จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 539 พี่ใหญ่ ทำไมถึงซื้อให้พี่หญิงซูหมดเลยล่ะ
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 539 พี่ใหญ่ ทำไมถึงซื้อให้พี่หญิงซูหมดเลยล่ะ
“ตั้งแต่เด็ก พี่ก็ไม่เคยซื้ออะไรให้กับเจ้าเลย วันนี้จะซื้อจิ๊บให้เจ้าก็แล้วกัน!” น้ำเสียงของหยุนไห่เทียนเย็นชาเป็นอย่างมาก
“พี่ใหญ่ ท่านจะซื้อจิ๊บให้ข้าจริง ๆ หรือ ทำไมข้าถึงรู้สึกเหมือนกับว่าท่านจะบีบคอข้าให้ตายเลยล่ะ จิ๊บมันติดแล้วยุ่งยาก ข้าไม่ชอบ ถ้าท่านจะซื้อของให้ข้าให้ได้ งั้นก็ซื้ออาวุธให้ข้าเถอะ ช่วงนี้ข้าเจอของชิ้นหนึ่งที่จับถนัดมือมากเลย นี่พี่ใหญ่ ท่านจะไปไหนน่ะ……” หยุนหลียังพูดไม่ทันจบ หยุนไห่เทียนก็เดินออกไปแล้ว
ตรงจุดที่ไม่ไกล อู๋ซงเอาจิ๊บอันนั้นติดลงบนหัวซูชิงโยว แล้วรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก “น้องชิงโยวเจ้าติดจิ๊บอันนี้แล้วสวยมากเลย ทำให้เจ้ายิ่งดูงดงามราวกับดอกไม้ขึ้นไปอีก”
“พี่อู๋ซงพูดเกินไปแล้ว” ซูชิงโยวพูดขึ้นมาอย่างเขินอาย
จากนั้นด้านข้างก็มีเสียงที่ไม่คาดฝันดังขึ้นมา “อั๊ยหย๋า ทำไมเจ้านี่ถึงได้เด็ดดอกไม้ของข้าออกหมดเลย แล้วข้าจะขายยังไงอีกล่ะ ชดใช้เงินมาเลย!”
ซูชิงโยวหันหน้ามองไป ก็เห็นชายแก่ที่ขายดอกไม้คนหนึ่งกำลังชี้หน้าด่าผู้ชายคนหนึ่งอยู่ ในมือของผู้ชายคนนั้นยังกำช่อดอกไม้บางส่วนอยู่ บนพื้นมีดอกไม้ร่วงหล่นอยู่เต็มพื้น ตอนที่มองหน้าผู้ชายคนนั้นชัด ซูชิงโยวก็ตกตะลึงไปเลย
“แม่ทัพหยุน?”
หยุนไห่เทียนหันมองมาอย่างเย็นชา ดวงตาดำเฉียบคมกวาดมองไปทางอู๋ซง
อู๋ซงเป็นแค่บัณฑิตที่อ่อนแอคนหนึ่ง ถูกสายตาที่เย็นชาและเยือกเย็นของหยุนไห่เทียนทำให้ตะลึงงันไปเลย เขารู้สึกแต่แรงกดดันเยอะมาก จนหนาวสั่นไปทั้งตัวโดยอัตโนมัติ และสีหน้าขาวซีดไป
ซูชิงโยวเองก็เป็นครั้งแรกที่เห็นหยุนไห่เทียนโกรธเคืองเช่นนี้ จึงตกใจขึ้นมาจริง ๆ
“พี่ใหญ่ ทำไมอยู่ดี ๆ ท่านถึงไปบดขยี้ดอกไม้ของคนอื่นแบบนี้ล่ะ!” หยุนหลีเดินเข้ามาอย่างไม่เข้าใจ แล้วก็มองเห็นคนที่อยู่ข้าง ๆ เข้า“พี่หญิงซู ท่านก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ บังเอิญจังเลย”
