะถอนได้หมดจริงรึ?”
“ไม่แน่ใจ แต่ข้ามั่นใจราวเจ็ดแปดส่วน ต้องปรุงยามาลองก่อน ยุ่งยากมาก ดังนั้นจะเลินเล่อไม่ได้!”
“เจ้าปรุงยาได้เลย ที่เหลือมีข้าอยู่!” มือที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อของจวินหย่วนโยวกำแน่น
ถิงเอ๋อร์เป็นดาวนำโชคของตนเองจริงๆ พิษร้ายในกายทรมานจวินหย่วนโยวมาสิบกว่าปี หากสามารถถอนออกไปได้จริงๆจะดียิ่งนัก ต่อไปเขาก็ไม่ต้องอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง อะไรก็ต้องให้ถิงเอ๋อร์มาเหน็ดเหนื่อยเช่นนี้อีก
…….
แคว้นเทียนจิ่ว
พริบตาเดียวสามวันผ่านไปแล้ว องค์หญิงใหญ่พาคนมายังห้องปรุงยาด้วยตนเอง “เจ้าหอเหอ ยาเป็นอย่างไรบ้าง?”
ตาเฒ่าเหอยื่นขวดยามาให้ด้วยสีหน้าไม่เต็มใจ นี่เป็นยาที่องค์หญิงใหญ่ต้องการ ขอให้องค์หญิงใหญ่ปล่อยลูกศิษย์ข้าด้วย!”
องค์หญิงใหญ่รับยามา คิ้วเลิกขึ้นเล็กน้อย เปิดฝาออก ดมกลิ่นยาในนั้น ยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา
“เจ้าหอเหอ ถึงยาจะปรุงเสร็จแล้ว แต่ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าจริงหรือปลอม ต้องหาคนมาลองยาถึงจะได้!”
น้ำเสียงเย็นชาทำเอาคนฟังขนหัวลุก
“ท่านอา อาจารย์ข้าปรุงยาตามที่ท่านบอกแล้ว ท่านยังต้องการอะไรอีก?” เริ่นเซวียนเอ๋อร์เดือดดาลนัก
“ข้าคิดจะทำอย่างไร เจ้ากับเจ้าหอเหอพึ่งเข้ามาพักในจวนผิงหนานอ๋อง สุดท้ายจวนอ๋องก็เกิดเหตุการณ์ฝูงงูบุก อย่าคิดว่าแค่พวกเจ้าไม่ยอมรับ ข้าก็จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
วันนี้ยานี้เจ้าลองหรือไม่ก็ให้อาจารย์เจ้าลอง ขอเพียงแน่ใจว่ายาเป็นของจริง ข้าย่อมปล่อยพวกเจ้าแน่นอน!” องค์หญิงใหญ่แค่นเสียงเย็น
“ท่านอา ท่านทำเกินไปแล้วนะ ยาเจ็ดวิญญาณนี่พิษร้ายนัก กินแล้วต้องตายแน่นอน! ท่านให้ร้ายฆ่าองค์หญิงต่อหน้าทุกคน เสด็จพ่อข้าต้องไม่ปล่อยพวกท่านไปแน่!” เริ่นเซวียนเอ๋อร์เคียดแค้นนัก โผล่เข้ามาขวางหน้าตาเฒ่าเหอไว้
ตาเฒ่าเหอซาบซึ้งยิ่งนัก ในบรรดาลูกศิษย์ทั้งหมด นังหนูนี่จิตใจดีที่สุด
“เสด็จพ่อขยะของเจ้าน่ะตอนนี้กำลังโดนสาวงามห้อมล้อมแน่ ไหนเลยจะมีเวลามาสนใจเจ้า อีกอย่าง มีใครรู้บ้างว่าข้าฆ่าเจ้า เจ้าอยู่ข้างนอกหลายปีไม่แน่อาจจะเกิดเหตุมิคาดฝันก็ได้!” น้ำเสียงดุร้ายไร้น้ำใจขององค์หญิงใหญ่ทำเอาคนฟังขนหัวลุก
“ข้าลองยาเอง ท่านปล่อยเซวียนเอ๋อร์ไป!” ตาเฒ่าเหอสีหน้าตึงเครียด
“สมเป็นเจ้าหอเหอนัก!” องค์หญิงใหญ่ยื่นขวดยามาให้
“ไม่ได้ อาจารย์ท่านจะลองยาไม่ได้นะ นั่นน่ะพิษร้ายนัก ข้าลองเอง ตายเป็นตาย ยังไงก็ต้องตายอยู่ดี!” เริ่นเซวียนเอ๋อร์ยื่นมือมาจะแย่งขวดยา
ตาเฒ่าเหอจี้จุดสกัดเริ่นเซวียนเอ๋อร์ทันที เริ่นเซวียนเอ๋อร์ขยับตัวไม่ได้เลย
“อาจารย์ ท่านทำอะไรน่ะ ปล่อยข้านะ?”
ตาเฒ่าเหอดวงตาแดงก่ำ “นังหนู ความกตัญญูของเจ้าที่มีต่ออาจารย์น่ะ อาจารย์รู้ดีที่สุด เดิมคิดว่าชาตินี้คงโดนขังอยู่ในถ้ำและจบชีวิตลงที่นั่นแล้ว
เจ้าช่วยข้าออกมา ทำให้ข้าได้เห็นแสงตะวันอีกครั้ง ทำให้ข้าได้กินอาหารเลิศรสอีกครั้ง ได้ใส่เสื้อผ้าอบอุ่น และยังเล่นหมากเป็นเพื่อนข้า ให้ข้าได้ใช้ชีวิตเหมือนอย่างคนทั่วไป
ชาตินี้อาจารย์พอใจแล้ว มีลูกศิษย์เช่นเจ้า อาจารย์พอใจมาก และภูมิใจมากด้วย จำไว้ ใช้ชีวิตต่อไปให้ดี ใช้วิชาแพทย์ที่เจ้ามีพัฒนาให้เจริญรุ่งเรือง ไปช่วยคนให้มากขึ้น
อาจารย์อยากให้เจ้ามีความสุขไปชั่วชีวิต อยู่อย่างมีความสุข องค์หญิงใหญ่หวังว่าท่านจะมิคืนคำ มิเช่นนั้นต่อให้ข้าตายเป็นผี ก็ไม่มีทางละเว้นท่าน!”
ตาเฒ่าเหอพูดจบ หยิบขวดยาสีดำนั่นมา และหยิบยาหนึ่งเม็ดออกมาจากในน้ำเงยหน้ากินมันลงไป