จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 533 ท่าทางโมโหของท่านกลับยิ่งหล่อมากขึ้น
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 533 ท่าทางโมโหของท่านกลับยิ่งหล่อมากขึ้น
“เรื่องนี้คงจะตามใจท่านไม่ได้ เรื่องงานแต่งของข้าทำให้เสด็จพี่ปวดหัวมากที่สุด เพราะว่าข้าไม่ถูกใจผู้ชายทั่วไปด้วยซ้ำ เขาอยากให้ข้าแต่งออกไปได้กว่าคนอื่นเลย มาวันนี้คุณชายปรากฏตัวออกมาแล้ว นี่เป็นพรหมลิขิตที่สวรรค์ประทานให้ข้าเลย!” ซินฉิงพูดขึ้นมาอย่างได้ใจ หมุนตัวแล้วก็เดินไปเลย
“ห้ามไปนะ หยุดก่อน ข้าหยุดให้ข้าเดี๋ยวนี้……อ๊าก!” เพราะว่าอ๋องเก้าใจร้อนที่จะตามไป อยู่ ๆ ขาก็เกี่ยวเข้าด้วยกัน แล้วทั้งตัวก็หกล้มลงไปบนพื้น ปรากฏว่าหัวไปโขกเข้าให้พอดี
“เจ็บจังเลย หน้าของข้า ใครก็ได้ข้าจะเสียโฉมแล้ว!” อ๋องเก้ากรีกร้องขึ้นมา
เขาพึ่งใบหน้าในการทำให้ผู้หญิงหวั่นไหวมาตลอด จะเสียโฉมไปไม่ได้เด็ดขาด
ลูกน้องรีบวิ่งเข้ามา แล้วพยุงเขาขึ้นมา “ท่านอ๋อง บนหัวท่านบวมบูดขึ้นมาเป็นก้อนใหญ่มากเลย ข้าน้อยจะไปเชิญหมอหลวงมาเดี๋ยวนี้เลย!”
“หยุดเดี๋ยวนี้ ห้ามไป!” อ๋องเก้าเจ็บปวดแล้วกัดฟันพูดขึ้นมา
“ท่านอ๋อง ท่านไม่เจ็บหรือ?”
“เจ็บ ข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว แต่ถ้าทำให้เสียโฉมไป ผู้หญิงน่าเกลียดคนนั้นก็ต้องไม่อยากแต่งงานกับข้าแน่นอน!” อ๋องเก้าพูดขึ้นมาอย่างได้ใจ และรู้สึกชื่นชมกับความเฉลียวฉลาดของตัวเอง
“ท่านอ๋องชาญฉลาดยิ่งนัก!”
ว่าแล้วก็เห็นอ๋องเก้าเอานิ้วหนึ่งขึ้นมากัดจนเป็นแผล ทนเจ็บไว้แล้วตั้งใจเอาเลือดทาลงบนหน้าผาก คราวนี้ถึงรู้สึกพึงพอใจ
“เป็นยังไงบ้าง ดูไปแล้ว ดูอนาถมากเลยใช่ไหม?”
“ดูอนาถมากจริง ๆ!”
“เอาล่ะ ไปพบฮ่องเต้ของแคว้นต้าเยียนกับข้าเถอะ!”
