จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 548 ข้าผิดต่อเจ้าเอง
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 548 ข้าผิดต่อเจ้าเอง
พอนางกำนัลพูดจบ ทุกคนพากันตกตะลึง องค์หญิงห้าสีหน้าสิ้นหวัง คราวนี้นางจบสิ้นกันแล้ว
สาวใช้คนนี้น่าตายนัก ตนไม่ควรเก็บชีวิตนางไว้เลย หรือจะพูดอีกอย่างคือ นางไม่มีโอกาสฆ่าปิดปากเลย
แต่นางยังไม่ทันได้เสียใจ สาวใช้อีกคนก็พูดขึ้นอีกว่า “กราบทูลฝ่าบาท องค์หญิงห้าให้ข้าไปหาอ๋องเก้า โกหกว่าองค์หญิงเจ็ดเชิญอ๋องเก้ามาดื่มชา
จากนั้นก็ให้คนพาไปที่เรือนองค์หญิงเจ็ด แกล้งให้อ๋องเก้าเข้าไปในห้อง ทำเขาสลบ จากนั้นให้ขันทีที่ดักซุ่มอยู่ก่อนหามคนขึ้นเตียง ถอดเสื้อผ้าออก
สุดท้ายรอเพียงแค่พาคุณหนูซูมา และทำราวกับว่าทั้งสองมีอะไรกัน แบบนี้คุณหนูซูก็จะป่นปี้ย่อยยับ และยังทำให้ซื่อจื่อเฟยเสียใจด้วย
พอพวกข้าสามคนออกมา ก็โดนตีสลบเลย พวกข้าพึ่งฟื้นขึ้น ก็พบว่าถูกขังอยู่ในห้องเก็บฟืนแล้ว พยายามหาทางหนี จะไปหาองค์หญิงห้า
แต่ไม่คิดว่าระหว่างทางเจอกับซวนอ๋องเข้า ซวนอ๋องก็ให้คนจับพวกเราไว้”
ขันทีสองคนตกใจหน้าซีดเผือด ตัวสั่นเทาอย่างหนัก “ฝ่าบาท ที่นางพูดเป็นความจริง ข้าหามอ๋องเก้าขึ้นเตียงจริง”
ฮ่องเต้เดือดดาลจัด บรรยากาศรอบกายเย็นจนติดลบ เขาโกรธจนเส้นเลือดที่ขมับปูดโปนส่งผลให้ใบหน้าดุดันของเขายิ่งอันตราย เดือดดาลมากขึ้น ทำเอาคนตกใจ
องค์หญิงห้าตะลึงอึ้งไปเลย ไม่คิดว่ายาของหยุนถิงจะร้ายกาจเพียงนี้ ทำให้พวกนั้นสารภาพหมดเลย
นางอยากจะอธิบาย แต่ปากพูดไม่ได้ รีบห่อตัวด้วยผ้าห่มพุ่งไปข้างกายฮ่องเต้ คุกเข่าโขกศีรษะลงทันที
หยุนถิงลงเข็มใส่องค์หญิงห้า “หยุนซูอยู่ไหน?”
“ข้าจะรู้ได้อย่างไร?” องค์หญิงห้าพูดจบ ถึงสังเกตว่าตนพูดได้แล้ว ตื่นเต้นอย่างมาก “เสด็จพี่ข้าสำนึกผิดแล้ว ความผิดของข้าเอง ข้าสมควรตายนัก คิดพลาดไปเล็กน้อย ขอร้องท่านยกโทษให้ข้าเถอะ ตอนนี้ข้าก็ได้รับกรรมที่ตนก่อแล้ว ขอท่านละเว้นให้ทางรอดแก่ข้าด้วยเถอะ!”
ฮ่องเต้สีหน้าผิดหวัง “ทำไมข้าถึงมีน้องสาวที่จิตใจชั่วร้ายเช่นนี้ กล้าคิดแผนการร้ายใส่หยุนซูและอ๋องเก้า ยังใส่ร้ายเจ้าเจ็ด พฤติกรรมเลวร้าย นับจากวันนี้ไปปลดจากฐานะองค์หญิงของเจ้า เป็นสามัญชน ส่งไปชายแดน
ซวนอ๋องเจ้ารีบให้คนไปตามหาหยุนซูเดี๋ยวนี้ ต่อให้ต้องพลิกวังนี้ค้นหาก็ต้องหาให้เจอ วังของข้าจะมีเรื่องสกปรกเช่นนี้มิได้เด็ดขาด!”
