จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 550 ขายท่านอาไปหนึ่งหมื่นตำลึง
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 550 ขายท่านอาไปหนึ่งหมื่นตำลึง
เสวี่ยเชียนโฉวอยากจะซัดฝ่ามือใส่นังหนูนี่ให้ตายนัก นางโง่หรือไร ยานี่กินมั่วได้รึ?
“เจ้าทำเช่นนี้ไม่กลัวข้าตายเพราะพิษรึ?”
“ไม่หรอก ยาพิษของพี่หญิงใหญ่ข้าน่ะมีจุดที่ร้ายกาจที่สุดคือทำให้คนอยากอยู่ก็อยู่ไม่ได้ อยากตายก็ตายไม่ได้ ดังนั้นท่านไม่ตายดอก!” หยุนหลีตอบ
เสวี่ยเชียนโฉวใบ้กิน ร่างกายคันคะเยอยิ่งนัก ร้อนมาก เหงื่อแตกซิก เขาไม่คิดจะต่อล้อต่อเถียงกับหยุนหลี ลุกขึ้นเดินออกไป
“นี่ ท่านอายังไม่ได้คืนเงินเลยนะ?” หยุนหลีคิดว่าเขาจะหนี รีบวิ่งตามไปทันที
พอออกไปก็เจอกับบ่อน้ำใหญ่มากในสวน ในนั้นยังปลูกดอกบัวไว้ เขาเองก็ไม่สนใจสิ่งใดแล้ว กระโดดลงบ่อน้ำทันที
หยุนหลีตกใจมาก “ท่านอา แค่หนึ่งหมื่นตำลึงเอง ท่านไม่ต้องถึงกับอยากตายหรอกกระมัง?”
“หุบปาก ข้าเพียงแค่มิสบาย เพราะยาที่เจ้าให้นั่นแหละ!” เสวี่ยเชียนโฉวกัดเขี้ยวเคี้ยวฟันบอก
หยุนหลีกระดากอาย ยิ้มแหะๆ “ข้าแค่มิเคยช่วยใครมาก่อนนี่นา ไม่มีประสบการณ์นี่นา ครั้งหน้าข้าก็รู้วิธีแล้วน่า”
“เจ้ายังคิดมีครั้งหน้าอีกรึ?”
หยุนซูที่รีบมาก็ได้เห็นภาพนี้พอดี ตกตะลึงยิ่งนัก “น้องหญิงสี่ ผู้นี้คือ?”
“ตาแก่ที่เก็บได้จากถนน!” หยุนหลีตอบ
สีหน้าเสวี่ยเชียนโฉวดำทะมึนลง ดวงตาเย็นเยียบดุจน้ำแข็ง ถลึงตามองหยุนหลีอย่างเดือดดาล บอกอย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ห้ามเรียกข้าว่าตาแก่!”
“ไอ้โหย ยังกล้าถลึงตาใส่ข้าอีก ดูท่านทำสิ ตาแก่ ตาแก่ ตาแก่ ข้าจะเรียกท่านว่าตาแก่ ถ้าท่านไม่คืนเงินข้า ข้าก็จะเรียกท่านว่าตาแก่!” หยุนหลีตะคอกอย่างเดือดดาล
เสวี่ยเชียนโฉวโกรธจัด เขาเป็นถึงเจ้าเรือนแห่งเรือนตระกูลเสวี่ย กลับโดนสาวน้อยคนหนึ่งเรียกตาแก่ หากเรื่องนี้แพร่ออกไป ต่อไปเขาจะมีหน้าสู้ใครได้
“เจ้าหาเรื่องตาย!” เสวี่ยเชียนโฉวตะคอกดังอย่างเดือดจัด กำลังจะซัดฝ่ามือมา สุดท้ายโกรธจัดขึ้นหัวใจ สลบไสลไปเลย
ชุนเอ๋อร์และเซี่ยเอ๋อร์ยังไม่ได้ลงมือปกป้องคุณหนูหลี เขาก็สลบไปเอง ทำให้พวกนางประหลาดใจมาก
“น้องหญิงสี่ เจ้ามิเป็นไรใช่หรือไม่?” หยุนซูเดินเข้ามาถามอย่างเป็นห่วง
“ข้าจะเป็นกระไรได้ ดีจะตาย ยังไม่เคยมีใครเถียงชนะข้ามาก่อน ไม่ดูตนเองเสียเลย!” หยุนหลีบอกอย่างได้ใจ
“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”
หยุนหลีถึงได้เล่าเรื่องที่เจอเสวี่ยเชียนโฉวระหว่างทางออกมา ทำเอาหยุนซูขมวดคิ้ว “ทำไมเจ้าบังเอิญไปเจอเข้าพอดี คนผู้นี้ไม่รู้ที่มาแน่ชัด รีบไล่เขาไปจะดีกว่า”
“จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร เขายังติดค้างข้าหนึ่งหมื่นตำลึงนะ!” หยุนหลีย้อน
พอเห็นหยุนหลีเป็นตายไม่ยอม หยุนซูเล่าเรื่องที่วันนี้ตนเกือบโดนทำร้ายออกมา ทำเอาหยุนหลีเดือดจัด
“องค์หญิงห้ากล้าคิดทำร้ายท่าน ตอนนี้ข้าจะไปซัดนางสักยก เอาให้พ่อแม่นางยังจำไม่ได้เลย!”