“หยุนหลี เจ้าก็มาเดินตลาดหรือ”
“ใช่”
“คุณหนูหลี ที่ท่านบอกว่าท่านนี้เป็นพี่ใหญ่ของท่านหรือ งั้นก็คือแม่ทัพหยุนนะซิ?” ชายแก่ที่ขายดอกไม้ถามขึ้นมาอย่างตกตะลึง
ปกติแล้วนอกจากจะไปรายงานสถานการณ์ต่อฝ่าบาท เวลาอื่น ๆ หยุนไห่เทียนก็อยู่แต่ในค่ายทหารเท่านั้น เพราะฉะนั้นถึงคนในเมืองหลวงจะรู้จักหยุนไห่เทียนท่านแม่ทัพใหญ่ที่ปกป้องประเทศกันทุกคน แต่คนที่เคยได้พบเห็นเขานั้นมีน้อยมาก ที่ชายแก่ไม่รู้จักมันก็มีสาเหตุอยู่
“ก็ใช่น่ะซิ นี่คือพี่ใหญ่ของข้าหยุนไห่เทียน ท่านลุงต้องขอโทษด้วยนะ ไม่รู้ว่าวันนี้พี่ชายข้าเป็นอะไรไป ถึงได้มาทำดอกไม้ของท่านพัง เดี๋ยวข้าจะใช้เงินให้ท่านเดี๋ยวนี้เลย” หยุนหลีพูดแล้วก็ล้วงเงินออกมา
“ไม่ต้องหรอกคุณหนูหลี เมื่อกี้ข้าไม่รู้ว่าคือท่านแม่ทัพหยุนจึงล่วงเกินไป แม่ทัพหยุนปกป้องชาวบ้านของแคว้นต้าเยียน เป็นเทพแห่งสงครามของแคว้นต้าเยียนเรา ข้าจะมาเอาเงินท่านได้ยังไง ต้องเป็นเพราะว่าดอกไม้ข้ามีปัญหาแน่ ๆ” ชายแก่รีบเปลี่ยนคำพูดไป
หยุนหลีฟังจนกระดกลิ้นขึ้นมา “พี่ใหญ่ ข้าไม่รู้เลยว่าท่านจะได้ใจชาวบ้านมากขนาดนี้!”
หยุนไห่เทียนมองตาขาวใส่นางทีหนึ่ง แล้วล้วงเงินออกมากำหนึ่ง “ท่านลุง นี่คือค่าชดใช้ เมื่อกี้ขออภัยด้วยนะ”
ชายแก่จะยอมเอาได้ยังไง บอกปัดอีกครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายหยุนไห่เทียนก็ยังเอาเงินชดใช้ให้เขาอยู่ดี
“ข้าน้อยอู๋ซง ได้ยินชื่อแม่ทัพหยุนมานานแล้ว!” อู๋ซงรีบแสดงความเคารพขึ้นมา
หยุนไห่เทียนมองเขาด้วยสายตาเย็นชาทีหนึ่ง “ปกป้องดูแลประเทศเป็นหน้าที่ของข้า ไม่จำเป็นต้องเกรงใจหรอก”
“พี่ใหญ่ ท่านนี้คือ?” หยุนหลีถามขึ้นมา
ซูชิงโยวรีบแนะนำขึ้นว่า “นี่คืออู๋ซง บ้านข้ากับบ้านเขาเป็นเพื่อนเก่ากัน”
“ข้าว่านะ ไม่เคยเห็นเจ้ามาเดินตลาดกับผู้ชายคนไหนมาก่อน ดูท่าคงจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวแน่นอน” หยุนหลีจ้องมองไปด้วยความสอดรู้สอดเห็น
สีหน้าของหยุนไห่เทียนดำจนเหมือนกับก้นหม้อขึ้นมาทันที “เพื่อนเก่ากันยังมอบจิ๊บให้ด้วยหรือ?”
ซูชิงโยวมีสีหน้าอึดอัดขึ้นมา แล้วรีบยื่นมือไปเอาจิ๊บบนหัวลงมาก “พี่อู๋ซง อันนี้ข้าไม่เอาแล้ว!”
