จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 544 ข้าต่างหากเป็นคนที่รักท่านมากที่สุด
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 544 ข้าต่างหากเป็นคนที่รักท่านมากที่สุด
“อ๊าก!” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น ทำเอาคนฟังขนหัวลุก
แต่โม่ฉือหานไม่สนใจ มีดสั้นในมือแทงเข้าไปที่เกาหรูครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ออมมือเลยสักนิด
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เสียงโหยหวนดังก้องไปทั้งสวน ผ่านไปนานก็ไม่หายไปสักที
ฟ่านเสี่ยรั่วตกใจแทบตาย นางลืมความเจ็บปวดบนตัวไปแล้ว มองดูเกาหรูโดนโทษแยกร่างแทงทีละมีด เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากกายเขา ย้อมเสื้อผ้าจนแดงไปหมด หยดลงพื้น ดูแล้วน่าสะพรึงยิ่งนัก
ฟ่านเสี่ยรั่วรู้ดียิ่งกว่าใครถึงวิธีการทรมานของท่านอ๋อง นางจะนิ่งรอเช่นนี้ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคงได้แต่นอนรอความตายนี่ล่ะ
พอคิดถึงตรงนี้ ฟ่านเสี่ยรั่วทนความเจ็บปวดคลานขึ้นมาจากพื้น พอเห็นท่านอ๋องไม่สังเกตตน นางหมุนตัวทำท่าจะหนีทันที
หางตาโม่ฉือหานเหลือบเห็นฟ่านเสี่ยรั่ว สายตาดุดัน มีดสั้นในมือสะบัดไป เข้าใส่ขาของฟ่านเสี่ยรั่วทันที
“อ๊า!” ฟ่านเสี่ยรั่วร้องอย่างเจ็บปวด ขาน้อยเจ็บนัก นางล้มลงกับพื้น โดนท้องพอดี ทำเอานางเจ็บจนใบหน้าซีดเผือด รู้สึกว่ามีของเหลวไหลออกมาจากหว่างขา
ฟ่านเสี่ยรั่วเจ็บแทบตาย “ท่านอ๋องข้าสำนึกผิดแล้ว ขอร้องท่านช่วยข้าด้วย ท่านอ๋อง—“
โม่ฉือหานย่างกรายเข้ามาช้าๆ ราตรีที่มืดมิดยิ่งสะท้อนใบหน้าอันตรายของเขาดูดุดันมากขึ้น เขายกเท้าเหยียบลงบนท้องฟ่านเสี่ยรั่ว
“เจ็บนัก ท่านอ๋องปล่อยข้าไปเถอะ ข้าไม่อยากตาย เกาหรูบีบบังคับข้า ท่านอ๋อง—“
สายตาโม่ฉือหานเดือดดาลเคียดแค้น ออกแรงที่เท้ามากขึ้น เหยียบลงไปอย่างแรง “ข้ารู้ตัวว่าดีกับเจ้าไม่น้อย เหตุใดเจ้าจึงคบชู้กับเกาหรู?”
ฟ่านเสี่ยรั่วเจ็บจนใบหน้าซีดเผือด ร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด นอนหายใจรวยริน
นางรู้ดีว่า ท่านอ๋องไม่ยอมปล่อยนางแน่ ต่อให้นางขอร้องต่อไปก็ไร้ประโยชน์
ยังไงก็ตาย ฟ่านเสี่ยรั่วเลยไม่สนใจอะไรแล้ว
นางแค่นยิ้มเย็น “เพราะอะไรรึ ท่านอ๋องยังถามข้าว่าเพราะอะไร ท่านทำอย่างไรกับข้า ท่านไม่รู้ดีแก่ใจรึ
ตอนแรกท่านดีกับข้าจริง หากนับแต่หยุนถิงหย่าร้างกับท่าน จนต่อมารูปโฉมนางฟื้นฟู ท่านเคียดแค้นไม่อยากยอมรับ ริษยาและเดือดดาล โดนจวินหย่วนโยวยั่วโมโหแต่ทำอันใดมิได้หลายครั้ง กลับมาทีไรก็เอาข้ามาระบายอารมณ์
