จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 545 ท่านอา ท่านจะใช้เงินให้ข้าเท่าไหร่
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 545 ท่านอา ท่านจะใช้เงินให้ข้าเท่าไหร่
ดวงตาคู่นั้นช่างอำมหิต โหดเหี้ยม เย็นชา ทำเอาหยุนหลีตัวสั่น ถาดชีสใหญ่ในมือล้มลง ชีสก็หล่นตลอด เลอะไปทั้งดิน
“อ๊ะ ชีสของข้า เจ้าทำชีสของข้าหล่นหมดแล้ว นั่นน่ะข้าแย่งมาจากมือพี่เขยเลยนะ!” หยุนหลีพูดอย่างเดือดดาล
“เจ้าเป็นใครกัน?” น้ำเสียงแหบพร่าเข้มงวดของเสวี่ยเชียนโฉวลอยมา
หลังจากเขาหนีออกจากพระราชวัง ลูกน้องเมื่อก่อนมารอรับเขา สุดท้ายโดนลูกน้องลอบโจมตีและทรยศเขา ทำเอาเขาบาดเจ็บสาหัสสลบไสลไป ถึงจะฆ่าลูกน้องและศัตรูได้หมดแล้ว แต่ตัวเขาเองก็บาดเจ็บสาหัสเหมือนกัน สลบไสลมาจนถึงตอนนี้
“ข้าชื่อหยุนหลี ท่านอาท่านยังไม่ตายเหรอ ข้าแค่ผ่านมา ในเมื่อท่านไม่ตาย ก็ชดใช้ชีสให้ข้าซะ!” ใบหน้าแน่งน้อยของหยุนหลีโกรธขึ้ง ถลึงตามองมาอย่างเดือดดาล
พอเห็นปากน้อยแดงลิ้นจี่ของนางเบ้อยู่ ดวงตาใสกระจ่างกำลังถลึงตามองตนอยู่ ใบหน้าน้อยขาวเนียนพองลม ประหนึ่งสัตว์ตัวน้อยที่กำลังโกรธ กางเล็บขู่อยู่ ดูน่ารักมาก
รับรู้ได้ว่าหยุนหลีไม่ได้คิดร้ายหรืออยากฆ่าเขาจริงๆ เสวี่ยเชียนโฉวถึงถอนหายใจโล่งอก “ข้าจะชดใช้ให้เจ้าสิบถาดเลย!”
“สิบถาด พูดเสียน่าฟัง นี่น่ะเป็นฝีมือเฉพาะของพี่หญิงใหญ่ข้า ทั้งสี่แคว้นมีถาดนี้เท่านั้น ท่านชดใช้ไหวรึ?” หยุนหลีเดือดดาล
เสวี่ยเชียนโฉวเองก็ไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนี้ “งั้นทำอย่างไรดี ข้าชดใช้เงินให้เจ้าดีหรือไม่?”
“ข้าดูเป็นคนที่ซื้อได้ด้วยเงินรึ?” หยุนหลีบอกอย่างไม่พอใจ
เสวี่ยเชียนโฉวกำลังคิดว่าจะชดใช้ให้นางอย่างไรดี สุดท้ายได้ยินหยุนหลีบอก “ท่านอา ท่านจะชดใช้ให้ข้าเท่าไหร่ น้อยไปไม่ได้นะ?”
“ท่านอา?” เสวี่ยเชียนโฉวใบ้กิน เขาแก่ขนาดนั้นเชียวรึ
เขาก้มลงมองเสื้อผ้าขาดวิ่นของตนเอง รอยเลือดเกรอะกรัง ผมเผ้ายุ่งเหยิง ดูแล้วเหมือนกับขอทานเลย แก่จริงๆ
“ไม่ใช่รึไง อายุอย่างท่านน่ะลูกคงจะวิ่งเล่นได้แล้วกระมัง?” หยุนหลีเบ้ปาก
เสวี่ยเชียนโฉวมุมปากกระตุก “ข้ายังมิได้แต่งงาน”
“อะไรนะ ท่านอายุปูนนี้แล้วยังมิได้แต่งงาน คงมิใช่เป็นโรคอะไรกระมัง?” หยุนหลีมองมาอย่างสงสัย เหลือบตามองหว่างขาของเขา
เสวี่ยเชียนโฉวหน้าดำทะมึน กระดากอายนัก เจ้าเรือนแห่งเรือนตระกูลเสวี่ยเช่นเขากลับมาโดนสาวน้อยคนนี้รังเกียจและสงสัย หากเรื่องนี้แพร่ออกไปคงโดนหัวเราะจนฟันร่วงแน่
“ข้าปกติดี เมื่อครู่ทำของเจ้าหล่น ข้าชดใช้ให้เจ้าหนึ่งหมื่นตำลึงเป็นอย่างไร?” เสวี่ยเชียนโฉวรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“หนึ่งหมื่นตำลึง ไม่คิดเลยว่าท่านอาจะรวยเพียงนี้ ไม่ถูกสิ คนรวยเหตุใดแต่งกายเช่นนี้ ท่านคงมิได้หลอกข้ากระมัง?” หยุนหลีย้อนถาม
คำพูดเดียว ทำเอาเสวี่ยเชียนโฉวโกรธจนเหลือบตามองบน เขากำลังจะอธิบาย กลับเป็นลมสลบไปก่อน
“นี่ ท่านอาท่านอย่ามาแกล้งตายนะ รีบลุกขึ้นมาเลย อย่าคิดว่าแบบนี้จะตีเนียนไปได้ ชดใช้เงินมา!” หยุนหลีเดือดจัด แต่กลับพบว่าเขาหมดสติไปแล้ว
หยุนหลีอังมือที่จมูกเขา เห็นเขายังหายใจอยู่ ถึงถอนหายใจโล่งอก
เพื่อเงินหนึ่งหมื่นตำลึง หยุนหลีเรียกคนมาช่วยกันหามเสวี่ยเชียนโฉวเข้าไปในจวนตระกูลหยุน
…..