“แต่เมื่อกี้เจ้ายังชอบมากเลยนี่ ชอบก็ซื้อไว้ซิ ครั้งนี้ข้ากลับมาอย่างรีบร้อน จึงไม่ได้นำของขวัญอะไรมาให้เจ้า ถือซะว่าเป็นของขวัญที่ข้าให้เจ้าก็แล้วกัน!” อู๋ซงรีบเปิดปากพูดขึ้นมา แล้วก็จะล้วงเงินออกมา
หยุนไห่เทียนโยนเงินไปก้อนหนึ่งเลย “ของพวกนี้ห่อให้หมด!”
พอผู้หญิงเห็นเงินกองมากมายขนาดนี้ ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก “ได้เจ้าค่ะ ขอบคุณแม่ทัพหยุน!”
หยุนหลีเบ้ปากเล็กน้อย “พี่ใหญ่ เมื่อกี้ท่านบอกว่าจะซื้ออาวุธให้ข้าไม่ใช่หรือ ทำไมถึงมาซื้อจิ๊บให้พี่หญิงซูหมดเลยล่ะ?”
“ก็เจ้าบอกว่าไม่ต้องการไม่ใช่หรือ” หยุนไห่เทียนทำเสียงหึอย่างเรียบเฉยออกมาประโยคหนึ่ง
ซูชิงโยวรีบปฏิเสธขึ้นมา “ไม่ต้องหรอกแม่ทัพหยุน ข้าไม่ได้ใช้เยอะแยะขนาดนี้”
“งั้นก็เปลี่ยนวันละอัน ข้ายังมีธุระอีก ขอตัวก่อนนะ หยุนหลีเจ้าอยู่เป็นเพื่อนคุณหนูซูไป แล้วส่งนางกลับบ้านอย่างปลอดภัยด้วยล่ะ” หยุนไห่เทียนพูดจบ ก็หมุนตัวจะเดินจากไป
“พี่ใหญ่ แล้วอาวุธของข้า……”
“วันหลังค่อยซื้อให้เจ้า!” หยุนไห่เทียนไม่ได้หันหน้ามาด้วยซ้ำ ทิ้งคำพูดไว้ประโยคหนึ่งแล้วก็จากไปเลย
ซูชิงโยวจ้องมองแผ่นหลังที่เย็นชาของหยุนไห่เทียน ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้อยู่ ๆ แม่ทัพหยุนถึงได้มาซื้อจิ๊บให้ตัวเอง แต่ว่าเขาที่เป็นแบบนี้นั้นหล่อมากจริง ๆ
“คุณหนูซู จิ๊บของท่าน!” ผู้หญิงยื่นมาให้อย่างนอบน้อม
ซูชิงโยวยื่นมือไปรับมา “ขอบใจมาก!”
อู๋ซงที่อยู่ด้านข้างมีสีหน้าย่ำแย่มาก เมื่อกี้ตัวเองบอกว่าจะมอบห้าง ชิงโยวกลับปฏิเสธ มาตอนนี้พอแม่ทัพหยุนซื้อให้ นางกลับรับไว้ทั้งหมด เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกว่าถูกจู่โจมเข้าอย่างแรง
“ชิงโยว เจ้ากับแม่ทัพหยุนนี่มีความสัมพันธ์ยังไงกันหรือ?” อู๋ซงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถามขึ้นมา
คราวนี้ซูชิงโยวถึงจะเก็บสายตากลับมา “เพื่อน”
อู๋ซงถึงได้รู้สึกโล่งอกไปทีหนึ่ง “สามารถมีเพื่อนแบบนี้ได้ ช่างน่าอิจฉาจริง ๆ”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว คนธรรมดาทั่วไป พี่ใหญ่จะไม่สนใจด้วยซ้ำ!” หยุนหลีเบ้ปากขึ้นมา
ไม่รู้ทำไม นางถึงรู้สึกว่าสายตาที่อู๋ซงมองพี่หญิงซูนั้นมันผิดปกติ แล้วอยู่ ๆ ก็รู้สึกไม่ชอบอู๋ซงขึ้นมา