การคัดเลือกศิษย์หอเทพเซียน ทั้งๆที่ข้าจะเข้าร่วมแท้ๆ แต่ท่านกลับเลือกคนใหม่เพื่อหยุนถิง ยกเลิกสิทธิ์ในการเข้าร่วมการคัดเลือกของข้า ยังห้ามมิให้ข้าไป
ต่อมาท่านนกเขาไม่ขัน ข้าเป็นคนขอร้องอาจารย์มอบยาให้ พอท่านหายดีหน่อยก็ไปหาสตรีอื่น ต่อมานกเขาไม่ขันอีกกลับโทษข้า และเตะต่อยข้าอีก
สาวงามเหล่านั้นที่ท่านพากลับมาเยาะเย้ยถากถางข้าต่อหน้าข้า บอกว่าข้าเข้าจวนมาหลายปีแต่ก็ยังไม่ท้องเสียที พวกนางบอกว่าข้าเป็นเพียงหญิงที่มิอาจมีลูกได้
ทั้งๆที่หยุนถิงสลัดท่านทิ้งไป ท่านกลับยังรักใคร่นางมิขาด พยายามเข้าใกล้นางครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งเก็บเรือนที่นางเคยอยู่เอาไว้ ไม่ยอมให้ผู้ใดเข้าไปเด็ดขาด
ท่านอ๋อง ข้าต่างหากคือผู้ที่รักท่านที่สุด ข้าต่างหากคือคนที่รักภักดีต่อท่านเพียงผู้เดียว ข้ามีสิ่งใดเทียบเคียงหยุนถิงไม่ได้กันแน่ มีสิ่งใดเทียบเคียงสาวงามที่เห็นเพียงอำนาจพวกนั้นไม่ได้
ท่านไร้เยื่อใย เหตุใดข้าจะไร้ใจต่อท่านมิได้ ข้ายั่วยวนเกาหรูเอง เขาร่างกายกำยำ โดยเฉพาะยามอยู่บนเตียง สามารถดุเดือดเลือดพล่านทั้งคืน แข็งแกร่งกว่าท่านมากนัก ฮะฮะ ฮะฮะ—“
เสียงเสียดหูนัก เสียงหัวเราะเย้ยหยันร้องดังไปทั้งสวน
โม่ฉือหานเดือดดาลทะลุฟ้า ไออำมหิตพลุ่งพล่าน ดวงตาดำขลับแดงก่ำอย่างกระหายเลือด มือที่อยู่ในชายเสื้อกำหมัดแน่น จนกระดูกลั่นกรอดๆ
“ฟ่านเสี่ยรั่ว เจ้าหาเรื่องตายเองนะ!” โม่ฉือหานตะคอกดังอย่างเดือดดาล ยกเท้าขึ้นกระทืบไปที่ท้องฟ่านเสี่ยรั่วอย่างแรง
การกระทืบครั้งนี้โม่ฉือหานใส่กำลังภายในไปห้าส่วน
“อ๊า!” เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ฟ่านเสี่ยรั่วโดนเตะกระเด็นออกไป กระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่ในสวนอย่างแรง ขนาดต้นไม้ใหญ่ยังหักเป็นสองท่อน ทั้งคนและต้นไม้ก็ลอยกระเด็นไปด้วยกัน
ตอนตกลงพื้น ท่อนไม้ที่หักนั่นกระแทกลงบนร่างฟ่านเสี่ยรั่วพอดี นางขาดใจตายทันที
สีหน้าโม่ฉือหานเย็นเยียบไม่มีวี่แววสงสารเลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับรังเกียจยิ่งนัก
กล้าสวมเขาให้ตน หาเรื่องตาย!
ทางเกาหรูก็ขาดใจตายแล้วเช่นกัน โดนมีดไปห้าสิบหกครั้ง เสียเลือดมากเกินไป เจ็บปวดจนตาย
“ใครก็ได้ โยนเกาหรูกับนังแพศยานี่ไปที่หลุมศพคนไร้ญาติ หากใครกล้าทรยศข้า นี่คือจุดจบ!” โม่ฉือหานตะคอกอย่างเดือดดาล
“ขอรับ!”