พออ๋องเก้ามาถึงตำหนักรับรอง ก็ได้ยินองค์หญิงซินฉิงกำลังขอให้ฮ่องเต้ประทานงานแต่งอยู่พอดี อ๋องเก้าก็โมโหจนตรงเข้าไปเลย
“ฝ่าบาทแห่งแคว้นต้าเยียน ข้าไม่มีทางแต่งงานกับผู้หญิงน่าเกลียดคนนี้แน่ ข้าเป็นถึงอ๋องเก้าแห่งแคว้นเป่ยลี่ จะมาให้ผู้หญิงน่าเกลียดคนหนึ่งมาเป็นสนมได้ยังไง ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไปจะต้องถูกคนหัวเราะจนฟันหลุดแน่!” อ๋องเก้าปฏิเสธไปโดยตรง
องค์หญิงซินฉิงเห็นอ๋องเก้าที่เดินเข้ามา บนหน้าผากบวมบูดขึ้นมาเป็นก้อนใหญ่ และที่สำคัญยังมีคราบเลือดเละเทะ ดูแล้วน่ากลัวมาก
“หยุดเดี๋ยวนี้ ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาห่วงใยหรอก เป็นเพราะเจ้าทั้งนั้น ตอนนี้ข้าเสียโฉมไปแล้ว ไม่ใช่หนุ่มหล่ออีกต่อไปแล้ว เจ้าคงไม่ต้องการแต่งงานกับผู้ชายน่าเกลียดคนหนึ่งหรอกนะ?” อ๋องเก้าพูดขึ้นมาอย่างรังเกียจ
“ไม่เป็นไร ข้าไม่สนใจหรอก ข้าหน้าตาน่าเกลียดอยู่แล้ว และตอนนี้ท่านก็มาน่าเกลียดเหมือนกัน พอดีเลยพวกเราจะได้เป็นคู่กัน!”
อ๋องเก้าโกรธจนหายใจหอบ เกือบจะตาลอยและหมดสติไปแล้ว โชคยังดีที่ลูกน้องมาพยุงเข้าไว้ “ท่านอ๋อง ท่านรักษาตัวด้วย!”
“รักษาตัวกับผีนะซิ จะให้ข้าแต่งงานกับผู้หญิงน่าเกลียดคนหนึ่ง ข้ายอมออกบวชไปเป็นหลวงจีนดีกว่า!” อ๋องเก้าโกรธจนพูดคำหยาบคายขึ้นมาแล้ว
“ว้าว ท่าทางที่ท่านโมโหขึ้นมามันหล่อมากเลย ข้าชอบจังเลย!” พอองค์หญิงซินฉิงพูดคำพูดนี้ออกมา อ๋องเก้าก็โมโหจนหมดสติไปเลย
ฮ่องเต้มีสีหน้ารังเกียจ “ทหาร พาตัวอ๋องเก้ากลับไปพักผ่อน!”
“เสด็จพี่ เดี๋ยวข้าไปดูแลเอง!” องค์หญิงซินฉิงเปิดปากพูดขึ้นมา
“ไม่ต้องหรอกขอรับองค์หญิง ท่านอ๋องของข้ามีนิสัยรักความสะอาด ข้าดูแลเองดีกว่า” ลูกน้องรีบพยุงอ๋องเก้าออกไปเลย
“ซินฉิง ในเมื่ออ๋องเก้าไม่ยินยอมเช่นนี้ เจ้าก็อย่าไปฝืนเลยดีกว่า” ฮ่องเต้ค่อย ๆ เปิดปากพูดขึ้นมา
น้องสาวคนนี้ เมื่อก่อนก็เป็นสาวงามที่ล่มแคว้นล่มเมืองคนหนึ่ง แต่เมื่อสามปีก่อน อยู่ ๆ บนใบหน้าก็มีปานเกิดออกมา แล้วปากก็บวมขึ้น จนหน้าตาน่าเกลียดมาก ตอนแรกอยู่ในช่วงวัยที่กำลังจะต้องแต่งงาน แต่อยู่ ๆ ก็มากลายเป็นสภาพนี้ไป ก็เลยกลายเป็นคนขึ้นคานไปเลย
ทั้งเมืองหลวงต่างก็รู้ว่าองค์หญิงสามนั้นหน้าตาน่าเกลียดมา ดังนั้นผู้ชายทั้งเมืองหลวงต่างก็พยายามหลีกเลี่ยง มีหลายครั้งที่ฮ่องเต้ประทานงานแต่ง แต่ผลปรากฏว่าวันที่สองถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ออกบวชไปก็ต้องเกิดเรื่องขึ้นมา ดังนั้นเรื่องงานแต่งขององค์หญิงซินฉิงก็เลยลากยาวมาถึงตอนนี้
“เสด็จพี่ ข้ารู้ว่าตัวเองหน้าตาน่าเกลียด แต่กว่าข้าจะชอบใครสักคนได้มันยากมาก ท่านวางใจเถอะ ข้าจะต้องทำให้เขาชอบข้าให้ได้!” องค์หญิงซินฉิงพูดขึ้นมาอย่างดื้อดึงมาก
พอฮ่องเต้เห็นแบบนี้ ก็ส่ายหัวขึ้นเล็กน้อย “แล้วแต่เจ้าก็แล้วกัน คราวที่แล้วข้าให้เจ้าไปหาหยุนถิงที่จวนซื่อจื่อ เจ้าไปหามาหรือยัง?”