พระราชวัง
เรื่องที่ว่าองค์หญิงซินฉิงชอบพออ๋องเก้า จะแต่งงานกับเขากระจายไปทั่วพระราชวังอย่างรวดเร็ว ขนาดนางกำนัลและขันทีพากันซุบซิบไปตามๆกัน
องค์หญิงห้าเองก็ได้ยินเรื่องนี้เช่นกัน พอโดนหยุนถิงกับจวินหย่วนโยววางแผนไปครั้งก่อน นางก็โดนเสด็จพี่กักบริเวณแล้ว
บัดนี้ได้ยินเรื่องของอ๋องเก้ากับองค์หญิงซินฉิง องค์หญิงห้าทำหน้ารังเกียจ “นังองค์หญิงอัปลักษณ์ซินฉิงนั่นยังคิดจะแต่งงาน ฝันกลางวันชัดๆ!”
“ใช่เพคะ ข้าได้ยินมาว่าอ๋องเก้าแห่งแคว้นเป่ยลี่นั้นเจ้าชู้ยิ่งนัก สง่างาม หล่อเหลามาก ว่ากันว่า พอเขาเห็นองค์หญิงซินฉิงก็ตกใจเป็นลมไปเลย!” สาวใช้บอก
“ซินฉิงน่ะเหนือกว่าข้าขั้นหนึ่งแต่เล็กมาเสมอ เสด็จพี่ก็โปรดปรานนางมากกว่า ยามมีนางอยู่ มิเคยมีผู้ใดมองเห็นข้าเลย หากมิใช่เพราะนางอัปลักษณ์เมื่อสามปีก่อน คงปีนขึ้นหัวข้านานแล้ว
ในเมื่อนางหลงรักอ๋องเก้า เช่นนั้นข้าไม่มีทางให้นางสมหวังดอก ข้าได้ยินว่าอ๋องเก้าผู้นี้เจ้าชู้ประตูดินในแคว้นเป่ยลี่นัก ไม่ร่ำเรียนวิชา วันๆเอาแต่ท่องเที่ยวหอนางโลม เป็นท่านอ๋องเสเพลผู้หนึ่ง
ในเมื่อข้าสู้หยุนถิงไม่ได้ งั้นข้าจัดการคนข้างกายนางได้กระมัง หยุนถิงมีน้องสาวอีกสองคนมิใช่รึ หยุนซูและหยุนหลีช่วงนี้โด่งดังมากนี่นา
หยุนหลีรู้วรยุทธ์ อีกทั้งยังรังเกียจความชั่วร้ายนัก ต่อกรด้วยยาก หยุนซูนั่นต่างหาก ไม่แย่งชิงไม่ก่อเรื่อง อีกทั้งเป็นแค่ลูกเมียรอง เอานางมาระบายอารมณ์เลยแล้วกัน
ตอนนี้เจ้าไปที่จวนตระกูลหยุน บอกว่าองค์หญิงเจ็ดเรียกหยุนซูเข้าพบ ให้นางมาอยู่เป็นเพื่อนในวัง และห้ามชักช้า พาตัวนางมาเลย!” องค์หญิงห้าสั่งการ
สาวใช้มีสีหน้าลังเล “องค์หญิง ทำเช่นนี้ได้รึ หยุนซูน่ะเป็นลูกสาวของหยุนเฉิงเซี่ยงนะ?”