“พ่ะย่ะค่ะ!” ซวนอ๋องไปทันที
“รอก่อน ข้าไปกับเจ้าด้วย!” โม่ฉือชิงรีบตามไปทันที
ตนเจอกับหยุนซู แต่กลับไม่เผื่อใจ สมองหมูจริงๆ ตอนนี้โม่ฉือชิงเสียใจนัก แค้นตนที่ไม่พบความผิดปกติเร็วกว่านี้
องค์หญิงห้านั่งเข่าอ่อนลงพื้น นางไม่อยากเป็นสามัญชน และยิ่งไม่อยากไปชายแดน หากเป็นเช่นนั้นมิสู้ตายเสียเลยดีกว่า!
องค์หญิงห้ากำลังจะอ้าปากอ้อนวอน หยุนถิงก็ลงมาอีกเข็ม องค์หญิงห้าพูดอะไรไม่ได้อีกครั้ง
“ทางที่ดีเจ้าภาวนาให้หยุนซูไม่เป็นไร มิเช่นนั้นข้าจะให้เจ้าอยู่มิสู้ตาย!” เสียงเคียดแค้นของหยุนถิงทำเอาคนฟังขนหัวลุก
“ฝ่าบาท พวกเราก็ไปตามหาคนด้วย!” จวินหย่วนโยวเอ่ยปาก จูงมือหยุนถิงออกไปเลย
อ๋องเก้ามององค์หญิงห้าที่เข่าอ่อนอยู่บนพื้นอย่างไม่แยแส “กล้าวางแผนคิดร้ายข้า สมน้ำหน้า ทำผิดเองสมควรโดนเอง!”
สุดท้ายองค์หญิงห้าโดนองครักษ์พาตัวไป ฮ่องเต้กลับไปที่ตำหนักข้าง และสั่งองครักษ์ทั้งหมดในวัง รวมถึงนางกำนัลขันทีทั้งหมดออกไปตามหาหยุนซู
วินาทีนี้ฮ่องเต้ได้ภาวนาให้หยุนซูอย่าได้เป็นอะไรเด็ดขาด เจ้าห้านี่โอหังนัก กล้าแตะต้องน้องสาวของหยุนถิง นี่ไม่ใช่หาเรื่องให้ตนรึ
หยุนถิงและจวินหย่วนโยวที่ออกไป ยังไปได้ไม่ไกล ก็เห็นนางกำนัลคนหนึ่งเดินเข้ามาหา
สาวใช้คนนี้เป็นสาวใช้ข้างกายของเหมยเฟย “ข้าน้อยคารวะจวินซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟย นายท่านของข้ารู้ว่าทั้งสองคนไม่พบคุณหนูซูต้องร้อนใจแน่ เลยสั่งให้ข้ามาพาพวกท่านไปรับคน!”
หยุนถิงขมวดคิ้ว “หยุนซูอยู่ที่ตำหนักเหมยเฟยรึ?”
“ใช่เพคะ รายละเอียดนายท่านของข้าจะบอกกับซื่อจื่อเฟยอย่างละเอียดเอง!”
ถึงหยุนถิงจะไม่เข้าใจว่าทำไมหยุนซูถึงไปอยู่ที่ตำหนักเหมยเฟยได้ ดูท่าหลงเอ้อร์จะเจอปัญหา ดังนั้นเธอเลยไปหาเหมยเฟยทันที
วินาทีที่เหมยเฟยเห็นหยุนถิง นางยิ้มบาง “หยุนซูหลับอยู่ในห้องข้าน่ะ เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง นางสบายดี”
หยุนถิงพุ่งเข้าไปในห้องทันที และเห็นหยุนซูนอนอยู่บนเตียง โดยมีหลงเอ้อร์ยืนเฝ้าอยู่ข้างๆ ถึงถอนหายใจโล่งอก
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”
“ข้าน้อยเร่งรีบมาวังหลวง เห็นอ๋องเก้าโดนคนทำให้สลบพอดี พอได้ยินว่าพวกเขาเป็นคนรับใช้ขององค์หญิงห้า ข้าน้อยรีบไปทำองค์หญิงห้าสลบมาโยนบนเตียงอ๋องเก้าทันที
ระหว่างตามหาคุณหนูซู นางก็โดนคนทำสลบแล้ว สาวใช้นั่นกำลังจะพานางไป ข้าเลยทำสาวใช้สลบ และแบกคุณหนูซูจะหนี
สุดท้ายเจอองครักษ์ของวังหลวง ข้าน้อยกำลังจะหาที่หลบซ่อนตัว ก็เจอเหมยเฟยผ่านมาพอดี เหมยเฟยเสนอให้มาตำหนักของนาง ข้าน้อยเลยมา!” หลงเอ้อร์เล่าเรื่องทั้งหมดออกมา
หยุนถิงถึงได้วางใจ หมุนตัวหันมามองเหมยเฟย “ครั้งนี้ขอบคุณท่านนัก!”