“เสด็จพี่ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ ผู้หญิงจะสวยขึ้นเพื่อคนที่ตัวเองรัก ถ้าเกิดอ๋องเก้าเห็นว่าข้าเปลี่ยนไปสวยขึ้น จะต้องชอบข้าแน่นอน” องค์หญิงซินฉิงพูดจบ ก็วิ่งออกไปเลย
ฮ่องเต้ถอนหายใจออกทีหนึ่ง ดูท่ายัยเด็กนี่จะหวั่นไหวต่ออ๋องเก้าแล้วจริง ๆ
องค์หญิงซินฉิงออกจากพระราชวังมา แล้วขึ้นรถม้า ในวินาทีที่ผ้าม่านรถม้าปล่อยลงมา บนใบหน้าก็ไม่มีแววหลงใหลกับไร้เดียงสาแบบเมื่อกี้อีกต่อไป แล้วสิ่งที่เข้ามาแทนที่ก็คือความเย็นชาและห่างเหิน
“องค์หญิง ทำไมท่านต้องลำบากด้วยล่ะ?” สาวใช้หยวนจื่อพูดขึ้นมาอย่างสงสาร
มุมปากขององค์หญิงซินฉิงมีรอยยิ้มขมขื่นปรากฏออกมาเสี้ยวหนึ่ง “ถ้าไม่ทำแบบนี้ เสด็จพี่คงให้ข้าแต่งงานไปตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนแล้ว ข้าไม่อยากกลายเป็นของที่ต้องเสียสละเพื่อแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์อย่างกับองค์หญิงคนอื่น ๆ ข้าแค่อยากมีชีวิตอย่างผู้หญิงธรรมดาทั่วไปเท่านั้น”
“แต่ถ้าเป็นแบบนี้ ไม่เพียงแต่แคว้นต้าเยียนเท่านั้น ทั้งสี่แคว้นก็ต้องรู้ว่าท่านเป็นผู้หญิงน่าเกลียด แล้วต่อไปท่านจะแต่งงานได้ยังไง?” หยวนจื่อมีสีหน้ากังวลใจ
“ไม่เป็นไรหรอก ถ้าไม่เจอคนที่ตัวเองชอบ ข้าก็ยอมไม่แต่งงาน พอนี้ชื่อเสียงฉาวโฉ่ เกรงว่าคนทั้งสี่แคว้นคงไม่มีใครกล้าแต่งงานกับข้าแล้ว อยู่คนเดียวแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”
หยวนจื่อถอนหายใจออกทีหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะปลอบใจยังไงดี
รถม้ามุ่งหน้าตรงไปยังจวนซื่อจื่อ
พอหยุนถิงได้ยินว่าองค์หญิงสามจะขอพบนาง ก็รู้สึกแปลกใจขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังให้คนพาตัวนางเข้ามา
“เสด็จพี่บอกว่าวิชาการแพทย์ของเจ้าเหนือกว่าคนอื่น ดังนั้นก็เลยให้ข้ามารักษาใบหน้ากับเจ้า!” องค์หญิงซินฉิงพูดออกมาตามตรง แล้วก็ถอดหมวกไม้ไผ่บนหัวออก
ตอนที่เห็นใบหน้านั้น หยุนถิงก็แค่ตกใจไปครู่หนึ่ง แล้วก็ช่วยตรวจชีพจรให้นาง และตรวจดูอย่างละเอียด
“เจ้าไม่กลัวข้า ไม่รังเกียจข้าหรือ?” องค์หญิงซินฉิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
คนอื่นเห็นหน้าตัวเองแล้วถ้าไม่ขยะแขยง ไม่รังเกียจ ก็จะดูถูก หรือสะอิดสะเอียนจนอาเจียน มีคนมากมายที่อาเจียนต่อหน้าต่อตาองค์หญิงซินฉิงเลย อย่างเช่นอ๋องเก้าในวันนี้