คืนนั้นสาวงามคนอื่นในจวนหลีอ๋องโดนปลดออกไปกันหมด จวนหลีอ๋องที่ยิ่งใหญ่กลับว่างเปล่าไร้ซึ่งผู้คน
โม่ฉือหานที่เดือดดาลคับแค้นดื่มเหล้าเข้าไปมากมาย สุดท้ายกลับไปเรือนที่หยุนถิงเคยอยู่มาก่อน
มองดูทุกอย่างในห้องจัดวางไว้เช่นเดิม โม่ฉือหานไม่เคยรู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดเช่นนี้มาก่อน คนที่เคยรักมั่นเพียงแค่ตน ดีกับตน ตนกลับไม่ไยดี และยังแสร้งทำร้ายจนขับไล่หยุนถิงไป แต่ดูสตรีที่เขาเหลือไว้นี่เล่ามีนิสัยเป็นเช่นไรบ้าง
โม่ฉือหานเคียดแค้น โทษ รู้สึกผิดยิ่งนัก บัดนี้สายไปเสียแล้ว เขายกไหเหล้าขึ้นมากรอกปากลงไป
บางที มีเพียงเมาแล้วเท่านั้นถึงจะไม่ไปคิด ไม่ไปเสียใจกระมัง
วันต่อมา จวนซื่อจื่อ
หยุนถิงฟังหลงเอ้อร์รายงานเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในจวนหลีอ๋องเมื่อคืน สีหน้าเรียบเฉย ทุกอย่างล้วนอยู่ในการคาดเดาของเธออยู่แล้ว
“โม่ฉือหานก็มีวันนี้ด้วย สมน้ำหน้า พี่หญิงใหญ่พวกเราต้องตีฆ้องร้องป่าวเฉลิมฉลองแล้วนะ สาแก่ใจจริงๆ!” หยุนหลีสะใจนัก
วันนี้นางมาหาพี่หญิงใหญ่เพื่อเอาแปลนร่างอาวุธ สุดท้ายมาได้ยินเรื่องนี้เข้า
“เจ้านี่น้า ระยะนี้การค้าเป็นอย่างไรบ้าง?” หยุนถิงถาม
“ดี ดีมาก การออกแบบของพี่หญิงใหญ่นั้นดีที่สุดเลย ข้าคิดว่าสามารถเปิดร้านสาขาเพิ่มได้แล้ว” หยุนหลีบอกอย่างได้ใจ
“ไม่เลว หาเงินแล้วเก็บไว้เป็นสินสมรสติดตัวเจ้าสาวนะ!”
“พี่หญิงใหญ่ล้อข้าอีกแล้วนะ ต่อไปคนที่ข้าจะแต่งงานด้วย ต้องรักใคร่ข้าเหมือนท่านพี่เขยซื่อจื่อรักใคร่ท่าน หากมิพบคนเช่นนี้ ข้ายอมไม่แต่งงาน!” หยุนหลีเบ้ปาก
“เช่นนั้นเจ้าคงมิได้แต่งงานแน่!” จวินหย่วนโยวยกนมเย็นถาดหนึ่งเข้ามา
หยุนหลีเบ้ปาก “พี่เขยซื่อจื่อ ท่านพูดเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ถึงท่านจะเป็นของชั้นเลิศที่เยี่ยมยอดที่สุดของโลก ก็อย่ามาหวังว่าข้าจะไม่ได้แต่งงานสิ!”
“อย่างพี่เขยเจ้าน่ะ หายากมากจริงๆ!” หยุนถิงเห็นด้วย
“พวกท่านสองคนอย่ามาหวานใส่เลย นี่เยาะเย้ยคนโสดเช่นข้านะ ข้าไม่อยากโดนพวกท่านหวานอวดใส่ ของสิ่งนี้พวกท่านก็อย่ากินเลย!” หยุนหลีคว้าถาดชีสในมือจวินหย่วนโยว ยกเดินออกไปเลย
หยุนถิงหัวเราะหน่ายใจ ไม่ได้พูดอะไร
“ข้าให้คนไปนำอีกถาดจากในครัวมาแล้วกัน!” จวินหย่วนโยวบอก
“ได้ ซื่อจื่อจัดการไปถึงไหนแล้วรึ?” หยุนถิงถาม
“ทั้งหมดอยู่ในการควบคุมหมดแล้ว!”
อีกด้านหนึ่ง หยุนหลียกชีสถาดหนึ่งออกจากจวนซื่อจื่อ เดินไปกินไป “อย่าพูดไป ชีสของบ้านพี่เขยนี่รสชาติไม่เลวเลย กลับไปขอมาอีกสักหลายถาดดีกว่า”
หยุนหลีเดินไปหลายถนน พลันเห็นเสื่อขาดๆผืนหนึ่งขยับในซอยแห่งหนึ่ง บนพื้นมีรอยเลือด หยุนหลีเดินเข้าไปดูอย่างใจกล้า
พอเปิดเสื่อนั่นออก หยุนหลีก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ร่างเต็มไปด้วยเลือด ผมเผ้ากระจาย มองเห็นใบหน้าไม่ชัด แต่รอยแผลบนแก้มนั้นน่ากลัวนัก
“บาดเจ็บหนักขนาดนี้ คงไม่ใช่ตายแล้วนะ?” หยุนหลีเบ้ปาก ยื่นมือไปอังที่จมูกของชายผู้นั้น
ชายผู้ที่สลบนั้นพลันลืมตาขึ้น และคว้าจับแขนหยุนหลีฉับพลัน!