“เจ้าไม่ต้องเกรงใจข้าเช่นนี้ดอก ช่วยหยุนซูครั้งนี้ถือว่าเป็นการทำดีชดใช้ความผิดละกัน ข้าผิดต่อเจ้าก่อน!” เหมยเฟยถอนหายใจ
ครั้งก่อนหลังจากเหมยเฟยแอบปล่อยซ่างกวนเจิ้นไป หยุนถิงกลัวเหมยเฟยเป็นคนของซ่างกวนเจิ้น เลยทำการจัดระเบียบคนของตนและพรรควิหคเสียใหม่
แต่ผ่านไปอยู่นาน เหมยเฟยก็ไม่ได้ทำอะไร ถึงหยุนถิงไม่เห็นนางเป็นคู่ต่อสู้ แต่ความเชื่อใจในตอนแรกหากโดนทำลายไปแล้ว ความสัมพันธ์ก็จะจืดจางลง
“ทำไมท่านต้องทำอย่างนั้นด้วย?” หยุนถิงถาม
“เมื่อก่อนตอนข้ายังสาว เคยโดนคนลอบทำร้ายบาดเจ็บสาหัสเกือบตาย ซ่างกวนเจิ้นช่วยข้าไว้ ดังนั้นข้าเลยบอกเขาว่า ต่อไปไม่ว่าจะต้องการอะไรสามารถเอ่ยได้เลย เป็นบุญคุณช่วยชีวิตที่ติดค้างเขาไว้
ครั้งนั้นซ่างกวนเจิ้นโดนจวินซื่อจื่อบีบจนหมดทางหนี ได้แต่ขอความช่วยเหลือจากข้า ข้าเองก็ลังเลอยู่นาน แต่ก็รับปากเขา
เพียงครั้งเดียว ข้าคืนบุญคุณที่ช่วยชีวิตไป ก็ไม่ติดค้างเขาอีก หยุนถิง ข้าขอโทษนะ ข้าทำลายความเชื่อใจของเจ้าที่มีต่อข้าเอง!” เหมยเฟยพูดความลับที่เก็บไว้ในส่วนลึกของใจออกมา
หยุนถิงเองก็ไม่คิดว่า เรื่องมันจะเป็นอย่างนี้ “ในเมื่อครั้งนี้ท่านช่วยหยุนซูไว้ เช่นนั้นเราก็เสมอกันแล้ว!”
หยุนถิงควักยาออกมาจากในอกเสื้อ เปิดฝาอก เขย่าไปมาที่จมูกของหยุนซู
หยุนซูที่เดิมสลบอยู่ถึงฟื้นขึ้นมา พอเห็นพี่หญิงใหญ่ตรงหน้าชัดเต็มตา ความน้อยเนื้อต่ำใจและหวาดกลัวของหยุนซูผุดขึ้นมาเต็มเปี่ยม นางยืนขึ้นมากอดหยุนถิงร้องไห้โฮ
หยุนถิงสงสารมาก ยกมือตบหลังหยุนซูเบาๆ “อย่ากลัว ไม่เป็นไรแล้ว มีข้าอยู่!”
ผ่านไปสักพัก หยุนซูถึงหยุดร้องไห้ หยุนถิงพานางออกมา
“หยุนถิง พวกเรายังเป็นสหายกันหรือไม่?” ด้านหลังมีเสียงเหมยเฟยลอยมา
นางไม่กล้าถาม และไม่อยากถาม นางผิดต่อหยุนถิง เห็นได้ชัดว่าเหมยเฟยให้ความสำคัญกับสหายอย่างหยุนถิงจริงๆ
กำแพงพระราชวังลึกนัก แก่งแย่งชิงดี เล่ห์กลเพทุบาย คนที่ประจบสอพลอมีมากมายนัก แต่หยุนถิงเป็นคนเดียวที่จริงใจต่อนาง นางไม่อยากสูญเสียสหายอย่างหยุนถิงไป
หยุนถิงหยุดฝีเท้า หันมามองเหมยเฟย “แน่นอน!”