“น้องหญิงสี่ ฝ่าบาททรงลงโทษนางแล้ว พี่หญิงใหญ่ส่งคนสองคนมาคุ้มครองข้า ไม่เป็นไรแล้วล่ะ การที่ข้าบอกเจ้าเรื่องนี้ เพื่อให้เจ้าเข้าใจว่า คนมากมายจับตามองจวนตระกูลหยุนอยู่ จับตามองพี่หญิงใหญ่อยู่ ดังนั้นพวกเราต้องระวังให้มาก!” หยุนซูเตือนอย่างหนักแน่น
เดิมนางมิอยากพูดออกมา กลัวพวกเขาเป็นห่วง แต่หยุนหลีนิสัยดื้อดึง ได้แต่ทำให้นางรู้ประเด็นสำคัญทั้งหมด ถึงจะสามารถเกลี้ยกล่อมนางได้
“พี่หญิงสาม ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะรีบให้เขาไปเดี๋ยวนี้ แต่ส่งไปแบบนี้เขาสบายไป ข้าคิดวิธีดีๆออกแล้ว!” หยุนหลียิ้มเจ้าเล่ห์ เรียกคนมาพาเสวี่ยเชียนโฉวออกไปทันที
หยุนซูยังกังวล ให้เซี่ยเอ๋อร์ตามคุ้มครองหยุนหลี
สุดท้ายหยุนหลีพาเสวี่ยเชียนโฉวไปส่งให้กับหออี๋หงที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง ว่ากันว่าที่นี่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมเรื่องบุรุษคอยให้บริการ ชายหนุ่มหน้าตาดีมากมายล้วนมารวมกันอยู่ที่นี่
พอแม่เล้าเห็นเสวี่ยเชียนโฉว ก็ทำสีหน้ารังเกียจทันที “รอยแผลบนหน้าเขาน่ะ จะทำแขกของข้าตกใจหนีหายหมด!”
“นี่เจ้าไม่รู้อะไร อายุน้อยหน้าตาดีน่ะมีเป็นโขยง หน้าตาอัปลักษณ์มีคนเดียวนะ ตอนนี้นิยมรสนิยมแปลกๆกัน มันตื่นเต้นดี ไม่แน่อาจมีคนชอบก็ได้!” หยุนหลีวิเคราะห์ให้
ดวงตาแม่เล้ากรลอกไปมา สองวันนี้ฮูหยินอู๋บอกกับนางจริงๆ อยากได้พวกที่กระตุ้นความตื่นเต้นสักหน่อย ไม่แน่คนผู้นี้ก็คงได้
ดังนั้นแม่เล้าเลยกัดฟันให้หยุนหลีไปหนึ่งหมื่นตำลึง
เซี่ยเอ๋อร์เห็นแล้วอดเลื่อมใสไม่ได้ คุณหนูหลีนี่เจ้าเล่ห์เสียจริง
หยุนหลีคว้าตั๋วเงินเดินกลับไปอย่างอารมณ์ดี ในใจดีใจมาก ระหว่างทางเจอคนขายเต้าหู้เหม็น เลยวิ่งเข้าซื้อสองจาน
ไม่นานท่านลุงก็ทำเสร็จ หยุนหลีกินเองหนึ่งจาน อีกจานให้เซี่ยเอ๋อร์
เซี่ยเอ๋อร์ได้กลิ่นเหม็นนั่น อยากจะปฏิเสธ แต่คุณหนูหลีใจดีเพียงนี้ นางได้แต่ถือไว้ แต่ไม่กิน
หยุนหลีเดินไปกินไป จากนั้นก็เห็นคนคุ้นตาสองคนที่ยืนข้างแม่น้ำข้างหน้า
นางรีบวิ่งเข้าไปหาทันที “พี่หญิงซู ทำไมพวกท่านมาอยู่ที่นี่ล่ะ?”