แต่หยุนถิงกลับมองตัวเองด้วยใบหน้าเรียบเฉย ความสงบนิ่งในตอนนี้กลับทำให้องค์หญิงซินฉิงรู้สึกสงสัยขึ้นมา
“ทำไมข้าต้องรังเกียจด้วย เมื่อก่อนข้าก็ไม่ได้หน้าตาดีไปกว่าเจ้าสักเท่าไหร่ รูปลักษณ์ภายนอกมันสำคัญ แต่จิตใจคนสำคัญกว่า” หยุนถิงตอบกลับมา
คราวนี้องค์หญิงซินฉิงถึงเพิ่งนึกขึ้นมาได้ เมื่อก่อนหยุนถิงก็หน้าตาน่าเกลียดมาก ไม่มีอะไรดี และเป็นคนโง่เขลาไร้ประโยชน์
“ใบหน้าของเจ้านั้นถูกพิษ พิษนี้คนอื่นอาจจะแก้ไม่ได้ แต่ว่าข้าทำได้พอดี ภายในสามวันรับรองว่าใบหน้าหายแน่นอน!” หยุนถิงเปิดปากพูดขึ้นมา
คราวนี้องค์หญิงซินฉิงร้อนรนขึ้นมาแล้ว “เร็วขนาดนี้เลยหรือ?”
“หรือว่าเจ้าไม่อยากให้ใบหน้าหายหรือ?” หยุนถิงจ้องมองมาอย่างแปลกใจเล็กน้อย
องค์หญิงซินฉิงมีสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติ พอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หลายครั้งแล้ว ในใจก็ฮึกเหิมขึ้นมา แล้วคุกเข่าลงไปให้หยุนถิงเลย “ที่จริงยาพิษบนใบหน้า ข้าเป็นคนวางเอง ข้าไม่อยากแต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์ ไม่อยากถูกเสด็จพี่ยกให้คนอื่นไปเรื่อย ดังนั้นข้าก็เลยทำลายใบหน้าของตัวเองไป ข้าขอร้องเจ้าได้โปรดอย่าบอกเสด็จพี่นะ ข้าไม่อยากถูกคนควบคุมตลอดชีวิต”
ถ้าหยุนถิงบอกกับเสด็จพี่ไปจริง ๆ งั้นนางก็จะมีโทษหลอกลวงกษัตริย์แล้ว!
หยุนถิงรีบพยุงซินฉิงลุกขึ้นมา “เจ้าสามารถมีความคิดเห็นแบบนี้ได้ ข้าก็รู้สึกดีใจแทนเจ้ามาก ชีวิตของตัวเองก็ต้องอยู่ในกำมือตัวเองซิ ถึงแม้ว่าวิธีการมันจะไม่ได้ฉลาดมากเท่าไหร่นัก แต่มันก็ได้ผลจริง ๆ”
“วางใจเถอะ ข้าไม่มีทางบอกฝ่าบาทหรอก ถ้าเจ้าไม่อยากกลับไปมีรูปโฉมแบบเดิม ข้าก็จะบอกฝ่าบาทว่าข้าถอนพิษตัวนี้ไม่ได้ก็พอแล้ว แต่ว่าเจ้าเป็นคนปรุงพิษตัวนี้เองหรือ?”
องค์หญิงซินฉิงรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก “ขอบใจเจ้ามากหยุนถิง ขอบใจมากนะ ที่จริงพิษตัวนี้ ข้าปรุงขึ้นมาตามตำราการแพทย์ด้วยตัวเอง ปกติแล้วข้าไม่มีอะไรทำ จึงชอบดูตำราการแพทย์ อยู่ว่าง ๆ ก็เลยลองปรุงไปเรื่อย ๆ”
“เจ้ามีพรสวรรค์ทางด้านการแพทย์มาก แค่อ่านตำราอย่างเดียวก็สามารถปรุงยาออกมาได้แล้ว ถือว่าเก่งกาจมากแล้ว งั้นต่อไปเจ้ามีแผนการอย่างไรต่อไปอีก?” หยุนถิงถามขึ้นมา