อู๋ซงยิ้นอย่างเขินอายขึ้นมาเล็กน้อย “คุณหนูหลีพูดมาก็ถูก”
“พี่หญิงซู พวกเราไปกันเถอะ” หยุนหลีลากซูชิงโยวเดินไปเลย
อู๋ซงรีบตามเข้าไป เขาไม่รู้สึกว่าทำอะไรล่วงเกินคุณหนูหลีเลยนี่ ทำไมถึงรู้สึกว่านางไม่ชอบขี้หน้าตัวเองล่ะ
……
ที่จวนหลีอ๋อง
ช่วงหลายวันมานี้โม่ฉือหานกินยาที่หยุนถิงให้มาตรงตามเวลา และปรากฏว่าพอไม่กี่วันก็หายเป็นปกติแล้ว เช้าวันนี้เขายังต่อยหมัดในสวนไปชุดหนึ่งด้วย
ฟ่านเสี่ยรั่วยกซุปโสมเข้ามา “ท่าอ๋องดื่มซุปโสมสักถ้วยแล้วพักผ่อนเถอะ ท่านเพิ่งจะหายดี จะต้องพักผ่อนให้มาก ๆ”
โม่ฉือหานรับมาดื่มไปหลายคำ “อืม รสชาติไม่เลว”
“ข้าทำยันต์ป้องกันภัยมาให้ท่านอ๋องอันหนึ่ง หวังว่ามันจะสามารถปกป้องคุ้มครองให้ท่านอ๋องแข็งแรงปลอดภัยได้!” ฟ่านเสี่ยรั่วยื่นมาให้
โม่ฉือหานรับมา “เจ้า มีน้ำใจเกินไปแล้ว”
“ท่านอ๋อง ในนี้ข้าใส่ยาสมุนไพรที่ช่วยกระตุ้นสมองให้สดชื่น และร่างกายแข็งแรงไว้เล็กน้อย หวังว่าจะสามารถมีส่วนช่วยให้ร่างกายของท่านอ๋องแข็งแรงได้!” ฟ่านเสี่ยรั่วรีบอธิบายขึ้นมา
“ได้ ยังไงก็มีแต่เจ้าที่เป็นห่วงข้า!”
“งั้นข้าใส่ให้ท่านนะ!” ฟ่านเสี่ยรั่วเอามา ก็ช่วยแขวนไว้ที่เอวให้หลีอ๋อง
“ท่านอ๋อง ข้าน้อยมีเรื่องจะรายงานขอรับ!” องครักษ์หยุนตวนเดินเข้ามา
“ท่านอ๋อง งั้นท่านทำงานไปเถอะ ข้อจะไม่รบกวนแล้ว!” ฟ่านเสี่ยรั่วถือถ้วยขึ้นมาแล้วเดินออกปอย่างรู้ตัว
โม่ฉือหานจ้องมองไปที่องครักษ์อย่างเย็นชา “เรื่องอะไร?”
“ทูลท่านอ๋อง ก่อนหน้านี้ท่านให้ข้าน้อยไปจับตาดูองค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นเทียนจิ่ว เมื่อหลายวันก่อนองค์หญิงใหญ่ได้ไปที่จวนซื่อจื่อแล้วออกมาอย่างอนาถ และไม่ได้ช่วยเซียจิ่วเซียวไปด้วย คาดว่าน่าจะได้รับการเหยียดหยามมา”
“ช่วงหลายวันมานี้ข้าน้อยพบว่า นางกำลังแอบรวบรวมกำลังคนอยู่ และที่สำคัญองค์หญิงใหญ่ยังไปร่วมมือกับตระกูลเฟิ่ง เฟิ่งจาวหยีเป็นคนเสนอความคิดเห็นให้ฝ่าบาทจัดงานเลี้ยงในพระราชวังเอง น่าจะเป็นงานเลี้ยงหงเหมินขอรับ!” ลูกน้องรายงานขึ้นมา
ดวงตาที่โม่ฉือหานเย็นชาและเฉียบคมค่อย ๆ ขมวดขึ้นมา “องค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นเทียนจิ่วเป็นคนยโสโอหังมาตลอด ดูท่าคงจะลงมือกับจวินหย่วนโยวแล้ว”