ซูชิงโยวพอเห็นหยุนหลี ก็อดแปลกใจไม่ได้ “ท่านพี่อู๋ซงนัดข้าออกมา ข้าไม่มีธุระอะไร เลยออกมาน่ะ”
อันที่จริงซูชิงโยวอยากจะพูดกับอู๋ซงให้ชัดเจน แต่ยังไม่ทันเอ่ยปาก ก็เจอหยุนหลีเข้าพอดี
“ทำมเป็นเจ้าอีกแล้วล่ะ?” หยุนหลีสีหน้าดำทะมึนทันที
หมอนี่เห็นได้ชัดว่าจะแย่งคนรักของพี่ใหญ่ นางจะต้องช่วยเฝ้าพี่หญิงซูให้พี่ใหญ่ให้ดี จะให้นางโดนผู้อื่นแย่งไปไม่ได้
อู๋ซงยิ้มกระดากอาย เหล่มองเต้าหูเหม็นในมือหยุนหลี มีแววรังเกียจ “คารวะคุณหนูหลี รสนิยมของคุณหนูหลีช่างพิเศษเสียจริง!”
หยุนหลพึ่งสังเกตเห็น จงใจยื่นเต้าหู้เหม็นในมือไปที่หน้าอู๋ซง “เต้าหู้เหม็นนี้อร่อยมากนะ เหม็นเป็นอันดับหนึ่งของเมืองหลวงเลย ดมแล้วเหม็นกินแล้วหอม ท่านลองชิมดูสิ”
“มิต้องดอกคุณหนูหลี!” อู๋ซงรีบปฏิเสธทันที
หยุนหลีมีหรือจะให้โอกาสเขา คว้าส่วนของเซี่ยเอ๋อร์นั่นมายื่นให้ทันที “นี่เป็นชิ้นใหม่ ยังมิมีผู้ใดกิน ทุกคนสนิทสนมกันดีอยู่แล้ว ท่านมิต้องเกรงใจดอก!”
“มิต้องจริงๆ ข้าไม่กินดอก” อู๋ซงปฏิเสธไปพลาง ถอยหลังไปพลาง
หยุนหลีเกลี้ยกล่อมไปพลาง แกล้งขัดขาเขาไปด้วย เดิมอู๋ซงไม่เป็นวรยุทธ์อยู่แล้ว ตัวเขาเลยตกลงในแม่น้ำไปเลย
“ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย ข้าว่ายน้ำไม่เป็น ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย—“
หยุนหลีไม่คิดว่าเขาจะว่ายน้ำไม่เป็น กำลังจะกระโดดลงไปช่วย เซี่ยเอ๋อร์ก็ช่วยอู๋ซงขึ้นมาจากน้ำได้ก่อนแล้ว
อู๋ซงตกใจแทบตาย ร่างกายเปียกปอนไปหมด ลมหนาวยามราตรีพัดมา เขาจามเสียหลายรอบ
“เจ้าไม่กินก็ไม่กินสิ ทำไมต้องกระโดดลงแม่น้ำด้วย ทำราวกับว่าข้าบังคับเจ้าอย่างนั้นแหละ” หยุนหลีบอกอย่างไม่พอใจ
“ข้าไม่ระวังตกลงไปเอง ไม่เกี่ยวข้องกับคุณหนูหลี ฮัดเช้ย—“ อู๋ซงจามอีกครั้ง
“พี่อู๋ซง ท่านรีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียเถอะ ไม่เช่นนั้นจะไม่สบายเอา” ซูชิงโยวบอก
“น้องหญิงชิงโยวพูดถูกแล้ว เช่นนั้นข้ามิรบกวนแล้ว” อู๋ซงเดินไปไม่กี่ก้าว ก็ออกตัววิ่ง ราวกับมีอสูรร้ายตามหลังเขากระนั้น
หยุนหลีมองตามแล้วหัวเราะขบขัน “หมอนี่กลัวข้าถึงเพียงนี้ น่าขันนัก”
“เจ้านี่น้า ต่อไปจะทำเช่นนี้มิได้นะ” ซูชิงโยวบอกอย่างหน่ายใจ เมื่อครู่หยุนหลีแกล้งขัดขาอู๋ซงนั้น นางเห็นอย่างชัดเจน
“ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อพี่ใหญ่นะ!”