“หยุนเฉิงเซี่ยงแล้วอย่างไร เขายังจะกล้าเป็นศัตรูกับข้าเพื่อลูกสาวเมียรองคนหนึ่งรึ อีกอย่าง คนที่เชิญนางเข้าวังคือองค์หญิงเจ็ด เกี่ยวอะไรกับข้ากัน” องค์หญิงห้าบอกอย่างไม่แยแส
“องค์หญิงพระปรีชายิ่ง ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!” สาวใช้ออกจากวังไปทันที
อีกด้านหนึ่ง อ๋องเก้าที่สลบไสลฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่ทำคือให้คนรับใช้รีบไปเก็บข้าวของกลับแคว้นเป่ยลี่ทันที
เขาไม่อยากแต่งงานเจริญสัมพันธไมตรีแล้ว เขาไม่อยากแต่งกับหญิงอัปลักษณ์นางนั้น
“ท่านอ๋อง องค์หญิงซินฉิงนั่นไม่ได้อยู่ในพระราชวัง นางออกจากวังไปแล้ว ได้ยินว่าไปจวนซื่อจื่อให้หยุนถิงรักษาใบหน้า ข้าน้อยสืบมาได้ว่า องค์หญิงซินฉิงระยะนี้จะพำนักอยู่ที่จวนซื่อจื่อตลอด จะกลับเมื่อไหร่ก็ไม่รู้!” ลูกน้องรีบรายงานทันที
อ๋องเก้าที่เดินถึงหน้าประตู ถึงถอนหายใจโล่งอก “ไม่รีบบอกเล่า ทำข้าตกใจแทบตาย เช่นนั้นพวกเราพักผ่อนสักหน่อยค่อยไป สรุปแล้วข้าจะไม่มีทางยอมแต่งงานกับหญิงอัปลักษณ์แน่!”
“ท่านอ๋อง ในวังยังมีองค์หญิงอีกหลายคน หากท่านรีบแต่งงานกับองค์หญิงคนอื่นก่อนองค์หญิงซินฉิงกลับมา นางก็ไม่มีโอกาสแล้ว!” ลูกน้องเสนอ
“จริงด้วย ข้าเป็นถึงอ๋องเก้าแห่งแคว้นเป่ยลี่ จะต้องทำภารกิจที่ไท่จื่อมอบให้จนสำเร็จให้ได้!” อ๋องเก้าเห็นด้วย
“เช่นนั้นท่านอ๋อง เรายังกลับอีกหรือไม่?”
“ไปบ้านเจ้าสิ ตอนนี้เจ้าออกไปสืบให้ข้าเลย ในวังของแคว้นต้าเยียนนี่องค์หญิงคนไหนสวยที่สุด!” อ๋องเก้าสั่ง
“ขอรับ!”
ส่วนสาวใช้ที่ออกจากวังมุ่งตรงไปจวนตระกูลหยุนทันที แต่กลับถูกบอกว่า หยุนซูไม่ได้อยู่ที่จวน แต่อยู่ที่ร้านเนื้อย่าง
สาวใช้รีบไปร้านเนื้อย่างทันที หยุนซูที่กำลังวุ่นวายทำงานได้ยินว่าองค์หญิงเจ็ดเรียกนางเข้าเฝ้า ก็สงสัย
หลายวันก่อนหยุนหลีพึ่งบอกนางว่า องค์หญิงเจ็ดเป็นบ้าไปแล้ว เป็นเพราะเป็นศัตรูกับพี่หญิงใหญ่ โดนพี่เขยซื่อจื่อบีบจนเป็นบ้า นางจะมาเรียกตนเข้าเฝ้าได้อย่างไรกัน
คุณหนูซูเชิญเถอะ อย่าให้องค์หญิงเจ็ดรอนานนักเลย!” สาวใช้บอกอย่างเย็นชา
“แม่นางพูดถูกแล้ว เพียงแต่ตัวข้าตอนนี้เต็มไปด้วยกลิ่นน้ำมัน กลัวว่าจะทำให้องค์หญิงเจ็ดไม่พอใจ ขอข้าเข้าไปผลัดเสื้อผ้าชุดหนึ่งก่อนได้หรือไม่” หยุนซูบอกอย่างนอบน้อมมีมารยาท
สาวใช้เหล่มอง เห็นกระโปรงนางสกปรกแล้วจริงๆ แต่กลับไม่ยอม “ในวังเสื้อผ้ามีเยอะถมไป คุณหนูซูอย่าชักช้าอีกเลยดีกว่า เชิญเถอะ!”
หยุนซูหมดปัญญา ได้แต่ตามสาวใช้คนนั้นออกไป
ในมุมหนึ่งบนถนนตรงข้ามร้านเนื้อย่าง ขอทานคนหนึ่งเห็นภาพนี้เข้า สีหน้าเย็นชาฉับพลัน ลุกขึ้นเดินตามไปทันที
พอเห็นรถม้าของพวกนางแล่นไปทางพระราชวัง สีหน้าขอทานหม่นทะมึน เขาหมุนตัวไปจวนซื่อจื่อทันที
หยุนถิงพอได้ยินเรื่องนี้ ก็โกรธจัดทันที “หลงเอ้อร์ เจ้ารีบเข้าวังไปปกป้องหยุนซู หากมีใครคิดร้ายต่อนาง ไม่ต้องยั้งมือเลย!”